พอดูทีวีเสร็จ ฉินสือโอวก็เริ่มท่องเว็บบนมือถือขณะที่นอนแผ่อยู่บนโซฟา พอเลื่อนหน้าจอมือถือจึงค้นพบว่า เรื่องราวของเรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์บนอินเทอร์เน็ตเยอะยิ่งกว่า โดยอ้างว่าเพื่อนๆ คนที่เคยเห็นเรือลำนี้เกินกว่าหมื่นคนแล้ว ฉินสือโอวก็มึนจริงๆ ทุกคนต่างจงใจพูดมั่วซั่วแบบนี้ ดีแล้วจริงๆ เหรอ?
เรือลำนี้เป็นของประเทศกรีนแลนด์ ก่อนหน้านี้เคยมีสามีภรรยาสองคู่ที่เพิ่งแต่งงานอยากไปฮันนีมูนที่นิวยอร์กบนเรือลำนี้ ตอนนี้มีลูกหลานของคู่สามีภรรยาคู่หนึ่งปรากฏตัวขึ้น โดยอ้างว่าจะทำการสำรวจเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ของเรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์
แล้วเรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์ก็เริ่มมีคำร่ำลือที่เพิ่มขึ้นจากคนเหล่านี้ ลูกหลานของสามีภรรยาคู่นั้นเป็นสายเลือดของฝ่ายหญิง เขาสาบานว่าครอบครัวของคุณย่าเขาเป็นลูกหลานของพ่อมด และเชื่อว่าคุณย่าเขายังไม่ได้ตายที่มหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ
ฉินสือโอวเกาหัวแกรกๆ เดิมทีเขากะจะใช้เรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์ในการสร้างเรื่องสยองขวัญสักหน่อย แต่คนบ้าพวกนี้กลับสร้างเรื่องให้เป็นแนวแฟนตาซีไป
แล้วการปรากฏตัวอีกครั้งของเรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์ท่ามกลางฝูงชนในครั้งนี้ หัวข้อเรือผีก็เริ่มกลับมาถกเถียงอภิปรายกันอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง ต่อให้เป็นหน้าหนาว ก็ยังมีคนมากมายที่ขับเรือมาท่องเที่ยวที่น่านน้ำนิวฟันด์แลนด์ที่มหาสมุทรแอตแลนติกเหนือนี้
ฮานี่ย์ตัวแทนนายกเทศมนตรีของเกาะแฟร์เวลก็เป็นอัจฉริยะ เขาอยากจะอาศัยโอกาสแบบนี้หาเรือสักลำมาประดับ สร้างบรรยากาศของเรือผีแล้วทำธุรกิจการท่องเที่ยวเรือผีขึ้นมา
คราวที่แล้วตอนที่จัดกิจกรรมการกุศลสี่เมือง แฮมเล็ตก็แนะนำให้เขาเข้าร่วมการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีของเมืองนี้ แต่พอกลับมา เนื่องด้วยมีเรื่องยุ่งให้ทำหลายอย่าง อีกทั้งเวลาที่จะเลือกตั้งก็ยังอีกยาวไกล ฉินสือโอวจึงไม่ได้เตรียมตัวเลย
รัฐบาลแคนาดาตั้งแต่ระดับเทศบาลลงมาต่างก็มีความคิดเหมือนอเมริกา จะได้รับเลือกตั้งจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในเขตอำนาจศาล ซึ่งก็คือประมาณช่วงฤดูร้อนปีที่สองหลังจากเลือกตั้งนายกเทศมนตรี
พอฉินสือโอวได้รับบาดเจ็บที่เส้นเอ็นจนขยับไปไหนไม่ได้ เขาจึงตัดสินใจเรียนรู้เกี่ยวกับระบบการจัดการระดับพื้นฐานของแคนาดา ทำความเข้าใจสถานการณ์การเลือกตั้งในขอบเขตไม่กว้าง
ตามรัฐธรรมนูญของประเทศแคนาดา การเลือกตั้งระดับเทศบาลไม่จำเป็นต้องรายงานไปยังรัฐบาลกลางออตตาวา มีเพียงรัฐบาลระดับเทศบาลและจังหวัดเท่านั้นที่เป็นผู้รับผิดชอบ
มีผู้สมัครตั้งแต่ 4-6 คนในแต่ละครั้งของการเลือกตั้ง ตราบใดที่ไม่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองก็มีสิทธิ์ที่จะร่วมลงเลือกตั้ง หากเป็นผู้อพยพ อย่างน้อยต้องอาศัยอยู่ในแคนาดา 1 ปีเต็ม และต้องเคยมีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจระดับภูมิภาค การเมือง และงานสาธารณะอีกด้วย
สุดท้ายตอนที่ลงคะแนน ผู้สมัครจะต้องได้รับคะแนนเสียงมากที่สุดและต้องได้คะแนนเสียงมากกว่า 2 ใน 5 สุดท้ายถึงจะได้รับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรี
เห็นเป็นแบบนี้คุณสมบัติฉินสือโอวผ่านฉลุย แฮมเล็ตพูดก็ถูก ขอแค่เขาลงเลือกตั้ง มองดูแล้วตำแหน่งไม่น่าหนีไปไหน ตำแหน่งนายกเทศมนตรีคงเป็นของเขาแน่นอน
ฉินสือโอวถามเออร์บักว่านายกเทศมนตรีต้องทำอะไรบ้าง ทนายความชรายักไหล่แล้วบอกว่า “นายกเทศมนตรีเหรอ? ก็เป็นข้าราชการ แล้วก็ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น แค่โม้เป็นก็โอเคแล้ว”
นี่เป็นทัศนคติของชาวแคนาดาที่มีต่อข้าราชการมาโดยตลอด ซึ่งเหมือนกันกับคนอเมริกา ตอนนั้นที่ริชาร์ด นิกสันประกาศว่าจะลงสมัครประธานาธิบดี บางคนก็สงสัยว่าเขาเป็นพ่อค้าตัวเล็กๆ จะชนะการเลือกตั้งตำแหน่งประธานาธิบดีได้อย่างไร ตอนนั้นริชาร์ด นิกสันพูดอย่างสบายๆ ว่า เขาสามารถกลายเป็นพ่อค้าที่ประสบความสำเร็จได้ เป็นประธานาธิบดีที่ประสบความสำเร็จจึงไม่ใช่ปัญหาอะไรแน่นอน
ฉินสือโอวพูดอย่างช่วยไม่ได้ว่า “อย่าพูดแบบนี้สิ ปู่ จริงจังหน่อย ผมอยากรู้จริงๆ ว่าหน้าที่และอำนาจของนายกเทศมนตรีคืออะไร”
เออร์บักถามกลับ “นายสนใจเรื่องนี้เหรอ? แฮมเล็ตเคยมาหานายเพราะอยากให้นายเป็นนายกเทศมนตรีเหรอไง?”
ฉินสือโอวยักไหล่ “ใช่ คุณเดาถูกแล้ว คุณคิดว่ายังไง?”
เออร์บักยักไหล่ พิจารณาสักพักแล้วก็พูดออกไปว่า “จริงๆ แล้วงานของนายกเทศมนตรีก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน เมืองแฟร์เวลไม่ใช่เมืองใหญ่ เศรษฐกิจก็กำลังดำเนินไปอย่างถูกต้อง กฎระเบียบของสังคมก็ดีเยี่ยม นายจึงไม่จำเป็นต้องทำการตัดสินใจครั้งใหญ่อะไร แต่ฉันไม่แน่ใจว่ามันจะเหมาะกับนายหรือเปล่า”
เขานั่งลงตรงข้ามฉินสือโอว และเริ่มค่อยๆ อธิบายสถานการณ์การดำเนินงานของเมืองเล็กในประเทศแคนาดา และลักษณะการทำงานของนายกเทศมนตรีรัฐบาลท้องถิ่นในแคนาดาจะดำเนินการด้านทรัพย์สินสาธารณะ ใช้อำนาจสาธารณะ และใช้จ่ายจากเงินของผู้เสียภาษี และดูแลผลประโยชน์ส่วนรวม ดังนั้นแล้ว การจัดองค์กรและบุคลากรของรัฐบาลท้องถิ่นจึงเป็นอะไรที่เรียบง่าย ประชาชนในเมืองคิดว่าใครที่สามารถนำพวกเขาไปสู่การพัฒนาที่ดีขึ้นได้ คนนั้นก็เป็นนายกเทศมนตรี
หากฉินสือโอวเข้าร่วมการเลือกตั้งแน่นอนว่าต้องสำเร็จแน่ๆ แต่นั่นไม่ใช่เพราะเขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับแฮมเล็ต แต่เพราะเขาได้รับการยอมรับจากประชาชนเมืองแฟร์เวลเป็นอย่างมาก
ในฐานะที่เป็นสมาชิกขั้นพื้นฐานที่สุดของรัฐบาลท้องถิ่น สิ่งที่รัฐบาลเทศบาลจัดการก็คือทรัพย์สินสาธารณะ และยังคลุกคลีกับประชาชนมากเป็นพิเศษ จึงต้องได้รับการยอมรับจากประชาชนในเมืองมากตามไปด้วย
“นายกเทศมนตรีเป็นไม่ง่ายหรอกนะ ฉิน นายคิดว่าตอนนี้นายทำงานเป็นอย่างไรบ้าง? แน่นอนว่าดีใช่ไหม? ทุกครั้งที่นายไปในเมือง ทุกคนก็จะทักทายนายอย่างเป็นกันเอง และชอบเล่นกับนาย ใช่ไหม?” เออร์บักถามขึ้น
ฉินสือโอวยักไหล่ “ใช่ ผมคิดว่ามนุษยสัมพันธ์ของผมไม่เลวเลยทีเดียว”
“มาตรฐานไม่เหมือนกัน ทุกคนยอมรับในตัวนายก็เพราะนายเป็นผู้อพยพธรรมดา นายเข้ามารับช่วงต่อฟาร์มปลาที่ล้มละลาย หลังจากนั้นก็ลงทุนหนักและทำให้เมืองมีตำแหน่งงานงานทำเพิ่มขึ้น 20 ตำแหน่ง และนายยังใช้ฐานะผู้อพยพมาใหม่ ช่วยดึงทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวมาให้ทุกคน ทุกคนจึงรู้สึกขอบคุณ แต่ทุกอย่างที่ว่ามานี้มันมีที่มา!”
“ที่มาก็คือนายเป็นแค่ผู้อพยพธรรมดาคนหนึ่ง เป็นชายหนุ่มที่มีน้ำใจและนิสัยดี”
“แต่ถ้านายเป็นนายกเทศมนตรี เรื่องก็คงไม่ได้เป็นแบบนี้แล้ว รู้ไหมว่าคะแนนประเมินความพึงพอใจของประชาชนต่อแฮมเล็ตตอนที่เขาลาจากเมืองนี้ไปครั้งสุดท้ายอยู่ที่เท่าไรไหม?”
“48% ไม่ผ่านครึ่งด้วยซ้ำ! อีกอย่างถ้าธุรกิจการท่องเที่ยวไม่ได้พัฒนาขึ้นมาเมื่อหนึ่งปีก่อน คาดว่าคะแนนประเมินความพึงพอใจของเขาหากถึง 20% ก็นับว่าสุดยอดแล้ว!” เออร์บักพูดเน้นย้ำ
ฉินสือโอวไม่อยากจะเชื่อเลยว่า เขาไม่เข้าใจอะไรพวกนี้เลย
“นายกเทศมนตรีเป็นตำแหน่งที่ซับซ้อนมากตำแหน่งหนึ่ง ดูจากภายนอกเหมือนอำนาจทั้งหมดจะรวมเป็นหนึ่งเดียว ราวกับเป็นจักรพรรดิของแผ่นดิน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ตำแหน่งนี้ก็คือแม่นมที่ไม่ได้เลี้ยงลูกแค่คนสองคน แต่ดูแลทุกคนในเมือง!”
“ฉันเคยบอกนานแล้วว่าเมืองแฟร์เวลเป็นเมืองเล็กๆ มีสำนักงานจัดการด้านที่อยู่อาศัย มีคณะกรรมการด้านการพัฒนา มีคณะกรรมการด้านการศึกษา และมีคณะกรรมการด้านทรัพย์สิน แต่เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย ใช่ตำแหน่งพวกนี้มันก็มีอยู่ แต่กลับไม่มีใครทำ แล้วงานที่เกี่ยวข้องใครจะเป็นคนทำล่ะ?”
แววตาที่จ้องมาของเออร์บัก ทำเอาเหงื่อเย็นๆ ของฉินสือโอวไหลออกมาจากด้านหลัง “ปู่ อย่าบอกผมนะว่า งานพวกนี้นายกเทศมนตรีแม่งทำหมดเลย!”
”จากที่ดูตอนนี้ นายกเทศมนตรีอย่างน้อยก็ทำมากกว่าครึ่ง อย่างเมื่อก่อนพวกงานของคณะกรรมการด้านที่อยู่อาศัย การศึกษาและด้านการพัฒนาก็เป็นแฮมเล็ตที่เป็นคนจัดการ ส่วนตอนนี้ก็เป็นฮานี่ย์ที่ทำอยู่”
เออร์บักเล่าเรื่องจริงให้เขาฟังอย่างโหดร้าย
“ถ้านายคิดว่าคณะกรรมการพวกนี้ก็คือทุกอย่างแล้วล่ะก็ ถ้าอย่างนั้นก็คงตลกไม่น้อย เพราะยังมีคณะกรรมการทรัพยากรบุคคล ฝ่ายความร่วมมือด้านที่อยู่อาศัย คณะกรรมการความสัมพันธ์ทางการค้าของรัฐบาล ฝ่ายทะเบียนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง สภาอนุมัติการวางแผนที่ดิน สภาพิจารณาการออกแบบ คณะกรรมการที่ปรึกษาการบริการด้านเยาวชน…” เออร์บักพูดชื่อองค์กรทั้งหมดทีเดียวรวดทำเอาฉินสือโอวตะลึงอึ้งไปเลย
“สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นหน่วยงานในสังกัดโดยตรงภายใต้เขตอำนาจศาลของนาย นายต้องรับผิดชอบจัดการบุคลากรของฝ่ายเหล่านี้ ต้องวางแผนงานโดยรวมและรับผิดชอบพวกเขาโดยตรง!” เออร์บักพูดขึ้น
“ยังไม่หมดเท่านี้นะ นี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นที่ง่ายที่สุด…”
……………………………………….
ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 933 เรื่องเหล่านั้นของนายกเทศมนตรี
Posted by ? Views, Released on November 8, 2021
, ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา
ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท
หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง
แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้
นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา
แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี
นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก
จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน
กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี
ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป
ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’
ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา
จากนั้นมา…
จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้
และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!