ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 814 ค่ำคืนแห่งความสนุกสนานรื่นเริง

หลังจากเล่นน้ำทะเลจนถึงบ่าย ฉินสือโอวจึงให้นีลเซ็นเดินเรือกลับ
พวกเขาออกมาครั้งนี้ทำให้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับวาฬหลังค่อมขึ้นมาก และเมื่อกลับไปพวกเขาก็ได้พบกับฝูงเพื่อนตัวโตนี้อีกครั้ง
วาฬหลังค่อมจะกินกุ้งและปลาตัวเล็กๆ เป็นอาหาร คราวนี้พวกมันเจอกับฝูงกุ้งแดงขนาดใหญ่ จึงทำให้พวกมันมีความสุขมาก
วาฬหลังค่อมสองตัวเล่นกายกรรมกันอีกครั้ง พวกมันพรวดพราดเข้าไปในฝูงกุ้งอันหนาแน่น คิดไม่ถึงว่าการโค้งตัวเป็นพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวของพวกมันจะทำได้อย่างน่าเหลือเชื่อ จากนั้นพวกมันสะบัดหางไปข้างหน้า ในขณะเดียวกันก็อ้าปากกว้างไปด้วย
ฝูงกุ้งตื่นตระหนกตกใจรีบว่ายน้ำหนีไปข้างหน้า ซึ่งเท่ากับว่าเป็นการติดกับดักตัวเอง วาฬหลังค่อมจึงแค่อ้าปากรอฝูงกุ้งว่ายเข้ามาก็พอ
วาฬหลังค่อมตัวอื่นๆ มีวิธีการที่แปลกและลึกลับมากกว่า พวกมันว่ายลึกลงไปยี่สิบกว่าเมตรด้วยท่าทางเป็นวงก้นหอยพร้อมกับอ้าปากกว้าง แต่ไม่ใช่เพื่อจับเหยื่อ แต่เพื่อพ่นฟองออกมา
ฟองที่พ่นออกมาจากปลาวาฬจะมีขนาดแตกต่างกัน ฟองเหล่านี้จะลอยขึ้นสู่ผิวน้ำและก่อตัวเป็นตาข่ายฟองอากาศรูปทรงกระบอก ซึ่งดูเหมือนใยแมงมุมที่ชักใยโดยแมงมุมในทะเลขนาดใหญ่
ด้วยเหตุนี้ตาข่ายฟองอากาศจึงปล่อยออกไปตลอดทาง ทำให้ล้อมรอบกุ้งแดงไว้ในตาข่าย ในขณะที่ฟองอากาศลอยขึ้น ฝูงกุ้งก็จะถูกบังคับให้อยู่ตรงกลางของตาข่ายอย่างต่อเนื่อง รอแค่ให้พวกมันตามฟองอากาศที่ลอยบนผิวน้ำ จากนั้นก็จะรวบพวกมันทันที
วาฬหลังค่อมจะตามอยู่ข้างหลังฟองอากาศ และสุดท้ายก็จะอ้าปากกว้างออกมาจากใต้น้ำ เหมือนกับว่ากำลังเขมือบกลืนฟองอากาศ และฝูงกุ้งหนาแน่นที่อยู่ในฟองอากาศก็จะเข้าไปในปากของพวกมันด้วย แม้ว่าวิธีนี้มันจะเปลืองแรงเล็กน้อย แต่มีประสิทธิภาพสูงมากและหนึ่งครั้งก็สามารถจับกุ้งแดงได้หลายตัว
ฉินสือโอวมองดูการล่าเหยื่อของเหล่านักกินที่กำลังกินเหยื่อของตัวเองอย่างสบายใจ เขาไม่ได้พูดว่าจะตัดสินใจเลี้ยงปลาวาฬและฉลามเหล่านี้ แต่เขาบอกแค่ว่าพวกมันกินสิ่งของในฟาร์มปลาก็ดีอยู่นะ เพราะอุจจาระของพวกมันเป็นอาหารเสริมบำรุงสาหร่ายทะเลได้และตอนนี้ฟาร์มปลาก็กำลังขาดอาหารบำรุงเหล่านี้อยู่ด้วย
เมื่อเรือยอชต์ขับเข้าใกล้ท่าเรือ พระอาทิตย์ก็ตกดินแล้ว
บุชและนิมิตส์ที่ออกไปเล่นกันอย่างน่าเบื่ออยู่ข้างนอก ก็ส่งเสียงร้องพร้อมกับบินกลับมา แน่นอนว่าขนนกของพวกมันพันกันอีกแล้วและไม่รู้อีกว่าพวกมันไปทำอะไรมาทั้งวัน วินนี่บอกว่าพวกมันไปทะเลาะกันอยู่ข้างนอก แต่ฉินสือโอวกลับไม่รู้ว่าพวกมันจะสามารถไปทะเลาะกับใครได้
อินทรีทองเหรอ? เป็นไปไม่ได้ อินทรีทองไม่ใช่นกโจรสลัดใหญ่ที่จะสามารถต่อสู้กับอินทรีหัวขาวตัวน้อยได้ นอกจากนี้ยังจะมีใครมายุ่งกับเจ้านกสองตัวนี้ได้นานขนาดนี้อีก?
ชาร์คลากปลาทูน่าครีบน้ำเงินใต้ลงมา ฉินสือโอวจึงบอกว่าเย็นนี้จะทำปลาตัวนี้กิน พ่อฉินจึงแนะนำว่าปลาตัวใหญ่ขนาดนี้จะให้กินจนหมดก็น่าเสียดาย ทางที่ดีควรเก็บเนื้อส่วนหนึ่งไว้ เพราะเขาจะเอามาทำเมนูปลาอบรมควันและปลาย่างสูตรบ้านเกิด
นึกถึงกลิ่นหอมและสีเหลืองกรอบของปลาย่างที่บ้านเกิด ฉินสือโอวแทบจะน้ำลายไหลไม่หยุดเช่นกัน ถึงอย่างไรปลาทูน่าตัวนี้ต้องมีน้ำหนักมากกว่าหนึ่งร้อยสี่สิบกิโลกรัมแน่ ถ้าใช้ครึ่งหนึ่งมาทำมื้อเย็นก็น่าจะพอแล้ว และอีกครึ่งหนึ่งก็เก็บไว้ทำปลาอบรมควันและปลาย่าง
ปลาทูน่าครีบน้ำเงินใต้เหมาะกับการทำซาชิมิ แต่ฉินสือโอวเดาว่าพ่อและแม่คงไม่คุ้นเคยกับอาหารประเภทนี้ จึงเปลี่ยนวิธีทำ เขานึกถึงวิธีทำอาหารของเทซึกะ โกดะตอนที่อยู่ที่โตเกียว ซึ่งมันเป็นวิธีที่แปลกใหม่อยู่พอสมควร
กระดูกปลาชิ้นใหญ่ที่ถูกเอาออก ปกติแล้วจะต้องโยนทิ้ง แต่ฉินสือโอวให้ชาร์คเอาไปอบแทน
กระดูกปลาได้ทำการหมักซอสถั่วเหลือง น้ำส้มสายชูและไวน์สำหรับปรุงอาหารตั้งแต่อยู่บนเรือแล้ว ตอนนี้จึงนำออกมาทอดในกระทะก่อนหนึ่งรอบ จากนั้นนำไปไว้ในเตาอบและอบหลายๆ รอบโดยใช้ไฟอ่อน หลังจากอบจนแห้งแล้วก็เอาเข้าเตาเพื่ออบอีกครั้งและจะต้องอบไปเรื่อยๆ จนกว่าจะกรอบถึงจะใช้ได้
ปลาทูน่าครีบน้ำเงินใต้และปลาทูน่าครีบน้ำเงินมีลักษณะเหมือนกันคือมีชั้นเกล็ดปลาที่แข็งและมีหนังปลาด้านนอกอีกชั้น ซึ่งหนังชั้นนี้จะเป็นเกล็ดของมัน
ฉินสือโอวเอาเกล็ดปลาออกและใช้น้ำมันทอดจนแห้ง จากนั้นโรยด้วยผงยี่หร่าและผงพริก ซึ่งเมนูนี้ได้รับการตอบรับดีมากหลังจากนำไปเสิร์ฟบนโต๊ะอาหาร
โดยปกติหลังจากนึ่งหนังปลาจนร้อนแล้วก็จะใช้ก้อนน้ำแข็งมาเติมให้เต็ม ซึ่งเหมือนกับการทำก๋วยเตี๋ยวเย็น ฉินสือโอวนำแตงกวา แครอท แฮม หน่อกระเทียมมาหั่นเป็นฝอยและคนเข้าด้วยกันกับหนังปลา จากนั้นโรยด้วยน้ำมันงาและน้ำส้มสายชูบัลซามิกเล็กน้อย สุดท้ายใส่ถั่วลิสงบด ก็ถือว่าเป็นอันเสร็จสำหรับอาหารจานนี้
การ์เซียมองดูอย่างเปิดโลกทรรศ แล้วพูดชื่นชมว่า “นี่คือวิธีการกินปลาทูน่าในอาหารจีนเหรอ? มันเป็นสไตล์ที่มีเอกลักษณ์มากจริงๆ มันทำให้ผมประหลาดใจจริงๆ ผมไม่เคยเห็นวิธีการกินแบบนี้มาก่อนเลย!”
ฉินสือโอวกระแอมขัดจังหวะ แล้วพูดอย่างคลุมเครือว่า “จริงๆ แล้วนี่เป็นวิธีการกินที่ค้นพบโดยชาวญี่ปุ่น แต่วิธีการทำฉันได้ทำการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ซึ่งวิธีที่เราใช้คือเอามาจากวิธีการทำก๋วยเตี๋ยวเย็นและรสชาติน่าจะออกมาดีกว่าด้วย”
การแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุดนี้คือรูปแบบที่ดีของคุณฉิน
เนื้อปลาส่วนหนึ่งจะนำมาทำเป็นชิ้น อีกส่วนหนึ่งฉินสือโอวให้เบิร์ดใช้มีดคมสับให้เนื้อละเอียดแล้วใช้ไข่ขาวผสมกับแป้งข้าวโพดแล้วนำไปนึ่งจนสุก จากนั้นจึงห่อด้วยสาหร่ายจีฉ่ายและสาหร่ายคอมบุที่อบแล้วและนำมาม้วนเข้าตามต้องการ
มาริโอ้และมิแรนดาชื่นชมทักษะการทำอาหารของฉินสือโอว และพูดอย่างทอดถอนใจว่า “ในที่สุดวินนี่ก็ได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องสักที นั่นก็คือการหาสามีที่ดี”
“ ใช่แล้ว ตอนแรกที่เธอไปที่สายการบิน สิ่งที่ฉันกังวลมากที่สุดคือว่าเธอจะถูกพวกเพลย์บอยหลอก แต่พอได้เจอกับฉินแล้วมันดีมากจริงๆ”
คิ้วโก่งของวินนี่ก็ค่อยๆ ขมวดขึ้น หลัวปอที่กำลังเลียขอความรักก่อกวนอยู่ข้างๆ เห็นว่าท่าไม่ดี จึงหนีบหางแล้ววิ่งออกไป หู่จือและเป้าจือก็นอนหมอบอยู่ใต้โต๊ะอย่างไร้เดียงสาพร้อมกับเพลิดเพลินไปกับความเงียบสงบก่อนพายุฝนจะกระหน่ำอย่างรุนแรง
ฉินสือโอวกระแอมแล้วชี้ไปที่พ่อแม่ของตัวเอง คิ้วโก่งของวินนี่ก็ผ่อนคลายลงทันทีและเปลี่ยนเป็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเขินอายและความสุข
“แม่เจ้า นี่เป็นการแสดงที่ยอดเยี่ยมมากนะ” ฉินสือโอวทอดปลาคาพีลินพลางถอนหายใจไปด้วย
เนื้อหัวหมูหมักซอสครั้งที่แล้วยังมีอยู่ ฉินสือโอวเก็บมันไว้ในห้องแช่เย็น ความหนาแน่นของน้ำแข็งจะทำให้ไม่มีกลิ่น พอถึงตอนเย็นก็จะเอาออกมาหั่นแล้วเสิร์ฟบนโต๊ะ พ่อฉินและแม่ฉินต่างก็กินอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย
โดยปกติแล้วจะมีแค่ฉินสือโอวที่กินเนื้อหัวหมู ความน่าสนใจของอาหารจึงไม่มีเลยสักนิด แต่ตอนนี้มีพ่อแม่และคนในบ้านมาแย่งกินแล้ว กลับรู้สึกดีขึ้นมาเป็นอย่างมาก
พ่อฉินไม่ดื่มเบียร์แต่ดื่มเหล้าขาว พอได้เห็นเนื้อหัวหมูยิ่งมีความสุขมาก จึงหัวเราะแล้วพูดว่า “นี่เป็นกับแกล้มเหล้าชั้นดีเลย แต่ทำไมหัวหมูตัวนี้ถึงแปลกขนาดนี้ล่ะ?”
“มันเป็นหัวหมูป่า” เชอร์ลี่ย์แนะนำว่า “คุณดูสิว่ามันยาวมากจนน่ากลัว!”
เสี่ยวฮุยจึงคีบชิ้นใหญ่มาหนึ่งชิ้น แล้วใส่เข้าไปในปากแล้วเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย และพูดด้วยน้ำเสียงคลุมเครือว่า “ถ้ามันน่ากลัวงั้นก็กินมันเถอะ!”
แบล็คไนฟ์แอบยกนิ้วโป้งขึ้นอย่างลับๆ แล้วพูดกับเบิร์ดว่า “ครอบครัวของบอสคือสิ่งมีชีวิตที่อยู่บนจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหาร!”
เมื่อกินจนอิ่มและดื่มจนหนำใจก็เย็นมากแล้ว จึงเริ่มมีคนนำตัวอ่อนที่หาได้มาขายและตอนเย็นฉินสือโอวก็ไม่ได้ทำอะไร เขาจึงพาพ่อแม่ พี่สาวและครอบครัวไปเก็บตัวอ่อน
พ่อฉินรู้สึกตกใจเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ชีวิตความเป็นอยู่ในช่วงเริ่มต้นของฤดูใบไม้ร่วงนี้ดีจริงๆ อยู่บ้านไม่มีตัวอ่อนมานานแล้ว แต่ทำไมที่แคนาดาถึงมีได้นะ?”
ฉินสือโอวอธิบายว่า “แคนาดามีเส้นละติจูดสูงและฤดูร้อนก็มาถึงช้า จักจั่นที่นี่จึงออกมาได้ช้ากว่าที่บ้าน อีกทั้งระยะเวลาชีวิตของพวกมันก็สั้น โดยปกติแล้วพวกมันจะตายหลังจากผสมพันธุ์ได้ยี่สิบวัน”
พ่อฉินถึงกับถอนหายใจ แล้วพูดว่า “ถ้าเป็นอย่างนั้นช่วงชีวิตของพวกมันก็สั้นมากพออยู่แล้ว งั้นก็อย่ากินพวกมันเลย ปล่อยให้มันมีชีวิตตามทางของพวกมันเถอะ”
เมื่อได้เห็นพ่อมีเมตตามากขนาดนั้นแล้ว ฉินสือโอวจึงหัวเราะแล้วพูดว่า “ใครบอกว่าชีวิตมันสั้น? ชีวิตของพวกมันยาวนานกว่าตัวอ่อนที่บ้านเราอีก แต่เวลาส่วนใหญ่พวกมันมักจะใช้ชีวิตอยู่ใต้ดิน มันสามารถมีชีวิตอยู่ได้ถึงสิบเจ็ดปี”
วินนี่ก็ช่วยพูดเสริมขึ้นว่า “ที่แคนาดา จักจั่นเป็นแมลงที่เป็นภัย หลายๆ พื้นที่ใช้ยาฆ่าหญ้ากำจัดพวกมัน ไม่ว่าจะเป็นตัวโตเต็มที่แล้วหรือตัวอ่อนก็จะใช้วิธีนี้ ซึ่งต่างจากที่คนงานของเราได้จับเองแบบนี้ อย่างน้อยตัวอ่อนที่จับได้ก็แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นและอีกจำนวนมากก็ยังสามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้”
เมื่อพูดแบบนี้แล้ว พ่อฉินก็คลายความกังวลทันที และกลุ่มคนในฟาร์มปลาก็ถูกแบ่งออกเป็นหลายทีมเพื่อออกไปล่าอย่างผู้ยิ่งใหญ่และสนุกสนานกันอย่างหาที่สุดไม่ได้
……………………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset