ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 992 บ้าคลั่งขึ้นมา

 
ถึงขนาดใช้ขวดสเปรย์เลยเหรอ? ฉินสือโอวประหลาดใจ
หวงเฮ่าเจียถอนหายใจ “ถ้าผมบอกว่าผมมีงานอดิเรกเป็นการทำกราฟฟิตี้ คุณจะเชื่อไหม?”
ตำรวจคนนั้นทำปากมุ่ยพลางเปิดประตูแล้วพูดว่า “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพวกเรา ถือว่าคุณโชคดีที่คุณเคอร์เรทไม่เอาเรื่องพวกคุณ ไม่อย่างนั้นพวกคุณได้อยู่ในคุกหลายวันแน่”
ฉินสือโอวพาทั้งสองขึ้นเฮลิคอปเตอร์ เขาให้ทั้งสองคนขึ้นไปก่อน ส่วนเขาโทรไปหาเคอร์เรทเพื่อขอบคุณที่เขาไม่ตามเอาเรื่องสองคนนี้
เคอร์เรทหัวเราะเบาๆ พลางพูดว่า “อ่อ ไม่เป็นไรครับ พวกเขาบอกว่าตัวเองมาจากเกาะแฟร์เวลผมก็รู้แล้วว่าเรื่องอะไร ดังนั้นก็เลยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ แล้วให้พวกเขาแจ้งพวกคุณให้มาประกันตัว”
ฉินสือโอวพูด “ยังไงก็ขอบคุณมากครับ ประธานเคอร์เรท พวกเขาสองคนยังไม่รู้เรื่องข้อตกลงของเราก็เลยทำอะไรบ้าๆ ลงไป ผมจะสั่งสอนพวกเขาแทนคุณให้ดีเลย สรุปว่าผมติดหนี้บุญคุณคุณหนึ่งครั้งนะครับ”
ทุกคนล้วนเป็นคนฉลาด เขารู้สาเหตุที่เคอร์เรทไม่ตามเอาเรื่องทั้งสองคน จะตามสองคนนี้ไปรับผิดชอบทำไม? เปลี่ยนเป็นเงินหรืออำนาจอะไรขึ้นมาก็ไม่ได้ สู้ทำให้ฉินสือโอวติดหนี้บุญคุณเขาสักครั้งดีกว่า
ตอนที่ตำรวจโทรมาแจ้งเขา แต่กลับไม่ใช่แฮมเล็ตที่เป็นนายกเทศมนตรี ฉินสือโอวก็เข้าใจจุดประสงค์ ต้องเป็นเคอร์เรทที่ให้ตำรวจโทรมาหาเขาอย่างแน่นอน
เคอร์เรทที่อยู่ปลายสายหัวเราะขึ้นมาอย่างมีความสุข จากนั้นก็คุยกันไม่กี่ประโยคแล้วทั้งสองคนก็วางสายไป
ตั้งแต่ต้นจนจบทั้งสองพูดคุยกันอย่างมีมารยาทมาตลอด ราวกับเป็นเพื่อนเก่า สำหรับนักลงทุนแล้วไม่มีเพื่อนที่ถาวรมีแต่ผลประโยชน์ที่ถาวร พอไม่มีผลประโยชน์แล้วทุกคนก็คือเพื่อน
ฉินสือโอวขึ้นเฮลิคอปเตอร์แล้วมองดูตัวอักษรสีแดงบนสายรัดหัวของทั้งสองคนอย่างละเอียดแล้วถามด้วยความสงสัย “ฉันว่า พวกนายคงไม่ได้ใช้เลือดจริงๆ เขียนตัวหนังสือพวกนี้หรอกใช่ไหม?”
โหวจื่อเซวียนฝืนยิ้มพลางพูด “ได้ที่ไหนล่ะ เหอะๆ ใช้ลิปสติก พวกเราเอาลิปสติกมาเขียน”
ฉินสือโอวหมดคำพูดไปชั่วขณะ โรคโง่แบบนี้ไม่มีทางรักษาจริงๆ
อ่านนิยาย
“พูดมาสิ มันเรื่องอะไรกัน? แล้วก็ ไม่กี่วันก่อนหน้านี้พวกนายไปไหนมา ทำไมฉันไม่เจอพวกนายเลย?” ฉินสือโอวพูด
โหวจื่อเซวียนอธิบาย “ไม่กี่วันก่อนหน้านี้พวกเรากลับประเทศ หิมะตกหนักเลยไม่มีนักท่องเที่ยวไม่ใช่เหรอไง? แล้วก็ต้องฉลองตรุษจีนอีก พี่ซาโกรเลยให้พวกเราพักร้อน พวกเราเลยกลับประเทศ”
“ต่อมาพี่สาวผมเล่นเวยป๋อแล้วเห็นโพสต์ของคุณ พอบอกผมแล้วผมก็มาบอกพี่โหวต่อ พวกเราสองคนถึงได้รู้ว่าที่เกาะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นเลยรีบบินกลับมา พอลงเครื่องมาพวกเราก็ถามประธานของโรงงานเคมีอะไรนั้น คิดว่าจะจับเขาพ่นหน้าให้เป็นสีดำ ให้เขารู้ว่าอะไรเป็นอะไร!” หวงเฮ่าเจียเสริม
พวกเขาสองคนพูดต่อกันราวกันเป็นเสียงเดียวกัน โหวจื่อเซวียนพูดต่อด้วยความเสียดาย “น่าเสียดาย พวกเราจับคนผิด ดันไปจับเอาหัวหน้าฝ่ายภายนอกอะไรไม่รู้ ยังไม่ได้พ่นสีอะไรเลยก็ถูกจับส่งไปที่สถานีตำรวจแล้ว”
หวงเฮ่าเจียพูดอย่างไม่พอใจ “ฉันบอกแล้ว พวกเรากลับไปก่อน ไปเอาแท่นเล็งปืน ยิงหัวแม่มันก็จบแล้วไม่ใช่เหรอ?”
โหวจื่อเซวียนประชด “แหม ตอนนี้นายทำไมเก่งขนาดนี้? นายพูดกับฉันตอนไหนว่าให้เอาที่เล็งปืนมายิงหัวเขา? ถึงจะให้ที่เล็งปืนกับนายจริงๆ นายจะกล้ายิงเหรอ?”
เปลี่ยนเรื่องได้สำเร็จ สงครามข้างนอกจบสงครามข้างในก็เริ่มต้น ทั้งสองคนตีฝีปากกันไปมา
ฉินสือโอววางมือไว้ที่ไหล่ของทั้งสองคน เขาพูดด้วยความรู้สึกอบอุ่นใจ “ขอบใจ พี่โหว ขอบใจน้องเฮ่าเจีย พวกนายเอาใจใส่ขนาดนี้ฉันรู้สึกซาบซึ้งมาก จริงๆ นะ ขอบคุณทุกอย่างที่พวกนายทำเพื่อเกาะ!”
เขารู้สึกซาบซึ้งจริงๆ พวกเขาแค่มาทำงานที่แคนาดา เกาะจะอยู่หรือตายก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกขา
แต่ทั้งสองคนเมื่อรู้ว่าที่เมืองมีปัญหาก็กลับมาที่นครเซนต์จอห์นก่อนตรุษจีนอย่างแน่วแน่ แล้วยังไปจับเคอร์เรท แม้จะเป็นเจตนาดีแต่การกระทำเลวร้ายก็ตาม แต่อย่างไรก็เป็นเจตนาที่ดี นี่ควรค่าให้ฉินสือโอวพูดขอบคุณ
โหวจื่อเซวียนหัวเราะพลางพูด “จะขอบคุณพวกเราทำไม? พวกเราทำงานอยู่ที่นี่ ถ้าบนเกาะมีโรงงานเคมีมาสร้าง อย่างนั้นก็จะไม่มีนักท่องเที่ยวมาและตอนนั้นพวกเราสองคนก็จะไม่มีงานทำ สรุปแล้วคือพวกเราทำเพื่อตัวเองด้วยเหมือนกัน”
ฉินสือโอวโบกมือพลางพูด “พอแล้ว ไม่ต้องพูดแล้ว กลับเมืองไปดื่มเหล้ากินเนื้อกัน! คืนนี้มีปาร์ตี้!”
อ่านนิยาย
หลังจากกลับมาที่โรงจอดรถของโรงงานเคมี ด้านในก็เปลี่ยนแปลงไปมาก
นีลที่เป็นเจ้าของผับดาราประกายเอาลูกบอลดิสโก้มาจำนวนหนึ่ง เหยียบบันไดแล้วติดลูกบอลไปรอบๆ กำแพงทั้งสี่ด้าน แล้วลูกบอลดิสโก้เหล่านี้ก็หมุนไปรอบๆ แสงหลากสีสันส่องอยู่ในโรงงานทำให้โรงงานมีบรรยากาศเหมือนอยู่ในผับ
ไม่รู้ว่าคาร์สันไปเอาเครื่องสูบไฮโดรเจนมาจากไหน พวกเชอร์ลี่ย์กำลังสูบลูกโป่งกัน พอสูบเต็มแล้วก็เอาลูกโป่งโยนออกไปลอยไปทางด้านบนเพดาน แบบนี้ที่เพดานก็มีลูกโป่งลอยอยู่ กลายเป็นงานรื่นเริงอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อเห็นเชอร์ลี่ย์ที่มัดผมหางม้า ใบหน้าที่มีสิววัยรุ่นของหวงเฮ่าเจียก็แดงขึ้นมา เขาไปถามด้วยใบหน้าเขินอายว่า “เฮ้ ให้ฉันช่วยไหม?”
เชอร์ลี่ย์ปัดไปรอบๆ แล้วพูดว่า “ไม่ต้องแล้ว ดูสิ ฉันกับเพื่อนจัดการได้”
หวงเฮ่าเจียหัวเราะพลางพูด “ฉันก็เป็นเพื่อนเธอไม่ใช่เหรอ?”
เชอร์ลี่ย์มองเขาครั้งหนึ่งแล้วยักไหล่ “โทษที ปู่เออร์บักไม่ให้คบคนขี้แพ้เป็นเพื่อน”
โหวจื่อเซวียนที่ตามมาด้านหลังพอได้ยินเข้าก็หัวเราะยกใหญ่ หวงเฮ่าเจียพาลโกรธ ดึงสายรัดที่หัวออกแล้วทะเลาะกับโหวจื่อเซวียน
พวกเขามีเวลาเตรียมงานทั้งวัน ตอนนี้ในงานปาร์ตี้ นีลส่งเหล้ามาทุกชนิด ส่วนพวกชาวเมืองก็เตรียมอาหารและขนมกันมาทุกบ้าน พ่อของฉินสือโอวลงครัวทำข้าวผัดมันหมูหม้อใหญ่ แม่ฉินสือโอวอบขนมเปี๊ยะไส้ผักและไส้เนื้อ
หมาแมวที่เกาะวิ่งตามคนมาที่โรงงานด้วย ก่อนหน้านี้หนึ่งวันโรงงานเคมียังร้างเหมือนสุสาน ครู่เดียวก็เต็มไปด้วยสีสันที่มีชีวิตชีวา
ปาร์ตี้ในคืนนี้ไม่มีอะไรพิเศษ แต่คนเยอะเลยคึกคักเป็นพิเศษ
มีคนจัดแข่งขันงัดข้อ ฉินสือโอวสมัครด้วย เขาถูกปัดออกเลยได้แต่ไปหาคนมาเล่นไพ่ด้วย
พระอาทิตย์ตกลงไปในทะเล ฮิวจ์คนน้องปิดเครื่องขยายเสียงแล้วเอาไมค์ส่งให้ฉินสือโอว ฉินสือโอวชูมือพลางตะโกนว่า “เวลานี้ยังต้องพูดอะไรอีก?! คืนนี้เป็นงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จของพวกเรา! ดังนั้น ทุกคนดื่ม! ตะโกนขึ้นมา! สนุกกันเถอะ! ทำให้คืนที่หนาวเย็นนี้ร้อนเป็นไฟ!”
ผู้คนโห่ร้องอย่างบ้าคลั่ง ผู้ชายจำนวนมากใส่เสื้อผ้าเพียงชั้นเดียว ในโรงงานมีเตาอยู่เยอะมาก เปลวไฟลุกโชน
พ่อและแม่ของฉินสือโอวไม่เคยร่วมงานปาร์ตี้มาก่อน คืนนี้เลยตั้งใจมาเปิดโลก สุดท้ายพอเสียงเพลงที่ดังลั่นดังขึ้นมา ขาของทั้งคู่แทบยืนไม่อยู่ พวกเขารีบเอามือปิดหูแล้วออกไป
ฉินสือโอวตามออกไปถาม “พ่อแม่ ไม่เป็นไรใช่ไหม?
พ่อฉินสือโอวทำปากมุ่ย “โอ้โหแม่เอ๊ย ฉันกับแม่แกไม่ไหวหรอก สนุกกับคนหนุ่มสาวอย่างพวกแกไม่ไหว คนข้างในบ้าคลั่งไปแล้ว แกดูสิ ออกมาไกลขนาดนี้แล้วยังปวดหูอยู่เลย แกไปสนุกเถอะ พวกเราจะกลับไปอยู่เป็นเพื่อนวินนี่”
ในเมื่อเป็นอย่างนี้ ฉินสือโอวก็ไม่บังคับ ปาร์ตี้แบบนี้คนเยอะคึกคักและบ้าคลั่ง ไม่เหมาะกับพ่อแม่ที่เป็นคนจีนดั้งเดิมจริงๆ
“พวกเรากลับล่ะ ไปอยู่เป็นเพื่อนวินนี่และเตรียมของฉลองตรุษจีนด้วย พริบตาเดียวก็อีกปีหนึ่งแล้ว” พ่อของฉินสือโอวโบกมือแล้วออกไปอย่างท้อใจ
…………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset