หลังจากนั้นสองวัน ราชาซิมบ้าก็พยายามเรียกร้องความสนใจ ฉินสือโอวเดาว่ามันคงเป็นความภาคภูมิใจของแมวป่า ที่แอบอ้างบารมีของผู้อื่นมาข่มเหงผู้ที่ด้อยกว่าได้ โดยมันเป็นแมวที่เอาความโหดร้ายน่ากลัวของหมีมาใช้ ขอแค่ฉงต้าออกเดินทาง มันก็จะนอนบนไหล่หรือหลังของฉงต้าเพื่อให้คนอื่นๆ หวาดกลัว
น่าเสียดายที่ฉงต้าขี้เกียจมากเกินไป นอกจากตอนที่หู่เป้าหลัวปอทะเลาะกันแล้ว ก็จะมีเพียงฉินสือโอวและวินนี่เท่านั้นที่จะพามันออกกำลังกายซึ่งตอนนั้นมันถึงจะวิ่ง ส่วนเวลาอื่นๆ มันก็จะหาที่ซ่อนและนอนหลับ
ฉินสือโอวไม่เข้าใจว่าหมีตัวนี้นอนเยอะแบบนี้มาจากไหน? เมื่อก่อนเขาเคยคิดว่าหมีเป็นสัตว์ที่ขี้เกียจมากและโดยปกติถ้าไม่มีอะไรทำถึงจะนอน
แต่หลังจากที่เขาค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตก็พบว่าหมีสีน้ำตาลโคดิแอคค่อนข้างขยัน เพราะพวกมันมีความอยากอาหารมากและต้องเดินหาอาหารตลอดเวลา ไม่อย่างนั้นพวกมันก็จะหิว
ดังนั้นขนาดตัวของหมีสีน้ำตาลโคดิแอคจึงค่อนข้างแข็งแรง กำลังในการต่อสู้จึงแข็งแกร่งเป็นพิเศษ พวกมันแทบจะใช้ชีวิตอยู่ในป่าเขาอเมริกาเหนือได้อย่างไม่มีอันตรายใดๆ เช่น ถ้าหากพวกมันเจอ เสือพูม่า หมาป่าสีเทา หมูป่าและเสือชีตาห์ พวกมันก็จะวิ่งหนี
ปลายเดือนมีนาคม งานแสดงสินค้าอาหารทะเลที่อัมสเตอร์ดัมกำลังจะเริ่มขึ้น บัตเลอร์มีคุณสมบัติที่จะได้เข้าร่วมนิทรรศการในครั้งนี้จึงขอให้ฉินสือโอวพาวินนี่และลูกไปเที่ยวเนเธอร์แลนด์สักครั้งด้วยกัน
วินนี่ส่ายหัวแล้วบอกว่าเธอจะไม่ไป ให้ฉินสือโอวไปดูด้วยตัวเองก็พอ เธออยากอยู่บ้านดูแลลูกและเถียนกวาก็ยังเล็กเกินไปที่จะนั่งเครื่องบิน
ดังนั้นฉินสือโอวจึงทำได้เพียงพาเบิร์ดและนีลเซ็นไปทำหน้าที่เป็นบอดี้การ์ดในการออกเดินทางครั้งนี้ เซนต์จอห์นมีเที่ยวบินตรงไปยังอัมสเตอร์ดัม ซึ่งมันค่อนข้างที่จะสะดวกมาก
อัมสเตอร์ดัมเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเนเธอร์แลนด์และตั้งอยู่ในนอร์ทฮอลแลนด์ของเนเธอร์แลนด์ ซึ่งชื่อนี้มาจากคำว่าอัมสเทลรวมกับคำว่าดัม เป็นเขื่อนที่ตั้งอยู่แม่น้ำอัมสเทล ซึ่งก็คือที่ตั้งของดามสแควร์ในปัจจุบัน
ก่อนศตวรรษที่ 12 อัมสเตอร์ดัมเป็นเพียงหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ แต่หลังจากการพัฒนาทางการค้าแล้ว ก็ทำให้เมืองนี้กลายเป็นเมืองท่าที่สำคัญของโลกในช่วงยุคทองของเนเธอร์แลนด์ ในยุคนั้นอัมสเตอร์ดัมเป็นศูนย์กลางของการเงินและเพชร
ปัจจุบันตำแหน่งของมันก็ยังคงสำคัญมาก เพราะเป็นสนามบินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสี่ในยุโรปรองาจากลอนดอน ปารีสและแฟรงก์เฟิร์ต
หลังจากเครื่องบินลงจอดที่สนามบิน ฉินสือโอวก็เดินแบกกระเป๋าเดินทางออกมาและมีรถแท็กซี่จอดอยู่ตรงหน้าเขา คนขับยื่นหัวออกมาและใช้ภาษาอังกฤษถามอย่างเชี่ยวชาญว่า “เฮ้ เพื่อน คุณจะไปไหน?”
ฉินสือโอวจึงบอกชื่อของโรงแรม ซึ่งเป็นที่อยู่ที่บัตเลอร์ให้เขาไว้และบอกว่าได้จัดการการเดินทางไว้ให้เขาแล้ว
เมื่อได้ยินชื่อโรงแรม ‘กลิ่นหอมของดอกทิวลิป’ คนขับรถวัยกลางคนก็หัวเราะขึ้นและพูดว่า “ผมคิดว่าคุณต้องเป็นคนจีนแน่ๆ เลย ใช่มั้ย?”
“หรือว่าสำเนียงของผมติดแบบจีนมาเหรอครับ?” ฉินสือโอวถาม
คนขับรถวัยกลางส่ายหัวพร้อมกับหัวเราะแล้วพูดว่า “ไม่ใช่ นักท่องเที่ยวจากทางฝั่งตะวันออก จะชอบพักที่โรงแรมกลิ่นหอมของดอกทิวลิปและส่วนใหญ่จะเป็นคนจีน แจ็ค เฉิน กังฟูมังกร เขาเคยถ่ายทำภาพยนตร์ที่นั่น หนังเรื่องนี้ชื่อ “ฉันคือใคร” คุณน่าจะรู้จักดีใช่ไหม?”
ฉินสือโอวพยักหน้าแล้วพูดว่า “ใช่ ผมรู้จัก ผมเคยดูหนังเรื่องนี้ ที่แท้ก็ถ่ายทำที่อัมสเตอร์ดัมนี่เอง? โอ้ โปรดยกโทษให้ผมด้วย ตอนที่ผมดูหนังเรื่องนี้ผมยังเด็กมากและขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโลก”
เขาดูหนังเรื่องนี้ตอนที่เขาอยู่ชั้นประถม ซึ่งตอนนั้นแม้แต่นิวยอร์กหรือลอสแอนเจลิสเขาก็ยังไม่รู้จักเลยด้วยซ้ำ แล้วจะไปรู้จักอัมสเตอร์ดัมได้จากที่ไหน
หลังจากรอให้นีลเซ็นและเบิร์ดขึ้นรถแล้ว คนขับรถก็เริ่มแนะนำสถานการณ์ในภาพยนตร์เรื่อง “ฉันคือใคร” ในอัมสเตอร์ดัมอย่างกระตือรือร้น
ฉินสือโอวไม่เคยรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องมาก่อน หลังจากฟังคำแนะนำของคนขับแล้วถึงรู้ว่าเฉินหลงมีชื่อเสียงมากในอัมสเตอร์ดัมและยังเกือบเทียบเท่ากับซูเปอร์สตาร์ชั้นนำของฮอลลีวูด
ขณะที่ถ่ายทำ “ฉันคือใคร” ในตอนนั้นรัฐบาลของเมืองอัมสเตอร์ดัมได้ให้สิทธิพิเศษเป็นอย่างมาก ในช่วงวันที่สาม สี่และห้าตุลาคม รัฐบาลเมืองได้กำหนดว่าจะปิดถนนสายหลักนอกเมืองท่าเป็นเวลาหกชั่วโมงต่อวัน แม้แต่ทางด่วนรถหกเลนนอกอาคารเทศบาลยังถูกปิดเพื่อให้พวกเขาได้ยืมสถานที่ถ่ายทำ
กองทัพเรือเนเธอร์แลนด์ส่งทหารกว่าสามร้อยนายเข้าร่วมการแสดงรวม ทั้งทหารกองทัพบกและกองทัพเรือ มนุษย์กบ รถทหารและเครื่องบินรบอเนกประสงค์ ยิ่งไปกว่านั้นยังจัดอาหารและเครื่องดื่มให้โดยไม่คิดค่าตอบแทน
หลังจากออกนอกต่างประเทศ ฉินสือโอวก็พบว่ามีโฆษณาหลายตัวในประเทศจีนที่แตกต่างกับต่างประเทศ เฉินหลงมีชื่อเสียงธรรมดามากในประเทศจีน เพราะเรื่องเซียวเหล่งนึ่งและเรื่องจุกจิกของลูกชาย จึงทำให้แฟนหนังรุ่นใหม่จำนวนมากไม่ให้ความสนใจเขา
แต่ในต่างประเทศเฉินหลงกลับโด่งดังมาก แม้แต่ในฮอลลีวูด เขายังเป็นนักแสดงชื่อดังที่ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างมากอีกด้วย แต่ที่อัมสเตอร์ดัม เฉินหลงเป็นเพียงชื่อที่ใช้แทนภาพยนตร์จีนและกังฟูของจีนเท่านั้น
ดอกทิวลิปเป็นดอกไม้ประจำชาติของเนเธอร์แลนด์ หลังจากนั่งแท็กซี่เข้าเมืองแล้วจะมีสวนสาธารณะปรากฏขึ้นไปทั่วทุกที่และมีดอกทิวลิปที่กำลังเจริญเติบโตงอกงามอยู่ภายในสวน
คนขับรถแนะนำสายพันธุ์ของดอกไม้เหล่านี้ให้พวกเขารู้จักอย่างกระตือรือร้น แต่ฉินสือโอวก็ยังแยกแยะไม่ออก เพราะดอกไม้ที่เขาเห็นคือดอกไม้สีเหลืองทองที่เจริญงอกงามและผลิบานในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ ทำให้เมืองนี้เต็มไปด้วยความอบอุ่นและมีชีวิตชีวา
ในที่สุดรถก็มาจอดที่หน้าประตูของโรงแรมขนาดใหญ่ที่ดูเหมือนจะมีอายุหลายปี คนเฝ้าประตูช่วยเปิดประตูให้ ฉินสือโอวจึงยื่นธนบัตรสิบยูโรให้เขา จู่ๆ คนเปิดประตูก็ยิ้มแย้มขึ้นทันที จากนั้นก็ช่วยถือกระเป๋าและส่งขึ้นไปชั้นบน
ฉินสือโอวไม่ได้ขึ้นไปชั้นบน เขายืนอยู่ที่จัตุรัสหน้าโรงแรมพร้อมกับมองดูไปรอบๆ เพราะเพิ่งมาเนเธอร์แลนด์เป็นครั้งแรก เขาจึงยังคงประหลาดใจเป็นอย่างมาก
ฝั่งตรงข้ามของโรงแรมมีตึกที่ยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์และไปข้างหน้าอีกหน่อยทั้งสองข้างทางก็เป็นตึกสูงโออ่าตระการตา ฉินสือโอวรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยเขาจึงถามคนเฝ้าประตูว่า “ตึกพวกนั้นเคยเป็นที่อยู่อาศัยของคนมีชื่อเสียงใช่ไหม?”
“ไม่ใช่ครับคุณผู้ชาย นั่นเป็นบทเรียนในประวัติศาสตร์ ครั้งหนึ่งเคยเป็นเขตที่อยู่อาศัยของชาวยิวก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งฝั่งตรงข้ามจะเป็นโบสถ์อันเจริญรุ่งเรืองของศาสนายิว” คนเฝ้าประตูพูดอย่างระมัดระวัง
จากนั้น คนเฝ้าประตูก็เล่าเรื่องประวัติศาสตร์ช่วงหนึ่งให้ฉินสือโอวฟัง
ในวันที่ 10 พฤษภาคม ค.ศ.1940 นาซีเยอรมันได้บุกเนเธอร์แลนด์ ชาวเยอรมันจึงได้จัดตั้งระบอบการปกครองนาซีขึ้นในอัมสเตอร์ดัมและเริ่มกดขี่ข่มเหงชาวยิว แม้ว่าพลเมืองบางส่วนจะฝ่าฝืนกับความอันตรายในการปกป้องชาวยิว แต่สุดท้ายชาวยิวที่มีสัญชาติดัตช์มากกว่าหนึ่งแสนคนก็ถูกควบคุมตัวในค่ายกักกันและมีชาวยิวที่มีสัญชาติดัตช์เพียงห้าพันคนเท่านั้นที่รอดชีวิต
ในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่สอง การสื่อสารระหว่างอัมสเตอร์ดัมและภูมิภาคอื่นๆ ถูกตัดขาดทั้งหมด อาหารและเชื้อเพลิงก็ขาดแคลนเป็นอย่างมากเช่นกัน ในช่วงฤดูหนาวต้นไม้จำนวนมากในเมืองจึงถูกประชาชนตัดโค่นเพื่อไปทำฟืน บ้านของชาวยิวถูกทำการรื้อถอนก่อนและต่อมาก็รื้อไปจนถึงโบสถ์อันเจริญรุ่งเรือง แม้ว่าศาสนิกชนจะพยายามปกป้องกันอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม แต่ต้นไม้ส่วนใหญ่ก็ถูกปล้นจนหายไปในพริบตา
หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง รัฐบาลเมืองอัมสเตอร์ดัมรู้สึกอับอายกับเรื่องนี้มาก จึงรักษาโบสถ์ที่ไม่สามารถใช้งานนี้ไว้เพื่อเป็นบทเรียน โดยหวังว่าผู้คนจะควบคุมตัวเองและรักษามโนธรรมได้
คนเฝ้าประตูเห็นว่าฉินสือโอวสนใจโบสถ์เก่าแก่มากและคิดว่าเขาคงชอบสิ่งปลูกสร้างที่มีความเก่าคร่ำครึนี้ จึงแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวสองสามแห่งให้เขา
อัมสเตอร์ดัมได้อนุรักษ์ตึกเก่าแก่จำนวนมาก หลังสงครามโลกครั้งที่สอง เมืองนี้เคยถูกพยายามรื้อถอนและสร้างใหม่ บริเวณที่อยู่อาศัยของชาวยิวในช่วงก่อนสงครามถูกรื้อออกจนหมดและถนนแคบๆ ในบางพื้นที่อย่างถนนยูดาห์ก็ถูกรื้อถอนด้วยเช่นกัน
การรื้อถอนตึกเก่าแก่ทำให้ประชาชนส่วนหนึ่งเกิดความไม่พอใจและทำให้เกิด “การจลาจลในจัตุรัสใหม่” ในที่สุด ต่อมาการประท้วงของประชาชนก็ได้ผล การรื้อถอนและการสร้างขยายถนนก็ถูกยุติลงและมีเพียงแค่การก่อสร้างรถไฟใต้ดินอย่างต่อเนื่องเท่านั้น นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันตึกเก่าแก่และทัศนียภาพของเมืองอีกด้วย
………………………………………………
ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1029 กลิ่นหอมของดอกทิวลิป
Posted by ? Views, Released on November 8, 2021
, ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา
ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท
หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง
แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้
นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา
แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี
นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก
จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน
กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี
ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป
ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’
ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา
จากนั้นมา…
จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้
และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!