ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 155 เหล่าฉลาม

บทที่ 155 เหล่าฉลาม
โดย
Ink Stone_Fantasy

หมื่นทางเดินร้างรอยคน
แต่ความคึกคักของเทือกเขาเคอร์บัลนั้นคือเหล่าแมลง นก สัตว์ป่ารวมถึงปลาในแม่น้ำซึ่งเป็นผู้อยู่อาศัย พวกมันพากันออกมาต้อนรับแสงอาทิตย์ในยามเช้าตรู่ บ้างวิ่ง บ้างบิน บ้างว่ายต้อนรับวันใหม่อันแสนสวยงาม
ฉินสือโอวนั่งอยู่ริมแม่น้ำ ทอดสายตาไปยังป่าเขาแสนบริสุทธิ์อันไร้ร่องรอยของเหล่ามนุษย์ ทำให้จิตใจของเขาสงบขึ้นเรื่อยๆ เขาหลับตาลงและควบคุมจิตสำนึกดำดิ่งสู่ท้องมหาสมุทร
จิตสำนึกแห่งโพไซดอนตื่นขึ้นมาเห็นปลาแฟงค์ทูธฝูงหนึ่งเป็นอย่างแรก นี่เป็นปลาพันธุ์ที่ฉินสือโอวเพิ่งจะย้ายมันลงมาที่ชายขอบของฟาร์มปลาได้ไม่นาน ตรงนี้มีความลึกสี่ร้อยกว่าเมตร พวกมันเป็นปลาทะเลน้ำลึกแม้ว่าจะได้รับการปรับแต่งด้วยพลังโพไซดอนแล้ว แต่พวกมันก็ยังคงชอบที่จะอยู่ในเขตที่น้ำค่อนข้างลึกอยู่ดี
ไม่มีอะไรน่าดูไปกว่าน่านน้ำแนวปะการังอีกแล้ว ที่นั่นเป็นที่ที่ฟาร์มปลาเจริญเติบโตมากที่สุด ห่วงโซ่อาหารนั้นสมบูรณ์แบบ ทุกๆ ชีวิตมีอาหารเพียงพอไม่ว่าจะเป็นแพลงก์ตอนหรือเหล่าปลาตัวใหญ่
เมื่อเทียบกับน่านน้ำอื่นๆ แล้ว ปลาค็อดรอบๆ แนวปะการังนั้นเติบโตเร็วที่สุด ในระยะเวลาเพียงสองเดือน พวกมันสามารถโตได้ถึงเจ็ดสิบแปดสิบเซนติเมตร ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่น่าทึ่งมาก
นอกจากปลาค็อดแล้ว ปลาชนิดอื่นๆ ก็เติบโตได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน ปลาทูน่าครีบน้ำเงินตัวที่ใหญ่ที่สุดนั้นยังสามารถโตได้อีกยี่สิบกว่าเซนติเมตร ความยาวของมันตอนนี้ประมาณสองเมตรยี่สิบเซนติเมตรเห็นจะได้ ซึ่งมันน่าจะทำลายสติโลกไปแล้วด้วย
หอยนมสาวทะเลยักษ์ก็แฮปปี้ดี เนื่องจากสโนว์บอลได้รับคำแนะนำจากฉินสือโอวจึงได้ทำการอนุรักษ์มันไว้ โดยการไล่พวกปลาและปูเสฉวนที่เข้าใกล้มันออกไป ไม่อย่างนั้นแล้วมันก็คงจะถูกบุกรุก ถูกแย่งที่อยู่อาศัยด้วยนิสัยเสียเกียจคร้านแต่กำเนิดของมันไปนานแล้ว
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ฉินสือโอวสงสัย เจ้าสโนว์บอลนั้นโตช้ามาก มันโตขึ้นแค่เจ็ดสิบถึงแปดสิบเซนติเมตรเอง แต่ว่าผิวของมันนั้นเนียนละเอียดและเงางาม ถ้ามันลอยอยู่เฉยๆ ในน้ำคงจะเหมือนกับงานศิลปะที่แกะสลักจากหยก ทั้งสวยงามและน่าทึ่ง
เมื่อสัมผัสได้ถึงจิตสำนึกแห่งโพไซดอน เจ้าสโนว์บอลก็ปล่อยฟองอากาศออกมาสามสี่ฟอง แล้วสะบัดครีบออกตามหาฉินสือโอวทันที แต่หลังจากที่มันว่ายวนไปวนมาอยู่ในท้องทะเลที่ถูกควบคุมโดยจิตสำนึกแห่งโพไซดอนแล้วไม่พบเจอใคร มันก็รู้สึกผิดหวังและว่ายมุดลงสู่ท้องทะเลไป
ฉินสือโอวปลอบมันอยู่สักพักและคิดว่าถ้าลงจากเขาไปแล้วคงต้องแวะไปเล่นกันกับเจ้าสโนว์บอลเสียหน่อย มันอยู่ในทะเลตัวคนเดียวไม่มีเพื่อนคงจะเหงาน่าดู
ฉินสือโอวเฝ้ารอให้แม่ของเจ้าสโนว์บอลกลับมาหรือไม่ก็เจ้าสโนว์บอลตามหาแม่ของมันเจอ แต่มันก็ไม่เคยเป็นจริงขึ้นมาเลย นึกย้อนไปถึงครั้งแรกที่ได้เจอกับเจ้าสโนว์บอลกับบาดแผลบนตัวมัน เขาคาดเดาไม่ถูกเลยว่าแม่ของเจ้าสโนว์บอลจะมีชะตากรรมอย่างไร
เจ้าปลาทูน่าครีบเหลืองไม่อยู่อีกแล้ว ฉินสือโอวจึงเคลื่อนย้ายจิตสำนึกโพไซดอนไปอยู่บนตัวพวกมันแทนแล้วก็ได้พบว่าพวกมันอยู่ห่างจากฟาร์มปลาออกไปถึงสองสามร้อยไมล์ทะเล ด้านหน้ามีปลาแมคเคอเรลเหลืออยู่ครึ่งตัว คาดว่าก่อนหน้าที่ฉินสือโอวจะมาถึงพวกมันคงกำลังกินกันอยู่
ฉินสือโอวปล่อยให้มันกินต่อไป แล้วพาตัวเองเที่ยวเล่นไปรอบๆ
ที่นี่คือทะเลเขตน้ำลึก แสงส่องไม่ถึง ท้องทะเลบริเวณนี้จึงทั้งมืดมิดและหนาวเย็น ที่ก้นทะเลมีปะการังรูปร่างแปลกประหลาดและหินขรุขระเหมือนอยู่ในนรกอย่างไรอย่างนั้น
มีสิ่งมีชีวิตอีกมากมายที่อยู่นอกเหนือสิ่งที่มนุษย์รู้ สาหร่ายทะเลน้ำลึกสีแดงลอยละล่องไปมา พวกมันเปรียบเสมือนกับพวกยิปซีในทะเล ล่องลอยไปตามกระแสใต้น้ำ อยู่ที่ใดที่หนึ่งได้ไม่นานโดยเฉพาะที่ก้นทะเล เนื่องจากที่นี่ไม่มีแสงแดดที่พวกมันใช้ในการดำรงชีวิต
และเนื่องจากไม่ค่อยมีสาหร่ายให้กินปลาน้ำลึกส่วนมากจึงเป็นปลาที่กินเนื้อเป็นอาหาร ปลากินพืชและปลากินที่ทั้งพืชทั้งเนื้อพบเห็นได้น้อยมาก ยิ่งไปกว่านั้นปลาน้ำลึกส่วนใหญ่ล้วนเป็นปลาตัวใหญ่ทั้งสิ้น ส่วนฉลามก็สามารถพบเห็นได้บ่อยในแถบนี้เช่นกัน
หลังจากล่องลอยอยู่ครู่หนึ่งฉินสือโอวก็พบกับกลุ่มฉลามมะนาวสี่ห้าตัวกับลูกๆ ของพวกมันกำลังออกล่า พวกมันล้อมปลาแซลมอนโคโฮหลายสิบตัวไว้แล้ว
มันเหมือนสิงโตตัวเมียในทุ่งหญ้าแอฟริกาที่กำลังสอนให้ลูกสิงโตออกล่า ฉลามมะนาวตัวใหญ่ล้อมเอาไว้ทั้งสี่ด้านและให้ลูกฉลามบุกโจมตีเข้าไปตรงกลาง
เหล่าฉลามน้อยยังไร้เดียงสา พวกมันไล่ตามปลาแซลมอนอยู่ครู่หนึ่งแล้วรู้สึกสนุกดีจึงเปลี่ยนจากการล่าเป็นการแกล้งให้ตกใจแทน
แต่เวลาแห่งความสนุกก็อยู่ได้ไม่นาน เมื่อจู่ๆ ก็มีฉลามท่าทางดุร้ายโผล่ขึ้นมาด้านข้างจากทางด้านหลัง เมื่อเปรียบเทียบกับฉลามมะนาวที่ลำตัวยาวไม่ถึงสามเมตรแล้ว ฉลามสองตัวที่ยาวเจ็ดแปดเมตรนี้น่ากลัวกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย
เมื่อรู้ว่าฆาตกรตัวจริงมาถึงแล้วเหล่าปลาแซลมอนก็ยิ่งพากันโกลาหลอลหม่านกันเข้าไปใหญ่ ส่วนแม่ฉลามมะนาวก็รีบพาลูกน้อยหนีไอย่างรวดเร็ว
ดูจากรูปร่างของเจ้าบึ้กนี้แล้วล่ะก็ ฉินสือโอวก็รู้ได้ทันทีว่านี่คือฉลามขาวผู้โด่งดัง
ฉลามขาวเป็นหนึ่งในสามของฉลามที่อันตรายที่สุดในโลก มีข่าวว่าพวกมันจู่โจมมนุษย์ออกมาทุกปี แค่นี้ก็พอจะรู้แล้วใช่ไหมว่าพวกมันดุร้ายแค่ไหน
แต่ในความเป็นจริงเมื่อเทียบกับหมาป่าหรือว่าเสือที่อยู่บนบก ฉลามขาวนั้นถือว่าค่อนข้างอ่อนโยนแล้ว พวกมันจะไม่โจมตีสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่เช่นมนุษย์ถ้าไม่ถูกยั่วยุหรือหิวโหย
และแน่นอนว่าสำหรับปลาในท้องทะเล พวกมันไม่ได้สุภาพขนาดนั้น พี่บึ้กทั้งสองพุ่งเข้าใส่ฝูงปลาแซลมอน พวกมันอ้าปากกว้างโจมตีไปทั่วสารทิศและงับเอาปลาแซลมอนหลายตัวเข้าปากไปในเวลาอันรวดเร็ว
ยังมีปลาแซลมอนที่ยังไม่ถูกกินอยู่อีกจำนวนหนึ่ง แต่จู่ๆ ฉลามขาวทั้งสองก็ว่ายไปอีกทิศทางหนึ่งอย่างรวดเร็ว ฉินสือโอวตามไปเพราะอยากรู้ว่าเจ้าพวกนี้ปกติทำอะไรบ้าง
หลังจากการดำน้ำมาครู่หนึ่งฉลามทั้งสองก็ชะลอความเร็วลงและจดจ้องไปทางด้านหน้า
ฉินสือโอวเห็นว่าด้านหน้าก็มีฉลามตัวใหญ่อีกตัวหนึ่ง
ที่บอกว่าตัวใหญ่ ความจริงแล้วมันคือฉลามขนาดประมาณสามเมตรครึ่ง ซึ่งเมื่อเทียบกับฉลามขาวแล้วยังถือว่าตัวเล็กอยู่มาก
ฉลามตัวนี้มีลำตัวสีเทาเข้มและค่อยๆ อ่อนลงเรื่อยๆ จนถึงบริเวณท้องซึ่งจะเป็นสีขาว รูปร่างหน้าตาเหมือนจะดุร้าย มันมีครีบหลังขนาดใหญ่ถึงสองครีบ ครีบที่อยู่ด้านหน้าจะยาวเป็นพิเศษ หางก็ยาวมากเช่นกัน
ฉินสือโอวมองดูอยู่สักพักก็จำได้ว่ามันคือฉลามเสือทรายซึ่งเป็นปลาที่มีในมหาสมุทรแอตแลนติกเท่านั้น
อย่างที่ทราบกันดีว่าปลาตระกูลใหญ่อย่างฉลามเสือนี้สามารถพบเห็นได้ทั่วไปในน่านน้ำทั่วโลก ยกเว้นมหาสมุทรแอตแลนติกและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน สองแห่งนี้ไม่มีฉลามเสือพันธุ์แท้
อย่างไรก็ตามในมหาสมุทรแอตแลนติกมีฉลามเสือวงศ์ตระกูลรองอยู่ชนิดหนึ่ง นั่นก็คือฉลามเสือทรายหรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าฉลามฟันกรวย ฉลามฟันง้าวหรือไม่ก็ฉลามง้าว
ฉลามเสือทรายตัวนี้กำลังคลอดลูกและมีเลือดออกมาพร้อมกับฉลามตัวน้อยด้วย คาดว่าฉลามขาวสองตัวนี้คงว่ายตามกลิ่นเลือดมา
แม้จะเผชิญหน้ากับฉลามขาว แต่แม่ฉลามเสือทรายตัวนี้กลับไม่รู้สึกหวาดกลัวเลยสักนิด อันที่จริงแล้วพวกมันเป็นปลาที่กล้าหาญมาก ดูจากรูปลักษณ์ภายนอกก็สามารถรับรู้ได้ จมูกแหลมยาว ดวงตาเล็กและดุร้าย เพียงอ้าปากก็จะเห็นฟันที่น่ากลัวกว่าเคียวเสียอีก
ด้านข้างของแม่ฉลามเสือทรายมีลูกฉลามเสือทรายที่เพิ่งคลอดความยาวประมาณสี่สิบเซนติเมตรเห็นจะได้ เนื่องจากฉลามออกลูกเป็นตัวและตอนที่พวกมันอยู่ในท้องพวกมันก็กินกันเอง ดังนั้นพวกมันจึงมีความสามารถในการล่าติดตัวมาตั้งแต่เกิด
เพียงแต่ว่าตอนนี้มันสามารถล่าได้เพียงแค่ปลาตัวเล็กๆ เท่านั้น สำหรับคู่ต่อสู้อย่างสัตว์ประหลาดตัวบึ้กอย่างฉลามขาวแล้ว พวกมันยังไม่มีแรงงับที่มากพอจะฝังฟันของมันลงไป
ฉลามเสือทรายออกลูกได้สองถึงสี่ตัวต่อครั้ง ตอนนี้เห็นแค่หนึ่งตัวหมายความว่ายังมีฉลามตัวน้อยอีกอย่างน้อยหนึ่งตัวที่ยังไม่คลอดออกมา
ดูเหมือนว่าฉลามขาวสองตัวนั้นก็รู้ข้อนี้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นพวกมันถึงได้ไม่รีบเข้าไปโจมตี เพียงแต่หันหน้าเข้าหาฉลามเสือเสือในรูปตัววีแทน ดวงตาของพวกมันดุร้ายแต่ก็แฝงไปด้วยความหยอกล้อ
หน้าท้องของแม่ฉลามเสือทรายเปิดออกอีกครั้งพร้อมกับลูกฉลามตัวน้อยที่ค่อยๆ โผล่ออกมาอย่างช้าๆ
ฉลามขาวเริ่มแกว่งหางของมันด้วยความตื่นเต้น นี่คือสัญญาณเริ่มการโจมตีของพวกมัน
ตอนที่ฉลามเสือตัวน้อยปรากฏตัวออกมา ฉินสือโอวตกตะลึงเล็กน้อย เพราะลำตัวของมันเป็นสีขาวซึ่งแตกต่างจากแม่ของมันอย่างสิ้นเชิง โชคดีที่พ่อของมันไม่ได้อยู่แถวนี้ มิฉะนั้นพ่อของมันคงจะลงไม้ลงมือกับแม่ของมันแล้วถามว่าไปมีชู้รึเปล่าเป็นแน่
…………………………………..

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset