บทที่ 125 สมุดบันทึกจุดชนวนคดีเก่าตกค้าง
โดย
Ink Stone_Fantasy
การกระจัดกระจายของกระแสน้ำอุ่นนำเอาเมฆครึ้มติดไปด้วย ตอนนี้ท้องฟ้าของเกาะแฟร์เวลปลอดโปร่งไร้ซึ่งเมฆฝน เป็นสีฟ้าสดใส ราวกับผลึกคริสทัลที่ถูกแขวนไว้บนท้องฟ้า อีกทั้งยังสะอาดบริสุทธิ์จนชวนให้รู้สึกประทับใจ
ฉินสือโอวเอนตัวอยู่บนดาดฟ้า ถือเอาโทรศัพท์มือถือ ‘แชะๆๆ’ ถ่ายรูปไปไม่กี่รูปเพื่อลงรูปใน QQ
ตอนนี้เป็นเวลาสิบโมงเช้า นิวฟันด์แลนด์อยู่ในเขตเวลาที่สี่ของทางฝั่งตะวันตก ส่วนปักกิ่งอยู่ในเขตเวลาที่แปดของฝั่งตะวันออก เวลาของทั้งสองฝั่งอยู่ห่างกันราวๆสิบชั่วโมงครึ่ง สำหรับที่จีนแล้ว ตอนนี้กำลังเป็นเวลาห้าทุ่มครึ่ง
ช่วงเวลาสี่ห้าทุ่มเป็นช่วงนาทีทองของมนุษย์กลางคืนทั้งหลาย เวลานี้ของทุกๆวันกลุ่มใน QQ จะค่อนข้างคึกคัก ฉินสือโอวเปลี่ยนสถานะเป็นออนไลน์เพื่อทักทายคนอื่นๆ เพื่อนร่วมชั้นเรียนกลุ่มหนึ่งก็จับเขาไว้ บอกให้เขากลับประเทศมาเลี้ยงข้าวเพื่อนๆ
“เป็นเศรษฐีแล้ว”
“ฉินโซ่ว ตอนนี้ไม่เห็นแกเพื่อนเห็นแก่ฝูงแล้วสินะ ตอนเรียนมหาลัยหาเงินได้สองร้อยหยวนก็ยังพาฉันไปเลี้ยงปิ้งย่าง ตอนนี้เป็นเศรษฐีมีเงินตั้งกี่สิบล้านแล้ว โคตรแม่มยังไม่เห็นแม้แต่เงา”
“ฉินโซ่วจวี๋จวี้ เมื่อไรแกจะกลับมาเลี้ยงข้าวพวกเรา?
“กินๆๆ ต้องได้กิน ขอแค่ได้กินอย่างอื่นก็ไม่เป็นปัญหาแล้ว!”
ฉินสือโอวอ่านแล้วก็ยิ้มไม่หยุด เขากำลังจะเขียนข้อความตอบกลับ แต่ปรากฏว่าเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาเสียก่อน ตอนนี้เรือยอชต์ยังไม่ได้ออกจากท่าเรือ ดังนั้นสัญญาณจึงแรงมาก
นี่เป็นสายจากเบอร์แปลก หลังจากรับสายเขาก็ถามก่อนว่า “คุณคือใครครับ?”
เสียงนิ่งๆเสียงหนึ่งดังออกมาจากลำโพง “สวัสดีครับ คุณฉินใช่ไหมครับ? ผมบิลลี่ สตอร์ม จากบริษัทโอดีสซีย์ มารีน เอ็กเพอเรชันนะครับ ผมเสิร์ชเว็บไซต์บ้านของเรืออับปาง แล้วเห็นกระทู้คำถามของคุณ ที่สอบถามเรื่องเรือดังเคิลออสเดียสของตระกูลเฟอร์ดินัน ขอถามหน่อยนะครับ คุณได้ค้นพบเรือลำนี้แล้วใช่ไหม?”
เมื่อได้ยินคีย์เวิร์ดสำคัญอย่างคำว่าเรือดังเคิลออสเดียส ฉินสือโอวก็ระวังตัวขึ้นมาทันที “คุณหาเบอร์ติดต่อของผมมาจากช่องทางไหนเหรอครับ?”
ตอนลงทะเบียนกับเว็บไซต์บ้านของเรืออับปางต้องใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อทำการยืนยัน แต่เว็บไซต์รับประกันว่าเบอร์โทรศัพท์จะเป็นความลับ เห็นได้ชัดว่า พวกเขาทำไม่ได้ตามที่พูดไว้เลยแม้แต่น้อย ไม่เช่นนั้นบิลลี่ สตอร์มคงไม่มีเบอร์โทรศัพท์ของเขาแบบนี้
บิลลี่ทายความคิดของเขาได้ถูก เขาอธิบายว่า “ผมยังมีอีกหน้าที่หนึ่ง คือผู้ดำนินการเว็บไซต์ ดังนั้นผมจึงสามารถตรวจสอบหาเบอร์โทรศัพท์ที่คุณทิ้งไว้ได้ ก็เลยบุ่มบ่ามโทรมาหาคุณ”
เมื่อเป็นเช่นนี้ฉินสือโอวจึงคลายความกังวลลงได้ แต่เขาไม่ได้บอกความจริงไป เมื่อคิดได้ว่าเคยพบสมุดบันทึกของกัปตัน จึงบอกไปว่า “เมื่อเร็วๆนี้ผมได้สมุดบันทึกเก่าแก่มาหนึ่งเล่ม บนปกเขียนข้อความเกี่ยวกับเรือดังเคิลออสเดียสไว้ ผมคิดว่าค่อนข้างน่าสนใจ ดังนั้นจึงลองไปสอบถามดู คุณมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องเหรอครับ?”
เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนั้น น้ำเสียงของบิลลี่ก็ฮึกเหิมขึ้น เขาพูดขึ้นว่า สมุดบันทึกของคุณไม่มีข้อความที่เกี่ยวกับตำแหน่งของเรือดังเคิลออสเดียสเหรอครับ? ตามที่พวกเราได้สำรวจมา ตอนที่เรือลำนี้จมลงในน้ำ มันได้บรรทุกแร่เงินไว้ห้าร้อยตัน ถ้าสามารถงมมันขึ้นมาได้ เพื่อนเอ๋ย ถ้าอย่างนั้นพวกเราจะกลายเป็นมหาเศรษฐีร้อยล้านเลยล่ะ”
“อะไรนะ แร่เงินห้าร้อยตันเหรอ?”ฉินสือโอวงงงัน เขากะพริบตาปริบๆ ช่างน่าตาย เห็นๆอยู่ว่ามีร้อยตัน หรือว่าที่ตำแหน่งอื่นจะยังมีแร่เงินอยู่อีก
“ใช่แล้ว แร่เงินห้าร้อยตัน เรือลำนี้ออกเดินทางจากท่าเรืออัลเจซิราสในปี 1781 บรรทุกแร่เงินห้าร้อยตันไปที่บอสตัน จากนั้นก็ส่งไปที่นิวยอร์ก
“ในตอนนั้นแร่เงินพวกนี้เป็นงบประมาณทางการทหารของรัฐบาลสเปนที่ให้รัฐบาลของวอชิงตันยืม ใช้สำหรับต่อสู้กับพวกอังกฤษขี้ครอก เพื่อเป็นการช่วยเหลือให้สหรัฐอเมริกาชนะสงครามปฏิวัติอเมริกา”
“แต่ปรากฏว่าทิศทางของเรือลำนี้เกิดปัญหาขึ้น ครั้งสุดท้ายที่ติดต่อกับพวกเขาได้ ก็พบว่าพวกเขาสูญเสียทิศทางจนหลงไปในทะเลแล้ว และยังผ่านเส้นขนานที่สี่สิบห้าองศาเหนือไปแล้วด้วย ต่อจากนั้น เรือลำนี้ก็ไม่เคยปรากฏขึ้นอีกเลย จนถูกจัดเข้ารายชื่อเรืออับปาง
เห็นได้ชัดว่าบิลลี่ตั้งใจที่จะร่วมมือกับฉินสือโอวเพื่อกู้ซากเรือเรือดังเคิลออสเดียสด้วยความจริงใจ ข้อมูลภูมิหลังก็เล่าให้เขาฟังจนหมดแล้ว
ฉินสือโอวสับสนงุนงง ไม่ใช่สิ เห็นได้ชัดว่าบนเรือลำนั้นมีแร่เงินอยู่แค่หนึ่งร้อยตัน ทำไมถึงบอกว่ามีอยู่ห้าร้อยตันล่ะ? ถ้าจะบอกว่าหล่นลงไปในทะเลตอนกำลังจม ก็คงจะเป็นไปไม่ได้ ห้องของกัปตันถูกปิดไว้อย่างแน่นหนา
ถ้าอย่างนั้น แล้วเงินอีกสี่ร้อยตันล่ะ?
ฉินสือโอวไม่เข้าใจเรื่องนี้เลยสักนิด จึงเหลือเพียงเครื่องหมายคำถามไว้ให้วิลลี่ “ตามที่สมุดบันทึกได้บอกไว้ เพื่อน เห็นได้ชัดว่าเรือดังเคิลออสเดียสมีแร่เงินอยู่แค่หนึ่งร้อยตันเท่านั้นนะ”
บิลลี่ที่อยู่ฝั่งนั้นก็เงียบไป ฉินสือโอวนึกว่าเขาวางสายไปแล้ว แต่สุดท้ายก็มีเสียงดังขึ้นมาอีกครั้ง ครั้งนี้เขาโมโหขึ้นมาก “ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็พิสูจน์ได้แล้วเรื่องหนึ่ง พวกน่าตายนั่น ที่เขาเล่ากันเป็นความจริง ไอ้พวกสเปนลูกโสเภณีขี้ครอก พวกมันโกงรัฐบาลเหนือของสหรัฐอเมริกา!”
ฉินสือโอวก็ยิ่งสับสน นี่มันคืออะไรยังไงกันแน่?”
บิลลี่รีบถามขึ้นมาว่า “ฉิน คุณอยู่ที่นิวฟันด์แลนด์ใช่ไหม? ผมเป็นคนอเมริกัน ตอนนี้อยู่ที่แคลิฟอร์เนีย ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากจะพูดคุยกับคุณสักหน่อย แล้วก็อยากจะขอดูสมุดบันทึกของคุณ เพราะมันอาจจะเกี่ยวข้องกับคดีเก่าแก่ของทั้งสองประเทศ!”
“คดีเก่าแก่อะไรนะ?”เปลวไฟในตัวของฉินสือโอวก็ลุกโชนขึ้น
บิลลี่อธิบายว่า “ไม่รู้ว่าคุณจะเข้าใจไหม สงครามประกาศอิสรภาพของพวกเรา แท้จริงไม่ใช่พวกเราที่เอาชนะอังกฤษได้ด้วยตนเอง ตอนนั้นพวกเราได้รับการสนับสนุนจากฝรั่งเศส อิตาลี โปรตุเกสและสเปน”
“ในตอนนั้น กองกำลังทหารของวอชิงตันดีซีทั้งยากจนและล้าหลัง ประเทศเหล่านี้ล้วนแต่ดำเนินการช่วยเหลือในระดับต่างๆ หนึ่งในนั้นมีการสนับสนุนแร่เงินห้าร้อยตันจากสเปนด้วย ถึงแม้แร่เงินพวกนี้จะเป็นวิธีการให้รัฐบาลอเมริกากู้ยืมก็ตาม
“แต่ว่า สำหรับกองกำลังทหารของทางเหนือแล้วของพวกนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก สุดท้ายกลับส่งมาไม่ถึงบอสตัน ทว่า เนื่องจากรัฐบาลอเมริกาเป็นฝ่ายกู้ยืมจึงทำให้ต้องเซ็นสัญญาที่ไม่เป็นธรรมหลายข้อในการกู้ยืมครั้งนี้”
“หนึ่งในนั้นมีข้อหนึ่งที่บอกว่าเมื่อแร่เงินออกจากเขตทะเลของสเปนแล้ว รัฐบาลสเปนจะไม่รับผิดชอบดำเนินการรักษาความปลอดภัยของแผ่นเงิน ไม่ว่าเงินจำนวนนี้จะหายหรือถูกโจรสลัดปล้นไป จะเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลสหรัฐทั้งสิ้น”
“ปรากฏว่า สุดท้ายแล้วแร่เงินพวกนี้ก็ส่งมาไม่ถึงแผ่นดินอเมริกา แต่เนื่องจากว่ามีสัญญาการกู้ยืมอยู่ หลังจากสถาปนาประเทศแล้ว รัฐบาลวอชิงตันดีซีจึงยังต้องคืนหนี้ของแร่เงินห้าร้อยตันไปด้วยความยากลำบาก”
“ตลอดมาจนกระทั่งตอนนี้ สิ่งที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มีเพียงเรื่องเล่าเท่านั้น ว่ากันว่า ข้อตกลงกู้ยืมครั้งนี้เป็นแผนการของชาวสเปน พวกเขาหลอกรัฐบาลอเมริกา แท้จริงบนเรือมีแร่เงินอยู่เพียงหนึ่งร้อยตันเท่านั้น ที่เหลือล้วนแต่เป็นแผ่นเหล็กชุบเงิน!”
“น่าเสียดายที่ไม่มีหลักฐาน เรื่องนี้จึงเป็นเพียงแค่เรื่องที่เล่าต่อกันมา ถ้าหากว่าข้อมูลที่บันทึกไว้ในสมุดเล่มนั้นของคุณเป็นของจริง ถ้าอย่างนั้นเรื่องเล่านั้นก็เป็นความจริง!”
บิลน่าจะเป็นคนที่รักชาติมาก ช่วงที่กำลังอธิบายเรื่องคดีเก่าแก่อันนี้ จึงได้ฉุนเฉียวมาก ไม่ว่าจะ ‘FUCK’ ‘ลูกโสเภณี’ SHIT’ คำพวกนี้ก็ถูกพูดออกมาอย่างไม่ขาดสาย
ฉินสือโอวไม่อยากที่จะเข้าไปพัวพันกับสิ่งที่เรียกว่าคดีของสองประเทศนี้ มีประโยชน์กับเขาตรงไหนกัน?
อีกอย่างคือเมื่อสักครู่เขาเพิ่งโกหกเรื่องสมุดบันทึกไป สมุดบันทึกเล่มนั้นแช่น้ำจนเปื่อยหมดแล้ว ตัวหนังสือข้างบนจะอ่านได้รู้เรื่องได้ที่ไหนกัน?
ดังนั้น เขาจึงกล่าวขอโทษและบอกปฏิเสธบิลลี่ไป เขาขอร้องว่า ตอนนี้เขาเป็นเจ้าของฟาร์มปลา อยากใช้ชีวิตอย่างสบายใจไปเรื่อยๆก็เท่านั้น เรื่องการเมืองและเศรษฐกิจเขาขอไม่ยุ่งด้วยจะดีกว่า
เขาเปิดQQ ขึ้นมาอีกครั้ง ฉินสือโอวพบว่าตอนนี้ในเพื่อนๆกลุ่มกลับเอะอะครึกโครมกันวุ่นวาย ประเด็นที่คุยกันก็คือตอนนี้เขาเสแสร้งเกินไป พอเข้ามาแสดงตัวแล้วก็หายไปซะอย่างนั้น จงต้าจวิ้นตะโกนเรียกไม่หยุดว่าเพราะประเด็นเรื่องเลี้ยงข้าวทำให้เขาตกใจจนหนีไป
ฉินสือโอวจึงต้องรักษาชื่อให้ตัวเอง “ไสหัวไปเลย เมื่อสักครู่ฉันไปรับโทรศัพท์มา ฉันไม่อยู่พวกแกก็ยังพากันสร้างความวุ่นวายอีก! ไม่ใช่แค่เรื่องเลี้ยงข้าวนะ แต่ปัญหาคือฉันจะเลี้ยงยังไง พวกแกอยู่แยกกันห่างกันคนละซีกโลก จะมารวมกันยังทำไม่ได้เลย!”
“แกซื้อเครื่องบินแล้วบินมาสิ ยังไงตอนนี้แกก็เป็นเศรษฐีอะ”เหมาเหว่ยหลงส่งสติกเกอร์ยิ้มแบบมีเลศนัย
พอพูดถึงเรื่องซื้อเครื่องบิน ใจของฉินสือโอวก็เริ่มสั่นขึ้นมา เขาคงจะต้องซื้อเครื่องบินจริงๆแล้วล่ะ
……………………………………………………..