ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 900 ผลิตไข่มุกดำจำนวนมาก

“เพิ่งจะหายหวัดก็จะออกทะเลแล้วเหรอครับ?” ชาร์คถามอย่างแปลกใจ “ไม่จำเป็นหรอกมั้งครับบอส? ที่จริงทุกอย่างที่ฟาร์มก็ปกติดี ฤดูหนาวมีคลื่นลูกโตเป็นครั้งคราว ไม่มีใครมาขโมยปลาที่ฟาร์มเราหรอก ผมว่าบอสน่าจะพักอีกสักหน่อยนะครับ”
ฉินสือโอวไม่ได้จะไปลาดตระเวนฟาร์มปลาจริงๆ หรอก เขายังมีเรื่องอื่นที่ต้องทำ พอดีกับที่ถือโอกาสตอนเหล่าชาวประมงออกทะเลไปกับเขาไม่ได้ ก็ไปจัดการกับเรื่องนี้เสียเลย
เรื่องที่เขาจะทำก็คือฝังแกนกลางให้หอยนางรมลอย และเพิ่มความเร็วในการผลิตไข่มุกของพวกมัน
ตั้งแต่มีข่าวลือเกี่ยวกับเรือผีชื่อฟลาวเวอร์ฟอกซ์ ที่ฟาร์มปลาก็เงียบสงบลง จำนวนเรือขโมยปลาก็ลดลง แต่กลับมีคนไม่น้อยที่นั่งเรือมาในแถบทะเลรอบๆ นั้นเผื่อว่าจะได้เจอเรือผี
ฉินสือโอวกังวลว่าจะเกิดปัญหาขึ้น ช่วงเดือนกว่ามานี้ก็ไม่ได้ให้เรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์ออกโจมตีอีก ถ้าเกิดหลุดพิรุธจนคนสงสัยก็แย่สิ
พอไม่มีเรือขโมยปลา ปัญหาใหญ่ที่สุดของฟาร์มปลาต้าฉินก็คลี่คลายแล้ว ทีนี้เรื่องที่ฉินสือโอวต้องกังวลก็มีอยู่ไม่กี่เรื่อง
ไม่ได้ดูฟาร์มปลามานานช่วงหนึ่งแล้ว ตอนนี้ฉินสือโอวควบคุมให้จิตสำนึกโพไซดอนลงทะเลไปเพื่อถ่ายพลังโพไซดอนให้พืชน้ำสาหร่ายและเหล่าสัตว์ทะเลเลอค่า ก็ถือว่าเป็นงานเบา
พอแล่นเรือเข้าสู่ทะเล ฉินสือโอวก็เงยหน้ามองท้องฟ้า สภาพอากาศไม่เลว หิมะไม่ตกแล้ว
หู่จือเป้าจือตามมาบนเรืออย่างเคย คราวนี้ฉงต้าก็มาด้วย ตั้งแต่พบว่าตัวเองว่ายน้ำได้ ฉงต้าก็กล้ามากขึ้น ไม่กลัวทะเลอีกแล้ว
ฉินสือโอวเหวี่ยงเบ็ดลงทะเล ไม่นานก็ได้ปลาแฟงค์ทูธ เนื้อของปลาชนิดนี้เด้งมากๆ เขาดึงปลาขึ้นมาทำความสะอาด แล้วใช้เตาย่างก่อนจะยื่นให้ฉงต้า
ฉงต้าใช้อุ้งเท้าอ้วนประคองส่งเข้าปาก หู่จือกับเป้าจือได้กลิ่นหอมเลยเบียดเข้ามาขอส่วนแบ่งด้วย ปรากฏว่าฉงต้าก็รีบกลืนปลาลงคอทันที
ปลาตัวโตน้ำหนักสามสิบกว่ากิโลกรัม เคี้ยวสองทีก็กลืน ‘เอื๊อก’ ลงไป
หลังจากนั้นฉินสือโอวก็ตกหมึกกล้วยได้ตัวหนึ่ง เขาทาซอสเล็กน้อยแล้วเอาไปย่างในเตาจนสุกดีแล้วเอามาแบ่งเป็นหลายชิ้นให้หู่จือกับเป้าจือ ฉงต้าเลียหน้าตัวเองอยากกินด้วย หู่จือกับเป้าจือใช้อุ้งเท้ากดหมึกกล้วยไว้ ไม่ยอมแบ่งให้ฉงต้า
เรือค่อยๆ แล่นเข้าไปในเขตแนวปะการัง ฉินสือโอวนำเอากล่องเหล็กที่เตรียมไว้ออกมา ใช้เอ็นตกปลามัดไว้ก่อนจะปล่อยลงน้ำบนแนวปะการังอย่างระมัดระวัง
ในกล่องเหล็กนั้นมีไข่มุกอยู่ แน่นอนว่าเป็นไข่มุกขาวที่ธรรมดาที่สุด สิ่งนี้ไม่ได้มีมูลค่าอะไร ฉินสือโอวซื้อมาจากอินเทอร์เน็ต จ่ายไปสี่ร้อยดอลลาร์แคนาดาก็ซื้อมาจากเน็ตได้ห้ากิโลกรัม!
แน่นอนว่าไข่มุกพวกนี้ไม่มีมูลค่า ขนาดก็เล็กมาก ปกติจะนำมาทำสร้อยไข่มุกแบบที่วางขายตามแผงลอย ทุกเมืองที่ติดทะเลของแคนาดาล้วนมีขายเป็นกอง เอามาล่อนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ
แต่สำหรับฉินสือโอวเจ้าสิ่งนี้ก็มีประโยชน์เพียงพอ อย่างไรเขาก็แค่เอามาเป็นแกนกลาง เอามาทำไข่มุกดำเทียม
ไข่มุกมีวิธีจำแนกมากมาย วิธีหนึ่งคือจำแนกตามสาเหตุการผลิต แบ่งเป็นไข่มุกแบบมีแกนกับไข่มุกแบบไม่มีแกน
ไข่มุกแบบไม่มีแกนเกิดจากผิวหนังชั้นนอกของแมนเทิลของหอยได้รับความระคายเคือง ส่วนหนึ่งทำการขยายเซลล์แล้วเกิดการแยกตัว และหลังจากนั้นก็ห่อหุ้มวัสดุอินทรีย์ที่หลั่งออกมาเอง ในขณะเดียวกันก็ค่อยๆ ฝังลงในเนื้อเยื่อเกี่ยวพันแมนเทิลกลายเป็นถุงไข่มุก และสุดท้ายก็กลายเป็นไข่มุก
ส่วนไข่มุกแบบมีแกนเกิดจากการมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปอยู่ในแมนเทิล อย่างเช่นพวกเม็ดทราย ปรสิต หลังจากเกิดการระคายเคือง เซลล์ผิวหนังจะเข้าสู่เนื้อเยื่อเกี่ยวพันแมนเทิลโดยยึดสิ่งแปลกปลอมเป็นศูนย์กลาง
เซลล์ผิวชั้นนอกของแมนเทิลส่วนที่ฝังลงไปก็จะขยายเซลล์จนกลายเป็นถุงไข่มุก เซลล์ถุงไข่มุกจะหลั่งสารมุกออกมา และถูกขับออกมาสะสมห่อหุ้มสิ่งแปลกปลอมเป็นชั้นๆ จนเกิดเป็นไข่มุกแบบมีแกน
ไข่มุกแบบไม่มีแกนราคาสูงกว่าแบบมีแกนอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะขบวนการผลิตใช้เวลานานกว่าและยากกว่า
ที่ฉินสือโอวจะทำก็คือไข่มุกแบบมีแกน ทำด้วยฝีมือคน แน่นอนว่านี่ต่างจากไข่มุกเลี้ยง เพราะฉะนั้นไข่มุกที่เขาทำออกมาถึงเรียกว่าไข่มุกเทียม
ก่อนหน้านี้เขาเคยหาเทคโนโลยีไข่มุกเลี้ยงเทียมบนเน็ต เทคโนโลยีนี้ได้รับความนิยมมากในออสเตรเลียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กระบวนการค่อนข้างซับซ้อน คนงานจะตัดเอาเซลล์เยื่อบุผิวจากแมนเทิลของหอยมุกแล้วฝังลงในเนื้อเยื่อเกี่ยวพันแมนเทิลพร้อมกับแกนที่คนงานเตรียมไว้
การฝังชิ้นเนื้อเยื่อต้องพึ่งเนื้อเยื่อเกี่ยวพันแมนเทิลให้สารอาหาร ขยายเซลล์รอบๆ แกนเทียมอย่างรวดเร็ว จึงจะสามารถกลายเป็นถุงไข่มุก หลั่งสารมุกออกมาและกลายเป็นไข่มุกแบบมีแกนด้วยฝีมือมนุษย์
ฉินสือโอวไม่มีอารมณ์จะมานั่งตัดเซลล์เยื่อบุผิว เขาใช้ทางลัด หลังจากที่กล่องเหล็กที่ใส่ไข่มุกร่วงลงสู่แนวปะการังก็ล้มลงทันที เม็ดไข่มุกกลิ้งออกมาจากกล่อง
หลังจากนั้นเขาก็หาปลาหมึกขนาดประมาณฝ่ามือตัวหนึ่ง บนหนวดของปลาหมึกมีปุ่มดูด ทีนี้ก็ดูดไข่มุกมาเม็ดหนึ่ง หาหอยนางรมลอยตัวหนึ่งแล้วบังคับให้มันเปิดฝา จากนั้นก็เอาไข่มุกใส่ลงไปก่อนจะถ่ายพลังโพไซดอน
ประสาทรับรู้ของหอยนางรมลอยไวมากๆ โดยเฉพาะยิ่งได้พลังโพไซดอนไปแล้ว พวกมันยิ่งใจร้อนอยากโตไวๆ ปรากฏว่ารู้สึกได้ถึงสิ่งแปลกปลอมในร่างจึงย้ายมันไปที่แมนเทิลแล้วหลั่งสารมุกออกมาห่อหุ้มไว้
อย่างมากหนึ่งเดือนก็จะมีไข่มุกดำแล้ว แถมไข่มุกจะต้องกลมมันเงาอย่างแน่นอนด้วย
ฉินสือโอวทำตามขนาดของหอยนางรมลอย ตัวใหญ่ก็ใส่สิบกว่าถึงยี่สิบเม็ด ตัวเล็กก็ใส่เม็ดสองเม็ด เม็ดไข่มุกเล็กๆ เป็นพันถูกเอาใส่ในหอยนางรมลอยไปแบบนั้น
มองดูหอยนางรมลอยที่กระจายอยู่รอบๆ ฉินสือโอว อุทานในใจ ช่องทางหาเงินของเขาไม่น้อยเลยจริงๆ เปลี่ยนอุดมการณ์ดีกว่า จะเป็นโพไซดอนไปทำไม เป็นเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลกไปเลยดีกว่า
คิดได้แบบนั้น ฉินสือโอวก็นึกดูถูกตัวเอง คนมีเป้าหมายจะทุ่มสุดตัวเพื่อให้มันเป็นจริง ในขณะที่คนไร้เป้าหมายจะมีเป้าหมายใหม่ไปเรื่อยๆ แบบนี้เขาช่างไม่มีอุดมการณ์เอาเสียเลย จะมีเงินมากมายไปทำไมล่ะ? ไม่ได้ ต้องเป็นโพไซดอน!
เขาเพิ่มความมุ่งมั่นให้กับอุดมการณ์ของตัวเอง บนโลกนี้มีคนรวยมากมาย แต่มีสักกี่คนที่มีพลังวิเศษ? และอีกอย่างพลังวิเศษของเขายังแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ด้วย!
เขาจะควบคุมทะเล เป็นเจ้าสมุทรทั้งเจ็ด ฉันจะเป็นราชาแห่งท้องสมุทร!
ฉินสือโอวหันหน้าเข้าทะเลด้วยความมุ่งมั่นที่เดือดพล่าน เขากระจายพลังโพไซดอนออกไป และถ่ายพลังมากมายให้กับแถบทะเลแนวปะการังที่หอยนางรมลอยอาศัยอยู่ แบบนี้จะสามารถเร่งเวลาเก็บเกี่ยวเข้ามาได้
จิตสำนึกโพไซดอนลาดตระเวนไปรอบๆ แม้จะเป็นฤดูหนาวแต่สิ่งมีชีวิตแถบแนวปะการังก็ยังคงมีการเคลื่อนไหวอยู่เรื่อยๆ เพียงแต่ความเร็วในการขยายพันธุ์ของโพลิปก็ลดลงไม่น้อย
ในตอนที่ว่ายไปเรื่อยๆ จู่ๆ ฉินสือโอวก็พบปูราชินีปรากฏตัวอยู่ก้นทะเล
ปูราชินีเป็นอีกชื่อของปูหิมะ เป็นสัตว์ทะเลชนิดต่อไปที่ฉินสือโอวตั้งใจจะเลี้ยงเป็นจำนวนมาก ตอนนี้จำนวนในฟาร์มปลาไม่เยอะ เขารู้สึกว่าไม่เยอะมาตลอด
แต่ว่า หลังจากที่พบฝูงปูราชินี เขาก็ลาดตระเวนต่อไปก่อนจะต้องประหลาดใจ
ให้ตายเถอะ ปูราชินีมีไม่เยอะไม่ใช่เหรอ? ทำไมแถบทะเลตั้งกว้างตรงนี้มีแต่เจ้านี่เต็มไปหมดเลย?!
ปูราชินีจำนวนมากเกาะกลุ่มกันไต่ไปในท้องทะเล ตัวเล็กมีขนาดเพียงเล็บมือ ส่วนตัวใหญ่กลับมีขนาดใหญ่พอๆ กับจาน คาดว่าน่าจะน้ำหนักประมาณสองถึงสามกิโลกรัม
สองสามกิโลกรัมอาจดูไม่เยอะ แต่ขาของปูราชินีนั้นยาวมาก ต่อให้เทียบปูแมงมุมญี่ปุ่นไม่ได้ แต่ตอนที่พวกมันยืดขาออกมาก็น่ากลัวพอตัว!
ฉินสือโอวมองดูฝูงปูตัวโตที่กำลังอพยพอย่างประหลาดใจ พวกมันคิดจะไปไหนกัน?!
………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset