ฉินสือโอวรู้สึกว่ารัฐบาลของอัมสเตอร์ดัมทำแบบนี้แล้วส่งผลดีมาก ทำให้คนรุ่นหลังและชาวต่างชาติมีโอกาสได้เข้าใจประวัติศาสตร์ของตัวเอง
ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมโลกที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดคือประเทศจีน ซึ่งก็คือสี่ยอดสิ่งประดิษฐ์อันยาวนาน ซึ่งจีนพัฒนาได้ดีกว่าอียิปต์โบราณ บาบิโลนและอินเดียโบราณ โดยจีนทิ้งความยิ่งใหญ่เอาไว้เป็นเวลากว่าห้าพันปี
แต่ปัจจุบัน จีนได้แนะนำวัฒนธรรมของตนเองและยิ่งกว่านั้นคือตามบันทึกโบราณและการฟื้นฟูสถาปัตยกรรมสมัยใหม่เป็นวัตถุที่ขาดความชัดเจน นี่จึงเป็นสิ่งที่น่าเสียดายเป็นอย่างมาก
กลิ่นหอมของดอกทิวลิปเป็นโรงแรมระดับห้าดาว ภายในจะมีห้องนั่งเล่นที่ถูกเปลี่ยนให้เป็นห้องจัดแสดงนิทรรศการโดยเฉพาะ และภายในห้องจะมีข้อมูลที่ถูกบันทึกไว้เมื่อตอนที่เฉินหลงมาถ่ายทำภาพยนตร์ในอัมสเตอร์ดัม มีภาพถ่ายและอุปกรณ์ประกอบฉากมากมาย นอกจากนี้ยังเล่ากันอีกว่าภาพยนตร์ต้นฉบับในตอนนั้นก็ยังถูกเก็บไว้ที่นี่อีกด้วย
งานแสดงสินค้าอาหารทะเลในครั้งนี้จะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้เท่านั้น ฉินสือโอวจึงมาถึงก่อนหนึ่งวันเพื่อพักผ่อน
แต่สมรรถภาพร่างกายของเขาก็เหมือนกับสัตว์ป่า แถมนีลเซ็นและเบิร์ดก็เป็นเหมือนไทแรนโนซอรัสที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์มากกว่า เมื่อมาถึงอัมสเตอร์ดัมแล้วพวกเขาจะมาเอาแต่เอนหลังนอนไม่ได้ หลังจากทั้งสามคนวางกระเป๋าลงแล้วจึงไปล้างหน้าล้างตาและตัดสินใจกันว่าจะออกไปเดินเล่น
อัมสเตอร์ดัมมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย รวมถึงเครือข่ายคลองประวัติศาสตร์ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเนเธอร์แลนด์ พิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะ บ้านแอนน์ แฟร้งค์และอื่นๆ เป็นต้น ว่ากันว่าทุกปีจะมีนักท่องเที่ยวมากกว่าสี่ล้านคนมาเที่ยวชมที่นี่
ในฐานะที่เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเนเธอร์แลนด์ อัมสเตอร์ดัมผ่านกระบวนการพัฒนาจากหมู่บ้านชาวประมงไปสู่มหานครเมือง ผ่านความรุ่งเรืองและการทำลายล้าง รวมถึงการล้างบาปของสงครามโลก ถ้ามองในระดับที่มั่นคงแล้ว ประวัติพวกนี้ก็ยังเป็นเพียงแค่ส่วนเล็กๆ ในประวัติศาสตร์ของเนเธอร์แลนด์เท่านั้น
หลังจากที่พวกเขามาถึงโรงแรมได้ไม่นาน บัตเลอร์ก็รีบมาทันที บัตเลอร์สวมเสื้อผ้าสไตล์ฮิปฮอป มีโซ่สีทองขนาดใหญ่คล้องคอ ใส่แว่นกันแดดและสวมแหวนทั้งสิบนิ้วลวดลายไม่ซ้ำกัน ถ้าเจอคนแบบนี้ที่เซนต์จอห์นคงจะคิดว่าเป็นพวกคนที่สามารถจัดการกับพวกนักเลงได้
หลังจากบัตเลอร์เคาะประตูและเข้ามาในห้อง เขาก็บิดเอวไปมาพร้อมกับกระโดดโลดเต้นอย่างตื่นเต้นทันที หน้าผากของฉินสือโอวมีเหงื่อผุดออกมา เขาพูดอย่างจนปัญญาว่า “บัตเลอร์ โซ่ทองที่คุณใส่หนากว่าข้อมือลูกสาวผมอีก นี่คุณไม่รู้สึกเหนื่อยบ้างเลยเหรอ?”
สีหน้าของลุงหนวดทำเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น “นี่สิถึงจะเรียกว่าตัวตน! ฉิน สิ่งนี้สามารถแสดงความเป็นเอกลักษณ์ในตัวฉันได้อย่างชัดเจน!”
ฉินสือโอวยักไหล่ใส่ โอเค ผมยอมแพ้คุณแล้ว
บัตเลอร์เห็นฉินสือโอวและลูกน้องแต่งตัวกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ก็รู้แล้วว่าพวกเขาต้องการจะทำอะไร เขาเคยมาอัมสเตอร์ดัมหลายครั้ง เพราะที่นี่เป็นที่ตั้งของตลาดอาหารทะเลที่สำคัญในยุโรป ดังนั้นจึงคุ้นเคยกับเส้นทางจุดชมวิวอยู่บ้างและสามารถเป็นไกด์ให้กับหลายๆ คนได้
สมกับที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองแห่งดอกทิวลิป ตั้งแต่เดินออกจากโรงแรม กลิ่นหอมของดอกทิวลิปก็ยังคงปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่มีหยุด
บัตเลอร์ซื้อหัวดอกทิวลิปราคาสิบสองยูโร ซึ่งมันมีลักษณะเหมือนกับหัวหอม ฉินสือโอวถือเอาไว้ในมือและสงสัยว่าของสิ่งนี้ประโยชน์อะไร บัตเลอร์จึงอธิบายว่านี่เป็นผลิตภัณฑ์ประจำท้องถิ่นของอัมสเตอร์ดัม พอเอาไปปลูกแล้วมันก็คือดอกทิวลิป นอกจากนี้ยังสามารถเอาไปทำอาหารได้อีกด้วย…
“โอ้ว้าว มันเต็มไปประโยชน์จริงๆ” ฉินสือโอวหยิบหัวดอกทิวลิปขนาดเท่ากำปั้นขึ้นมาดู แต่สุดท้ายเขาก็ยังไม่รู้จะเริ่มจัดการกับมันอย่างไรอยู่ดี
“หัวดอกทิวลิปสามารถใช้ทำเป็นอาหารได้จริงๆ มันอุดมไปด้วยน้ำ วิตามินและส่วนประกอบของแป้งข้าวโพดซึ่งมาถึงหกเท่าของเนื้อวัว พอกินเข้าไปแล้วจะมีความกรุบกรอบอยู่ในปาก แต่ถ้าโรยยี่หร่าลงไปด้วยเล็กน้อย ก็จะทำให้มีกลิ่นของเนื้อไก่” เบิร์ดกล่าว
นีลเซ็นยิ้มพร้อมกับผลักเขา แล้วพูดว่า “หัวของต้นพืชไม่ใช่แมลงนะแล้วนายก็ไม่ใช่แบร์ กริลด้วย!”
หลังจากเดินเล่นกันไปมาสักพัก บัตเลอร์ก็ถามว่า “นายอยากไปที่ไหน? เราจะเดินเตร็ดเตร่แบบนี้ไม่ได้นะ”
นีลเซ็นจึงฮึกเหิมขึ้นมาทันทีพร้อมกับตะโกนเสียงดังว่า “ย่านโคมแดง! ผมอยากไปย่านโคมแดง!”
ย่านโคมแดงในเนเธอร์แลนด์เป็นหนึ่งในสองสถานที่ที่ผู้ชายไปมากที่สุดในโลก ซึ่งอีกที่หนึ่งคือโตเกียวในช่วงที่อากาศร้อนมาก
เนเธอร์แลนด์มีผู้อพยพจำนวนมากเช่นเดียวกับแคนาดา เป็นเวลาหลายศตวรรษที่อัมสเตอร์ดัมเป็นเหมือนกับแม่เหล็กดึงดูดผู้คนที่ถูกกดขี่ข่มเหงจากประเทศต่างๆ ในยุโรปให้มาหาที่พักพิง โดยเฉพาะชาวยิวหรือคนนอกศาสนาจากฝรั่งเศสหรือประเทศคาทอลิกอื่นๆ
ชาวอัมสเตอร์ดัมเชื่อในศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกและนิกายโปรเตสแตนต์มาอย่างต่อเนื่อง สถานที่แห่งนี้จึงเป็นแหล่งหลอมรวมขนาดใหญ่ของกลุ่มชาติพันธุ์ที่แตกต่างกันมาโดยตลอด เนื่องจากประสบการณ์มากมายในการเจรจากับต่างประเทศและการค้าบ่อยครั้ง ทำให้สถานที่พิเศษบางแห่งเจริญรุ่งเรืองขึ้น ย่านโคมแดงจึงเป็นผลผลิตสูงสุดของอุตสาหกรรมเหล่านี้
แม้ว่าฉินสือโอวจะไม่ใช่นักพรต แต่อย่างไรก็ตามเขาก็เป็นชายที่มีความซื่อสัตย์ นอกจากนี้เขายังรู้สึกว่าการมีภรรยาที่น่ารักอยู่ในบ้าน จึงไม่จำเป็นต้องไปหาความสุขกับผู้หญิงอื่นข้างนอก ยิ่งกว่านั้นในย่านโคมแดงก็ไม่ใช่ที่ของหญิงสาวสวย
ทันทีที่นีลเซ็นพูดถึงย่านโคมแดง แม้แต่เบิร์ดชายนิสัยดีคนนี้ก็ยังแสดงท่าทางโหยหา เพราะอุตสาหกรรมในอัมสเตอร์ดัมได้รับการพัฒนาและมีชื่อเสียงไปทั่วโลก!
ฉินสือโอวจึงให้บัตเลอร์พาพวกเขาไปเที่ยวชม ส่วนตัวเขาจะเดินเล่นอยู่แถวๆ นี้ก็พอ
บัตเลอร์จ้างแท็กซี่ให้เขา แล้วพูดว่า “นายลองไปที่อนุสรณ์ของแวนโก๊ะดู ฉันจำได้ว่านายเคยขายภาพเหมือนของแวนโก๊ะหลายครั้งแล้วไม่ใช่เหรอ?”
ฉินสือโอวอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ แล้วพูดว่า “ลืมไปเถอะ นั่นมันไม่ใช่ภาพวาดของจริง มันเป็นแค่ของปลอมเท่านั้นเอง แต่การไปอนุสรณ์ของแวนโก๊ะก็ฟังดูไม่เลว เราจะต้องเพิ่มความรู้ทางวัฒนธรรมให้กับตัวเองซะหน่อย”
บัตเลอร์ชูโซ่ทองที่คล้องคอขึ้นพร้อมกับหัวเราะ แล้วพูดว่า “นี่คือความรู้ทางวัฒนธรรมของฉัน!”
อนุสรณ์ศิลปะแวนโก๊ะอยู่ห่างจากโรงแรมไปแค่ไม่กี่ช่วงตึก เป็นตึกที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความโรแมนติก ในขณะที่ฉินสือโอวไปซื้อตั๋วเขารู้สึกกลุ้มใจขึ้นมาเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าการขายตั๋วที่นี่จะแบ่งแยกเป็นประเทศ
ผู้เข้าชมจากประเทศนอกสหภาพยุโรปต้องซื้อตั๋วในราคาสิบยูโร ในขณะที่ผู้เข้าชมจากประเทศในสหภาพยุโรปจะซื้อตั๋วในราคาแค่ห้ายูโร
ฉินสือโอวไม่เข้าใจสาเหตุที่อนุสรณ์ตั้งวิธีการขายตั๋วแบบนี้ นอกจากนี้พนักงานขายตั๋วยังบอกเขาอีกว่าในขณะที่เข้าชมไม่สามารถสวมเสื้อคลุมได้ สามารถนำแค่ของส่วนตัวเข้ามาได้เท่านั้น
ดังนั้น ฉินสือโอวจึงเริ่มไม่สนใจแล้ว
เดิมทีเขาไม่สนใจภาพวาดสีน้ำมันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ขายผลงานต้นฉบับของแวนโก๊ะออกไป ตราประทับนั้นของอวี๋เชียนเขายังเก็บสะสมไว้เป็นอย่างดี ดังนั้นในเมื่อรู้สึกไม่สบายใจ เขาจึงไม่เข้าไปในอนุสรณ์ แต่กลับที่ศูนย์ของขวัญที่อยู่ข้างๆ แทน
ของที่ขายในศูนย์ของขวัญจะเป็นของเลียนแบบภาพวาดแวนโก๊ะในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโพสต์การ์ด โปสเตอร์และสิ่งของอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีงานแฮนด์เมดพิมพ์ลายภาพเช่นเสื้อยืด แก้ว ชุดเดรสและอื่นๆ
ฉินสือโอวจึงซื้อภาพเลียนแบบเซต ‘ทานตะวัน’ มาและยังมีภาพเหมือนตัวเองของแวนโก๊ะ มีทั้งคนที่มีหูและไม่มีหู อย่างไรซะราคาก็ไม่แพงและพื้นที่ว่างในวิลล่าก็ยังมีอีกมากมาย ถ้าเอากลับไปแขวนประดับตกแต่งคงจะดีมาก
ฉินสือโอวที่กำลังถือของที่ซื้อมาและเห็นว่ามีร้านกาแฟที่ตกแต่งอย่างสวยงามอยู่ริมถนน เขาจึงเดินเข้าไปแล้วสั่งกาแฟที่ต้องการดื่มมาหนึ่งแก้ว
เมื่อกาแฟมาเสิร์ฟให้ฉินสือโอว พนักงานผมบลอนด์สุดหล่อก็ยื่นที่วางบุหรี่ให้ฉินสือโอวแล้วถามว่า “อยากลองกลิ่นไหนครับ?”
ฉินสือโอวโบกมือพร้อมกับยิ้ม แล้วพูดว่า “ขอบคุณมากครับ แต่ผมไม่สูบบุหรี่”
หนุ่มหล่อชาวยุโรปตะวันออกก็ยักไหล่ใส่พร้อมกับเดินออกไป แต่ฉินสือโอวยังไม่ทันได้จิบกาแฟสักคำ ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลเทาคนหนึ่งก็เดินเข้าพร้อมกับหยิบกล่องบุหรี่ออกมา แล้วถามว่า “คุณครับ คุณอยากเพลิดเพลินกับช่วงเวลาที่ดีในตอนบ่ายไหมครับ?”
ฉินสือโอวเห็นว่าเด็กขายบุหรี่คนนี้อายุไม่เยอะ เขาจึงคิดว่าเขาคงทำงานพาร์ตไทม์หรือไม่ก็เป็นเพราะสถานะทางครอบครัวไม่ดีจึงออกมาทำงานนอกเวลา ดังนั้นเขาจึงช่วยซื้อบุหรี่ที่ดีที่สุดหนึ่งมวนในราคายี่สิบยูโรและยังมีกลิ่นมิ้นต์อีกด้วย
ผลก็คือทันทีที่เขารับบุหรี่ไป ชายรูปร่างสูงใหญ่สองคนก็กั้นเขาจากทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เมื่อเด็กชายเห็นสองคนนี้ก็หันหลังกลับเตรียมจะวิ่ง แต่มือของชายสูงใหญ่คนนั้นกลับเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วและควบคุมเด็กไว้ได้ในทันที
ฉินสือโอวคิดว่าพวกเขาเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยของร้านกาแฟหรือไม่ก็เป็นแก๊งมาเฟียท้องถิ่น เขาจึงลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า “เฮ้ นี่พวกคุณ…”
“คุณผู้ชาย คุณถูกจับแล้ว ผมคือตำรวจอัมสเตอร์ดัม” ชายร่างสูงใหญ่คนหนึ่งพูดอย่างเคร่งขรึมพร้อมกับถือใบรับรองในมือออกมาและในนั้นคือตราตำรวจเนเธอร์แลนด์ เมื่อเห็นเช่นนี้ ฉินสือโอวตกตะลึงทันที!
…………………………………………………
ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1030 คุณถูกจับแล้ว
Posted by ? Views, Released on November 8, 2021
, ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา
ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท
หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง
แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้
นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา
แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี
นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก
จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน
กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี
ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป
ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’
ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา
จากนั้นมา…
จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้
และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!