ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 931 เรียนรู้ตามคนอื่น

สิ่งที่ทำให้ฉินสือโอวมีความสุขก็คือ โหวจื่อเซวียนและหวงเฮ่าเจียที่ก่อนหน้านั้นหัวเราะเยาะเขา แค่ครู่เดียวพวกเขาก็ทะเลาะกันแล้ว
“นี่ โฮ่วจื่อ นายมองอะไรอยู่? ลูกตา โอ๊ย ลูกตาจะหลุดออกมาแล้ว!”
“ฉันมองอะไร? นายมาสนใจว่าฉันมองอะไรทำไม? นายยังจะมีหน้ามาว่าฉัน ดูตาของนาย ปีที่แล้วฉันซื้อนาฬิกามา นายร้องอย่างกับคางคกไม่มีผิด อ้าปากแล้วลองร้องให้ฟังสักหน่อยสิ?”
“ทำไม ทำไมฉันถึงว่านายไม่ได้? ฉันถามว่านายมองอะไร? นายกำลังมองอะไร?!” หวงเฮ่าเจียโกรธสุดๆ สิวที่อยู่บนหน้าแดงไปหมด
โหวจื่อเซวียนเอียงคอแล้วจ้องไปที่เขา “ถ้างั้น นายมองอะไร? นายจะมายุ่งอะไรมากมาย?”
“ฉันมองโลลิต้า ไม่สิ ฉันมองเชอร์ลี่ย์ จะทำไม?”
“ก็ไม่ทำไม ก็มีแค่นายที่มองเหรอไง?”
“ใครจะมองไม่สำคัญ แต่นายคิดว่านายมองน่ะเหมาะแล้วเหรอ?”
“ทำไมฉัน ทำไมสิ่งที่ฉันมันถึงไม่เหมาะ! พี่ ฟังฉันนะ เมื่อกี้ฉันมองเชอร์ลี่ย์ด้วยสายตาที่ชื่นชมและพิจารณา ไม่ได้มีเจตนาอื่น ฉันมีเจียเจียแล้ว สาวคนอื่นก็เป็นแค่ก้อนเมฆที่ลอยไป!”
“แม่ง ฉันเชื่อนายก็บ้าแล้ว นายคอยดูแล้วกัน เดี๋ยวฉันกลับไปจะไปฟ้องเจียเจีย นายตายแน่! ฉันยังมีเบอร์ของพี่บิลลี่อยู่นะ เดี๋ยวฉันจะกลับไปบอกเขาว่าเจียเจียถีบนายออกมาแล้ว!”
โหวจื่อเซวียนรู้สึกราวกับว่าเขาเป็นไป๋ซู่เจินที่ถูกสวี่เซียนสกัดจุดสำคัญไว้ สีหน้าพลันอ่อนโยน “อย่านะ อย่า เราเป็นพี่น้องกันไม่ใช่เหรอ? พี่หวงพวกเรายังเป็นพี่น้องกันใช่ไหม? ใจของฉันรักเจียเจียคนเดียวมาตลอด ฉันพูดกับนายจริงๆ ว่า เมื่อกี้ฉันช่วยดูเชอร์ลี่ย์ให้นาย ดูว่าเธอเหมาะกับนายไหม”
“แล้วเหมาะไหม? เมื่อกี้นายยังเพิ่งบอกว่าฉันเป็นคางคกอยู่เลย?”
“เหมาะมากพี่ จริงๆ เชอร์ลี่ย์เป็นคางคกตัวเมีย โอ๊ยช่างแม่งแล้ว ต้องพูดความจริงออกมา เชอร์ลี่ย์เป็นหงส์ขาวตัวน้อย หงส์ฟ้ากับคางคกเหมาะกันสุดๆ เลยไม่ใช่เหรอ?”
“เชี่ย นายตายแน่!”
“ไม่ๆๆ เมื่อกี้ฉันพูดผิด ฉันพูดใหม่…”
ภายหลังพอทั้งสองคนเดินออกไปไกล ฉินสือโอวจึงได้ยินไม่ชัดแล้ว ตัวตลกโปกฮาสองคนนี้มีแต่ความสนุกสนานตลอดเวลา พอได้ยินบทสนทนาของทั้งคู่ ฉินสือโอวก็อดไม่ได้ที่จะขำออกมา ความหงุดหงิดในใจพลันหายไป
น่าเสียดายที่เชอร์ลี่ย์ฟังบทสนทนาของทั้งคู่เข้าใจ เธอมองไปที่ทั้งสองด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม ย่นปากเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ไร้ยางอายจริงๆ มาชอบเด็กสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ โรคจิตชัดๆ สมควรแล้วที่ไม่มีใครรัก!”
ฉินสือโอวพูดติดตลก “น่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ ฉันก็ชอบเธอนะเชอร์ลี่ย์”
เขาแค่ล้อเล่น แต่ผลปรากฏว่าโลลิต้าอยู่ดีๆ ก็รู้สึกอายขึ้นมา หน้าจิ้มลิ้มแดงระเรื่อเหมือนแอปเปิลแดง เธอก้มหน้าแล้วเอารองเท้าบูตเตะไปที่เท้าฉินสือโอวเบาๆ พูดเสียงเบาว่า “จริงหรือเปล่าคะ?”
หน้าของฉินสือโอวเต็มไปด้วยความทรมาน เพราะเมื่อกี้ที่เชอร์ลี่ย์เตะมาโดนขาเขา ดันลามไปถึงเส้นเอ็นที่เขาได้รับบาดเจ็บอยู่ ปวดแสบมาก นี่ถ้าไม่ได้กลัวว่าเสียงร้องโหยหวนของเขาจะดึงดูดกลุ่มคนที่ไร้ยางอายมาอีกครั้ง เขาก็คงกรีดร้องไปนานแล้ว
เชอร์ลี่ย์ตกใจ เธอเพิ่งรู้ว่าการกระทำที่เธอไม่ได้ตั้งใจเมื่อกี้ส่งผลอันใหญ่หลวงให้กับฉินสือโอว เธอรีบบอกขอโทษเขา แล้วเรียกชาร์คกับคนอื่นมา ให้ประคองฉินสือโอวนายใหญ่ขึ้นรถลากเลื่อนหิมะแล้วกลับไปก่อน
ฉินสือโอวไม่ค่อยจะเต็มใจแล้วพยายามที่จะต่อต้าน “รออีกสักแป๊บ ให้ฉันดีขึ้นอีกหน่อย ไม่แน่เดี๋ยวสักพักอาจจะลุกขึ้นมาเล่นสกีต่อก็เป็นได้”
เขาเคยเป็นถึงนักกีฬาอันดับหนึ่งในระดับตำนานของเมืองเชียวนะ แต่ปรากฏว่าการเล่นสกีที่อวดเก่งของเขากลายเป็นสงครามวอเตอร์ลูไป เขารู้สึกรับไม่ได้มาก
โอโดมพูดโน้มน้าวเขา “ช่างมันเถอะ ฉิน คุณกลับไปพักสักสองสามวันเถอะ อย่าพยายามขยับ เดี๋ยวผมจะส่งยาไปให้ เชื่อผม วันนี้คุณขยับตรงส่วนสะโพกกับบริเวณหว่างขาไม่ได้หรอก”
ฉินสือโอวหน้าเศร้า ฮิวจ์คนน้องตบไปที่บ่าของเขาพูดปลอบเขา “ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร วันหลังถ้าหิมะตกหนักอีก ฉันจะจัดกิจกรรมสกีนี้อีก ครั้งหน้านายก็อยู่ให้นานขึ้นหน่อย อย่าพอเล่นปุ๊บขาก็ฉีกออกปั๊บ พวกเราเล่นสกีหรือว่าแข่งยิมนาสติกกันนะ”
“นายยังจะพูดอีก!” เชอร์ลี่ย์ถลึงตามองฮิวจ์คนน้อง
ฮิวจ์คนน้องยกมือขึ้นราวกับช่วยไม่ได้ “ถ้าอย่างนั้นทั้งหมดนี้ก็โทษผมเหรอ?”
ฉินสือโอวกลับไปที่วิลล่า วินนี่กับฟอกส์กำลังเล่นกับแมวป่าน้อยอยู่ หลังจากนั้นพอเห็นว่าผู้ชายขอตัวเองถูกเข็นกลับมา ก็รู้สึกตกใจขึ้นมาทันที
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ผมเล่นสกีจนขาได้รับบาดเจ็บที่เอ็น” ฉินสือโอวพูดปลอบ “จริงๆ ก็ไม่มีอะไรมาก คุณดูนะ ผมเดินให้ดู ไม่เป็นไรเลยสักนิด”
พูดไป เขาก็จับไปที่นีลเซ็นแล้วยกตัวเองขึ้นมา ก้าวสองก้าวไปเหมือนเต้นหุ่นยนต์ จากนั้นเส้นเลือดบนหน้าผากก็เริ่มปูดออกมา ดัง ‘ตุบตุบตุบ’
ชาร์คและคนอื่นที่อยู่ด้านหลังต่างชื่นชมไม่หยุด ว้าว ความรักของบอสที่มีต่อนายหญิงคือรักแท้! พลังของรักแท้นี่มันยิ่งใหญ่จริงๆ!
วินนี่ให้ฉินสือโอวนั่งบนโซฟา วางเก้าอี้สองตัวให้เขาสามารถวางขาได้ ส่วนตัวเองก็นั่งข้างๆ ด้วยความยากลำบาก ค่อยๆ นวดกล้ามเนื้อขาด้านในให้เขา ส่งเสริมการไหลเวียนของเลือด และเร่งการฟื้นตัวของเอ็น
ราชาเจ้าป่าซิมบ้าเอียงศีรษะมองไปที่ท่าทางของฉินสือโอว มันเห็นวินนี่ไม่สนใจตัวเองก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจ ปากร้องเมี้ยวๆ ร้องไปก็ทำตัวน่าเอ็นดูไป
วินนี่ทำได้แค่เพียงเอามือไปลูบหัวแมวป่าน้อย แมวป่าน้อยยังรู้สึกไม่พอใจ มันคิดอยู่พักหนึ่ง หลังจากนั้นก็ทำตามฉินสือโอว นั่งข้างๆ ฉินสือโอว พิงพนักโซฟาแล้วก็แยกขาออกทั้งสองข้างเหมือนฉินสือโอวนายใหญ่…
“แม่ง ไอ้ตัวน้อยนี้มีอารมณ์หรือไง?” ฉินสือโอวโกรธจนด่าออกมา
วินนี่จ้องไปที่เขาอย่างโกรธๆ แล้วพูดว่า “อย่าพูดคำหยาบสิคะ อย่าพูดมั่วด้วย! คุณไม่คิดว่าซิมบ้าฉลาดเหรอ อีกอย่างมันก็ยังเล็ก ก็เลยอยากได้ความรักความใส่ใจจากฉันก็เท่านั้นเอง”
วินนี่พูดไป ก็ลูบท้องของซิมบ้าไป แมวป่าน้อยทันใดนั้นก็หรี่ตาอย่างมีความสุข จดจ่ออยู่กับการนวดที่แสนนุ่มนวลของวินนี่
‘แปะ แปะ แปะ’ เสียงอู้อี้ดังขึ้นมา หู่จือ เป้าจือ หลัวปอเจ้าสามตัวกระโดดขึ้นไปที่โซฟา พวกมันก็ทำท่าทางเหมือนกัน เรียงกันนั่งพิงโซฟา อ้าขาออกแล้วก็มองตาปริบๆ ไปที่วินนี่
ฉินสือโอวก็มองไปที่วินนี่เช่นกัน “ตอนนี้ผมขอด่าคนได้ไหม?”
วินนี่ลูบขมับของเธอด้วยความปวดหัว เจ้าพวกนี้ฉลาดไปก็ไม่ดี แต่ที่แย่ยิ่งกว่าคือ เสี่ยวหมิงกับพวกกระรอกดินต่างก็วิ่งกันเข้ามา พวกมันมองไปที่เพื่อนๆ ที่กำลังนั่งพิงโซฟาแล้วอ้าขาทั้งสองข้างออกด้วยสายตาฉงนสงสัย นึกว่าเล่นอะไรกันอยู่ จึงปีนขึ้นมาแล้วทำท่าเดียวกัน
บุชก็กระโดดอยู่ตรงพนักแขนของโซฟา มันมองไปที่ขาสั้นๆ ของมันทั้งสองขา แล้วก็ลองอ้าขาดู แต่ปรากฏว่าฉีกขาทั้งสองข้างออกจากกันไม่ได้ ล้มเหลวสิ้นดี
ฉินสือโอวลูบหน้าด้วยความทรมาน ไอ้เวรพวกนี้ ไม่นานเขาต้องโกรธตายเพราะไอ้พวกนี้แน่!
ทางด้านวินนี่เธอกลับไม่รู้สึกโกรธ เกาท้องให้พวกมันทีละตัวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ให้อย่างเท่าเทียมกัน ทำให้สุขจนเหลือล้นกับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ได้
พอผ่านกลางวันไป บีบีซวงและคนอื่นๆ กลับไปที่ฟาร์มปลาด้วยสีหน้าโรยรา พอเห็นฉินสือโอวพวกเขาก็หัวเราะออกมา “บอส ดูข่าวกัน พวกเราออกทะเลครั้งนี้ไม่เลวเลย”
เรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์ออกทะเลไปเกือบหนึ่งสัปดาห์ ในระหว่างช่วงเวลาดังกล่าวพวกเขาไม่ได้กลับไปที่ฟาร์มปลาเลย เสบียงทั้งหมดก็จะไปอยู่บนเรือกำปั่นทะเล ถ้าต้องการอะไรก็จะวอไปบอกชาวประมงที่อยู่บนเรือกำปั่นทะเล พวกชาวประมงก็จะบอกไปที่เบิร์ด แล้วเบิร์ดก็จะขับเฮลิคอปเตอร์ไปส่ง
เพื่อให้ข่าวลือเกี่ยวกับเรือผีมีความเป็นจริงมากขึ้น กลุ่มบีบีซวงและคนอื่นๆ จะแล่นเรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์ไปปรากฏตัวตามที่ต่างๆ ทิ้งร่องรอยของความว่างเปล่าไว้เบื้องหลังและในที่สุดก็ก่อให้เกิดกระแสความคิดเห็นของสาธารณชนอีกครั้ง
……………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset