ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1046 จอมยุทธ์เทพอินทรีกางปีก

หลังจากใช้เต่ามะเฟืองหลอกไวส์อยู่พักหนึ่ง ฉินสือโอวก็เดินไปที่ชายหาดด้วยรอยยิ้มและเดินเล่นรับลมทะเลตอนพลบค่ำ
ไวส์ยืนอยู่ที่ชายหาดพักหนึ่ง ฉินสือโอวไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไร ผลคือเด็กคนนี้หลับตาลงนั่งยองๆ และพับขากางเกงขึ้น ก่อนจะกระโดดลงไปในน้ำเสียงดัง ‘ตู้ม’ แต่น้ำสูงไม่ถึงหัวเข่า!
ฉินสือโอวตกใจรีบเข้าไปดึงเขาขึ้นมาบนฝั่งและพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “นายกำลังทำอะไร อยากกระโดดทะเลฆ่าตัวตายหรือไง?”
ไวส์มีสีหน้าท้อแท้ เขาพึมพำกับตัวเองว่า “ผมเพิ่งจะรู้สึกถึงลมหายใจและคิดว่าตัวเองก็สามารถใช้วิชาตัวเบาได้อย่างเต็มที่แล้วเหมือนกัน”
ฉินสือโอวจะถูกเขาโกรธไม่ได้ วิชาตัวเบาที่ใช้ เขาก็ใช้เต่ามะเฟืองหลอกเหมือนกัน ก็เลยใช้มือลูบที่ผมของไวส์และพูดอย่างเอาจริงเอาจัง “พลังของนายตอนนี้ยังอ่อนเกินไป หนทางแห่งการฝึกฝนวิชาตัวเบายังห่างไกลนัก!”
ไวส์พูดอย่างจริงจัง “ผมรู้สึกได้ถึงลมหายใจแล้ว!”
หลังจากได้ยินคำพูดที่เต็มไปด้วยความไร้เดียงสาประโยคนี้ ของฉินสือโอวก็ยิ้มขึ้นมาในใจ รู้สึกถึงลมหายใจ แต่คำพูดนี้ไม่สามารถพูดได้ เขาก็เลยพูดว่า “สำหรับวิชาตัวเบา แค่รู้สึกถึงลมหายใจยังไม่พอ นายต้องฝึกฝนกำลังภายในตอนที่โตเป็นผู้ใหญ่ หลังจากที่ฝึกสำเร็จถึงจะทำได้”
ไวส์พยักหน้าอย่างเข้าใจในทันทีและมองไปข้างหน้าสักพักก่อนจะพูดด้วยความผิดหวัง “เฮ้อ ยังอีกตั้งหลายปีผมถึงจะโตเป็นผู้ใหญ่”
ฉินสือโอวยิ้มและปลอบโยนเขาว่าเวลาจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว ทั้งสองคนเดินไปตามชายหาดอยู่พักหนึ่ง เต่ามะเฟืองหลายตัวที่มาถึงฟาร์มปลาเริ่มปีนขึ้นมาบนชายหาดแล้ว
เต่าทะเลนอกจากตอนฟักไข่ ช่วงอื่นจะขึ้นมาบนชายฝั่งน้อยมาก เต่าตนุยังดีที่พวกมันจะขึ้นฝั่งบ้าง แต่เต่ามะเฟืองจะขึ้นฝั่งน้อยมาก แต่ที่ฟาร์มปลา พวกมันกลับปีนขึ้นมาบนชายหาดบ่อยมากเพื่อมาอาบแดดและวิ่งเล่นบนชายหาด
ไวส์เอียงหัวมองเต่าทะเลอย่างละเอียดถี่ถ้วน ฉินสือโอวคิดว่าเขารับรู้ถึงกลลวงที่เขาเพิ่งจะทำไป ผลคือเด็กน้อยมองอยู่พักหนึ่งก็ตะโกนใส่เขาด้วยความตื่นเต้นในทันที “ผมเคยเห็นเต่าสายพันธุ์นี้ตอนอยู่ที่เกรตแบร์ริเออร์รีฟ!”
เมื่อเห็นตัวเองไม่มีพิรุธ ฉินสือโอวก็วางใจลง เขายิ้มและพยักหน้า “ถูกต้อง พวกนี้คือเต่ามะเฟือง นั่นเป็นเต่าสายพันธุ์เดียวกันกับที่เจอในเกรตแบร์ริเออร์รีฟเมื่อตอนนั้น”
เมื่อนึกถึงไวส์ที่เรียนภาษาจีนมาตลอด ฉินสือโอวจึงตั้งใจจะทดสอบเขาสักหน่อย เขาถามว่า “นี่คือเต่ามะเฟือง บอกฉันสิว่าเต่ามะเฟืองพูดว่ายังไง?”
เขาพูดประโยคนี้เป็นภาษาอังกฤษ แน่อยู่แล้วว่าเป็นการถามเขาว่า ‘เต่ามะเฟือง’ คำนี้ในภาษาจีนพูดอย่างไร
ไวส์เกาหัว ฉินสือโอวแค่ต้องการปลอบเขาไม่ให้กังวลคิดถึงเรื่องนี้อย่างช้าๆ ผลคือเด็กน้อยจับเต่ามะเฟืองตัวใหญ่ตัวหนึ่งขึ้นมาและเอียงหูลงไปแนบกับปากของเต่า
เต่ามะเฟืองมีปากขนาดใหญ่ที่น่ากลัว นอกจากนั้นภายในปากของพวกมันยังเต็มไปด้วยฟันที่แหลมคม ถ้าปากของมันกัดไปที่หูของไวส์ เด็กคนนี้จะกลายเป็นสัตว์ประหลาดหูเดียวอย่างแน่นอน!
โชคดีที่เต่ามะเฟืองไม่ได้มีนิสัยก้าวร้าวและหลังจากที่ดูดซับพลังโพไซดอนไปก็มีมนุษยธรรมมากยิ่งขึ้น เต่ายักษ์ตัวนี้รับรู้ได้ว่าไวส์ไม่ได้มีเจตนาที่ชั่วร้าย มันหดคอกลับและไม่ลดปากลง
ไวส์เอียงหูฟังเสียงพักหนึ่ง เขาลุกขึ้นมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความว่างเปล่าและพูดกับฉินสือโอวว่า “เต่ามะเฟืองตัวนี้ มัน มันไม่เห็นพูดอะไรเลย…”
ฉินสือโอวตกตะลึง “…”
หลังจากที่หัวเราะออกไปเสียงดัง ฉินสือโอวก็กลับมาถึงวิลล่า เขาเล่าเรื่องนี้ให้วินนี่ฟังรอบหนึ่ง วินนี่ก็ขำเหมือนกัน
ไวส์พูดอย่างเขินอาย “ผมไม่รู้ว่าคุณต้องการให้ผมแปลคำว่าเต่ามะเฟืองนี่ครับ ผมคิดว่าคุณอยากให้ผมฟังว่ามันพูดว่าอะไร”
กอร์ดอนหัวเราะออกมายกใหญ่ “เด็กน้อย ความโง่ของนายทำให้ขำได้จริงๆ ฉันล่ะชื่นชมนายเลย”
ถูกวินนี่กับฉินสือโอวหัวเราะเยาะก็แย่แล้ว แม้แต่กอร์ดอนยังจะหัวเราะเยาะเขาอีก ไวส์รู้สึกโกรธขึ้นมาทันที เขาแนบนิ้วชี้กับนิ้วกลางมือขวาเข้าด้วยกันและชี้ไปที่กอร์ดอนพร้อมกับตะโกนว่า “นายรีบหุบปากไปจะดีกว่า!”
กอร์ดอนยิ้มอย่างดูถูก “ถ้าฉันบอกว่าไม่ล่ะ?”
ไวส์เล็งปลายนิ้วและพูดอย่างจริงจังว่า “นายเชื่อไหมว่าฉันยิงอากาศทิ่มนายตายได้? ฉันฝึกลมหายใจมาแล้ว ฉันบอกนายเลยนะว่า เพียงแค่ฉันใช้พลังที่แท้จริง นายตายแน่!”
กอร์ดอนกะพริบตาและเดินออกไปทันที
ไวส์คิดว่าตัวเองทำให้เขากลัวได้จึงมีสีหน้ายิ้มแย้มขึ้นมา ส่วนกอร์ดอนก็เดินไปด้วยพึมพำเสียงเบาไปด้วยว่า “อาจารย์บอกว่าผู้ป่วยทางจิตฆ่าคนไม่ผิดกฎหมาย ฉันควรจะอยู่ห่างจากผู้ป่วยทางจิตแบบนี้ไว้จะดีกว่า!”
เมื่อพวกเด็กๆ เดินออกไป วินนี่พูดกับฉินสือโอวอย่างไม่มีทางเลือก “พระเจ้า คุณไม่ควรสอนไวส์แบบนี้นะ บ้านของพวกเราจะกลายเป็นสถานกักกันคนประหลาดแล้ว!”
ฉินสือโอวพูดอย่างไม่มั่นใจ “นอกจากไวส์ ยังมีใครเป็นคนประหลาดอีกเหรอ?”
วินนี่ใช้สายตาที่จนปัญญามองนกอินทรีทองที่ตามก้นห่านขาวเพื่อหาแมลงกิน นกตัวนี้คงคิดว่าตัวเองก็เป็นห่านเหมือนกัน…
เสี่ยวแคลร์ไม่ได้ตระหนักว่าตัวเองเป็นลูกหลานของเจ้าแห่งท้องฟ้า ทุกวันกระโดดกระเด้งไปรอบๆ เพื่อหาแมลงกินซึ่งก็มีความสุขอย่างหาที่เปรียบไม่ได้เหมือนกัน
เมื่อพูดถึงปัญหานี้ ฉินสือโอวก็รู้สึกปวดหัวนิดหน่อยและคิดถึงฉากที่น่าอายอย่างตอนที่สอนวิธีบินให้บุชในตอนนั้น เขารู้สึกว่าตัวของเสี่ยวแคลร์ก็ต้องผ่านกระบวนการนี้สักรอบ
ไวส์ไม่เคยทิ้งความปรารถนาของตัวเองที่จะกลายเป็นจอมยุทธ์เทพอินทรีเลย ช่วงนี้เขาเริ่มกลับมาดูรายการทีวีเรื่อง ‘จอมยุทธ์เทพอินทรี’ นี้อีกรอบ
ที่แคนาดารายการทีวีเรื่องนี้ที่อยู่บนอินเทอร์เน็ตจะเรียกเก็บเงินออนไลน์ ต้องบอกก่อนว่าการตระหนักถึงลิขสิทธิ์ของที่นี่มีประสิทธิภาพเกินไป ภาพยนตร์ รายการทีวีและเพลงจำนวนมากต้องจ่ายเงินถึงจะสามารถดาวน์โหลดได้ ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากที่ดาวน์โหลดแล้วยังไม่สามารถเผยแพร่ได้อีกด้วย
ฉินสือโอวดาวน์โหลดรายการทีวีกับภาพยนตร์จีนแบบคลาสสิกจำนวนหนึ่งให้พวกเด็กๆ ดูเพื่อช่วยพวกเขาในการเรียนภาษาจีน ‘จอมยุทธ์เทพอินทรี’ ก็เป็นหนึ่งในนั้น
หลังจากดูรายการทีวีไปสองตอน ไวส์มองเสี่ยวแคลร์ด้วยความอิจฉา เชอร์ลี่ย์พูดว่า “นี่คืออินทรีทอง ไวส์ นี่ไม่ใช่เทพอินทรี นายอย่ามุทะลุเข้าไปยั่วยุมันจะดีกว่า ถึงแม้ว่าจะยังตัวเล็ก แต่มันก็ยังจิกคนได้”
ไวส์พูดอย่างโหยหา “แต่ว่า เชอร์ลี่ย์ ฉันอยากจะเป็นจอมยุทธ์เทพอินทรีจริงๆ นะ”
เชอร์ลี่ย์พูดว่า “จอมยุทธ์เทพอินทรีมีแขนแค่ข้างเดียวนะ”
ไวส์พูดอย่างไม่เชื่อว่า “มีแขนสองข้างชัดๆ จะไปมีข้างเดียวได้ยังไง?”
ฉินสือโอวเห็นเชอร์ลี่ย์สปอยล์จึงขยิบตาให้เธอ โลลิต้าฉลาดเป็นพิเศษจึงเข้าใจความหมายของฉินสือโอว เธอยักไหล่และไม่ได้เล่าอะไรต่อ แต่พูดว่า “ยังไงนายก็อย่าไปยั่วยุแคลร์แล้วกัน แม่อุปถัมภ์ของมันคือห่านตัวใหญ่ตัวนี้ซึ่งน่ากลัวมาก!”
ไวส์ไม่แน่ใจและรอคนกลุ่มนี้ไม่สนใจ เขาเดินไปที่ห้องครัวและแอบหยิบเนื้อปลาออกมาสองสามชิ้น หลังจากนั้นก็โยนให้ห่านหัวสิงโต
ห่านหัวสิงโตร้องแกว๊กๆ และป้อนเนื้อปลาให้เสี่ยวแคลร์ ส่วนที่เหลือก็โยนใส่ท้องตัวเองอย่างไม่รังเกียจ
ไวส์คิดว่าเขาจะได้รับมิตรภาพจากห่านหัวสิงโตด้วยวิธีนี้จึงวิ่งเข้าไปพร้อมรอยยิ้มเพราะอยากอุ้มเสี่ยวแคลร์
ผลคือเขาเพิ่งเจออินทรีทองตัวน้อย ห่านหัวสิงโตก็ฉุนเฉียวกางปีกทั้งสองข้างในทันที มันพุ่งเข้ามาเหมือนกับเสือที่ดุร้ายและอ้าปากกัดที่ก้นของไวส์จนเขากรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดที่ถูกกัด
อินทรีทองตัวน้อยถูกเสียงกรีดร้องของเขาทำให้ตกใจกลัว ปีกเล็กๆ ที่อวบอ้วนกางออกและส่งเสียงร้องแกว๊กๆ พร้อมกับกระโดดขึ้นมา
หู่จือกับเป้าจือได้ยินเสียงกรีดร้องของเขาก็รีบเข้ามาช่วย พวกมันส่งเสียงเห่าโฮ่งๆๆ ทำให้ห่านขาวกลัวจนต้องถอยกลับไป นี่ช่วยชีวิตไวส์เอาไว้
ฉินสือโอวเข้ามาถามเขาว่าเกิดอะไรขึ้น ไปยั่วยุห่านหัวสิงโตทำไม? ไวส์เล่าสิ่งที่เขาทำลงไปรอบหนึ่ง หลังจากนั้นก็พูดทั้งน้ำตา “ตอนนั้นผมก็ให้อาหารหู่จือกับเป้าจืออย่างนี้ พวกมันก็ชอบผมแล้ว เพราะอะไรถึงไม่ได้ผลกับห่านตัวนี้?”
……………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset