ฉินสือโอวและชาร์คพายเรือกลับไปที่เรือยอชต์และในกล่องน้ำแข็งทั้งสองใบก็เต็มไปด้วยอาหารทะเล
กล่องหนึ่งเต็มไปด้วยปลา ส่วนอีกกล่องเต็มไปด้วยหอยและหอยสังข์ แต่จะไม่มีเพรียง เพรียงมีหลายชนิด แต่ที่สามารถกินได้มีเพียงเพรียงตีนเต่าเท่านั้น แต่เพรียงที่อยู่บนวาฬหลังค่อมจะมีขนาดเล็กมากและไม่สามารถกินได้
หลังจากเก็บเกี่ยวและทำธุระเสร็จ ฉินสือโอวและชาร์คก็จะไม่โยนชิ้นปลาลงน้ำต่ออีกแล้ว
วาฬหลังค่อมไม่กี่ตัวไล่ตามเรือยอชต์อยู่สักพัก หลังจากที่พวกมันพบว่าไม่มีอาหารโยนลงมาแล้วก็จะกรีดร้องออกมาอย่างไม่ยินยอม ‘ฮือฮือ’ ฉินสือโอวถ่ายทอดพลังโพไซดอนส่วนหนึ่งให้กับพวกมัน จึงทำให้พวกมันมีความสุขและเริ่มกระโดดน้ำเล่นอีกครั้ง
ก่อนอื่นวาฬหลังค่อมจะใช้ครีบอกตีน้ำทะเลอย่างแรงและร่างของมันก็จะยืดตรงขึ้นเหมือนเขาลูกเล็กกำลังเคลื่อนย้ายออกจากในน้ำทะเล พวกมันคุ้นเคยกับการเคลื่อนไหวแบบนี้ การเคลื่อนไหวอย่างสงบเยือกเย็นและท่าทางที่สง่างามอย่างน่าประทับใจ
แต่สุดท้ายพวกมันก็ตกลงไปในน้ำและมีเสียงดังเล็กน้อยเหมือนกับเสียงฟ้าคะนอง
อันที่จริงนี่ก็เป็นหนึ่งในวิธีการหาอาหารของพวกมัน ถ้าในน้ำมีฝูงกุ้งและฝูงปลาตัวเล็กๆ คลื่นกระแทกจนน้ำลดลงจะทำให้ฝูงกุ้งและปลาช็อกตายได้ ดังนั้นการหาอาหารของพวกมันจึงเป็นเรื่องง่าย
เรือยอชต์ขับตรงออกไปไกลหลายกิโล แต่ผู้คนบนเรือกลับยังได้ยินเสียงกระโดดขึ้นลงของวาฬหลังค่อมอยู่ ด้วยเหตุนี้จึงแสดงให้เห็นว่ามันช่างน่าอัศจรรย์มากขนาดไหน
ถ้าไม่มีการก่อกวนของวาฬหลังค่อม พ่อฉินและคนอื่นๆ คงเริ่มตกปลาได้อย่างใจจดใจจ่อ โชคดีที่พอได้เริ่มจับก็เจอกับปลาโอแถบตัวหนึ่งที่มีความยาวไม่ต่ำกว่าหนึ่งเมตร ซึ่งในหมู่ปลาโอแถบ ปลาตัวนี้จัดได้ว่าเป็นปลาที่มีขนาดใหญ่มาก
ปลาตัวใหญ่ที่มีความยาวมากกว่าหนึ่งเมตรจะมีแรงในการต่อสู้ดิ้นรนในน้ำได้อย่างน่าอัศจรรย์มาก พ่อฉินทำงานทางบกมาตลอดทั้งปี จึงทำให้มีแรงจากไหล่ทั้งสองข้างของเขา แต่เขาก็ไม่สามารถดึงมันขึ้นมาได้และเอ็นตกปลาก็ถูกยืดจนยาวออกมามาก
ฉินสือโอวจึงเข้าไปช่วย เขาสอนพ่อว่าจะใช้แรงต่อสู้กับปลาตัวใหญ่อย่างไร “อย่าดึงสายเบ็ดกลับมาตรงๆ เพราะเวลานี้ปลาจะตกใจและจะทำให้มันมีแรงมากที่สุด คุณต้องปล่อยมันไปตามสายเบ็ด จากนั้นจึงบอกนีลเซ็นขับเรือไปตามทางการเคลื่อนไหวของปลา…”
“และต้องแข่งกับมันสักพัก ปล่อยสายเบ็ดประมาณสิบเมตรกว่าแล้วค่อยดึงกลับมาประมาณหนึ่งถึงสองเมตร ถ้าทำแบบนี้จะใช้เวลาอย่างน้อยสิบนาที จากนั้นคุณก็ออกแรงดึงเบ็ดตกปลาอีกครั้ง แต่ต้องค่อยๆ ทำ เพราะการตกปลาตัวใหญ่จะต้องไม่รีบร้อน”
พ่อฉินหัวเราะชอบใจ ความสนใจของเขาจึงตกอยู่ในภวังค์แห่งความตื่นเต้นที่จะตกปลาตัวใหญ่ขนาดมากกว่าหนึ่งเมตรได้ และได้ทำการการแข่งขันชักเย่อกับปลาโอแถบอย่างเต็มที่
ผ่านไปได้สักพัก ปลาโอแถบตัวนั้นก็ไม่มีแรงแล้ว พ่อฉินจึงฉวยโอกาสนี้ตัดสินใจดึงมันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
ฉินสือโอวจึงแนะนำปลาโอแถบให้พ่อฉินรู้จัก เขาจึงเข้าใจขึ้นมาทันทีแล้วพูดว่า “นี่คือปลาทูน่าสินะ? ฉันเคยได้ยินแต่ไม่เคยเห็นมันมาก่อน ปลาตัวนี้สวยจริงๆ”
รูปร่างของปลาโอแถบมีรูปร่างเป็นเหมือนหยดน้ำที่หัวมนและปลายแหลม แม้ว่ามันจะสู้ปลาทูน่าครีบเหลืองไม่ได้หรือแม้แต่ปลาทูน่าครีบน้ำเงินก็ยิ่งสู้ไม่ได้เลย แต่มันก็มีรูปร่างที่สวยงามมาก
พ่อฉิน มาริโอ้และพ่อเหมาไม่ใช่คนที่ใช้ชีวิตในทะเล และพวกเขาไม่ค่อยเก่งเรื่องการตกปลาทะเล นอกจากปลาโอแถบที่ตกขนาดหนึ่งเมตรที่พ่อฉินโชคดีตกได้ในครั้งแรกแล้ว จากนั้นปลาที่ทั้งสามคนตกได้ก็จะเป็นปลาตัวเล็กๆ เช่นปลากะพง ปลาอลาสก้าพอลล็อค และปลาแฟงค์ทูธ
กำลังสำคัญในการตกปลาคือชาร์คและนีลเซ็น เหยื่อตกปลาที่ฉินสือโอวให้พวกเขามีพลังโพไซดอนที่มีความอุดมสมบูรณ์ที่สุดแฝงอยู่ในนั้นด้วย จึงทำให้มีแรงดึงดูดปลาตัวใหญ่ทุกชนิดได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
เมื่อถึงเวลาจวนจะเที่ยงแล้ว ตัวละครหลักก็ปรากฏตัวออกมา ปลาทูน่าตัวใหญ่ที่มีความยาวเกือบสองเมตรเข้ามาติดกับ และอ้าปากกว้างกัดเหยื่อตกปลาเข้าไป
ชาร์คและนีลเซ็นรีบร่วมมือกันทันที นีลเซ็นขับเรือ ส่วนชาร์คก็จับคันเบ็ดตกปลา การต่อสู้อันดุเดือดใช้เวลาไม่ต่ำกว่าสิบนาที ปลาตัวนี้ถึงจะถูกลากขึ้นไปบนเรือ
ในระหว่างที่ปลาตัวนี้โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำและดิ้นรนต่อสู้ พ่อฉินมองดูชัดๆ แล้วจึงพูดว่า “นี่ก็เป็นปลาทูน่าเหมือนกันใช่ไหม? แต่ว่ามันตัวใหญ่มากเลยนะ!”
ใหญ่มากจริงๆ ความยาวลำตัวของปลาทูน่าตัวนี้มีความยาวเกือบสองเมตร ปลาทูน่าขนาดสองเมตรกับปลาทูน่าขนาดหนึ่งเมตรมีความแตกต่างกันมาก ไม่เพียงแต่ความยาวในตอนนี้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงเส้นผ่านศูนย์กลางของลำตัวและพลังงานของมันอีกด้วย
ฉินสือโอวมองไปที่ตาของปลาตัวนี้ ก็เห็นด้วยกับพ่อแล้วพูดว่า “ใช่ นี่ก็เป็นปลาทูน่าเหมือนกัน เป็นปลาทูน่าครีบน้ำเงินใต้”
พ่อเหมาถึงกับกลืนน้ำลาย พ่อฉินจึงถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ถึงอย่างไรพ่อเหมาก็เป็นผู้มีประสบการณ์และความรู้ที่กว้างขวาง โดยปกติเขาจะกินซาชิมิบ่อยๆ จึงอธิบายว่า “ปลาโอแถบตัวนั้นที่คุณเพิ่งตกได้ มีราคาไม่สูงมากนัก แต่ปลาทูน่าครีบน้ำเงินใต้จะมีราคาสูงมาก พอได้เห็นปลาที่มีความยาวสองเมตรตัวนี้แล้ว คงจะขายได้เป็นแสนแน่ๆ”
หนึ่งแสนที่เขาพูดคือเงินหยวน ถ้าแปลงเป็นดอลลาร์แคนาดาก็จะเท่ากับสองหมื่นดอลลาร์แคนาดา ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่คุ้มค่ามากจริงๆ มูลค่าของปลาทูน่าครีบน้ำเงินใต้ไม่เพียงแต่เป็นอันดับสองรองจากปลาทูน่าครีบน้ำเงินในประเภทปลาทูน่าเท่านั้น แต่ยังอยู่สูงกว่าปลาทูน่าครีบเหลืองอีกด้วย
ปลาทูน่าครีบน้ำเงินใต้มีปริมาณไขมันในร่างกายสูงและมีรสชาติดีกว่าปลาทูน่าครีบน้ำเงินเล็กน้อย เพราะปลาทูน่าครีบน้ำเงินค่อนข้างหายากและมีปริมาณน้อย
ในตลาดญี่ปุ่น มีการกล่าวกันว่าซาชิมิหลายชนิดที่ทำมาจากปลาทูน่าครีบน้ำเงิน แต่จริงๆ แล้วปลาที่ใช้คือปลาทูน่าครีบน้ำเงินใต้ ผลผลิตประจำปีของปลาทูน่าครีบน้ำเงิน จะจัดหาให้เพียงพอต่อความต้องการของคนเป็นร้อยล้านในญี่ปุ่นได้อย่างไร?
ปลาทูน่าครีบน้ำเงินใต้มีความสวยงามมากกว่าปลาโอแถบ ท่อนบนของมันเป็นสีน้ำเงินเข้มปนกับสีทองอ่อน ส่วนท่อนล่างและหน้าท้องเป็นสีขาวเงิน มีเส้นตัดขวางแบบไม่มีสีเรียงตามจุดที่ไม่มีสีข้างบนและมีครีบเป็นสีดำน้ำเงิน กระดูกสันหลังส่วนหางเป็นสีเหลือง ซึ่งเป็นเหมือนกับผลงานศิลปะชิ้นหนึ่ง
เนื่องจากเลือดของปลาไหลออกอย่างรวดเร็วและต้องทำการเอาอวัยวะภายในและครีบปากออก ชาร์คและนีลเซ็นจึงต้องเอาปลาทูน่าครีบน้ำเงินใต้ไปเก็บไว้ในห้องน้ำแช่เย็นแล้วนำน้ำแข็งก้อนมาแช่ไว้ก่อน หลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมงถึงจะนำมาออกมาจัดการใหม่อีกครั้ง
ฉินสือโอวตั้งเตาอบ เขาสอนให้พ่อย่างปลาหมึก และตัวเองก็จัดการกับเหาฉลาม
เหาฉลามเป็นสัตว์ขี้เกียจ หลังจากหาสัตว์ที่จะฝากชีวิตอยู่อาศัยได้แล้วมันอาจจะติดอยู่ที่นั่นไปตลอด ดังนั้นเนื้อของมันจึงมีความอ่อนนุ่มและละเอียด ซึ่งรสชาติจะอร่อยกว่าปลาไหล
เหาฉลามที่จับได้ทั่วไปโดยปกติแล้วจะมีขนาดยี่สิบถึงสามสิบเซนติเมตร แต่เหาฉลามเหล่านี้ที่เกาะติดบนตัวของวาฬหลังค่อมจะมีความยาวมากกว่า ซึ่งตัวหนึ่งจะมีความยาวมากที่สุดอยู่ที่ประมาณแปดสิบเซนติเมตร
พ่อฉินเหลือบมองดูแล้วส่ายหัวพูดว่า “ในทะเลนี่มีทุกสิ่งทุกอย่างเลยนะ มันโตขึ้นมาอย่างแปลกประหลาดมาก”
ฉินสือโอวหัวเราะแล้วพูดว่า “ก็จริง เมื่อก่อนชาวญี่ปุ่นเคยคิดว่าปลาตัวนี้เป็นสัตว์ประหลาดที่เกิดจากวิญญาณตกน้ำตายที่เคียดแค้นเพื่อน ชาวนอร์เวย์ยังเรียกมันว่าเป็นสัตว์ประหลาดในทะเล แต่หลังจากที่พวกเขารู้ว่ามันอร่อย มันจึงกลายเป็นอาหารของพวกเขาทันที”
หลังจากทำความสะอาดอวัยวะภายในเหาฉลามแล้ว ฉินสือโอวจะใช้สองวิธีในการทำ หนึ่งคือหลังจากถลกหนังปลาออกแล้ว จะหั่นเป็นชิ้นอย่างละเอียดและวิธีนี้จะต้องใช้น้ำมันทอดกิน ส่วนอีกวิธีหนึ่งคือการนึ่ง โดยจะจิ้มกินกับซีอิ๊วขาว
ปลาโอแถบถูกแบ่งย่างเป็นชิ้นๆ ชาร์คจึงหั่นส่วนท้องปลาโอแถบเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อที่จะทำซาชิมิกิน
พ่อฉินไม่สนใจซาชิมิ หลังจากที่เขาลองจิ้มกินกับมัสตาร์ดชิ้นหนึ่งแล้วก็ค่อยๆ ส่ายหัวซ้ำไปซ้ำมาแล้วพูดว่า “มันอร่อยตรงไหน? พวกคุณกินเถอะ ฉันจะกินปลาทอดแล้วกัน มันน่าอร่อยดี”
มาริโอ้คุ้นชินกับการกินซาชิมิ เขากินพลางยกนิ้วโป้งขึ้นและพยักหน้าไปด้วย แล้วชมเชยว่า “อร่อย อร่อยจริงๆ!”
ฉินสือโอวเอาปลาหมึกย่างมากินกับเบียร์พร้อมกับนั่งบนดาดฟ้ารับลมทะเล ทำให้เขารู้สึกถึงความสบายใจในชีวิตอันเรียบง่าย
พ่อฉินถือจานปลาทอดและปลาโอแถบย่างเข้ามานั่งข้างๆ ฉินสือโอว แล้วพูดอย่างทอดถอนใจว่า “สองปีก่อนที่จะย้ายมา ในชีวิตนี้พ่อของแกไม่กล้าแม้แต่จะคิดเลย ที่แกบอกว่าชีวิตของคนเรามันช่างน่าอัศจรรย์จริงๆ เราโชคดีมากจริงๆ ที่ครอบครัวฉินได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง!”
พ่อเหมาที่กำลังดื่มเหล้า จึงยิ้มแล้วพูดว่า “นี่เป็นเพราะเสี่ยวโอวมีความสามารถ แต่กลับมีโชคไม่ค่อยดีมากนัก”
พ่อฉินหัวเราะเสียงดังชอบใจ ปะทะกับลมทะเลที่เต็มไปด้วยความสดชื่นมีชีวิตชีวา!
……………………………………………….
ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 813 เรื่องที่ปลื้มใจที่สุด
Posted by ? Views, Released on November 8, 2021
, ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา
ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท
หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง
แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้
นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา
แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี
นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก
จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน
กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี
ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป
ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’
ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา
จากนั้นมา…
จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้
และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!