เมื่อก่อนเวลาฉินสือโอวคิดจะก่อคลื่นในทะเลนั้นยากเย็นแสนเข็ญ คลื่นใหญ่แค่ไหนก็สูงได้เพียงแค่ 4-5 เมตรเท่านั้น แต่ทว่าตอนนี้ เขาสามารถเสกคลื่นมหึมาที่น่ากลัวที่มีความสูงถึง 14-15 เมตรได้อย่างสบาย!
คลื่นระดับแบบนี้ เมื่อรวมตัวกันเป็นคลื่นใหญ่ถาโถม สามารถทำลายเรือรบอเนกประสงค์หนึ่งลำให้แตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรือชาวบ้านธรรมดาที่ไม่ได้แข็งแรงอะไร สามารถถูกทำลายหรือจมดิ่งได้อย่างง่ายดาย
การพัฒนาของหัวใจโพไซดอนมีความสมเหตุสมผล เมื่อก่อนหากจะก่อคลื่น ฉินสือโอวต้องรู้สึกโมโห ยิ่งโมโหมากคลื่นก็ยิ่งลูกใหญ่ตาม ซึ่งนี่ก็เพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าของใช้ความสามารถอย่างผิดๆ ในครั้งแรก
ต้องมีความโกรธเท่านั้นถึงจะก่อให้เกิดคลื่นได้ เป็นการจำกัดความสามารถในการใช้
แต่ตอนนี้ฉินสือโอวสามารถก่อคลื่นได้โดยไม่ต้องมีอารมณ์โกรธอีกต่อไป มันเป็นเรื่องของจิตใต้สำนึกมากกว่า เขาตอนนี้สามารถควบคุมการไหลเวียนของน้ำทะเลได้ในขอบเขตเล็กๆ บางทีหัวใจโพไซดอนอาจจะคิดว่า หลังจากผ่านการทดสอบที่ผ่านมา เจ้าของไม่ต้องจัดการกับน้ำทะเลด้วยอารมณ์สุดโต่งแล้ว
ควบคุมคลื่นบนผิวน้ำทะเลได้สักพัก พอฉินสือโอวรู้สึกว่าเขาเข้าใจความสามารถนี้แล้วเขาก็หยุด แล้วกลับไปที่วิลล่าพูดเล่นกับทุกคนอย่างมีความสุข
เขากลับมาได้ไม่นาน คุณลุงฮิคสันก็ใช้วิทยุสื่อสารส่งข้อความถึงเขา บอกว่าอากาศปลอดโปร่งแล้วหลังจากที่หิมะหยุดตก เขาจึงวางแผนจะมาสวนองุ่นเพื่อเก็บองุ่นไปหมักเหล้าจำนวนหนึ่ง
ฉินสือโอวบอกว่าไม่ต้องรีบหรอก เพราะตอนนี้ถนนหนทางยังเต็มไปด้วยกองหิมะ ต่อให้ล้อรถยนต์จะใส่ตัวโซ่กันลื่นก็ยังขับแบบปกติไม่ได้
คุณลุงฮิคสันพูดอย่างช่วยไม่ได้ว่า “การทำไอซ์ไวน์ ไม่กลัวว่าอุณหภูมิจะต่ำ แต่กลัวว่าอุณหภูมิจะสูงขึ้นมา นายดูตอนนี้สิ ตอนที่น้ำแข็งละลายจะทำให้อุณหภูมิต่ำลง แต่พอละลายหมด พระอาทิตย์ส่องแสงมา อุณหภูมิก็จะเปลี่ยนเป็นสูงขึ้น ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้จะทำลายน้ำตาลกลูโคส จึงต้องเด็ดองุ่นไปเก็บไว้ก่อนที่หิมะจะละลายหมดก่อนเท่านั้น”
ฉินสือโอวพอจะเข้าใจ จึงบอกให้เขามาวันพรุ่งนี้ เขาจะหาคนช่วยเตรียมไว้
ที่บ้านเมื่อมีโรงเก็บน้ำแข็งก็จะสะดวกสบายหน่อย ตอนกินข้าวเย็นฉินสือโอวจึงบอกกับทุกคนว่า พรุ่งนี้จะเก็บองุ่นที่ยังห้อยอยู่บนกิ่งมาเก็บไว้ในโรงเก็บน้ำแข็ง เพราะถ้ายังทิ้งไว้แบบนั้นอาจจะเสียได้
หลังจากทานข้าวเย็น จังหวะเดียวกับที่ฉินสือโอวคิดจะมาดูโทรทัศน์ ก็มีโทรศัพท์เข้ามาพอดี พอเขาเห็นเบอร์ก็รู้สึกแปลกใจ เป็นเบอร์บริการจากอเมริกัน เอ็กซ์เพรส
พอรับโทรศัพท์ เสียงของเจนนิเฟอร์ที่คุ้นเคยก็ดังขึ้น “คุณฉินคะ สวัสดีตอนเย็นค่ะ หวังว่าจะไม่ได้รบกวนคุณนะคะ คุณสะดวกที่จะคุยไหมคะ?”
ฉินสือโอวตอบว่า “ผมสะดวกมากครับ สวัสดี เจนนี่ ดึกขนาดนี้แล้วคุณยังทำงานอยู่อีกเหรอ?”
เจนนิเฟอร์ยิ้มแล้วตอบว่า “นี่เป็นงานของพวกเราค่ะ ทีมของเราจะต้องมีคนคอยเฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง คืออย่างนี้นะคะคุณฉิน จะมีการจัดการประชุมประจำปีของบริษัทอเมริกัน เอ็กซ์เพรส ในอีก 15 วันข้างหน้า เลยไม่ทราบว่าคุณพอจะมีเวลามาร่วมประชุมไหมคะ?”
ฉินสือโอวเพิ่งเข้าร่วมงานประมูล เขาไม่ได้สนใจที่จะออกไปที่โน่นที่นี่เพื่อออกสังคมสักเท่าไร เจนนิเฟอร์ย้ำเตือนด้วยความหวังดีว่า “ครั้งนี้คุณจะมีเพื่อนสนิทหลายท่านที่เข้าร่วมประชุมประจำปีของพวกเรา รวมไปถึงคุณเบลค คุณแบรนดอน คุณพ่อของคุณสเตราส์ และผู้กำกับคาเมรอน นอกจากนี้แล้ว ครั้งนี้คุณก็จะได้รู้จักเพื่อนใหม่อีกหลายท่านด้วยนะคะ”
“รวมถึงคุณด้วยไหมครับ?” ฉินสือโอวถามพร้อมเสียงหัวเราะ
เจนนิเฟอร์ก็หัวเราะขึ้นมา แล้วพูดอย่างร่าเริงว่า “ถ้าฉันโชคดี ฉันก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้เจอคุณค่ะ”
ในเมื่อเป็นแบบนี้ ฉินสือโอวจึงตัดสินใจไปงานประชุมประจำปีครั้งนี้ เพราะสามารถขยายวงสังคมได้และก็ไปทำความรู้จักกับเจนนิเฟอร์สักหน่อย ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นแค่พนักงานบริการลูกค้า แต่ปีครึ่งมานี้การบริการของเธอก็ดูแลเขาได้ดีเป็นพิเศษ
ท้ายสุด ประโยคสุดท้ายของเจนนิเฟอร์ทำให้เขาร้อนใจ “จุดสำคัญของงานประชุมประจำปีจะอยู่ที่งานเลี้ยงในยามค่ำคืน ซึ่งคุณต้องพาสาวมาเป็นคู่ควงในงานด้วยหนึ่งท่านค่ะ”
ฉินสือโอวรีบพูดตอบว่า “ไปคนเดียวไม่ได้เหรอ? ภรรยาของผมกำลังท้อง เธอคงไม่สะดวกที่จะไปเข้าร่วมงานประชุมนี้”
เจนนิเฟอร์หัวเราะ “ไม่เป็นไรค่ะ คุณฉิน ถ้าคุณไม่มีคู่ควงที่เหมาะสม ถ้าเช่นนั้นสามารถบอกทางเราได้ว่าคุณชอบดาราสาวหรือนางแบบท่านไหน พวกเราสามารถเชิญให้คุณได้ ซึ่งก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”
ฉินสือโอวถือบัตรอเมริกันเอ็กซ์เพรสระดับ LV2 มาโดยตลอด เป็นลูกค้าวีไอพีของบริษัทอเมริกัน เอ็กซ์เพรส ผู้คนที่ไปเข้าร่วมจึงเป็นระดับที่ค่อนข้างสูง เพราะฉะนั้นพวกดาราสาวจึงชอบงานสังคมแบบนี้มาก
เมื่อตอนที่เขามาถึงแคนาดาแรกๆ ถ้าเขาสามารถรู้จักดาราสาวได้สักหน่อย โดยเฉพาะดาราฮอลลีวูดแล้วล่ะก็ ถ้าแบบนั้นเขาคงตื่นเต้นน่าดู
แต่ตอนนี้ไม่มีประโยชน์ เขาเคยแม้กระทั่งกินข้าวกับเจ้าชายเฮนรีมาแล้ว เจอกับดาราตอนนี้ก็ไม่มีความหมายอะไร
ฉินสือโอวจึงบอกว่าเดี๋ยวเขาคิดหาวิธีเอง บริษัทอเมริกัน เอ็กซ์เพรสไม่ต้องกังวลไป หลังจากนั้นเจนนิเฟอร์ก็ทิ้งที่อยู่ที่จัดงานประชุมประจำปีให้กับเขา รีสอร์ทควอเลีย ที่เกรตแบร์ริเออร์รีฟในออสเตรเลีย!
และนี่ก็เป็นสาเหตุที่ฉินสือโอวคิดว่าวินนี่ไม่สะดวกที่จะไป ไกลเกินไปที่จะบินจากทางเหนือสุดของซีกโลกเหนือไปยังซีกโลกใต้ สภาพอากาศก็แตกต่างกันมาก ไม่ใช่เรื่องดีสำหรับสตรีมีครรภ์
ยามค่ำคืน ฉินสือโอวพาจิตสำนึกแห่งโพไซดอนดำดิ่งลงไปในทะเล ตอนนี้เขาสามารถสัมผัสกับความรู้สึกของการมองดูฉากทางภูมิศาสตร์ที่หลากหลายในมหาสมุทรในเวลาเดียวกันได้แล้ว
จิตสำนึกแห่งโพไซดอนทั้งสี่แบ่งออกเป็นสี่เส้นทาง เส้นทางที่หนึ่งไปหาหอยเป๋าฮื้อบริติชลายสลับสี แล้วนำพลังโพไซดอนจำนวนมากถ่ายทอดเข้าไปให้กับพวกมัน
หอยเป๋าฮื้อบริติชลายสลับสีกำลัง เผชิญกับวิกฤตการอยู่รอด เหตุผลหลักๆ คือ พวกมันมีความต้องการต่อสภาพแวดล้อมเพื่อการอยู่รอดสูง ต่อให้ฟาร์มปลาของฉินสือโอวแทบจะไม่มีมลพิษใดๆ แต่ด้วยค่า PH และอุณหภูมิก็ส่งผลทำให้ความสามารถในการอยู่รอดของมันไม่สูงมากนัก
แต่ครั้งนี้ฉินสือโอวถ่ายพลังโพไซดอนให้ สภาพของพวกหอยเป๋าฮื้อจึงดีขึ้นอย่างทันตาเห็น พลังนี้ยอดเยี่ยมกว่ากัญชาเสียอีก หลังจากที่พวกหอยเป๋าฮื้อดูดซึมเข้าไปก็เข้าสู่สภาวะเลือดสูบฉีดเต็มเปี่ยม ขยับออกจากก้อนหินที่ติดอยู่ ค่อยๆ คืบคลานไปหาของกิน
จำนวนของหอยเป๋าฮื้อบริติชลายสลับสีมีน้อยไปหน่อย มีแค่สิบกว่าตัวเท่านั้น ทุกตัวล้วนเป็นทรัพยากรอันล้ำค่ามาก ฉินสือโอวถ่ายพลังโพไซดอนให้มันทีละตัว แถมยังหางูทะเลมาหนึ่งตัวเพื่อที่จะไว้ปกป้องบริเวณรอบข้าง
พวกงูทะเลก็อยู่กันอย่างทรมานในหน้าหนาวเช่นกัน อุณหภูมิในน้ำทะเลต่ำเกินไป พวกมันจึงมีพลังงานที่ต่ำเหมือนกัน
ฉินสือโอวถ่ายพลังโพไซดอนให้กับพวกงูทะเล ตอนนี้แม้แต่คุณภาพของพลังโพไซดอนของเขาก็ดูเหมือนว่าจะพัฒนาขึ้น เพราะหลังจากที่ดูดซึมไปความเร็วในการแหวกว่ายของงูทะเลก็ดูเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย แววตาก็ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น
จิตสำนึกแห่งโพไซดอนอีกเส้นทางหนึ่งก็ไปหาคราเคน ช่วงนี้คราเคนไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ละวันก็หาของกินในทะเลไป
ฉินสือโอวโยนมันออกนอกอาณาเขตของฟาร์มปลาไป ไอ้นี่มันกินเก่งเกินไป แล้วยังกินอาหารประเภทที่ใกล้สูญพันธุ์แล้วด้วย ฉินสือโอวไม่อยากเห็นภาพที่วันไหนปลาทูน่าครีบน้ำเงินต้องไปตกอยู่ในท้องมัน
คราเคนค่อยๆ คืบคลานอยู่ใต้ท้องทะเล หนวดใหญ่ทั้งสิบของมัน โอ้ ไม่ถูกสิ ทำไมถึงมีแค่เก้าหนวด? หมึกยักษ์ปกติต้องมีสิบหนวดสิ!
ฉินสือโอวตกใจมาก เขาตรวจดูอย่างละเอียด ไม่ผิดจริงๆ มันมีแค่เก้าหนวด หนวดของหมึกยักษ์ที่อยู่ด้านหน้าสุด หนึ่งในสองหนวดที่มีความแข็งแกร่งมากที่สุด ตอนนี้หายไปแล้ว!
อะไรที่มาทำร้ายหมึกยักษ์จอมพลังนี้ได้กันนะ? ความสงสัยนี้เกิดขึ้นในใจของฉินสือโอว
หมึกยักษ์ไม่มีศัตรูบนบก จริงๆ แล้วศัตรูก็มีน้อยมาก วาฬหัวทุยหนึ่งล่ะ วาฬเพชฌฆาตอีกหนึ่ง แต่ในฟาร์มปลาไม่มีวาฬพวกนี้นี่ ถ้าอย่างนั้นจะมีอะไรได้อีก?
ฉินสือโอวนึกถึงสัตว์ที่มีขนาดพอๆ กับหมึกยักษ์ หมึกมหึมาซึ่งเป็นจอมพลังอีกตัวใต้ทะเล
แต่เขาคิดไม่ออกว่าอะไรที่สามารถทำร้ายคราเคนที่มีความแข็งแกร่งขนาดนี้ได้ ปกติกำลังในการต่อสู้ของหมึกยักษ์นับว่าสุดยอดไร้เทียมทาน แล้วยิ่งได้พลังโพไซดอนเข้าไปอีก แต่ตอนนี้อาจจะพูดได้ว่าสถานการณ์เจ้านี่มันเปลี่ยนไปแล้ว ฉินสือโอวนึกว่ามันอยู่ใต้ท้องทะเลแบบนี้ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้วนี่
……………………………………….
ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 923 คราเคนได้รับบาดเจ็บแล้ว
Posted by ? Views, Released on November 8, 2021
, ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา
ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท
หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง
แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้
นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา
แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี
นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก
จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน
กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี
ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป
ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’
ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา
จากนั้นมา…
จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้
และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!