ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 903 มหกรรมจัดหางานเซนต์จอห์น

พอได้ยินฉินสือโอวบอกว่าเจอฝูงปู ทริกเกอร์ที่อยู่ข้างๆ ก็ถามอย่างประหลาดใจสุดขีด “คุณสามารถหาฝูงปูเจอได้ด้วยเหรอครับ?”
ชาร์คช่วยพูดกลบเกลื่อนให้ฉินสือโอว เขาพูดอย่างคลุมเครือว่า “ไม่มีอะไร เครื่องมือทันสมัยมากพอ บวกกับประสบการณ์สักหน่อย แน่นอนว่าสามารถพบฝูงปูใต้ทะเลได้ ไม่อย่างนั้นจะไปจับปูจักรพรรดิที่ช่องแคบแบริ่งกับอะแลสกาได้อย่างไรกันล่ะ?”
ที่จริงแล้ว ในใจของพวกชาร์คและคนอื่นๆ คิดว่าฉินสือโอวพบฝูงปูได้จากหลักฮวงจุ้ย แม้แต่ฝูงกุ้งมังกรยังเจอได้ เขาหาฝูงปูเจอจะแปลกอะไร?
ที่ทริกเกอร์ตกใจก็คือ การหาฝูงปูใต้ทะเลเป็นความสามารถที่น่าพิศวงและยอดเยี่ยม เจ้าพวกนี้ใช้ชีวิตติดก้นทะเล เครื่องมือใดๆ ก็จับการเคลื่อนไหวของพวกมันไม่เจอ เครื่องตรวจจับคลื่นเสียงโซนาร์ก็ไร้ประโยชน์
แต่ก็มีชาวประมงที่มีประสบการณ์หรือวิธีพิเศษอะไรที่สามารถหาพิกัดที่อยู่ของฝูงปูคร่าวๆ ได้
ชาวประมงแบบนี้ถ้าไม่ใช่รวยจนกลายเป็นกัปตันไปนานก็โดนเชิญไปเป็นรองกัปตันเรือประมงน้ำลึกคอยแนะนำว่าวางลอบดักปูอย่างไรโดยเฉพาะ สรุปก็คือเป็นกลุ่มคนประเภทที่น่ายกย่องที่สุดในท้องทะเล
พอชาร์คอธิบาย ทริกเกอร์และคนอื่นๆ ก็เชื่อและนับถือฉินสือโอวมากกว่าเดิม “นึกไม่ถึงว่าบอสอายุน้อยขนาดนี้ก็รู้เทคนิคเจ๋งๆ แบบนี้แล้ว”
ไข้หวัดจากไวรัสแพร่กระจายในวงกว้าง ติดง่ายหายยาก ภายในหนึ่งอาทิตย์เหล่าชาวประมงคงไม่หายสนิทแน่ๆ
กลางเดือนมกราคม ฉินสือโอวเชิญผู้เชี่ยวชาญและศาสตราจารย์วิทยาศาสตร์ทางทะเลกับวิศวกรรมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโทรอนโตมาที่ฟาร์มปลา แซนเดอร์ส วอร์ตันเองก็มาด้วย
ฉินสือโอวจองห้องโรงแรมให้เขาไว้ห้องหนึ่งที่เซนต์จอห์นให้เขาอยู่ไปก่อนพลางอธิบาย “ฟาร์มปลาของผมกำลังมีไข้หวัดระบาด ค่อนข้างหนักเลยครับ ผมว่าถ้าคุณเข้าไปจะต้องติดไข้แน่ๆ”
ทิญา รูสลานนึกย้อนไปพร้อมกับความหวาดผวา “งั้นเราก็รอหน่อยดีกว่า โทรอนโตก็เจอไข้หวัดระบาดเหมือนกันค่ะ ที่จริงฉันกับศาสตราจารย์เองก็เพิ่งจะหาย ประสบการณ์แบบนั้นน่ะไม่อยากเจออีกแล้วค่ะ”
แซนเดอร์สพาผู้ช่วยมาด้วยสองคน คนหนึ่งคือทิญา อีกคนเป็นชายผิวสีวัยกลางคนชื่อว่าซากี้ ปาปาโรลา เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยปลาค็อด เป็นดอกเตอร์คนหนึ่งที่แซนเดอร์สพามาเช่นกัน
ฉินสือโอวจองห้องไว้ให้พวกเขาเรียบร้อยแล้ว เดิมทีมีสามห้อง แซนเดอร์สยิ้มแล้วบอกว่าเปลี่ยนเป็นสองห้องก็พอ ทิญาอยู่ห้องหนึ่ง เขากับซากี้อยู่ด้วยกัน
“ตอนนี้ผมเป็นพนักงานของคุณแล้วนะบอส ผมต้องหาวิธีให้ฟาร์มปลาของคุณทำเงิน แต่ตอนนี้ผมไม่ได้ทำงาน ฉะนั้นก็ไม่เกิดกำไร งั้นก็พยายามประหยัดให้คุณดีกว่า” แซนเดอร์สพูดอย่างอารมณ์ดี
ฉินสือโอวพูดด้วยความเกรงใจว่าจะได้อย่างไรล่ะ ฟาร์มปลาไม่ขาดเงินเพราะค่าห้องแค่นี้หรอก
แซนเดอร์สอธิบายว่าเขากับซากี้กำลังถกเถียงเกี่ยวกับหัวข้อบางอย่างพอดี และยืนกรานให้ฉินสือโอวยกเลิกไปห้องหนึ่ง
คุณธรรมและการกระทำของศาสตราจารย์ทำให้ฉินสือโอวนับถือมาก เป็นคนตรงไปตรงมาและไม่เสแสร้งเลย
ฉินสือโอวเอ่ยขึ้น “ศาสตราจารย์ ผมนึกไม่ถึงว่าพวกคุณจะมาไวขนาดนี้ ถ้าโทรมาหาเร็วกว่านี้หน่อยงั้นผมก็จะได้แจ้งสถานการณ์ฟาร์มปลาให้คุณทราบ คุณก็ยังอยู่โทรอนโตได้อีกสักหน่อย”
แซนเดอร์สพูดแบบไม่ใส่ใจ “ไม่เป็นไรหรอก งานที่โรงเรียนจัดการหมดแล้ว ผมหานักเรียนปริญญาเอกมาสอนหลักสูตรปริญญาตรีแทนผมแล้ว หลักสูตรทดลองหลายอันเพิ่งเข้าสู่ขั้นตอนการโต้แย้งพอดี ไม่ต้องให้ผมลงไปดูเอง ตอนนี้ผมมีเวลา ผมก็เลยอยากมาฟาร์มปลาของคุณไวสักหน่อย”
ฉินสือโอวแปลกใจที่แซนเดอร์สพาทิญามาด้วย เขาถามอย่างสงสัยว่าทำไมถึงพาทิญามาด้วย แซนเดอร์สยักไหล่พลางเอ่ยปาก “คุณก็รู้ ผมก็คนแก่คนหนึ่ง อยู่กับหนุ่มๆ สาวๆ แล้วกระชุ่มกระชวยกว่า ในเมื่อเป็นแบบนี้ ทำไมผมจะไม่พาสาวสวยมาด้วยล่ะ?”
ซากี้พูดยิ้มๆ “วันๆ อยู่แต่กับคนขี้เหร่อย่างผมคงจะส่งผลต่อการคิดวิเคราะห์ของอาจารย์วอร์ตัน”
ซากี้พูดจริงจังพลางพยักหน้าไปด้วย “คุณพูดถูกแล้วล่ะ” เขาหัวเราะร่าตามมา
พอเก็บห้องตัวเองเสร็จ ทิญาก็เก็บพวกแล็ปท็อป สัมภาระ เอกสารหนังสือของแซนเดอร์สและซากี้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย จากนั้นก็เอ่ยถาม “พวกคุณคุยอะไรกันอยู่เหรอคะ สุภาพบุรุษทั้งหลาย?”
แซนเดอร์สกะพริบตาให้ฉินสือโอวแล้วชี้ไปที่ห้องที่เป็นระเบียบ “ดูสิ นี่คือข้อดีอีกอย่าง ฮ่าๆ”
ฉินสือโอวมาเซนต์จอห์นครั้งนี้ไม่ใช่แค่เพื่อดูแลแซนเดอร์ส แต่ยังต้องไปร่วมมหกรรมจัดหางานเซนต์จอห์น เขาต้องหานักบัญชีคนหนึ่งมาช่วยเขาดูร้านขายอาวุธและเครื่องใช้กลางแจ้ง ยังมีร้านขายของชำอีก และยังต้องหาคนมาจัดการเรื่องภาษีให้เขาด้วย
ทุกวันเสาร์เซนต์จอห์นจะมีมหกรรมจัดหางานที่รัฐบาลจัดขึ้นที่โรงยิมเล็กๆ แห่งหนึ่ง ฉินสือโอวโทรจองที่หางานของมหกรรมล่วงหน้า วันศุกร์เขาถึงเพิ่งจะโทรไป เดิมทีไม่คิดว่าจะรีบหาคนขนาดนี้ แต่ตอนนี้แซนเดอร์สมาถึงแล้วก็เลยถือโอกาสมาจัดการด้วยซะเลย
เมื่อได้รับโทรศัพท์จากฉินสือโอว พนักงานปลายสายพอได้ยินว่าเขาจะหานักบัญชีแค่คนเดียวก็พูดอย่างเสียดายว่า “ขอโทษนะคะ คุณผู้ชาย บริษัทที่เข้าร่วมมหกรรมสัปดาห์นี้เต็มแล้ว จองให้คุณเป็นอาทิตย์หน้าได้ไหมคะ?”
ในเมื่อเป็นแบบนี้ก็ได้แต่รอสัปดาห์หน้าแล้ว ฉินสือโอวบอกชื่อฟาร์มปลาต้าฉินกับเลขที่บัญชีชำระภาษี พอทางนั้นตรวจสอบดูก่อนจะเอ่ยถามขึ้นว่า “สวัสดีค่ะ คุณคือเจ้าของฟาร์มปลาต้าฉิน คุณฉินสือโอว ใช่ไหมคะ?”
ฉินสือโอวพยักหน้าก่อนจะเอ่ยปาก “ใช่ ทำไมเหรอครับ มีอะไรหรือเปล่า?”
คนคนนั้นยิ้มเจื่อน “โอ้ๆ ไม่ได้มีปัญหาอะไร แค่อยากจะบอกคุณว่าพวกเราสามารถจัดที่ให้คุณได้หนึ่งที่ แต่ว่าคุณแน่ใจว่าจะจ้างนักบัญชีแค่คนเดียวเหรอคะ? งานมหกรรมของเรามีชาวประมงฝีมือดีมากมาย”
ฉินสือโอวบอกว่าตอนนี้เขายังไม่ต้องการชาวประมง ต้องการแค่นักบัญชี พนักงานช่วยเขาลงข้อมูล บอกเลขที่นั่งของเขา แล้วให้เขามาพรุ่งนี้ได้เลย
วันที่สอง ฉินสือโอวแต่งตัวเรียบร้อยแต่เช้าตรู่ ชุดสูท เนกไท รองเท้าหนังสีดำ จากนั้นก็รีบไปเจอแซนเดอร์สที่โรงยิม
เขาพิจารณาฉินสือโอวครู่หนึ่ง แซนเดอร์สยิ้มออกมาแล้วถาม “ร่วมงานมหกรรมครั้งแรกเหรอครับ?”
ฉินสือโอวพยักหน้าแล้วพูดอย่างเกรงใจ “เป็นทางการไปหน่อยหรือเปล่าครับ?”
ศาสตราจารย์สูงวัยสวมเสื้อโค้ตกับรองเท้าหนาอุ่นๆ ดูแล้วเหมือนกับลุงข้างบ้าน เทียบกันแล้ว ตัวเขายังสวมแว่นตาอยู่เลย ตอนที่ออกจากบ้านโดนวินนี่และคนอื่นๆ หัวเราะเยาะกันยกใหญ่
แซนเดอร์สกินเค้กพลางหัวเราะแล้วบอกว่ามันโอเค ทั้งสองคนเดินเข้าไปในโรงยิม พอฉินสือโอวสแกนรหัสยืนยันจากในเมลกับเครื่องหน้าประตู ก็ได้รับบัตรเข้างาน
บนบัตรเข้างานมีข้อมูลมากมาย รวมถึงที่นั่งในงานมหกรรมของพวกเขา นึกไม่ถึงว่าที่นั่งของพวกเขาจะอยู่ข้างประตูทางเข้า พูดได้ว่าเป็นที่นั่งทำเลทองของงานมหกรรม
ที่นั่งรับสมัครงานของมหกรรมเป็นโต๊ะเก้าอี้สำนักงานธรรมดา แต่ด้านบนมีหน้าจอแอลอีดีเล็กๆ แขวนอยู่เครื่องหนึ่ง บนนั้นเผยข้อมูลแนะนำสถานการณ์ฟาร์มปลาต้าฉินและตำแหน่งที่รับ
ที่นั่งนี้เป็นที่นั่งรับสมัครงานวีไอพี ฉินสือโอวนึกไม่ถึงเลยว่าตัวเองจะได้นั่งที่แบบนี้ นี่คือที่ที่ทางงานจัดเตรียมให้บริษัทใหญ่โดยเฉพาะ ฟาร์มปลาต้าฉินของตัวเขากลายเป็นบริษัทใหญ่ตอนไหน?
พริบตาเดียวคำตอบก็ชัดเจนแล้ว
…………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset