ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 715 พนันกันอีกรอบ

เสียงพูดของแมทธิว จินไม่ได้ดัง แต่เขาพูดคำพวกนี้ออกมาช้าๆ ทำให้เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาต่างก็ได้ยินกันอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง
ในสภาวะที่เงียบสงบมีสายฟ้าฟาดลงมากะทันหัน เบื้องหลังความดีนั้นก็มีความชั่วร้ายแฝงอยู่ ฉินสือโอวรู้สึกมาตลอดว่าแมทธิว จินเหมือนกับศาสตราจารย์ที่อายุห้าสิบกว่า ทั้งใจดีและสุขุม
แต่ทว่าในตอนนี้ที่คุณประธานสภาได้เผยให้เห็นถึงตัวตนที่แท้จริงแล้วนั้น เขาถึงจะเพิ่งรู้สึกว่า เจ้าหน้าที่รัฐคนนี้เป็นถึงคนที่เหยียบศพของศัตรูเพื่อมาถึงจุดนี้เลย เขาทำงานมาสิบกว่าปี ศพที่เขาเหยียบขึ้นมาจะมีเท่าไรแล้วนะ? ไม่รู้สิ แต่ที่แน่ๆ ต้องมีมากกว่าเจ้าหน้าที่รัฐที่ท่านฉินคนนี้รู้จักอย่างแน่นอน
เมื่อได้ฟังคำพูดของแมทธิวแล้ว เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาต่างก็พากันกลืนน้ำลายพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย แม้แต่พวกของบัคเคอร์ ชาร์ลสและเซอร์จิโอที่วางท่ามาตลอดก็เริ่มเงียบลง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
หลังเที่ยวชมท่าเรือบาสก์มาตลอดทั้งวัน คืนวันนั้นพวกเขาก็กลับไปพักผ่อนในโรงแรมของท่าเรือ วันรุ่งขึ้นยังต้องออกเดินทางกันต่ออีก จุดหมายปลายทางในครั้งนี้เป็นที่ที่ฉินสือโอวคุ้นเคย นั่นก็คือแหลมเซนต์ชาร์ลส ที่ที่เขาเคยคิดจะมาซื้อฟาร์มปลานั่นเอง
เห็นทีคำพูดที่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดของของท่านประธานสภาเมื่อวานจะทำให้เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาตกใจกันพอดู แม้ว่าแคนาดาจะเป็นสวรรค์ของเหล่านักลงทุน แต่ถ้าคิดถึงว่าเพื่อนร่วมทางอย่างท่านประธานสภาเองก็คงเป็นนักลงทุนมือฉมังเช่นกันแล้ว ดังนั้นเมื่อพวกเขาอยู่ต่อหน้าคนแบบนี้เป็นธรรมดาที่จะไม่มีความมั่นใจ
ไม่ใช่ทุกครอบครัวที่จะเป็นเหมือนตระกูลรอธส์ไชลด์ ดังนั้นหากไม่ได้มีวาสนาที่จะเป็นเจ้าหญิงแล้วก็อย่าแม้แต่จะคิดที่จะทำตัวเหมือนเจ้าหญิงเด็ดขาด
อยู่บนเรือค่อนข้างน่าเบื่อ ฉินสือโอวจึงอยากเล่นไพ่กับพวกแอนดรูว์ แต่สุดท้ายฮับเบิลก็เข้ามาหา แล้วถามว่า “มีเวลาไหมครับ มาคุยกันหน่อย?”
ฉินสือโอวรู้ว่าเขาต้องมีเรื่องอยากคุยกับตัวเองมากแน่ๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่ขึ้นเรือปุ๊บก็มาหาตัวเอง ดังนั้นจึงทำทีนิ่งเพื่อดูว่าเขาจะมาไม้ไหน
 “คุณก็รู้นะ ฉิน ผมเป็นนักลงทุนที่เล่นกับความเสี่ยง ธุรกิจอะไรก็ตามที่มีผลกำไร ผมก็ล้วนอยากจะลงทุน” ฮับเบิลพูดพร้อมรอยยิ้ม
ฉินสือโอวยักไหล่ แล้วพูดว่า “เรื่องนี้ผมรู้ แล้วเกี่ยวอะไรกับผม?”
ฮับเบิลนำสมุดบันทึกที่พกติดตัวอยู่ออกมาเปิดดู ในนั้นเต็มไปด้วยข่าวสารมากมาย ตัวหลักของเรื่องนั้นก็คือบัตเลอร์ ส่วนหัวข้อหลักในนั้นก็คือโรงแรมระดับหรูในนิวยอร์กได้ทำให้ทั้งเมืองสั่นสะเทือนไปกับอาหารทะเลที่ไร้สารปนเปื้อนจากนิวฟันด์แลนด์
 “ผมอยากลงทุนกับธุรกิจของพวกคุณ” ฮับเบิลพูดพร้อมรอยยิ้ม
 “จะลงเงินเท่าไรครับ?” ฉินสือโอวถามออกไปด้วยสีหน้านิ่ง
ฮับเบิลปิดสมุดบันทึก พูดต่อด้วยรอยยิ้มว่า “ตามที่พวกคุณต้องการ งวดแรกของการลงทุนอยู่ที่สิบห้าล้านดอลลาร์ขึ้นไป”
ฉินสือโอวยังคงมีสีหน้านิ่งไม่เปลี่ยน เขาหยิบบัตรอเมริกันเอ็กซ์เพรสออกมาจากกระเป๋าเงินให้ฮับเบิลดู แตะไปที่บัตรไม่พูดอะไร เพื่อการเป็นบอกเป็นนัยว่านายทำตามที่เห็นสมควรแล้วกัน
เมื่อได้เห็นบัตรใบนี้แล้ว ฮับเบิลตะลึงจนตาค้าง และเมื่อเขาหยิบบัตรขึ้นมาดู ก็ยิ่งแปลกใจแล้วถามออกไปว่า “บัตรของLV2เหรอครับ? ถ้าหากผมจำไม่ผิด ทั่วทั้งนิวฟันด์แลนด์ มีบัตรแบบนี้ไม่เกินสามใบนี่!
ฉินสือโอวหัวเราะแล้วพูดว่า “ตัวผมเองก็มีเหมือนกัน ดังนั้นคุณคงเข้าใจความหมายของผมใช่ไหม?”
ฮับเบิลเก็บสีหน้าแปลกใจลง รอยยิ้มบนใบหน้าก็ได้เปล่งประกายมากกว่าเก่า เขาพูดว่า “งั้นผมขอเปลี่ยนวิธีการร่วมธุรกิจใหม่ ลืมคำพูดที่ผมพูดเมื่อกี้ไป ตอนนี้จะพูดใหม่แล้ว ได้ไหมครับ?”
 “คุณพูดมาเลย”
 “คุณก็รู้นะ ฉิน ผมเป็นนักลงทุนที่เล่นกับความเสี่ยง ธุรกิจอะไรก็ตามที่มีผลกำไร ผมก็ล้วนอยากจะลงทุน” ฮับเบิลทวนคำพูดของเขาเมื่อกี้ใหม่อีกครั้ง จากนั้นก็เปลี่ยนคำพูดต่อท้ายใหม่ว่า “ผมมีหลายธุรกิจที่อยากลงทุน แต่ผมขาดผู้ร่วมธุรกิจที่มีความสามารถที่มากพอ!”
ฉินสือโอวรู้สึกว่าเจ้าหมอนี่เป็นคนที่น่าสนใจคนหนึ่ง ไม่เหมือนกับเจ้าของฟาร์มปลาที่มาพักร้อนคนอื่นๆ ดังนั้นเขาเองก็กลับไปทำหน้านิ่งเหมือนเดิม แล้วถามว่า “จะลงเงินเท่าไรครับ?”
 “หน่วยลงทุนคือสิบล้าน ถ้าเป็นหลักร้อยล้านจะดีที่สุด” ฮับเบิลพูด
ฉินสือโอวไม่สามารถทำหน้านิ่งต่อไปได้แล้ว เขารู้ว่าการวางมาดอวดรวยของเขาเมื่อกี้ทำเกินไปนิด แม้แต่ฮับเบิลที่ผ่านคนมามากมายยังถูกเขาสยบได้ ดังนั้นไม่ควรจะวางมาดอีก จึงพูดว่า “ขอผมคิดก่อนแล้วกันนะ ตอนนี้ผมยังไม่มีเงินร้อยล้านที่สามารถโยกมาใช้ได้”
ฮับเบิลไม่รีบร้อนให้เขาตัดสินใจ เขายิ้มพร้อมพยักหน้า ดวงตาเปล่งประกายไม่หยุด ไม่รู้ว่ากำลังคิดแผนเจ้าเล่ห์อะไรอยู่
ฉินสือโอวเดินออกไปจากห้องโดยสารบนเรือ เห็นเหล่าเจ้าของฟาร์มปลาเริ่มส่งเสียงเอะอะกันที่กราบเรืออีกแล้ว จึงปัดมืออย่างรำคาญแล้วตะโกนออกไปว่า “เฮ้ เพื่อน เงียบๆ หน่อยได้ไหมครับ? อ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์เกือบจะเกิดพายุเพราะเสียงของพวกคุณแล้ว ไหนพูดสิ เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
เนื่องด้วยขนาดที่ใหญ่ของฟาร์มปลาของฉินสือโอว ทรัพย์สินของเขา ความสัมพันธ์ของเขากับแมทธิว จิน และเนื่องด้วยครั้งที่แล้วที่สามารถชนะเงินมาจากเหล่าเจ้าของฟาร์มปลามาได้ถึงสองล้านในการพนันแค่ครั้งเดียว จึงทำให้เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาทั้งหมายตกลงปลงใจให้เขาเป็นหัวหน้า
เมื่อเห็นเขาปรากฏตัว พวกของแอนดรูว์ก็พูดขึ้นมาอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “คนพวกนี้ไม่รักษาคำพูด พวกเราชนะการพนัน แต่ว่าพวกเขากลับเบี้ยวไม่ยอมจ่าย ไอ้พวกสารเลว!”
 “พูดดีๆ นะ แกว่าอะไรนะ?” เซอร์จิโอจ้องด้วยสายตาเยือกเย็น “เชื่อไหมว่าหลังลงเรือฉันสามารถทำให้ลิ้นแกไปเลียหัวแกได้?”
คำพูดนี้เป็นสุภาษิตของชนพื้นเมืองอเมริกัน หมายความว่าจะตัดลิ้นของคนคนหนึ่งไปติดไว้บนหัว บ่งบอกถึงการข่มขู่ได้อย่างชัดเจน
ฉินสือโอวรู้ว่าตัวเองต้องพูดอะไรบ้างแล้ว เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาทั้งหลายแม้จะดูป่าเถื่อน แต่ลึกๆ แล้วต่างก็เป็นคนซื่อกันทั้งนั้น อย่างพวกเขาสามารถต่อกรกับพวกชาวประมงได้ไม่มีปัญหา แต่เมื่อมาเจอกับคนที่ทั้งดำมืดและโหดร้ายแล้วก็หมดทางรับมือเหมือนกัน
แต่ฉินสือโอวไม่กลัว นี่ก็เพราะมีพลังโพไซดอน ขอแค่นี้พลังวิเศษนี้ เขาก็คือหนึ่งในคนที่แข็งแกร่งที่สุดบนโลกใบนี้
แต่แน่นอนว่าสิ่งที่ทำให้มั่นใจก็คือความเชื่อใจต่อคนรอบข้าง นี่ก็คือเหตุผลที่เขายอมให้ฟาร์มปลาเป็นที่พักพิงของเต่ามะเฟือง ถ้าหากว่าเขาสามารถสร้างหน่วยจู่โจมกองทัพบกกับกองทหารรักษาการณ์ขึ้นมาได้แล้วล่ะก็ ยังจะต้องกลัวพวกกลุ่มใช้ความรุนแรงอีกเหรอ?
ฉินสือโอวชี้นิ้วไปที่เซอร์จิโอ แล้วพูดคำต่อคำว่า “ฆ่าคนต้องชดใช้! ติดหนี้ต้องจ่ายคืน! แพ้พนันแล้วก็ต้องควักเงินจ่าย อย่ามาเงอะงะพูดไร้สาระ! ถ้านายอยากจะใช้กำลังล่ะก็ ฉันจะเล่นเป็นเพื่อนนายเอง! แต่ฉันกลัวว่านายจะไม่กล้าเล่น!”
เซอร์จิโอหัวเราะเยือกเย็นทีหนึ่ง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกว่า “พวกคนผิวเหลือง นายคิดว่าตัวเอง…”
เขายังไม่ทันได้พูดจบก็ถูกหยุดไว้เสียก่อน ทุกคนไม่ทันมองได้ชัด เงาของฉินสือโอววิ่งผ่านไป จากนั้นเซอร์จิโอก็ถูกคนกำคอขึ้นมาแล้วผลักไปที่หัวเรือ ร่างกายท่อนบนของเขาได้ถูกผลักออกไปห้อยคาไว้เหนือผิวน้ำ เผชิญหน้ากับคลื่นทะเลที่ปั่นป่วน
พวกของฮับเบิลรีบเข้ามาห้ามไว้ ทั้งดึงทั้งลากเพื่อพาเซอร์จิโอกลับเข้ามา บัคเคอร์ตะโกนออกมาว่า “ทุกคนต่างก็เป็นเจ้าของฟาร์มปลาเหมือนกัน มีปัญหาอะไรก็จัดการให้สมกับเป็นนักล่องเรือบนท้องทะเลหน่อย….”
ฉินสือโอวถอดเสื้อออก เผยให้เห็นถึงกล้ามเนื้อตัวสีดำคล้ำที่แข็งแรงราวกับเหล็กออกมา เขาจ้องไปที่บัคเคอร์อย่างเยือกเย็นแล้วพูดว่า “นักล่องเรือบนท้องทะเลใช้อาวุธอะไร?”
เมื่อได้เห็นรอยกล้ามเนื้อเป็นเส้นชัดเจนที่เต็มไปด้วยพละกำลังของฉินสือโอวแล้ว บัคเคอร์ก็ตกตะลึงจนแว่นกันแดดของเขาแทบจะแตกกระจาย
เมื่อถูกฉินสือโอวจ้อง เขาก็พูดด้วยเสียงอึกอักว่า “นั่น ไม่ใช่ ไม่ได้ใช้อาวุธ แต่ใช้การตกปลา! ใช่แล้ว ตกปลา พวกเราใช้การตกปลาในการแก้ปัญหากัน!”
ชาร์ลสก็พูดว่า “ครั้งที่แล้วนายชนะไม่ใช่เหรอ? ดีมาก ถือว่านายชนะไปก่อนตาหนึ่ง วันนี้พวกเรามาพนันกันอีกรอบ กล้าหรือเปล่า?”
ฉินสือโอวเองก็ไม่อยากมีเรื่องชกต่อย อย่างไรเสียนี่ก็เป็นกิจกรรมที่ทางกรมประมงจัดขึ้น จะต้องไว้หน้าแมทธิว จินด้วย จึงถามขึ้นว่า “แข่งอย่างไร? ฉันยินดีอย่างยิ่ง!”
……………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset