ตกเย็นฉินสือโอวนอนอยู่บนโซฟา เขาไม่ได้ไปเล่นไพ่เหมือนกับพวกบิลลี่ แต่กลับหลับตาลงเพื่อที่จะให้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนเข้าไปสำรวจใต้ทะเล จะว่าไปแล้วเขาอยู่ที่รีสอร์ตมามากกว่าสองวันแล้ว แต่ยังไม่ได้สำรวจรอบๆ ทะเลอย่างถี่ถ้วนเลย
เบลคโยนขวดเครื่องดื่มมาให้ฉินสือโอวหนึ่งขวด แม้ว่าอีกคนจะกำลังหลับตาอยู่ แต่หูของเขายังคงได้ยินเสียงรอบด้าน เขารีบยื่นมือออกไปรับขวดเครื่องดื่มนั้นไว้ได้อย่างพอดี
‘แปะๆๆ’ เสียงปรบมือดังขึ้น ฉินสือโอวจำได้ว่าลูกศิษย์ตัวน้อยของเขาอยู่ที่นี่ด้วยจึงลืมตาขึ้นมา ไวส์ที่ใบหน้าแสดงออกมาว่าชื่นชมเขาอยู่กำลังปรบมือเสียงดัง สีหน้าแสดงความเคารพในตัวฉินสือโอว ส่วนคนหน้าด้านอย่างท่านฉินนั้นไม่เขินอายใครทั้งสิ้น
“อะจารย์สุดยอดไปเลย!” ไวส์พูดออกมาด้วยความตื่นเต้น
ฉินสือโอวพูดกลั้วหัวเราะว่า “อะจารย์ไม่ได้สุดยอดหรอก ต่อไปฉันจะค่อยๆ แสดงให้เห็น นี่ก็มืดแล้ว ทำไมนายยังไม่กลับไปนอนอีก?”
ไวส์พูดออกมาอย่างไม่สนใจอะไรว่า “ผมบอกกับพ่อแล้ว ถ้ามืดค่ำแล้วผมจะไม่กลับไปนอนที่บ้าน เหล่าอาจารย์ของพวกเราที่อยู่ที่นี่มีเตียงว่างอยู่ไม่ใช่เหรอครับ?”
“เหล่าอาจารย์” บิลลี่หัวเราะออกมาเสียงดัง
ไวส์มองเขาอย่างไม่พอใจ แล้วถามออกมาด้วยความโมโหว่า “คุณหัวเราะอะไรครับ?”
ฉินสือโอวตบบ่าเขาแล้วพูดว่า “อย่าไปรู้จักกับคนนิสัยไม่ดีแบบนี้เลย ตั้งใจฝึกฝน หลังจากที่เรียนการต่อสู้ได้ดีเรียนแล้วการคุยกับลูกน้องพวกนี้ก็เหมือนหมาเห่าใบตองแห้ง คนพวกนี้ต้องโดนทำโทษ!”
บิลลี่วางไพ่ในมือลง แล้วพูดออกมาอย่างรีบร้อนว่า “เฮ้ ฉิน นายอย่าพูดไร้สาระนะ ฉันไปเป็นลูกน้องของพวกนายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? อีกอย่าง ที่นี่คือรีสอร์ต แล้วฉันจะเป็นอาจารย์ของพวกนายได้อย่างไร?”
ฉินสือโอวพูดออกมาตรงๆ ว่า “ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็เป็นอาจารย์ได้ นี่คือกฎของพวกเราชาวยุทธภพ! ”
บิลลี่ทำได้เพียงส่ายหัวไปพูดกลั้วหัวเราะกับไวส์อย่างเอาใจว่า “ดูสิ เด็กน้อย ฉันไม่ใช่คนในยุทธภพเลยสักนิด เลยไม่เข้าใจกฎของพวกนาย นายไม่ต้องสนใจหรอกว่ามันจะน่าโมโหแค่ไหน อภัยให้ฉันได้ไหม? มาๆ พวกเรามาเล่นไพ่กันต่อเถอะ”
ไวส์ส่ายหัวอย่างแน่วแน่ “เล่นไพ่ได้ แต่ให้อภัยไม่ได้ ผมจำเป็นที่จะต้องทำโทษ นี่เป็นหน้าที่ของผม!”
บิลลี่ร้องออกมาว่า “พระเจ้าเป็นพยาน ฉันไม่ได้เป็นคนของสำนักของพวกนายสักหน่อย!”
ไวส์มองมายังฉินสือโอว เขาพูดออกมาพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ว่า “อะจารย์ของผมบอกว่าใช่ ก็คือใช่ อะจารย์ไม่พูดผิดแน่นอน!”
เบลคชี้นิ้วไปยังฉินสือโอว แล้วพูดออกมาเสียงเบาว่า “ให้ตายเถอะ นายเป็นผู้ชายที่โชคดีมากเลย ทำไมนายถึงหลอกเด็กคนนี้ได้? มีความสามารถขนาดนี้ทำไมไม่ไปเผยแผ่ศาสนาเสียเลยล่ะ?”
ฉินสือโอวตอบกลับเสียงเบาว่า “อย่าพูดคำหยาบกับฉัน มิเช่นนั้นนายจะได้เป็นอาจารย์หมาเห่าใบตองแห้งอีกคน”
บิลลี่ถอนหายใจออกมา แล้วพูดหว่านล้อมไวส์ว่า “ฮีโร่ตัวน้อย นายให้อภัยฉันได้ไหม? ถ้านายไม่มีจิตใจที่เมตตากว้างขวาง นายจะเป็นวีรบุรุษได้ยังไง? ใช่ไหม? มาๆๆ มาเล่นไพ่ต่อ”
ไวส์ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดออกมาว่า “ที่คุณพูดก็มีเหตุผล ในอนาคตถ้าผมฝึกวิทยายุทธเสร็จแล้ว ผมจะไว้ชีวิตคุณสักครั้ง แต่ว่าคุณต้องเก็บไพ่เอซไปก่อน ไม่อย่างนั้นผมก็จะแพ้อีกรอบ แบบนั้นหน้าของผมก็จะเต็มไปด้วยกระดาษ!”
ปกติแล้วพวกเขาจะไม่ลงเงินในวงไพ่เวลาที่เล่นกับเด็ก เป็นฉินสือโอวที่แนะนำให้พวกเขาใช้กระดาษแปะที่ใบหน้า เด็กน้อยไวส์ที่น่าสงสาร ตอนนี้ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยกระดาษ ราวกับตอนนี้ใบหน้าเขาเป็นที่แปะกระดาษเรียกวิญญาณบรรพบุรุษ
บิลลี่หัวเราะออกมาแล้วเก็บไพ่เอไป เขาโบกมือส่งสัญญาณให้ไวส์เล่นต่อ หนุ่มน้อยรีบวางไพ่ทั้งหมดในมือลงทันทีเขาตะโกนออกมาว่า “ยังมีอีกสามคู่ โอเค ผมทิ้งไพ่หมดแล้ว ลุงบิลลี่ คุณแพ้แล้ว คุณแพ้แล้ว! คุณต้องถูกแปะกระดาษ!”
“อ้อ เชอะ นายนี่มันกระรอกน้อยจอมเจ้าเล่ห์จริงๆ!”
ฉินสือโอวหัวเราะออกมา เขาวางขวดเครื่องดื่มในมือไว้ข้างๆ จากนั้นก็หลับตาแล้วเข้าบังคับจิตสำนึกแห่งโพไซดอนอีกครั้ง
ทะเลเกรตแบร์ริเออร์รีฟมีพลังอยู่มากมาย สีของก้นทะเลสวยงามมาก จิตสำนึกแห่งโพไซดอนสามารถรับรู้ถึงพลังของที่นี่ได้ดี ฉินสือโอวยังไม่เข้าใจจิตสำนึกแห่งโพไซดอน แต่เขารู้ว่าต้องปล่อยให้จิตสำนึกอยู่อย่างสงบในทะเล มันจึงจะสามารถเพิ่มพลังและฟื้นฟูพลังที่ได้ใช้ไปก่อนหน้านี้ได้
จิตสำนึกแห่งโพไซดอนรู้สึกสบายเมื่ออยู่ที่นี่ เขาเดาว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับความบริสุทธิ์ของน้ำทะเลและสัตว์ทะเลที่มีหลากหลายสายพันธุ์
น้ำทะเลที่ฟาร์มปลานั้นบริสุทธิ์มาก แต่อย่างไรก็ตามโรงงานมากมายที่อยู่รอบเมืองเซนต์จอห์นอย่างบริษัทแฮลิแฟกซ์และโรงงานอื่นๆ อีกมากมายก็ยังคงปล่อยมลพิษลงทะเล ซึ่งมันส่งผลกระทบต่อฟาร์มปลาอย่างห้ามไม่ได้ แล้วที่เกรตแบร์ริเออร์รีฟ ล่ะ? เดิมทีที่นี่ไม่ได้อนุญาตให้สร้างโรงงานอยู่แล้ว GDP ของที่นี่อาศัยจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมความบันเทิงเท่านั้น
แนวปะการังเกรตแบร์ริเออร์รีฟมีปะการังหลากหลายถึงหกร้อยชนิดและมีเกาะอีกสามร้อยเกาะ พื้นที่ค่อนข้างใหญ่โต โดยมีขนาดเท่ากับครึ่งหนึ่งของรัฐเทกซัสในสหรัฐอเมริกา เมื่อเทียบกับแดนอาทิตย์ไม่ลับขอบฟ้าอย่างรัฐบริเตนและวิกตอเรียของจักรวรรดิอังกฤษก็ยังถือว่าใหญ่กว่า รวมกับสัตว์มากมายหลายหมื่นชนิดแล้ว ที่นี่ถือว่าเป็นโลกขนาดใหญ่ที่มีสีสันหลากหลายแห่งหนึ่ง
ช่วงฤดูกาลนี้ สัตว์บริเวณเกรตแบร์ริเออร์รีฟมีมากเป็นพิเศษ วาฬและเต่าทะเลบางสายพันธุ์จะมายังที่นี่เพื่อหลีกหนีความหนาวจากทางเหนือ พวกมันจะใช้เวลาอยู่ที่นี่จนความหนาวอันโหดร้ายจากทางเหนือผ่านไป จนเมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิพวกมันก็จะกลับไปยังทางเหนืออีกครั้ง
ฉินสือโอวส่งจิตสำนึกแห่งโพไซดอนส่วนหนึ่งไปยังร่างของนิโคลัส เจ้าซื่อ เขาอยากจะดูว่าสถานการณ์ของเต่ามะเฟืองตอนนี้เป็นยังไง ตอนแรกหลังจากที่เขาปล่อยมันลงทะเลไปก็เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้อัลเบิร์ตบังคับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาทำร้ายมัน เขาเป็นคนสั่งให้มิสเตอร์กูสไปซ่อนตัวอยู่ที่ก้นทะเลก่อนชั่วคราวก่อนจะหนีไป
จิตสำนึกแห่งโพไซดอนติดตามร่างของมิสเตอร์กูสไป เมื่อฉินสือโอวกลับมามองเขาก็ตกใจ บนหลังของมันมีเต่ามะเฟืองตัวใหญ่อยู่ตัวหนึ่ง เต่าตัวใหญ่กำลังอุ้มตัวเล็กอยู่ เพศผู้อยู่คู่กับเพศเมีย เต่ามะเฟืองในฝูงนี้จะต้องมีจำนวนอย่างน้อยหนึ่งร้อยกว่าตัว พวกมันกำลังว่ายน้ำไปอย่างรวดเร็ว
เต่ามะเฟืองเป็นเต่าที่มีรูปร่างใหญ่ เมื่อเต่ามะเฟืองนับร้อยตัวมาอยู่รวมกัน การที่พวกมันมีจำมากทำให้เกิดพลังมหาศาล แม้ว่าวาฬเพชฌฆาตหากเจอเข้ากับฝูงเต่ามะเฟืองแบบนี้ก็ยังต้องหลีกทางให้
ด้วยเหตุนี้พื้นที่ที่อยู่อาศัยของฝูงเต่าจึงไม่ได้อยู่บริเวณรอบๆ เกรตแบร์ริเออร์รีฟอีกต่อไป ฉินสือโอวมองจากบนผิวน้ำ เห็นว่าพวกมันกำลังเดินทางไปยังทางเหนือ
เหตุการณ์นี้ทำให้ฉินสือโอวยิ่งคาดการณ์ได้ง่าย มิสเตอร์กูสต้องการพาฝูงเต่าไปยังเกาะแฟร์เวล ด้วยความเร็วของพวกมันแล้ว จากน่านน้ำออสเตรเลียไปถึงมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ จะต้องให้เวลาเกือบสองเดือนกว่า เมื่อถึงฟาร์มปลาก็จะเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิพอดี
ฉินสือโอวยินดีต้อนรับฝูงเต่ามะเฟือง เพราะว่าพวกมันเป็นแรงงานแบบอย่าง พวกมันสามารถทำความสะอาดแมงกะพรุนในฟาร์มปลาได้อย่างสุขุมและระมัดระวัง อีกอย่างเมื่อฟาร์มปลาของเขาได้รับเลือกเป็นแหล่งลงหลักปักฐานของเต่ามะเฟืองแล้ว ต่อไปสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่าแห่งแคนาดาก็จะเข้ามาตรวจสอบสถานการณ์การผสมพันธุ์ของเต่ามะเฟืองทุกปี
เรื่องที่ทำให้ฉินสือโอวเซอร์ไพรส์ก็คือ หลังฝูงเต่าตัวนั้นมีฝูงเต่าตัวเล็กตามมาด้วย
จะบอกว่าเป็นฝูงเต่าตัว ‘เล็ก’ พวกมันก็ไม่ได้ตัวเล็กขนาดนั้น พวกมันเป็นเต่าทะเลขนาดหนึ่งเมตร เพียงแต่จำนวนน้อยเท่านั้น
กระดองใต้ท้องของเต่าสายพันธุ์นี้จะเป็นสีขาวหรือไม่ก็สีเหลืองขาว ส่วนกระดองด้านบนจะมีสีตั้งแต่สีน้ำตาลไปจนถึงสีดำสนิท แต่ว่าไม่ว่าจะเป็นสีอะไร กระดองด้านหลังก็จะมีจุดขนาดใหญ่อยู่ทั่วกระดอง ดูสวยงามเป็นอย่างมาก กระดองหลังตรงกลางของมันเป็นเหมือนโล่ห้าอันต่อกัน และมีโล่อีกสี่อันที่ด้านซ้ายและขวา บนดวงตาทั้งสองคู่มีเกล็ดปกคลุม เมื่อพวกมันหดหัวและแขนขาเข้าไปในกระดอง พวกมันก็จะดูเหมือนก้อนหินขนาดใหญ่ก้อนหนึ่ง
ฉินสือโอวรู้จักเต่าสายพันธุ์หนึ่ง มันเรียกว่าเต่าตนุ ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่เป็นญาติห่างๆ กับเต่ามะเฟือง และยังเป็นสัตว์ทะเลที่ใกล้สูญพันธุ์อีกด้วย
เต่าตนุมีคุณค่าทางเศรษฐกิจสูงมาก ร่างกายของพวกมันเต็มไปด้วยไขมัน และไขมันของพวกมันก็เต็มไปด้วยคลอโรฟิลล์ที่ได้รับสกัดมาจากสาหร่าย นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมพวกมันถึงได้ชื่อว่า ‘เต่าตนุ’
เพราะว่าพวกมันมีไขมันมาก เนื้อเต่าตนุจึงอร่อยและเต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ และคลอโรฟิลล์ในไขมันของพวกมันเป็นคลอโรฟิลล์ตามธรรมชาติที่มนุษย์สามารถดูดซึมได้ ซึ่งมีผลต่อการบำรุงร่างกายและทำให้ผิวพรรณสวยงาม
นอกจากนี้ กระดอง เลือดและน้ำดีของเต่าตนุก็สามารถนำมาทำเป็นยาได้ ปัจจุบันมันถูกระบุเป็นหนึ่งในอาหารต้านมะเร็ง และโอกาสในการพัฒนาก็มีอย่างกว้างขวาง
เป็นเรื่องธรรมดาที่เมื่อพวกมันมีคุณประโยชน์มากมาย พวกมันก็จะอยู่รอดได้ยากขึ้น
……………………………………..
ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 967 ฝูงเต่าขึ้นเหนือ
Posted by ? Views, Released on November 8, 2021
, ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา
ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท
หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง
แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้
นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา
แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี
นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก
จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน
กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี
ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป
ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’
ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา
จากนั้นมา…
จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้
และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!