บทที่ 127 อาบแดด
โดย
Ink Stone_Fantasy
“ปลาหัวเมือกมหาสมุทรแอตแลนติกตัวใหญ่ โชคดีจังเลยนะ” นีลเซ็นพูดขึ้นมาด้วยความดีใจว่า “ตกปลาหัวเมือกมหาสมุทรแอตแลนติกขึ้นมาได้ พอกลับไปผมต้องไปร้านเหล้าเพื่อโฆษณาขายสักหน่อยแล้ว! นี่มันมหัศจรรย์เกินไปแล้ว! ผมยังไม่เคยเห็นใครตกปลาหัวเมือกได้มาก่อนเลย!”
ฉินสือโอวก็ยิ้มดีใจ ดวงของเขาไม่เลวเลยจริงๆ แค่ตกปลาเล่นๆก็ตกได้ปลาอายุยืนมาหนึ่งตัว ครั้งที่แล้วที่ตกปลากับพ่อลูกแพตตันด้วยกันตอนกลางคืน แพตตันคนเล็กก็ตกได้ปลาชนิดนี้มาหนึ่งตัว แน่นอนว่าเป็นปลาตัวเล็ก ที่มีขนาดประมาณสี่สิบเซนติเมตรเท่านั้น
ปลาหัวเมือกมหาสมุทรแอตแลนติกมีชื่อเรียกทั่วไปว่าปลาอายุยืน เป็นปลาน้ำลึกชนิดหนึ่ง มีชีวิตอยู่ในทะเลลึก 150-1500 เมตร เมื่อทะเลลึกขาดแคลนอาหารก็จะลอยขึ้นมาหาอาหารที่บริเวณใกล้ผิวน้ำ
ปลาชนิดนี้เติบโตได้ช้า มีอายุยืนถึงหนึ่งร้อยหกสิบปี แต่มีจำนวนน้อยมาก มีชาวประมงไม่มากที่จะจับขึ้นมาได้ ยิ่งไม่ต้องพูดเรื่องใช้เบ็ดตกขึ้นมา แต่ฉินสือโอวตกขึ้นมาได้ คาดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับจิตสำนึกโพไซดอน
จิตสำนึกโพไซดอนติดตามเรือหน้ากว้างไปลาดตระเวนโลกใต้ท้องทะเล ปลาหัวเมือกอาจจะสัมผัสได้ถึงพลังของจิตสำนึกโพไซดอน จึงตามมาถึงบริเวณใกล้ๆกับเรือหน้ากว้าง แต่ดันมาเจอเข้ากับเหยื่อตกปลา จึงทำให้ถูกตกขึ้นมา
ลำตัวของปลาตัวนี้มีขนาดยาวกว่าหกสิบเซนติเมตร สำหรับปลาหัวเมือกแล้ว ตัวที่ยาวที่สุดก็มีขนาดประมาณเจ็ดสิบเซนติเมตร ดังนั้นอายุของปลาตัวนี้ก็น่าจะไม่น้อยแล้ว คาดว่าน่าจะมีความสามารถสัมผัสจิตสำนึกโพไซดอนได้อย่างดี วันนี้ความสามารถนี้ของมันจึงได้ทำร้ายตัวมันเอง
ฉินสือโอวได้ยินมาว่าเนื้อของปลาหัวเมือกมีสารอาหารที่ร่างกายมนุษย์ต้องการอยู่ยี่สิบกว่าชนิด มีวิตามิน ให้โปรตีนสูง ไขมันต่ำ มีจุดเด่นอยู่ที่มีคอเลสเตอรอลต่ำ หัวและก้างของปลามีสารอาหารสำคัญอย่าง ‘DHA’ สามารถกระตุ้นเซลล์สมองและช่วยเสริมสร้างการจดจำ ชะลอความแก่ชรา
นอกจากนี้ ซุปของกระดูกหัวปลาชนิดนี้ยังช่วยบำรุงตับไต ช่วยให้อายุยืนยาว เป็นปลาที่ล้ำค่าชนิดหนึ่ง ครั้งนี้เขามีโอกาสที่จะได้ลองกินแล้ว
ปลาหัวเมือกดิ้นกระโดดไปมาอยู่บนดาดฟ้า แรงของมันยังไม่หมด ยังคงแข็งแรงอยู่มาก เสี่ยวหมิงเข้าไปดูใกล้ๆ แต่ปรากฏว่าเมื่อปลาหัวเมือกสะบัดหางขึ้น ก็ทำให้เสี่ยวหมิงถูกตีจนลอยขึ้นไปทันที อีกทั้งเจ้าปลาตัวนี้ก็อาศัยอาแรงนี้ กระโดดลงไปในทะเลด้วย!
“FUCK!”ฉินสือโอวมาทันแค่พูดคำนี้ เขารีบเคลื่อนย้ายจิตสำนึกโพไซดอนลงไปสู่มหาสมุทร เพื่อคุ้มครองเสี่ยวหมิง นีลเซ็นก็จับเอาเบ็ดตกปลาขึ้นมา ส่วนปลาหัวเมือกก็ยังหนี เพราะยังไม่ได้เอาตะขอตกปลาออก
เสี่ยวหมิงไม่เป็นอะไร ถึงแม้ว่าจะถูกตีจนเจ็บ แต่ว่าตอนที่มันกำลังร่วงลงมันได้ใช้ความเคยชินยกหางนุ่มฟูอันใหญ่ของมันให้ตั้งขึ้น นอกจากตอนที่ถูกตบแล้ว ตอนที่ตกลงไปในน้ำก็ไม่ได้ส่งผลอะไรกับมัน
จิตสำนึกโพไซดอนแผ่คลุมเสี่ยวหมิงและปลาหัวเมือก นอกจากจะสัมผัสได้ถึงความโกรธของเสี่ยวหมิงที่พุ่งขึ้นถึงระดับ MAX แล้ว เขาก็ยังสัมผัสได้ถึงความรู้สึกวิตกกังวลของปลาหัวเมือกอีกด้วย ความปรารถนาและการร้องขอชีวิตของปลาตัวนี้มีอยู่อย่างแรงกล้า อีกทั้งที่มาของแรงกลุ่มนี้ ก็มาจากสถานะภาพของมัน ที่เป็นแม่ปลาที่กำลังจะคลอดลูก
ฉินสือโอวยื่นมือออกไป หู่จือก็ลงไปในน้ำเพื่อคาบเสี่ยวหมิงเอาไว้ในปาก จากนั้นฉินสือโอวจึงงมเอามันขึ้นมา
เมื่อลองคิดดูแล้ว เขาจึงใช้จิตสำนึกโพไซดอนปลดตะขอตกปลาออก และเพิ่มพลังจิตสำนึกโพไซดอนเข้าไป เพื่อปล่อยปลาตัวนี้
ที่นี่ยังไม่พ้นเขตของฟาร์มปลา เห็นได้ชัดว่าปลาตัวนี้เป็นปลาที่มีชีวิตอยู่ในฟาร์มปลาของเขา ปลาหัวเมือกตัวเดียวนั้นไม่เท่าไร แต่แม่ปลาหัวเมือกที่กำลังจะออกไข่ นั้นนับว่าเป็นของล้ำค่า
ฉินสือโอวคิดไว้ว่าจะรอจนถึงตอนที่มันวางไข่แล้วพากลับไปที่เขตแนวปะการัง ขอเพียงแค่ปกป้องไข่พวกนี้เอาไว้ได้ ฟาร์มปลาของเขา ก็จะมีปลาหัวเมือกเพิ่มขึ้นอีกกลุ่มหนึ่ง!
สิ่งมีชีวิตที่มีอายุยืน ล้วนแต่มีสติปัญญาที่ดี ถึงแม้จะถูกมนุษย์มองว่าเป็นเพียงปลาไร้ซึ่งสติปัญญา
คล้ายว่าปลาหัวเมือกตัวนี้จะรู้ว่าจิตสำนึกโพไซดอนได้ช่วยชีวิตมันเอาไว้ ดังนั้นรอบๆเรือหน้ากว้างที่ถูกจิตสำนึกโพไซดอนปกคลุมไว้ มันจึงยังไม่ได้จากไปไหน แต่ว่ายน้ำวนไปรอบๆเรืออยู่หลายรอบ แล้วค่อยว่ายลงไปสู่ทะเลลึก
นีลเซ็นเก็บเบ็ดตกปลาขึ้นมาด้วยความผิดหวัง เขาสบถออกมาว่า “SHIT! ปลาเวรนั่นว่ายหนีไปได้เหรอ? ผมล่ะเชื่อพระเยซูจริงๆ ปลาที่ตกขึ้นมาได้แล้วก็ยังหนีไปได้อีกเหรอ?”
ฉินสือโอวที่กำลังปลอบขวัญเสี่ยวหมิงอยู่ อธิบายกับเขาว่า “น่าจะเป็นเพราะเมื่อสักครู่ตอนที่มันกระโดดขึ้นก็คงจะหลุดออกจากตะขอตกปลาพอดี
นีลเซ็นจุ๊ปาก แล้วพูดขึ้นว่า “แต่นั่นมันเป็นปลาหัวเมือกเลยนะ บอส ถ้าเอากลับไปขายจะได้เงินอย่างน้อยหนึ่งแสนดอลลาร์เลยนะ! เป็นสมบัติล้ำค่าทั้งตัวเลย! มันมีน้อยยิ่งกว่าปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหนืออีก แถมยังหายากอีกด้วย!”
ฉินสือโอวก็หัวเราะออกมา ปลาตัวนี้เป็นของฟาร์มปลาของเขาเองแล้ว อีกทั้งยังสามารถให้กำเนิดปลาหัวเมือกได้มากขึ้นอีก นั่นมันมีค่ามากกว่าเงินหนึ่งแสนดอลลาร์เสียอีก
หู่จือและเป้าจือหมอบอยู่ข้างๆอย่างเฉยเมย แต่สายตาที่มองไปยังเสี่ยวหมิงกลับเต็มไปด้วยการหัวเราะเยาะ แกน่ะ ไอ้อ่อน แกมันอ่อนแอจริงๆเลย แกมันอ่อนแอจริงๆ ไม่ใช่ว่าแกแน่นักเหรอ? แกไม่ใช่เหรอที่โยนเปลือกถั่วเฮเซลนัทใส่พวกเราน่ะ แน่จริงก็เอาอีกสิ!
หู่จือรู้สึกพอใจเป็นอย่างยิ่ง เมื่อสักครู่มันเพิ่งจะช่วยเสี่ยวหมิงขึ้นมา ถ้าไม่ใช่เพราะคำสั่งของฉินสือโอวแล้วล่ะก็ ตอนที่กำลังคาบเจ้ากระรอกน้อยนี่ไว้ มันจะรีบกัดให้ขาดเป็นสองท่อนเลยล่ะ
ตอนนี้ก็ถึงเวลาเที่ยงแล้ว แสงแดดก็ค่อยๆร้อนขึ้น หู่จือและเป้าจือทนอากาศร้อนไม่ได้ มันจึงพากันมุดเข้าไปในร่มเงาตรงแท่นขับเรือ
ฉินสือโอวถอดเสื้อผ้าท่อนบนออกแล้วเริ่มอาบแดด น่าเสียดายที่วินนี่ไม่อยู่ จึงทำได้แค่ให้นีลเซ็นช่วยเขาทาน้ำมันลงไปบนผิว
“บอส ลายเส้นกล้ามเนื้อของคุณไม่เลวเลย ถึงผิวจะดำไปนิดหน่อย แต่ก็ลื่นมือมากเลย สุดยอดจริงๆ” นีลเซ็นทาน้ำมันไปพร้อมๆกับเอ่ยชมเขา
ฉินสือโอวจึงจ้องเขาอย่างระแวดระวัง แล้วพูดว่า “เพื่อน นายอย่าบอกนะว่า นายสนใจในตัวฉันน่ะ?”
นีลเซ็นขยิบตาอย่างมีลับลมคมใน ฉินสือโอวจึงผิวปากขึ้นมาหนึ่งครั้ง จากนั้นหู่จือและเป้าจือก็กระโดดออกมาจากใต้แท่นขับเรือทันที ใบหูใหญ่ลู่ไปทางด้านหลัง พวกมันอ้าปากแล้วเริ่มเห่าคำราม
“โอเคๆๆ! พวกแกเป็นเด็กดีของบอสจริงๆ ฉันไม่เคยเห็นพวกแกเชื่อฟังคำสั่งขนาดนี้มาก่อนเลย! เมื่อกี้นี้ฉันแค่หยอกพ่อแกเล่น ไม่ต้องเห่าแล้ว โอเคไหม?” นีลเซ็นพูดออกมาอย่างจนปัญญา
ฉินสือโอวหัวเราะเหอะๆ แล้วถามเขาว่า “พูดมา นายสนใจฉันใช่ไหม?”
นีลเซ็นพูดขึ้นมาอย่างยอมจำนน “โนๆๆ ไม่ได้มีความคิดแบบนั้นอยู่เลยแม้แต่น้อย เหอะๆ”
ชาวแคนาดา โดยเฉพาะชาวประมงและนายพราน จะเรียกสุนัขที่ตัวเองเลี้ยงด้วยความรู้สึกที่ต่างกันออกไป นอกจากภรรยาและลูกต่อมาก็เป็นสุนัขพี่น้องที่สนิทกันที่สุดก็ยังเทียบกันไม่ได้ พวกเขาคุ้นชินกับการเรียกสุนัขของตนเองด้วยคำจำพวก ‘ลูกชาย ลูกสาว’
ข้อนี้ฉินสือโอวยังไม่ค่อยชินเท่าไร ถึงแม้ว่าเขาจะรักหู่จือและเป้าจือมาก แต่ก็ไม่เหมือนกับวินนี่ ที่มักจะเรียกพวกมันว่า ‘เด็กๆ’ ถ้าไม่ใช่เพราะว่ากลัวคนอื่นจะเข้าใจผิด เธอคงจะเรียกพวกมันว่า ‘ลูกชาย’ แล้วเรียกตัวเองว่า ‘แม่’ ไปนานแล้ว
แสงแดดตอนบ่ายแรงเกินไป ฉินสือโอวจึงกลับไปที่ฟาร์มปลาเพื่อเตรียมตัวนอนกลางวัน วันแบบนี้ช่างสบายอกสบายใจเสียจริง ขึ้นเรือออกทะเลไปตกปลา ทานข้าวเสร็จก็กลับมานอน ฉินสือโอวรู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นหมูไปแล้ว
เรือหน้ากว้างเพิ่งจะกลับลำเรือ นกบูบีเท้าแดงทั้งสองตัวที่ปรากฏตัวเมื่อวานก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง พวกมันบินไปบนท้องฟ้าอย่างสง่าผ่าเผย ลักษณะท่าทางก็ดูเท่สุดๆ
ฉินสือโอวงมเอาปลาแฮร์ริ่งตัวเล็กในถังน้ำที่เตรียมไว้สำหรับเป็นเหยื่อตกปลาทิ้งลงไปในน้ำ เมื่อนกบูบีเท้าแดงรู้แล้ว ปีกทั้งสองข้างก็รวบเข้ามา เหมือนจะยิงไปที่ปลา แล้วมุดลงน้ำไปจนมิด
ตอนที่กำลังรอให้พวกมันบินขึ้นมาจากน้ำ ข้างในปากของพวกมันคาบเอาปลาแฮร์ริ่งขนาดสิบกว่าเซนติเมตรไว้
และตอนที่พวกมันกำลังบินขึ้น ทันใดนั้นก็มีเงาสีดำที่บินลงมาจากบนท้องฟ้า ความเร็วในการบินของเจ้าตัวนี้อยู่เหนือระดับทั่วไป หลังจากปรากฏตัวแล้วไม่กี่อึดใจก็บุกมาถึงด้านข้างของนกบูบีเท้าแดง ดูเหมือนกับว่าอยากจะชนมันขึ้นไป
นกบูบีเท้าแดงตัวนั้นก็ตกใจ มันอ้าปากส่งเสียงแหลมร้อง ‘แควก’ ออกมาตามปฏิกิริยาตอบสนอง เมื่อเป็นเช่นนั้นปลาแฮร์ริ่งจึงหล่นลงไป
ทว่าเงาดำผืนนั้นก็เปลี่ยนทิศทางบินดิ่งลงไปทันที มันคาบเอาปลาแฮร์ริ่งตัวนั้นไว้ได้อย่างแม่นยำ จากนั้นมันจึงลดความเร็วลง แล้วบินไปอย่างเนิบๆ ปากใหญ่อ้าๆหุบๆอยู่ไม่กี่ครั้ง แล้วจึงกลืนปลาแฮร์ริ่งลงไป
“เฮ้ นกโจรสลัด! เจ้าสัตว์สมควรตาย พวกอันธพาลแท้ๆ!” นีลเซ็นด่ามันอย่างขำๆ
ฉินสือโอวรู้สึกสนใจนกชนิดนี้มาก จึงยืนอยู่ที่หัวเรือเพื่อสังเกตดูอย่างละเอียด
………………………………………………….