ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 836 ท้ายที่สุดก็ได้ครองเรือนกัน

ทีมวางแผนจัดงานแต่งงานได้เสนอแผนการจัดงานมาสองแบบ แผนที่หนึ่งคืองานแต่งงานสไตล์จีน ซึ่งก็คือรูปแบบที่ให้เจ้าสาวใส่ผ้าคลุมหน้าและให้เจ้าบ่าวขี่ม้า ที่คาดว่าน่าจะค่อนข้างแปลกใหม่ในแฮมิลตัน
แผนที่สองคืองานแต่งแบบสไตล์ตะวันตก นั่นก็คืองานแต่งงานจะถูกจัดขึ้นในคริสตจักร โดยจะเชิญมุขนายกมาเป็นประธานในงาน ซึ่งก็จะดูยิ่งใหญ่เหมือนกัน
เหมาเหว่ยหลงปฏิเสธไปทั้งหมด เขาแค่จะแต่งงานเท่านั้น ไม่ได้จะมาแสดงวัฒนธรรมการแต่งงานแบบจีน ซึ่งการแต่งงานแบบวัฒนธรรมจีนนั้นซับซ้อนเกินไป เขาไม่ต้องการทำอะไรที่มันซับซ้อนอย่างนี้
แต่ฉินสือโอวกลับคิดว่า ชีวิตหนึ่งอาจจะได้จัดงานแต่งงานแค่ครั้งเดียว ควรจัดให้ครื้นเครงเฮฮาเข้าไว้ จึงจำเป็นจะต้องจัดให้ดูยิ่งใหญ่
แต่เหมาเหว่ยหลงปฏิเสธข้อเสนอของเขาและพูดว่า “สำหรับฉันและซูซูแล้ว งานแต่งงานเป็นแค่พิธีการหนึ่ง ถ้าไม่ได้เป็นเพราะว่าต้องการให้เพื่อนร่วมห้องมารวมตัวกันอีกครั้ง เราก็คงแค่ไปรับทะเบียนสมรสที่สำนักงานกิจการพลเรือนก็เพียงพอแล้วล่ะ”
ฉินสือโอวพูดอย่างไม่พอใจว่า “ถึงแกจะมีความคิดอย่างนี้ แต่แกก็ต้องนึกถึงซูซูของแกด้วย”
“นี่เป็นความคิดของเธอ ฉันเคารพความคิดและการตัดสินใจของเธอ เธอต้องการแค่ชีวิตที่สงบสุข แกเองก็รู้นี่เพื่อน ซูซูได้ผ่านช่วงอายุที่โหยหาความโรแมนติกและความเพ้อฝันไปแล้ว แค่ช่วยเหลือเกื้อกูลกันในยามที่ต่างฝ่ายต่างก็ลำบากก็เพียงพอแล้ว แกเข้าใจไหม?” เหมาเหว่ยหลงชำเลืองมองฉินสือโอว สีหน้าของเขาทำให้ฉินสือโอวรู้สึกไม่ดีเท่าไร ฉินสือโอวรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกดูหมิ่น
ในวันหยุดสุดสัปดาห์รองสุดท้ายของเดือนกันยายน งานแต่งงานดำเนินไปตามแผนที่วางไว้
นี่เป็นช่วงเวลาที่ชาวแคนาดาแต่งงานกันมากที่สุด เนื่องจากสภาพอากาศ และช่วงเวลาที่เจ้าสาวชาวแคนาดาโปรดปรานในการจัดงานแต่งงานมากที่สุดก็คือเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายน ซึ่งเดือนกรกฎาคมคิดเป็นร้อยละ 50
ปลายเดือนกันยายนก็เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาหนึ่งที่ชาวแคนาดาแต่งงานกันมากที่สุด ทั้งผู้คนที่พลาดเวลาช่วงเดือนกรกฎาคมและเดือนสิงหาคมไป หรือผู้คนที่ลังเลว่าจะแต่งกันดีหรือไม่ในช่วงเดือนกรกฎาคมและเดือนสิงหาคม ก็ล้วนแต่จะจัดงานแต่งงานในปลายเดือนกันยายน
หลังจากการเจรจา งานแต่งงานครั้งนี้จัดขึ้นอย่างเรียบง่าย โดยผสานรูปแบบการแต่งงานสไตล์จีนและตะวันตกเข้าด้วยกัน เจ้าบ่าวและเจ้าสาวสวมชุดสูทและชุดเจ้าสาว แต่ไม่ไปจัดที่โบสถ์ เพียงแค่ทำพิธีไหว้ฟ้าดินในฟาร์มการเกษตร
หม่าจินและคนอื่นๆ ต่างรู้สึกว่ารูปแบบงานแต่งงานนี้ไม่เลว ซ่งจวินเหมยและเยียนเฟยชอบรูปแบบนี้มากกว่า เพราะพวกเขาก็วางแผนจะจัดงานแต่งงานในรูปแบบนี้ เพียงแต่เปลี่ยนสถานที่ทำพิธีไหว้ฟ้าดินเป็นห้องประชุมในโรงแรม
หลังจากที่เห็นปฏิกิริยาของเหล่าเพื่อนร่วมห้อง ฉินสือโอวก็คิดได้ว่า การที่เหมาเหว่ยหลงเลือกงานแต่งงานที่เรียบง่ายอย่างนี้ อาจเป็นเพราะคำนึงถึงความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมห้องด้วย
ในงานแต่งงานนี้ ฉินสือโอวพบว่าตัวเองยังไม่รู้จักเหมาเหว่ยหลงดีพอ เขาคิดว่าเพื่อนคนนี้ยังคงเป็นคนตลกเฮฮาเหมือนตัวเอง แต่เมื่อมองย้อนกลับไป ก็พบว่าเขามีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่าตัวเอง ตัวเองนั้นเป็นคนตลกเฮฮา แต่เขานั้นเป็นคนที่สุดยอด
ในวันแต่งงาน อากาศดีมาก ท้องฟ้าแจ่มใส
วินนี่ เออร์บักและคนอื่นๆ ได้มาถึงก่อนหน้าวันงานหนึ่งวัน และพักที่โรงแรมเดียวกับเจ้าสาว ฉินสือโอวและคนอื่นๆ ไปรับเจ้าสาวกับเหมาเหว่ยหลง
เบลคได้เตรียมขบวนรถสุดหรูให้กับเหมาเหว่ยหลงขบวนหนึ่ง ซึ่งทั้งหมดเป็นลัมโบร์กีนีสีแดงสด แต่ตอนสุดท้ายก็ได้เปลี่ยนรถคันนำหน้าเป็นรถบีเอ็มดับเบิลยูสีขาว และเปลี่ยนคันที่เหลือเป็นรถบีเอ็มดับเบิลยูสีแดง
ซึ่งมีความหมายว่า ขอให้อยู่ด้วยกันไปจนถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชร มีชีวิตที่รุ่งโรจน์เหมือนแสงไฟหรือแสงเทียน!
ฉินสือโอวเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว แน่นอนว่าต้องนั่งรถคันหน้า แต่ตอนที่รถขับออกไปจากฟาร์ม จู่ๆ ก็มีรถแท็กซี่คันหนึ่งหยุดจอดขวางทาง ชายวัยกลางคนในชุดเครื่องแบบตำรวจโบกมือ จากนั้นหญิงสาวคนหนึ่งที่แต่งตัวดูดีก็เดินออกมาจากรถ
เมื่อเห็นทั้งสอง ใบหน้าของเหมาเหว่ยหลงเต็มไปด้วยความตื้นตันใจ เขาผลักประตูออกแล้วกระโดดลงมาจากรถ จากนั้นตะโกนออกไปว่า “พ่อ แม่ พวกท่าน…”
“เมื่อวันก่อนที่ปักกิ่งมีหมอกหนามาก เที่ยวบินไปอเมริกาเหนือเลยหยุดบินทั้งหมด ไม่อย่างนั้น เราคงมาถึงตั้งแต่เมื่อวานแล้วล่ะ” แม่ของเหมาเหว่ยหลงจับมือของเขาแล้วพูดว่า “พ่อของลูกเป็นคนวานให้คนอื่นจัดการเรื่องทั้งหมดนี้ให้ พวกเราบินไปที่นิวยอร์กก่อนแล้วเปลี่ยนเครื่องมาที่นี่นะจ๊ะ”
เหมาเหว่ยหลงมองผู้เป็นพ่อที่มีสีหน้าเคร่งขรึมเหมือนเคย และพูดด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อนว่า “พ่อ”
พ่อเหมาจัดระเบียบเครื่องแบบตำรวจของเขา จากนั้นตบไหล่ลูกชายแล้วพูดว่า “ไปรับลูกสะใภ้ของเรากันเถอะ แกพูดถูก แกเป็นคนแต่งงาน ไม่ใช่ครอบครัวเหมาเราเป็นคนแต่ง แกชอบก็ดีแล้วล่ะ แค่พวกแกมีความสุขในการใช้ชีวิตในอนาคตข้างหน้าก็เพียงพอแล้ว”
ฉินสือโอวให้พ่อของเขามารับพ่อเหมาเข้าไปในบ้าน เนื่องจากการมาถึงของพ่อเหมาและแม่เหมา บรรยากาศของทีมขบวนรถก็เต็มไปด้วยความเบิกบานใจขึ้นมาในทันที
หม่าจินมองดูชุดตำรวจของพ่อเหมาตรงประตูรถ จากนั้นขยิบตากับฉินสือโอวและพูดว่า “พระเจ้า นี่เป็นสารวัตรใหญ่ใช่ไหม? เครื่องยศตรงไหล่เยอะจริงๆ”
ฉินสือโอวยิ้มและพูดว่า “ถ้านายชอบ บ้านฉันก็มีเหมือนกัน ต้องการสักสิบอันไหม?”
หม่าจินหัวเราะเสียงดังสองสามครั้งแล้วกลับเข้าไปในรถ จากนั้นขบวนก็ออกเดินทาง
โรงแรมที่ฉินสือโอวจองไว้เพื่อรองรับแขกเป็นโรงแรมระดับสี่ดาวของแฮมิลตัน ซึ่งมีชื่อว่า สตาร์ฟอลส์ (ดาวตก) ชั้นแปดของโรงแรมถูกเขาเหมาไปหมดแล้ว ทั้งชั้นมีแต่คนเขาพวกเขา ทุกคนคึกคักกันมากทีเดียว
ขณะที่ขบวนรถกำลังขับอยู่บนถนน พวกเขาเจอขบวนรถที่ไปรับเจ้าสาวสองขบวน ตอนที่ขบวนรถเจอกันนั้น คนขับก็บีบแตรทักทายกัน คันท้ายสุดของรถขบวนที่สองเป็นรถเปิดประทุน ที่มีคนนั่งด้านหลังโรยริบบิ้นมาทางพวกเขา
เมื่อไปถึงโรงแรม พนักงานเปิดประตูเดินมาเปิดประตูรถให้ ฉินสือโอวยื่นซองแดงให้เขาซองหนึ่ง หลังจากพนักงานตรวจสอบความหนาของซองแดงแล้ว ก็เปลี่ยนรอยยิ้มที่แสดงออกมาตามหน้าที่เป็นรอยยิ้มที่ออกมาจากใจจริง “พระเจ้าอวยพร เจ้าบ่าวสุดหล่อ ขอให้พวกคุณมีความสุขกันตลอดไป!”
เหมาเหว่ยหลงพยักหน้าเพื่อขอบคุณ เขาในชุดสูทสีเงินดูหล่อเป็นพิเศษ รูปร่างกำยำ ทำให้ชุดสูทที่ตัดด้วยมือดูสมบูรณ์แบบมากขึ้น
ฉินสือโอวคิดว่าจะต้องผ่านกิจกรรมแย่งเจ้าสาว หารองเท้า และอื่นๆ อีกมากมาย เพราะงานแต่งงานของฉินเผิงก็เป็นลักษณะนี้
แต่ผลปรากฏว่าพิธีเรียบง่ายมาก หลังจากเข้าไปในห้องชุดเพรสซิเดนเชียลสวีท เพื่อนเจ้าสาวก็เปิดประตูให้พวกเขา จากนั้นเธอก็จับมือของเหมาเหว่ยหลงอย่างเคร่งขรึมและพูดว่า “สุดหล่อ ขอฝากเพื่อนเพียงคนเดียวของฉันด้วยล่ะ นายต้องดูแลเธอให้ดี ต้องดีกว่านี้”
หลิวซูเหยียนแต่งงาน แต่ญาติฝั่งเธอไม่มีใครมาเลย เพื่อนเจ้าสาวก็เป็นเพื่อนสนิทของเธอในประเทศจีน หน้าตาธรรมดาไม่ได้โดดเด่น มองแวบแรกก็รู้ได้เลยว่าเธอเป็นกุลสตรี ไม่รู้ว่าทำไมเธอจึงสนิทสนมกับหลิวซูเหยียนได้
เหมาเหว่ยหลงยิ้มและพูดว่า “ฉันจะดูแลซูซูอย่างสุดกำลังทั้งหมดที่มี และรักเธออย่างสุดหัวใจ”
เพื่อนเจ้าสาวสังเกตสีหน้าของเขาอยู่พักหนึ่ง จากนั้นเธอยิ้มออกมาอย่างมีความสุข และไปลากหลิวซูเหยียนออกมาจากห้องนอนแล้วส่งให้เหมาเหว่ยหลง
แวบแรกที่ฉินสือโอว หม่าจินและคนอื่นๆ ได้เห็นหลิวซูเหยียนในชุดเจ้าสาว ต่างพากันส่งเสียงร้องด้วยความตะลึง
ก่อนหน้านี้มักจะเห็นหลิวซูเหยียนหน้าสด แต่ถึงอย่างนั้น ฉินสือโอวก็รู้สึกว่าเธอเปล่งปลั่งมากแล้ว แต่ครั้งนี้เธอแต่งหน้าอ่อนๆ ดวงตาสวยหยาดเยิ้ม ริมฝีปากแดงก่ำ ความสวยสง่านั้น ทำให้ผู้คนที่ได้เห็นลุ่มหลง
เฉินเหลยดึงเสื้อของฉินสือโอวเบาๆ และกระซิบว่า “แม้ว่าโคโกโร่จะพูดมาโดยตลอดว่าเขารักที่จิตใจของหญิงสาวคนนี้ แต่ฉันกล้าพนันได้เลยว่า สิ่งที่เขาตกหลงรักเป็นอันดับแรกคือความสวยของเธอ”
ฉินสือโอวพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนหน้านี้วินนี่กังวลว่าตัวเองจะเด่นกว่าเจ้าสาว นี่ถือเป็นสิ่งที่ไม่ดีในแคนาดา เพราะผู้ชายที่โดดเด่นที่สุดในงานแต่งงานต้องเป็นเจ้าบ่าว และผู้หญิงที่โดดเด่นที่สุดก็ต้องเป็นเจ้าสาว
ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดสถานการณ์อย่างนี้ วินนี่จึงไม่ได้แต่งหน้า แต่เธอสวมกระโปรงยาวที่มีเสื้อกั๊กขนเฟอร์สีเหลืองเพื่อเป็นการให้เกียรติ
ความจริงแล้วทั้งเธอและฉินสือโอวต่างก็คิดมากไป วินนี่อาจสวยกว่าหลิวซูเหยียนก็จริง แต่วันนี้ ไม่มีใครสวยสู้หลิวซูเหยียนได้เลย
หลังจากรับเจ้าสาวแล้ว รถขบวนก็ขับกลับมาที่ฟาร์มอย่างสนุกสนานร่าเริง เพื่อบันทึกภาพในงานแต่งงาน ฉินสือโอวคิดมาไม่น้อย เขาติดตั้งกล้องไว้ทั้งด้านหน้ารถและท้ายรถและได้หาช่างกล้องมืออาชีพมาด้วย นอกจากนี้ ยังมีเฮลิคอปเตอร์คอยบันทึกภาพจากบนท้องฟ้าด้วย
………………………………………………………………..

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset