ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 699 บรรยากาศสามัคคี

แฮมิลตันเป็นเมืองเก่าแก่ สิ่งก่อสร้างสาธารณะหลายๆ ที่ก็เป็นแนวโบราณ
อย่างเช่นรถไฟฟ้ารางเบาสายนี้ที่ดูเล็กไม่สะดุดตา สร้างแบบธรรมดาเรียบง่าย ที่โถงมีหน้าต่างขายตั๋วสองที่กับเก้าอี้รอรถ บนพื้นปูกระเบื้องสีเหลืองอ่อนตัดกับขอบสีแดงสดของชานชาลาสถานี
ขอบของชานชาลาสูงกว่าที่อื่นเล็กน้อย นี่เป็นการออกแบบที่ตั้งใจมาก เป็นการเตือนผู้โดยสารที่รอรถให้ระวังทางรถไฟข้างหน้าไม่ให้ตกลงไป
คนที่นั่งรถไฟฟ้ารางเบาก็ไม่เยอะ คนไม่แน่นแล้วก็ไม่ต้องต่อแถว ต่างกับที่จีน คนแฮมิลตันน้อยแถมทุกบ้านก็มีรถ รถไฟฟ้ารางเบาก็อย่างที่หลิวซูเหยียนบอก สะดวก
รถไฟฟ้ารางเบากับใต้ดินที่จีนคนแน่นๆ ทั้งนั้น ทำไงได้ เพราะใช้ประโยชน์รถสาธารณะด้วยจุดประสงค์ที่ต่างกัน แคนาดาเพื่อความสะดวก ส่วนที่จีนเพื่อเอาไว้คลายเรื่องจราจรติดขัด
มองดูหลิวซูเหยียนนั่งอยู่ที่ที่นั่งเงียบๆ ฉินสือโอวรู้สึกชื่นชมมากกว่าเดิม ผู้หญิงบางคนแม้จะรู้ว่านั่งพวกรถเมล์หรือรถไฟใต้ดินจะไวและสะดวกกว่าพวกเธอก็ไม่นั่ง แต่ยินดีเลือกรถแท็กซี่มากกว่า ในสายตาพวกเธอการนั่งรถเมล์มันน่าขายหน้า
อย่างน้อยหลิวซูเหยียนก็ไม่ใช่คนแบบนี้ เหมาเหว่ยหลงตาแหลมทีเดียว
รถไฟฟ้ารางเบาผ่านห้าสถานีไปอย่างรวดเร็ว สถานีซูเปอร์มาร์เก็ตวอลมาร์ตก็ถึงแล้ว
ซูเปอร์มาร์เก็ตวอลมาร์ตตรงนี้เป็นหนึ่งในสองซูเปอร์มาร์เก็ตที่ใหญ่ที่สุดของแฮมิลตัน รวมลานกว้างแล้วพื้นที่รวมทั้งหมดกว่าสองหมื่นตารางเมตร ตึกหลักแบ่งเป็นชั้น ซูเปอร์มาร์เก็ตอยู่ชั้นใต้ดิน ของครบไม่มีใครเทียบ
ตอนที่เข้าซูเปอร์มาร์เก็ตก็พอดีกับที่มีหญิงผิวขาวเข็นรถเข็นเด็กพร้อมเด็กสามคนเดินตามหลังมา หลิวซูเหยียนช่วยดึงประตูเปิดให้พวกเขาเข้าไปก่อน หญิงสาวพยักหน้าขอบคุณแล้วเอ่ยปาก “ขอบคุณค่ะ”
“เป็นเรื่องที่ควรทำค่ะ” หลิวซูเหยียนพยักหน้าตอบแล้วอุทานออกมา “คุณแม่แคนาดานี่ก็ชีวิตไม่ง่ายเหมือนกันนะ”
เวลาเดินซูเปอร์มาร์เก็ตที่แคนาดามักจะเห็นคุณแม่หนึ่งคนที่พาลูกมาด้วยหลายๆ คน บางครั้งกระทั่งมีรถเข็นเด็กทารกกับเด็กเล็กอีกคันซึ่งดูกินแรงมาก
ข้อนี้ในสายตาของคนจีนไม่ค่อยเข้าใจ เด็กเล็กขนาดนั้นให้นอนอยู่บ้านก็โอเคแล้วไม่ใช่เหรอ จะเอาออกมาทำไม?
จริงๆ แล้วเหล่าคุณแม่ชาวแคนาดาก็อยากจะทำแบบนี้ แต่กฎหมายไม่อนุญาตให้เด็กที่อายุยังไม่ครบ 12 ปีให้อยู่บ้านหรือออกไปไหนมาไหนคนเดียว ถ้าตำรวจรู้ว่ามีเรื่องแบบนี้ พ่อแม่ผู้ปกครองก็อาจจะเสียสิทธิเลี้ยงดูหรือกระทั่งเข้าคุก
หลิวซูเหยียนผลักรถเข็นเข้าไปซื้อผัก ฉินสือโอวรับผิดชอบซื้อเหล้า สองคนแยกกันไปสองทาง แบบนี้ก็ไวดี
ฉินสือโอวชินกับการดื่มไอซ์เบียร์นิวฟันด์แลนด์ พอไปดูตรงโซนขายเบียร์กลับไม่มี ถึงเพิ่งนึกได้ว่าเบียร์ชนิดนี้ไม่ค่อยเป็นที่นิยมในนอกเมือง ก็เลยเลือกพวกเบียร์สดราคาสูงกับเบียร์ดำ
เครื่องดื่ม เบียร์ ไวน์แดงกับเหล้าขาว เขาก็เลือกมาอย่างล่ะหน่อย อีกอย่างส่วนมากราคาก็ไม่ธรรมดา
เพราะฉินสือโอวทำความเข้าใจมาระหว่างทางแล้ว นี่คือปาร์ตี้เพื่อนบ้านทางการครั้งแรกตั้งแต่ที่เหมาเหว่ยหลงซื้อฟาร์ม เขาก็เลยทำเพื่อนรักขายหน้าไม่ได้ เหล้าก็เลือกแต่ดีๆ อย่างไรก็ไม่ได้ขาดเงิน
ตอนที่รูดบัตรจ่ายเงิน ฉินสือโอวใช้บัตรอเมริกันเอ็กซ์เพรส พนักงานแคชเชียร์มองเขาอึ้งๆ และนึกไม่ถึงเลยว่าจะเอามือถือออกมาถ่ายรูป แล้วยังขอถ่ายรูปคู่กับฉินสือโอวด้วย
ฉินสือโอวยิ้มเจื่อน แอบบ่นว่าคนคิดเงินวอลมาร์ตฝึกมาได้ไม่ดีเอาเสียเลย ถ้าเจอลูกค้าที่เรื่องมากก็แย่เลยนะ
ขากลับก็ต้องพึ่งรถแท็กซี่แล้ว ไม่ต้องพูดถึงกองเหล้าแดง เหลือง ขาวของฉินสือโอว ทางหลิวซูเหยียนก็หอบพะรุงพะรังมาห้าถุง เนื้อสัตว์ ธัญพืช น้ำมัน เครื่องปรุง เยอะแยะไปหมด
รถแท็กซี่เร็วกว่ารถมินิบัสมากแถมยังไม่ต้องหยุดตามป้ายด้วย คนขับก็ชำนาญทางเลยเลือกทางที่สั้นกว่า เวลาที่ใช้กลับบ้านสั้นกว่าขามาถึงครึ่งหนึ่ง เงินนี้จ่ายได้คุ้ม
ในฟาร์ม เหมาเหว่ยหลงก็เตรียมเตาย่างบาร์บีคิวเรียบร้อยแล้ว ในสวนมีกลิ่นกาแฟลอยอบอวล ในห้องกาแฟมีคนกำลังชงกาแฟ ข้างนอกมีคนนั่งอยู่ห้าหกคนกำลังคุยและหัวเราะกันเสียงดัง
พอเห็นฉินสือโอว เหมาเหว่ยหลงเลยพาเขาไปแนะนำให้คนที่มาถึงแล้วรู้จัก นี่เป็นครอบครัวเดียวกัน ฟาร์มห่างจากฟาร์มมาเธอร์เอิร์ธไม่มาก เจ้าของชื่อว่าคาดราแมน เป็นผู้อพยพชาวเม็กซิกัน
ผ่านไปครู่หนึ่ง จอห์นพูที่เจอก่อนหน้านี้ก็พาภรรยากับหมาสก็อตติช คอลลี่ตัวโตมาด้วย หมาตัวนั้นถูกฝึกมาอย่างดี ในปากคาบกล่องเค้กมาด้วยกล่องหนึ่ง
จอห์นพูกับเหมาเหว่ยหลงกอดกันแล้วพูดอย่างอารมณ์ดี “เมียผมอบเค้กมาชิ้นหนึ่งเลยตั้งใจเอามาฝากทุกคนให้ลองชิมกันดู”
เสียงดังฟังชัดของคาดราแมนดังขึ้น “เค้กของเมียจอห์นพูฉันจะต้องกินให้ได้เยอะๆ เลย ตอนนี้ฉันยังจำรสชาติอร่อยของมันได้ เฮ้ จอห์นน้อย มานี่ มาหาฉันนี่”
ประโยคท่อนหลังเขาพูดกับเจ้าหมาคอลลี่ แต่หมาตัวนั้นไม่สนใจเขาอย่างเห็นได้ชัด หลังจากที่เหมาเหว่ยหลงรับกล่องเค้กมามันก็มองเหล่าอเมริกันบูลลี่น้อยที่อยู่ไม่ไกลอย่างสนใจ
แม้ว่าอเมริกันบูลลี่ยังเล็กอยู่ แต่พวกมันก็กล้าใช่เล่น สก็อตติช คอลลี่จ้องพวกมันอยู่ พวกมันก็ไม่แสดงความอ่อนแอออกมา แต่ย่นจมูกมองดูคอลลี่
ดูไปครู่หนึ่งหมาคอลลี่ก็สนใจ ก้าวเท้าออกไปอย่างสง่างามแล้วเดินเข้าไปใกล้ก่อนจะแลบลิ้นเลียอเมริกันบูลลี่ที่มีลายจุดขาวบนหัว
เจ้าลายขาวจาม ส่ายอุ้งมืออ้วนไปผลักปากของหมาสก็อตติช เจ้าหมาคอลลี่จะเลียมันให้ได้ ตั๋วตั่วเข้าไปขวางหน้าเจ้าลายขาวแล้วอ้าแขนหยุดสก็อตติช คอลลี่ไว้
เห็นแบบนั้นจอห์นพูก็พูดยิ้มๆ “ดูสิ สาวน้อยของเรากำลังปกป้องลูกตัวเองด้วย มานี่ จอห์นน้อย มานั่งข้างพ่อมา”
หมาเป็นผู้ช่วยชั้นดีของเจ้าของฟาร์ม เจ้าของฟาร์มพวกนี้ล้วนเป็นมือดีในด้านการเลี้ยงหมา ฉะนั้นก็เลยคุยกันเกี่ยวกับหมาอเมริกันบูลลี่ ฉินสือโอวเห็นว่าเหมาเหว่ยหลงวุ่นอยู่กับการปิ้งบาร์บีคิวก็เลยไปทำแทนแล้วให้เขาไปคุยกับเจ้าของฟาร์มคนอื่นๆ
ฟ้าเริ่มมืดลง คนที่มาร่วมปาร์ตี้เริ่มเยอะขึ้น แทบจะพามากันทั้งบ้านเลยทีเดียว บางคนยังพาเพื่อนมาด้วย ฉะนั้นแม้จะมาแค่หกเจ็ดบ้านแต่กลับมีคนสามสี่สิบคนทำให้ในสวนครื้นเครงขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
คนเม็กซิกันมีนิสัยเปิดเผย ชอบบาร์บีคิวและดนตรี รถกระบะของคาดราแมนมีลำโพง เขาดึงสายไฟมาเริ่มเปิดเพลง เป็นเพลงที่เร้าใจสุดๆ ชั่วขณะนั้น คนหนุ่มในสวนก็ชูขวดเบียร์พลางส่ายร่างและร้องตะโกนไปด้วย
ฉินสือโอวกับชาร์คอยู่ด้วยกัน อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง เรื่องปิ้งบาร์บีคิวเป็นของถนัดอยู่แล้ว เขารับเตาย่างมาดูแลไม่นานก็มีกลิ่นหอมเนื้อย่างอบอวลขึ้นมา
เด็กๆ วิ่งมาจ้องเหม่อดูเนื้อบนเตา เหล่าอเมริกันบูลลี่ตัวน้อยก็วิ่งห่างจากตั๋วตั่ว รีบวิ่งมาล้อมหน้าล้อมหลังฉินสือโอวปากก็น้ำลายไหลไปด้วย
ฉินสือโอวหัวเราะร่า นั่งยองลงแล้วดีดหัวอเมริกันบูลลี่น้อยแล้วพูดยิ้มๆ “พวกแกเพิ่งจะหย่านมก็อยากจะกินเนื้อแล้วเหรอ? ไม่ๆๆ เร็วเกินไป ไปเล่นกับพี่ตั๋วตั่วของพวกแกไป ดูสิว่าเธอร้อนใจแค่ไหน”
ในตอนที่เขากำลังแหย่อเมริกันบูลลี่ตัวน้อย รถบีเอ็มดับเบิลยู 760 สีแดงก็ขับเข้ามา พอเห็นรถคันนั้น เจ้าของฟาร์มทั้งหลายที่เดิมทีกำลังคุยเล่นกินเหล้ากันอยู่ก็หน้าเคร่งเครียดขึ้นมาทันทีแล้วมองรถคันนั้นด้วยสีหน้าไม่พอใจ
…………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset