บทที่ 126 สุนัขอัจฉริยะ
โดย
Ink Stone_Fantasy
เครื่องบินที่เขาต้องการจะซื้อ ไม่ใช่เครื่องบินส่วนตัวสำหรับนั่งโดยสาร แต่เป็นเครื่องบินที่ในการเกษตรสำหรับฟาร์มปลา
เครื่องบินส่วนตัวก็อยากจะซื้อ ทว่าตอนนี้เขายังซื้อไม่ได้ อย่างน้อยก็ยังซื้อก่อนจะขายแผ่นเงินออกไปไม่ได้
เครื่องบินที่ใช้ในการเกษตรมีหลากหลายและราคาถูก สี่แสนดอลลาร์แคนาดาก็สามารถซื้อแบบที่พอใช้ได้แล้ว แต่ถ้าหากว่ายอมจ่ายเงินหนึ่งล้านแปดแสนดอลลาร์แคนาดา เช่นนั้นก็จะสามารถซื้อแบบที่เจ๋งสุดๆได้เลย
ตามการเติบโตของปลาซาบะ และปลาปลาค็อด พวกมันเริ่มกระจัดกระจายกันไปตามแต่ละมุมของฟาร์มปลา ไม่อยู่รวมกันเหมือนตอนที่ยังเล็กๆอยู่แล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงทำให้มีบางพื้นที่ที่ต้องปลูกสาหร่ายทะเลเพิ่ม ไม่เช่นก็คงจะถูกปลากินจนหมด
แน่นอนว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือฉินสือโอวอยากจะนั่งเครื่องบินเพื่อเอาไว้โอ้อวดอะไรพวกนั้น ความรู้สึกที่ได้อยู่บนฟ้าแล้วมองลงมายังมหาสมุทรและเกาะข้างล่างคงจะดีสุดๆแน่นอน
เขาเงยหน้าดูสภาพอากาศ ฉินสือโอวรู้สึกว่าวันนี้อากาศดีมาก ถ้าไม่ออกทะเลไปอาบแดดเสียหน่อยคงจะรู้สึกผิดกับอากาศวันนี้น่าดู
เขาตะโกนบอกนีลเซ็นให้สตาร์ทเครื่องยนต์เรือหน้ากว้างไครเมีย ส่วนตัวเองนอนเอนหลังอยู่บนดาดฟ้าของเรือที่เปิดออกกว้าง หู่จือและเป้าจือก็ปีนขึ้นมา ตอนนี้เสี่ยวหมิงกระรอกน้อยมีความสามารถในการพึ่งพาตนเองสูงมาก ทุกที่ของฟาร์มปลาล้วนเป็นอาณาบริเวณของมัน เมื่อเห็นฉินสือโอวอยู่บนเรือหน้ากว้าง มันจึงกระโดดดึ๋งๆ ขึ้นมาบนเรือ
ฉงต้าที่นอนหมอบอยู่บนชายหาดมองไปที่เรือหัวกว้างด้วยความกระวนกระวายใจ ฉินสือโอวโบกมือให้มัน มันเดินขึ้นไปบนท่าเรืออย่างหยั่งเชิง มองดูระลอกน้ำทะเลรอบด้าน แล้วรีบหันกลับแล้ววิ่ง
ฉินสือโอวเห็นว่ามันกลัวทะเล จึงเตรียมจะเอาเรือออกจากฝั่ง แต่ปรากฏว่าพอฉงต้าเห็นว่าฉินสือโอวกำลังจะไปแล้ว มันก็ยื่นคอแล้วส่งเสียง ‘ฮือฮือ’ ออกมาอย่างน่าสงสาร เสียงร้องเรียกเศร้าๆ ทำให้คนที่ได้ยินรู้สึกใจเสียไปด้วย
ฉินสือโอวจอดเรือเพื่อที่จะไปอุ้มมันขึ้นมา แต่ปรากฏว่าพอเขาเดินขึ้นไปถึงท่าเรือ มันก็กอดฉินสือโอวเอาไว้แน่นแล้วเริ่มร้องครวญคราง ตอนที่กำลังจะวางมันลงไปบนเรือหน้ากว้าง ฉงต้าก็มาถึงจุดสิ้นสุด ให้ตายยังไงก็ไม่ยอมขึ้นเรือ
ไม่มีทางเลือกแล้ว ฉินสือโอวจึงอุ้มมันกลับไปอีกรอบ คราวนี้เขาวางมันลงบนชายหาด ส่วนมันก็นิ่งขึ้นมากแล้ว ถึงแม้ว่าการแยกจากฉินสือโอวจะเจ็บปวดมาก แต่คราวนี้กลับไร้ซึ่งการขัดขวาง
เรือหน้ากว้างแล่นวนไปหนึ่งรอบ แล้วจึงมุ่งหน้าสู่เขตน้ำลึกของทะเลไปอย่างราบรื่น หู่จือและเป้าจือหมอบอยู่ตรงขอบของเรือแล้วมองออกไปข้างนอก ละอองน้ำสาดที่กระเซ็นก็สาดเข้าใส่เจ้าหมาน้อยทั้งสองตัว เข้ากันกับขนสีทองของมัน ที่ส่องแสงเป็นประกาย
ฉินสือโอวเอาแขนข้างซ้ายรองไว้ข้างหลังศีรษะของเขา และสวมแว่นกันแดดเพื่อดื่มด่ำกับแสงอาทิตย์ มือหนึ่งจับเอาเบ็ดตกปลาที่หย่อนลงไปในน้ำตามอำเภอใจ รอให้ปลาที่กำลังดวงตกมาติดเบ็ด
จิตสำนึกโพไซดอนลงไปสู่มหาสมุทร ตอนที่ผ่านแนวปะการัง เขาก็ใช้พลังจิตสำนึกโพไซดอนบางส่วนเติมเข้าไป
ตอนนี้แนวปะการังโตจนเท่าขนาดคอขวดแล้ว ถึงแม้จะยังอยู่ในช่วงที่กำลังขยายตัว แต่เมื่อพูดถึงความกว้างของที่ดินฟาร์มปลาที่ตรงกันข้ามแล้ว ความเร็วของการเติบโตเท่านี้ยังถือว่าช้าเกินไป
ฉินสือโอวลองคิดๆดูแล้ว ถ้าเกิดมันไม่ดีขึ้นก็คงจะต้องให้คนงานมาสร้างปะการัง เอาพวกซากเรือไม้ที่ไม่ได้ใช้งาน พร้อมทั้งก้อนหินมาวางลงไปบริเวณรอบๆปะการัง เพื่อดึงดูดต้นอ่อนปะการังให้มาแพร่พันธุ์
ไม่สามารถนำก้อนคอนกรีตมาใช้ได้ นี่คือนี่คือเรื่องที่น่ามหัศจรรย์ของธรรมชาติ ต้นอ่อนปะการังไม่สามารถเกาะติดกับท่อนคอนกรีตได้ และถึงแม้จะสามารถยึดติดอยู่ข้างบนได้แต่ก็อาจจะหยุดสืบพันธุ์ เมื่อเป็นเช่นนั้นปะการังก็จะไม่สามารถเติบโตได้
ปะการังที่นับว่าเป็นศูนย์กลางของน่านน้ำ เป็นพลังชีวิตที่คึกคักที่สุดของฟาร์มปลา ที่นี่ไม่มีสาหร่ายยักษ์ แต่มีสาหร่ายใบใหญ่บางส่วน ปลาค็อด ปลาแฮริ่ง ปลาเทราต์ ปลาแซลมอน เต่ามะเฟือง หมึก หมึกกระดอง และเหาฉลาม ที่อาศัยอยู่ที่นี่ พันธุ์ปลาหลากสีสันว่ายน้ำไปมา เต็มไปด้วยความงดงาม
ปลาแซลมอนโคโฮที่นำกลับมาด้วยครั้งนั้นก็มีบางส่วนที่ยังอยู่ที่นี่ ปลาแซลมอนชัมพวกนี้สามัคคีกันที่สุด รวมตัวกันอยู่อย่างปรองดองสงบสุข ถึงแม้จะเป็นอันธพาลอย่างปลาทูน่าครีบเหลือง เจ้าเล่ห์เหมือนปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหนือ หรือจะฉลาดเหมือนบอลหิมะ ก็ไม่กล้าที่จะไปแหย่พวกมันง่ายๆ
นี่แหละคือพลังของหมู่คณะ!
เพรียงตีนเต่าสามารถยึดอยู่กับปะการังได้แล้ว ตอนนี้เปลือกของมันก็เริ่มจะงอกออกมาแล้ว พวกปลานกแก้วรู้สึกสนใจเปลือกของมันมาก พวกมันยื่นๆหดๆหัวมองดูอยู่รอบๆ ปลานกแก้วตัวหนึ่งมีโอกาสกินเพรียงตีนเต่าลงไป แต่คาดว่ารสชาติน่าจะไม่ถูกใจ มันจึงเลิกสนใจแล้วว่ายจากไป
ปลานโปเลียน ปลายอดม่วง ปลาลายญี่ปุ่น ฉินสือโอวตื่นเต้นดีใจที่ได้พบปลาหายากสามชนิดนี้ในฟาร์มปลา
พวกปลาลิ้นหมาที่ย้ายจากท่าเรือมาสู่เขตแนวปะการังก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และจำนวนของพวกมันก็เพิ่มขึ้นบ้างแล้ว นอกจากนี้พวกมันยังกินสาหร่ายทะเลที่ได้รับพลังจิตสำนึกโพไซดอนด้วย ทำให้ร่างกายของพวกมันเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ปลาลิ้นหมาหลายตัวที่ตัวใหญ่ที่สุดส่วนมีขนาดยาวตั้งแต่แปดสิบเซนติเมตรไปจนถึงหนึ่งเมตร
พวกฉลามแมวก็ยังคงกร่างอยู่อย่างนั้น ฉลามแมวทั้งเจ็ดตัวไปไหนมาไหนเป็นกลุ่มเป็นก้อน เหมือนกับพวกนักเลงหนึ่งกลุ่มที่ว่ายน้ำลอยไปลอยมาอยู่รอบๆเขตแนวปะการัง
ทว่าพวกมันก็อาศัยช่วงที่ปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหนือพ่อลูกไม่อยู่ถึงจะว่ายออกมาทำตัวกร่าง เพราะเจ้าน้ำเงินใหญ่มีความสนใจต่อพวกมันอย่างมากมาโดยตลอด
นอกจากนี้ปัญหาแมงกะพรุนที่ฟาร์มปลาก็ยังค่อนข้างมากอยู่ มีแมงกะพรุนไฟหมวกโปรตุเกสบางส่วนลอยมาถึงเขตแนวปะการัง มังกรน้ำเงินก็ทำที่นี่ให้กลายเป็นบ้านของมันแล้ว สิ่งมีชีวิตตัวน้อยนี้ค่อนข้างสวยงาม ร่างกายสีน้ำเงินของมันยิ่งช่วยเพิ่มสีสันหลากหลายให้กับปะการัง
ฉินสือโอวดูเหมือนทหารกองกำลังตรวจพล ที่กำลังตรวจสอบรอบๆเขตแนวปะการัง ส่วนบอลหิมะก็คือบอดี้การ์ดของเขา ที่คอยตามประกบซ้ายขวา
หลายวันที่ไม่ได้เจอ บอลหิมะก็มีความสามารถใหม่เพิ่มขึ้นมาอีก ไม่รู้ว่ามันไปฝึกการเป่าอากาศในน้ำมาจากไหน อ้าปากหนึ่งครั้งก็มีฟองอากาศออกมาหนึ่งฟอง น่าสนุกมากๆ
จิตสำนึกโพไซดอนลงลึกต่อไปอีก ฉินสือโอวกำลังค้นหาที่ที่เหมาะจะย้ายแผ่นเงินมาไว้ เขาวางแผนไว้เรียบร้อยแล้วว่า จะซื้อซากเรืออับปางชุดหนึ่งมาวางไว้ที่บริเวณแนวปะการัง หาลำที่ดูน่าเชื่อถือที่สุดแล้วเอาไปวางไว้เขตทะเลที่ไกลหน่อย แล้วจึงเอาแผ่นเงินไปวางไว้บนเรือลำนั้น
สาหร่ายทะเลเป็นสิ่งมีชีวิตที่แพร่กระจายไปได้กว้างที่สุดในฟาร์มปลา ตั้งแต่บริเวณใกล้กับชายฝั่งทะเลจนถึงจุดลึกของฟาร์มปลา ความร้อนที่เพิ่มสูงขึ้นเมื่อก่อนหน้านี้ทำให้ความเร็วของกระแสน้ำอุ่นเพิ่มมากขึ้น นำมาซึ่งแพลงก์ตอนจำนวนมาก และแพลงก์ตอนพวกนี้ก็อาศัยสาหร่ายทะเลในการดำรงชีวิตอยู่พอดี
จิตสำนึกโพไซดอนลอยไปเรื่อยๆ ฉินสือโอวรู้สึกปลื้มอกปลื้มใจเป็นอย่างมาก นี่แหละฟาร์มปลาของฉัน!
ขณะที่กำลังตรวจดูสภาพของใต้ทะเล ทันใดนั้นเอ็นของเบ็ดตกปลาก็ถูกตรงจนตึงขึ้น หู่จือและเป้าจือที่หมอบอยู่ข้างแคมเรือก็อ้าปากส่งเสียงเห่าออกมาอย่างร่าเริงทันที
ฉินสือโอวพลิกตัวลุกขึ้นมาจับด้ามของเบ็ดตกปลาไว้ ด้านหนึ่งก็ค่อยๆ ปล่อยเส้นเอ็นเพื่อตัดกำลังของปลาตัวนี้ อีกด้านหนึ่งก็หันไปพูดกับหู่จือและเป้าจือว่า “ลงทะเลไปกัดมันเลย!”
เดิมทีสุนัขพันธุ์แลบราดอร์ริทรีฟเวอร์ก็เป็นพันธุ์สุนัขที่ถูกฝึกไว้เพื่อเป็นผู้ช่วยชาวประมง พวกมันเกิดมาก็สามารถว่ายน้ำได้เลย กล้าหาญฉลาดปราดเปรื่อง สุนัขพันธุ์แลบราดอร์ที่ถูกฝึกจนสำเร็จ จะสามารถช่วยชาวประมงไล่ต้อนฝูงปลาในบริเวณน้ำตื้นได้
ตอนนี้หู่จือและเป้าจือโตจนมีขนาดความยาวสี่สิบเซนติเมตร อาหารการกินก็เพิ่มพลังจิตสำนึกโพไซดอนลงไปด้วย ทำให้พวกมันเติบโตได้เร็วมาก จากลูกสุนัขที่มีขนาดตั้งแต่ตัวเท่าฝ่ามือกลายมาเป็นสุนัขขนาดกลางอย่างทุกวันนี้
ฉินสือโอวให้นีลเซ็นมาจับคันเบ็ดไว้แทน ส่วนตัวเขาไปฝึกสุนัขพันธุ์แลบราดอร์ให้ไปไล่ต้อนปลาในทะเล เรือลาดตระเวนมีเรือยางลำเล็กติดอยู่หนึ่งลำ ที่ใช้สำหรับเป็นเรือกู้ภัย
เรือหน้ากว้างไครเมียทันสมัยมาก มีเครื่องปั๊มลมอัตโนมัติติดตั้งไว้ด้วย แค่ครู่เดียวก็เติมลมเรือยางได้จนเต็มลำ ฉินสือโอวรีบพายเรือไปตามเส้นเอ็นตกปลา นีลเซ็นก็ช่วยดึงเส้นเอ็นตกปลาไปทางด้านหลัง เมื่อเป็นเช่นนี้ปลาที่อยู่ในทะเลก็ต้องยื่นตัวตามมา
เมื่อได้โอกาส ฉินสือโอวจึงชี้ปลาสีแดงเพลิงตัวนั้นให้หู่จือและเป้าจือดู แล้วจึงทำท่ายื่นมือออกไป
ไม่เสียแรงที่เป็นสุนัขอัจฉริยะที่ได้รับพลังจากจิตสำนึกโพไซดอน หู่จือและเป้าจือไม่ได้หวั่นเกรงต่อปลาที่มีขนาดใหญ่กลัวตัวเองเลยสักนิด มันกระโดดลงจากเรือยางอย่างพร้อมเพรียงกัน
ลูกสุนัขทั้งสองตัวยังคงใช้กลยุทธ์การล้อมปราบเหมือนบนบก หู่จือบุกเข้าใส่ปลาตัวนั้นจากทางด้านหน้า ส่วนเป้าจือก็ล้อมเข้ามาจากด้านข้าง ลูกสุนัขสองตัวร่วมมือกันเช่นนี้ ทำให้ปลาตัวนั้นตกใจจนว่ายหนีไปทางด้านหลัง เมื่อเป็นเช่นนี้นีลเซ็นจึงถือโอกาสดึงเส้นเอ็นตกปลา แค่ครู่เดียวก็ลากปลาให้เข้ามาอยู่ข้างๆเรือได้
หู่จือและเป้าจือกวัดแกว่งอุ้งเท้าเพื่อว่ายน้ำด้วยความรวดเร็ว พวกมันตามปลาใหญ่ตัวนั้นไม่ทันแน่ๆอยู่แล้ว ที่มันต้องทำก็คือขู่ให้มันกลัว จนมันตกใจแล้วว่ายน้ำไปยังทิศทางที่เรืออยู่
คราวนี้ ก็ไม่ต้องรอตัดกำลังปลาใหญ่ ในที่สุดนีลเซ็นก็สามารถออกแรงดึงเบ็ดตกปลา จากนั้นจึงยกเอาปลาตัวใหญ่ที่มีความยาวขนาดครึ่งเมตรขึ้นมาได้
ปลาที่ขาดน้ำก็เหมือนกับเสือที่ไม่มีกรงเล็บ มันยังคงดิ้นอยู่ อีกทั้งแรงก็ยังมาก แต่ช่วงเวลาที่นีลเซ็นเหลือไว้ให้มันดิ้นรนนั้นสั้นเกินไป เมื่อเก็บเอาเบ็ดตกปลากลับมาก็ลากเอามันขึ้นมาบนเรือหน้ากว้างได้
ฉินสือโอวพาหู่จือและเป้าจือขึ้นเรือ หยิบเอาไส้กรอกย่างออกมาแบ่งเป็นสองท่อนให้ลูกสุนัขทั้งสองตัว เขาลูบหัวพวกมันทั้งสองไม่หยุดพร้อมทั้งพูดชมพวกมันว่า ‘เด็กดี’
กระรอกน้อยเสี่ยวหมิงได้เห็นการจับปลาเป็นครั้งแรกก็สนอกสนใจเป็นอย่างมาก ไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน วิ่งมาข้างๆปลาตัวใหญ่ยาวครึ่งเมตรทันที
………………………………………………………..