ในฤดูกาลแบบนี้ย่อมไม่สามารถค้างคืนบนเขาได้เป็นธรรมดา ฉินสือโอวเตรียมตัวไปอย่างง่ายๆ แค่เปลี่ยนเป็นรองเท้าปีนเขาและเสื้อแจ็กเกตเดินป่าพร้อมแบกปืนกับหน้าไม้พาหู่จือเป้าจือฉงต้าหลัวปอออกจากบ้านไป
พอเห็นหู่จือเป้าจือฉงต้าและหลัวปอออกไปกันหมดแล้ว ซิมบ้าที่นอนหมอบงีบอยู่ข้างๆ วินนี่ก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง มันนึกว่ามีอะไรสนุกๆ เลยไม่อยากพลาดจึงตามไปอย่างกระดี๊กระด๊า
แมวป่าเดินในหิมะโดยที่ไม่มีเสียงและซิมบ้าก็เดินตามหลังฉงต้าอีก แบบนี้รอให้ถึงตอนที่ฉินสือโอวเห็นว่าซิมบ้าตามมาพวกเขาก็เดินจนถึงตีนเขากันแล้ว
เพราะกลัวว่าซิมบ้าจะเป็นอะไรไป อย่างไรเสียมันก็ยังเล็กเท่ากับแมวตัวใหญ่ตัวหนึ่ง ในภูเขาที่พื้นหิมะอาจยาวถึงสิบกิโลเมตรนั้นมันก็เป็นแค่เจ้าตัวจิ๋ว เขาเลยจับมันโยนลงไปในฮู้ดบนเสื้อแล้วแบกขึ้นเขาไป
ซิมบ้าจัดท่าทางอยู่ในฮู้ด มันรู้สึกสบายมากเลยเหล่ตามองอย่างเบิกบานใจพลางใช้อุ้งเท้าน้อยๆ กอดไปที่คอฉินสือโอว พิงหัวที่ไหล่ขวาของเขาแล้วกวาดตาโตมองไปรอบๆ
ขนของแมวป่านุ่มและอบอุ่นมาก หัวของซิมบ้าพิงอยู่ไม่เท่าไรฉินสือโอวก็รู้สึกอุ่นแล้ว
แมวป่าเป็นสัตว์ขี้หนาวชนิดหนึ่ง ดังนั้นครั้งแรกที่เจ้าตัวเล็กเห็นฉินสือโอว มันก็รีบมุดเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเขาทันที ตอนนั้นขนของมันยังไม่ยาวมาก จะว่าไปบุชก็เป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตมันไว้เพราะถ้าบุชไม่เอามันมา มันก็คงแข็งตายในฤดูหนาวอยู่ที่นี่แล้ว
หลังจากเข้าไปในภูเขาแล้วซิมบ้าก็หูตั้งขึ้นมาตามสัญชาตญาณ นี่คือถิ่นของมัน ตามทฤษฎีแล้วจึงไม่มีอะไรที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของแมวป่าได้
แน่นอนว่าป่าในเขาก็เป็นถิ่นของหมีสีน้ำตาลด้วยเช่นกัน
เห็นแต่ว่าฉงต้าเข้ามาที่เขาน้อยครั้งแต่พอถึงในป่ามันก็ไม่เซื่องซึมไม่รู้ร้อนรู้หนาวอีกต่อไป ดวงตาเล็กๆ มองไปรอบทิศอย่างระมัดระวังพลางเดินไปตามทางอย่างองอาจ เห็นได้ชัดว่าพันธุกรรมเจ้าถิ่นตื่นขึ้นมาแล้ว
ห่านสีเทาตัวหนึ่งกระพือปีกบินมา ตัวของมันชนเข้ากับกิ่งไม้ทำให้หิมะร่วงลงมา
หู่จือและเป้าจือแกว่งหางแล้วกระโจนขึ้นไป แน่นอนว่ากระโดดไปไม่เท่าไหร่ห่านสีเทาก็บินหนีไปแล้ว พวกมันค้นหาตรงที่ห่านสีเทาเคยพักอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดเมื่อหาอะไรไม่เจอพวกมันก็ได้แต่ วิ่งกลับมาอย่างอารมณ์เสีย
ป่าไม้ที่เคยเติบโตแน่นขนัดเปลี่ยนเป็นสีเทาขาว มีแต่ต้นสนที่ยังคงเป็นสีเขียวทั้งต้น เพิ่มชีวิตชีวาให้กับป่าผืนนี้
ป่าเขาในฤดูหนาวเงียบสงบ พวกเขาเดินลงเขามาในทางของหมาป่าขาว หลัวปอดมกลิ่นนำทางอยู่ด้านหน้า เห็ดทรัฟเฟิลถูกพบในท้องของหมูป่าที่เจ้าหมาป่าขาวล่าได้ จึงต้องเดินตามเส้นทางที่พวกมันไปเป็นธรรมดา
แน่นอนว่าฉินสือโอวไม่ได้หวังว่าจะหาเห็ดทรัฟเฟิลเจอจริงๆ เจ้าสิ่งนี้พบได้น้อยและความเป็นไปได้ที่จะพบก็ต่ำมาก
คนในขบวนเดินทางบนเขาพูดคุยพลางหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน ฉินสือโอวเดินไปกับพ่อ มือเท้าของพ่อฉินสือโอวก็ยังคล่องแคล่วอยู่ แต่เดินบนทางภูเขาหิมะที่มีโคลนลื่นๆ ฉินสือโอวต้องคอยช่วยพยุง
เห็นลูกชายที่คอยประคองแขนตัวเองอยู่ข้างๆ พ่อของฉินสือโอวก็ถอนหายใจพลางพูด “เฮ้อ พ่อน่ะแก่แล้ว”
ฉินสือโอวหัวเราะพลางพูดอย่างไม่ใส่ใจ “พ่อแก่ที่ไหนกัน? ยังปีนภูเขาที่มีหิมะได้อยู่เลย พูดได้แค่ว่าพ่ออายุมากขึ้นเท่านั้นแหละ แต่ถ้าพ่อยังหนุ่มอยู่ตลอด อย่างนั้นจะไม่วุ่นวายเหรอ?”
ตอนที่กำลังพูดบนท้องฟ้าก็มีเงาสองเงาบินมา ฉินสือโอวไม่ต้องมองก็รู้ว่าเป็นบุชและนิมิตส์บินมาหา
เขาผิวปากแล้วบุชกับนิมิตส์ก็บินลงมา พวกมันอยากเกาะไหล่ของฉินสือโอว แต่เสื้อกันหนาวหนาเกินไปไม่เหมาะที่จะเกาะและตอนนี้เจ้าสองตัวนี้ก็ตัวใหญ่เกินไปแล้ว พื้นที่ไหล่จึงไม่พอให้พวกมันเกาะ
ฉินสือโอวยื่นข้อมือมาข้างหนึ่งแล้วบุชก็ลงมาเกาะ นิมิตส์มองแล้วเลือกเกาะบนไหล่ของอีวิลสันแล้วยังกินของกินอีก พอมันเกาะลงมาอีวิลสันก็ฉีกปลาแห้งให้มันอย่างมีน้ำใจ
นิมิตส์คาบปลาแห้งยืดคอกลืนลงไป ผลสุดท้ายติดคอ!
เจ้านกโจรสลัดใหญ่ยืดคอสุดชีวิตปากร้องอย่างร้อนรนตาเหลือก
ฉินสือโอวรีบอุ้มมันลงมาให้มันอ้าปากแล้วใช้นิ้วหยิบเอาชิ้นปลาที่ยังไม่ได้กลืนออกมา
เห็นปลาโอแถบแห้งชิ้นนี้แล้วคำนับอีวิลสัน “เวรเอ๊ย อีวิลสัน นี่คือปลาโอแถบแห้ง กินเลยไม่ได้! เจ้าสิ่งนี้แข็งยิ่งกว่าหินเสียอีก นายกินเข้าไปได้อย่างไร?”
อีวิลสันหัวเราะแหยๆ “ฟันกราม ใช้ฟันกรามได้”
เหมาเหว่ยหลงมองอีวิลสันอย่างประหลาดใจแล้วพูดว่า “ฉิน วันนั้นที่วินนี่บอกว่าขนมสำหรับกัดของหู่จือและเป้าจือชอบหมดอยู่เรื่อยน่ะ เจ้านี่กินไปหรือเปล่า?”
ขนมสำหรับกัดเป็นอาหารที่ทำมาจากแป้ง ฉินสือโอวก็ไม่รู้วิธีทำ แต่ถึงอย่างไรเจ้าสิ่งนี้ก็เป็นเหมือนหินอ่อนในหมู่อาหารที่ทำจากแป้ง หู่จือและเป้าจือที่ถนัดในการใช้กราม บางครั้งกัดไปหนึ่งชั่วโมงยังกินไม่หมดเลย
ฉินสือโอวยกนิ้วโป้งให้อีวิลสัน ใช้กรามกัดปลาโอแถบแห้งได้ อีวิลสันนี่มีฟันที่แข็งแรงดีจริงๆ
เหมาเหว่ยหลงสังเกตดูอีวิลสันอยู่ครู่หนึ่งแล้วส่ายหัว “พระเจ้าช่างยุติธรรมจริงๆ แกดูสิ ท่านให้สมองที่ฉลาดขนาดนี้กับฉัน แล้วให้ร่างกายที่ธรรมดามากมาด้วย แกดูอีวิลสัน เวร กระดูกเหล็กจริงๆ!”
คนทั้งกลุ่มหัวเราะ อีวิลสันเคี้ยวปลาโอแถบแห้งเสียงฮึดฮัด ผ่านไปครู่หนึ่งก็จ้องมองเขาแล้วพูดว่า “นายนั่นแหละโง่”
ฉินสือโอวหัวเราะ อีวิลสันไม่ได้โง่ เขาแค่ความรู้สึกช้าเท่านั้น
นกอินทรีหัวขาวอยู่บนท้องฟ้า บุชอยู่บนไหล่ของฉินสือโอวเพียงไม่กี่นาทีแล้วกระพือปีกบินไป
ฉินสือโอวรู้สึกถึงลมแรงที่พัดมาครั้งหนึ่งจึงไม่ได้ใส่ใจอะไร แต่ทันใดนั้นก็รู้สึกได้ว่าที่ฮู้ดนั้นเบาลง
เจ้าแมวป่าล่ะ? เขาคิดขึ้นมาได้กะทันหัน
พอจับไปที่ฮู้ด ราชาซิมบ้าก็ไม่อยู่แล้ว ฉินสือโอวถามอย่างร้อนรน “แม่งเอ๊ย พวกนายเห็นซิมบ้าบ้างไหม?”
เบิร์ดถลึงตามองไปที่ท้องฟ้าแล้วยื่นนิ้วมือชี้ไปที่บุช
ฉินสือโอวขมวดคิ้วแล้วมอง ที่อุ้งเท้าของบุชจับแมวใหญ่ตัวอ้วนอยู่ นั่นไม่ใช่ซิมบ้าแล้วจะเป็นใคร?
“เวรเอ๊ย! ไม่ต้องเล่นแล้ว เอาซิมบ้าลงมา!” ฉินสือโอวพูด
บุชไม่ได้บินสูงเท่าไร มันบินร่อนบนท้องฟ้าต่ำๆ ซิมบ้าก็คงตกใจจนร้องไม่ออก มันหลับตาแน่นอุ้งเท้าทั้งสี่กอดขาใหญ่ๆ ของบุชไว้แน่นสุดชีวิต
ฉินสือโอวกลัวบุชทำซิมบ้าหล่นลงมาตาย อย่างนั้นวินนี่อาจจะเอาเรื่องเขาอย่างหนัก เขาเลยรีบตามขึ้นไป
คนในขบวนรีบเดินตามทางที่บุชบินไป ค่อยๆ เข้าไปในป่าลึก ฉินสือโอวมองไปด้านหน้ามีแต่ต้นไม้สูงใหญ่ สนซีคัวยายักษ์ ต้นสนยักษ์!
สนซีคัวยายักษ์คือชื่อเรียกของต้นสนยักษ์ตามรูปร่างที่ใหญ่โตของมัน ต้นไม้ชนิดนี้มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ทางตะวันตกของเทือกเขาเนวาดา อยู่ที่นั่นจะสูงได้ถึงหนึ่งร้อยสามสิบเมตรกว้างได้ถึงสิบกว่าเมตรหรือก็คือเส้นผ่านศูนย์กลางสิบกว่าเมตร เป็นต้นไม้ยักษ์อันดับหนึ่งของโลก
แต่หลังจากต้นไม้ชนิดนี้ถูกนำเข้าไปที่อื่นเช่น อเมริกา แคนาดา ยุโรป ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์และอเมริกาใต้อย่างชิลีและอาร์เจนตินา จึงไม่มีทางสูงได้เท่านี้ หากสูงได้สักห้าหกสิบเมตรก็ถือว่าสูงมากแล้ว
เทือกเขาเคอร์บัลก็มีไม้ชนิดนี้กระจัดกระจายกันอยู่เป็นทัศนียภาพอย่างหนึ่งบนภูเขา บุชพาพวกเขามาที่นี่ทำไม?
……………………………………………
ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 982 ราชาซิมบ้าบินไปแล้ว
Posted by ? Views, Released on November 8, 2021
, ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา
ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท
หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง
แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้
นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา
แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี
นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก
จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน
กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี
ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป
ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’
ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา
จากนั้นมา…
จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้
และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!