ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 723 ปีศาจยักษ์ในทะเลอาร์กติก

เรืออับปางลำนี้มีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ แค่ฉินสือโอวเห็นปฏิกิริยาของฉลามหางยาวก็สามารถรู้ได้แล้ว
เพราะพลังโพไซดอนเป็นเหตุ ตอนที่พลังออกไปจากตัวของสิ่งมีชีวิต สิ่งมีชีวิตที่เคยได้รับพลังโพไซดอนไปแล้วนั้น จะค่อนข้างอ่อนไหวต่อพลังนี้ พวกมันจะยังคงวนเวียนอยู่น่านน้ำรอบๆ เพื่อหวังว่าจะสามารถดูดรับพลังนี้ที่ทำให้พวกมันแข็งแกร่งขึ้นได้ต่อ
ยิ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีขนาดใหญ่ และมีไอคิวสูงเท่าไร ก็จะยิ่งอ่อนไหวต่อพลังโพไซดอนเท่านั้น
แม้ว่าฉลามหางยาวจะไม่มีสมอง ไม่ได้ฉลาดเหมือนกับฉลามเสือหรือฉลามวาฬ แต่อย่างไรเสียก็เป็นเจ้าตัวใหญ่ที่มีความยาวลำตัวถึงห้าเมตรครึ่ง คงจะไม่โง่ไปกว่าปลาทูน่าครีบน้ำเงินหรอก?
และถึงแม้ว่าจะโง่กว่าปลาทูน่าครีบน้ำเงิน แต่ถึงมันจะสัมผัสไม่ถึงพลังโพไซดอน ก็ไม่เห็นต้องรีบหนีหัวซุกหัวซุนขนาดนี้เลยนี่นาใช่ไหม?
ใช่แล้ว หนีหัวซุกหัวซุน เป็นการหนีหัวซุกหัวซุนจริงๆ!
นัยน์ตาของฉลามหางยาวได้เปล่งประกายความตกใจกลัวออกมาอย่างเห็นได้ชัด หางที่ยาวนั้นกลายเป็นเหมือนใบพัดเรือที่หมุนสะบัดอย่างรวดเร็ว พยายามว่ายขึ้นผิวน้ำอย่างไม่คิดชีวิต
ฉินสือโอวไม่เชื่อว่าจะมีอะไรสามารถต้านทานพลังโพไซดอนได้ เขาใช้พลังควบคุมเรืออับปางลำนี้ จากนั้นก็ทำการสำรวจตั้งแต่หัวเรือจนท้ายเรืออย่างรวดเร็วรอบหนึ่ง ก็ไม่เจออะไรที่สามารถทำให้ฉลามหางยาวตกใจกลัวได้อยู่เลย!
ในตอนนี้นี่เอง ที่น้ำด้านบนของร่องลึกที่ก้นมหาสมุทรได้หมุนตัวขึ้นมาอย่างแรง ตามมาด้วยงูเหลือมทะเลตัวยาวที่โผล่ออกมาจากร่องลึกอย่างรวดเร็ว ราวกับปืนที่ยิงขึ้นไปบนฟ้า กำลังเคลื่อนตัวออกไล่ตามฉลามหางยาวอย่างอุกอาจ
ฉินสือโอวตกตะลึงไปชั่วขณะ ไม่น่าเป็นไปได้ น่านน้ำที่นี่อยู่ใกล้น่านน้ำกรีนแลนด์ เป็นมหาสมุทรเขตหนาวเย็นอย่างไม่ต้องสงสัย ทำไมถึงมีสิ่งมีชีวิตประเภทงูทะเลอาศัยอยู่ได้กัน?
งูทะเลแทบจะทั้งหมดจะอาศัยอยู่ทะเลเขตร้อนทั้งนั้น ในเขตน้ำอุ่นจะพบได้น้อย ในเขตน้ำเย็นนั้นจะไม่มีเลย เพราะว่าอุณหภูมิของน้ำในทะเลเขตหนาวนั้นต่ำเกินไป!
และถึงแม้จะเป็นงูทะเลที่ถูกพลังโพไซดอนทำให้แข็งแกร่งขึ้นแล้ว ก็ยังอาศัยอยู่ที่น่านน้ำในเกาะแฟร์เวลได้ไม่ได้ดีนักเลย ตอนฤดูหนาวพวกมันก็ยังต้องไปพักอาศัยตรงน่านน้ำบริเวณที่มีกระแสน้ำอุ่นของเม็กซิโกไหลผ่าน
แต่ราวกับว่างูเหลือมอยากจะท้าทายกับความรู้ที่เขามีอย่างนั้นแหละ หลังจากมีงูทะเลสีน้ำตาลโผล่พรวดออกมาแล้ว ก็มีงูทะเลอีกตัวพุ่งตามหลังมา ตามด้วยตัวที่สามที่ยาวกว่า ดุดันกว่า และตามด้วยตัวที่สี่ ตัวที่ห้า…
ฉินสือโอวมองดูอย่างตกตะลึง การได้เห็นงูทะเลที่หน้าตาและรูปร่างเหมือนกันออกมาพร้อมกันหลายตัว ทำให้เขาสะกิดใจ เข้าใจในทันทีว่าเจ้าพวกนี้คือตัวอะไร
ตอนที่เจ้าสัตว์ประหลาดตัวสีน้ำตาลแดงออกมานั้น เพราะออกมาอย่างกะทันหันและรุนแรง บวกกับฉินสือโอวที่กำลังตกใจอย่างมาก จึงไม่ได้มองเห็นหน้าตาพวกมันได้ชัดเจน แล้วคาดเดาไปเองต่างๆ นานา
แต่ว่าพอตอนนี้ได้ดูอย่างละเอียดแล้ว เจ้าสัตว์ประหลาดพวกนี้ไม่ใช่งูเหลือมทะเล เพราะว่าพวกมันมีรูปร่างส่วนบนที่เรียวส่วนปลายอ้วน ยิ่งลงไปช่วงปลายก็จะยิ่งมีขนาดใหญ่ ส่วนด้านบนไม่มีตา แต่เต็มไปด้วยปาก ปากแต่ละอันมีขนาดเล็กใหญ่ไม่เท่ากัน ปากที่ใหญ่มีเส้นผ่าศูนย์กลางสิบสี่ถึงสิบห้าเซนติเมตร เหมือนกับขนาดของอ่างเล็กๆ ไม่มีผิด
ในความจริงแล้วนี่ก็ไม่ใช่ปาก แต่เป็นจานดูด ใช่แล้ว ฉินสือโอวรู้แล้ว นี่น่ะคือหนวดที่ยื่นออกมาของหมึกกระดองยักษ์นั่นเอง!
แต่ว่าเจ้าหนวดนี่ก็ทำเอาคนใจหายใจคว่ำเสียจริง หนวดสองเส้นที่สั้นที่สุดก็ยังมีความยาวอย่างน้อยสิบห้าเมตร หน้าตาน่ากลัว จานดูดที่ใหญ่ยักษ์นั้นก็ขยับไปมา ราวกับปากของปีศาจร้าย น่าสยดสยองเป็นที่สุด!
หนวดยักษ์ใหญ่สิบกว่าเส้นได้ผลัดกันพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ตามมาด้วยหัวและร่างกายที่มหึมาของหมึกกระดองตัวนี้ที่โผล่ออกมาจากร่องลึกนั้น…
ฉินสือโอวหมดคำจะเปรียบเทียบแล้ว เขารู้สึกว่าสิ่งที่ตัวเองเห็นไม่ใช่แค่สิ่งมีชีวิตอย่างหนึ่งเท่านั้น แต่เป็นขีปนาวุธข้ามทวีปสีน้ำตาลลูกหนึ่งต่างหาก!
หนวดปลาหมึกขนาดใหญ่สิบเส้นได้ตบไปที่ชายฝั่งของร่องลึกอย่างแรงทีหนึ่ง หมึกกระดองยักษ์ได้ใช้ตาดวงโตราวกับโคมไฟจ้องไปที่ฉลามหางยาวด้านบนอย่างเยือกเย็น จากนั้นมันได้ใช้ครีบรูปสามเหลี่ยมที่อยู่ด้านหลังตัวของมันทำท่าสะบัดไปมาเหมือนคลื่น ผิวหนังที่หุ้มส่วนกลางลำตัวของมันได้ยืดหดอย่างรวดเร็ว ท่อพ่นน้ำที่อยู่บริเวณท้องส่วนหน้าได้พ่นหมึกออกมาทันที…
นี่เป็นเหตุผลที่ฉินสือโอวรู้สึกว่ามันเหมือนกับขีปนาวุธข้ามทวีป ภาพตอนที่หมึกกระดองยักษ์พ่นน้ำหมึกออกไปในน้ำนั้นก็เหมือนกับขีปนาวุธที่ถูกจุดแล้วและได้ปล่อยควันโขมงออกมา ท่าทางของมันที่พุ่งตัวแหวกน้ำทะเลออกไปนั้น ไม่ต่างอะไรกับขีปนาวุธข้ามทวีปที่พุ่งทะยานไปบนฟ้าเลย!
ฉลามหางยาวสะบัดหางไปมาอย่างบ้าคลั่งเพื่อจะหนีเอาชีวิตรอด ความเร็วของมันนั้นถือว่าเร็วใช้ได้แล้ว แต่ว่าแค่เวลาสิบกว่าวินาทีเท่านั้น หมึกกระดองยักษ์ตัวนี้ก็ไล่ตามทันแล้ว หนวดยาวๆสองเส้นที่เหมือนกับแส้นั้น ได้ฟาดออกไปอย่างรวดเร็วทำเอาอีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัว!
ราวกับจะรู้ว่าความเร็วตัวเองหนีไม่พ้นฝ่ายตรงข้ามแน่ หางของฉลามหางยาวจึงเปลี่ยนทิศทางการสะบัด ลำตัวมันเอียงไปด้านข้างเพื่อจะหนีต่อไป แต่หนวดที่ตามหลังอยู่นั้นได้ไล่มาทันแล้ว หนวดหมึกไม่ได้ฟาดไปที่มันแต่อย่างไร แต่หลังจากสัมผัสโดนตัวฉลามหางยาวแล้วกลับรัดตัวมันไว้เหมือนกับงูเหลือมแทน
ฉลามหางยาวสะบัดตัวอย่างบ้าคลั่ง สะบัดหางออกไปทั้งซ้ายและขวาเพื่อตีหนวดของหมึกกระดอง แต่ว่าทั้งสองฝ่ายต่างกันเกินไป เมื่ออยู่ต่อหน้าหมึกกระดองยักษ์ตัวนี้ หางของมันก็เหมือนกับเชือกเล็กๆ เส้นหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถทำอะไรได้เลย
หลังจากหนวดได้รัดไปบนตัวฉลามหางยาวแล้ว หมึกกระดองยักษ์ก็ลากมันกลับมา หนวดที่เหลือก็ตามไปรัดโดยทันที และพันตัวฉลามหางยาวไปทั่วตัวจนเหมือนกับมัมมี่อย่างรวดเร็ว
ฉินสือโอวมองอยู่ข้างๆอย่างตกตะลึง เจ้าตัวใหญ่นี่ช่างน่ากลัวเกินไปแล้ว แม้แต่ฉลามหางยาวที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นนักฆ่าของมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือเอง เมื่ออยู่ต่อหน้ามันแล้วกลับไม่มีแม้แต่แรงต่อต้านเลยสักนิด ไม่เสียแรงที่เป็นเจ้าถิ่นที่เคยปรากฏอยู่ในตำนานเทพนิยาย
คราเคน! สัตว์ประหลาดยักษ์แห่งทะเลขั้วโลกเหนือ!
จักรพรรดิแห่งหมึกกระดอง!
ใช่แล้ว เจ้าหมอนี่ก็คือหมึกยักษ์ที่ทำให้กะลาสีเรือและชาวประมงทุกคนในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือแค่ได้ยินชื่อก็พากันหน้าถอดสี นั่นก็คือคราเคนที่เคยปรากฏในตำนานแห่งทะเลนอร์เวย์ของทวีปยุโรปเหนือและต้นแบบของสัตว์ประหลาดยักษ์แห่งทะเลเหนือในเทพนิยายกรีก เป็นนักล่าผู้ยิ่งใหญ่ในมหาสมุทรแอตแลนติก และยังเป็นราชาของห่วงโซ่อาหารในทะเลลึกอีกด้วย
เมื่อเห็นเจ้าหมึกยักษ์กำลังจะรัดฉลามหางยาวตาย ฉินสือโอวรู้สึกทนดูไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะเขา ฉลามหางยาวก็คงไม่โง่ว่ายมาแถวร่องลึกนี้ ดูจากท่าทางของมันเมื่อกี้ก็รู้ได้ ว่ามันรู้ว่าที่นี่เป็นที่ที่อันตรายแค่ไหน
ดังนั้นฉินสือโอวจึงรีบใช้พลังโพไซดอนควบคุมหมึกยักษ์ตัวนี้ เพื่อบังคับให้มันปล่อยฉลามหางยาวไป
แต่ว่าเรื่องที่ทำให้ฉินสือโอวตกตะลึงใจได้เกิดขึ้นอีกแล้ว เจ้าหมึกยักษ์ตัวนี้กลับมีจิตสำนึกอยากจะต่อต้านขึ้นมา นี่ไม่ใช่เพราะว่ามันเป็นสัตว์ไอคิวสูงแต่อย่างไร แต่เพราะมันมีสัญชาตญาณดิบที่แท้จริง เป็นสัญชาตญาณดิบที่ปฏิเสธการถูกควบคุม
ฉินสือโอวเพิ่งเคยเจอกับเหตุการณ์แบบนี้เป็นครั้งแรก ความรู้สึกอยากเอาชนะและกลัวได้เกิดขึ้นพร้อมกันในใจ
อยากเอาชนะเพราะว่ายังไม่เคยมีสิ่งมีชีวิตในมหาสมุทรสามารถปฏิเสธการควบคุมของเขาได้มาก่อน ที่รู้สึกกลัวก็เพราะการที่ตัวเองเสียการควบคุมไปนี่แหละ เขาคิดมาตลอดว่าพลังโพไซดอนสามารถควบคุมสิ่งมีชีวิตในมหาสมุทรแอตแลนติกได้ทุกชนิด แต่หากว่าไม่ใช่อย่างนั้นแล้วล่ะก็ ถือว่าเป็นการทำลายความมั่นใจของเขาลงไปได้มากเลยทีเดียว
ดีที่ว่าจิตสำนึกการต่อต้านของหมึกยักษ์นั้นเป็นเพียงสัญชาตญาณของมันเท่านั้น หากฉินสือโอวยังคงพยายามควบคุมต่อไป และหลังจากที่มันหมดแรงจะต่อต้านแล้ว ก็ถูกยอมให้ควบคุมได้ในที่สุด
หลังจากบังคับหมึกยักษ์ได้แล้ว ฉินสือโอวก็บงการให้มันปล่อยฉลามหางยาวไป
ในเวลาอันสั้น ฉลามหางยาวได้ถูกรัดจนมึนงงเพราะขาดอากาศแล้ว หลังจากที่ถูกปล่อยตัวออกมาเจ้าหมอนี่คงคิดว่าตัวเองได้ไปอยู่บนสวรรค์แล้ว มันจึงไม่คิดหนี กะพริบตาปริบๆไม่ขยับไปไหน และจมลงไปสู่ใต้ทะเลราวกับท่อนไม้อย่างไรอย่างนั้น
ตัวมันจมลงไปเรื่อยๆ จนชนเข้ากับโขดหินใต้ทะเล ฉลามหางยาวรู้สึกเจ็บ ถึงได้เข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้น มันจ้องไปที่หมึกยักษ์อย่างโกรธแค้นทีหนึ่ง แล้วรีบส่ายหางว่ายเลียบไปตามทางใต้ทะเลแล้วหนีไป
ฉินสือโอวควบคุมหมึกยักษ์โดยเต็มไปด้วยความฉงนใจ เขาว่ายไปด้านหน้าของเรืออับปางลำนั้น หนวดที่ทั้งใหญ่และแข็งแรงนั้นได้ฟาด ‘ฟั่บ’ ลงไปอย่างแรง ความรุนแรงนั้นราวกับเทพโพไซดอนเหวี่ยงตรีศูลอย่างไรอย่างนั้น เห็นเพียงแค่น้ำทะเลแหวกออกราวกับถูกสายฟ้าฟาด จากนั้นอีกส่วนของเรืออับปางลำนั้นก็ถูกแบะออกไปทันที!
แน่นอนว่า ตัวเรือที่อับปางลำนี้ได้ถูกทำให้น้ำทะเลเน่าเฟะอยู่แล้ว แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น ก็สามารถเห็นได้ถึงความน่ากลัวของหมึกยักษ์อยู่ดี เป็นพลังที่ไร้คู่ต่อสู้จริงๆ!
……………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset