ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก – ตอนที่ 100 แปดแสนหน่วย

บทที่ 100 แปดแสนหน่วย

ในทันทีที่สิ้นคำเฉินเฉียง ทุกคนบนโต๊ะนิ่งอึ้งไป พวกเขาหันมามองเฉินเฉียงที่ยังคงทำท่าถือแผ่นพลังงานอยู่อย่างเป็นตาเดียวพลางหันไปมองที่จางหยวนเช่นเดียวกับเฉินเฉียง

หลังจากผ่านไปสิบกว่าวิ จางหยวนกระแทกแก้วเหล้าอย่างแรงจนเหล้ากระฉอกไปทั่ว

“หยุดล้อเล่นได้แล้ว สิ่งนั้นต้องส่งมอบให้ผู้การนำไปตรวจสอบเลยนะเฮ้ย รีบๆส่งมาเดี๋ยวนี้”

หลังจากพูดเสร็จก็ได้ยืนขึ้นและรีบค้นตัวของเฉินเฉียงในทันที แต่หายังไงก็หาไม่พบ ท้ายที่สุดแม้แต่แหวนเก็บของก็ไม่เว้น

“ไอ้ฉิบหาย เฉินเฉียง เจ้านี่โคตรรวยเลย แก่นคริสตัลระดับนายพลวิญญาณขั้นต้นหมื่นก้อนขั้นกลางอีกพันก้อน นี่มันเยอะกว่าเงินเดินพวกเราทั้งกองกำลังหนึ่งปีสิบเท่าเลยนะ”

“ไอ๊หยา….เจ้ามีแหวนมิติตั้งสี่วง นี่เจ้านี่มีโชคนำพาสินะ ขอข้าดูหน่อยเถอะว่าข้างในมีอะไรบ้าง”

จางหยวนที่ตรวจพบวงแหวนต่างๆด้วยความอิจฉา ปากก็พร่ำบ่นออกมาถึงสิ่งของที่อยู่ข้างใน เมื่อฟังรายการเหล่านี้ทีละรายการแล้ว เหล้าในแก้วในมือของแต่ละคนก็ไล่ที่จะกระฉอกเมื่อได้ยินสิ่งของเหล่านี้ทีละคนทีละคน

“ฮี่ฮี่ฮี่ น้องชายเฉิน ครอบครัวของเจ้านั้นประกอบอาชีพอะไรกันแน่หนอ ของเหล่านี้ถ้าพวกคนของผู้การมาเห็นล่ะก็พวกเขาก็ยังต้องอิจฉา……ไอ้ฉิบ…อย่าบอกนะว่าเจ้าไปปล้นบ้านผู้การมาน่ะ”

“น้องชายเฉิน เจ้ามาได้เวลาพอดีเลยน้าเนี่ยยยย กองกำลังของเรากำลังโดนตัดงบพอดี ข้าก็ไม่หวังจะให้เจ้าส่งมอบของทั้งหมดหรอกนา…แต่อย่างน้อยๆเจียดมาให้สักนิดก็ยังดี”

“แหม่ๆๆ ศิษย์น้องของกัปตันของเรานั้นจะเป็นคนธรรมดาได้เยี่ยงใด เขามาถึงขนาดนี้ได้แน่นอนว่าย่อมต้องร่ำรวยไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง”

ทั้งเจ็ดคนได้พูดคุยกันถึงเรื่องสิ่งของต่างๆของเฉินเฉียงพลางสรรเสริญราวกับจะยกยอให้เขาขึ้นไปถึงสวรรค์เพื่อหวังอะไรบางอย่าง แต่ยังไม่ทันจะได้ผลลัพธ์ที่คาดหมาย จางหยวนที่ค้นตัวเฉินเฉียงเสร็จแล้วก็ได้ตะคอกออกมา “พวกเจ้า หยุดล้อเล่นได้แล้ว”

เมื่อพูดจบ จางหยวนก็ได้หันไปหาเฉินเฉียงในทันทีและพูดออกมาอย่างใจที่พยายามเย็นอย่างที่สุด “เฉินเฉียง ถ้าจะให้พูดกันตามตรงพวกเราเองก็เป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องกัน เรามาพูดกันตรงๆดีกว่า พวกเราพี่น้องสามารถยอมรับได้ในสิ่งที่เจ้ากระทำ”

“ตอนนี้เจ้าก็เห็นแล้วว่าทุกคนนั้นล้วนแล้วแต่ยอมรับเจ้าเข้ากองกำลังเทียนเว่ย และเจ้าก็เห็นว่าพี่น้องทุกคนแล้วแล้วแต่ชายชาติทหาร…..เอ้อ เว้นเม่ยหลัวหลันไว้สักคน แต่เธอก็แกร่งกล้าพอที่จะเรียกได้ว่าฮีโร่สาว”

“สิ่งที่เจ้าพูดออกมาว่ามันหายไปนี่ทำให้พวกเราทุกคนต้องหวั่นไหวนัก นี่เจ้าเป็นคนที่ชอบเล่นใหญ่เพื่อที่จะแกล้งคนเช่นนั้นหรือ”

“ตอนนี้แผ่นพลังงานนั่นอยู่ที่ใด รีบๆนำออกมาให้ข้า อย่าได้เล่นตลกอีก”

เฉินเฉียงในตอนนี้แทบจะร้องไห้ออกมาแล้วจริงๆ

“กัปตันจาง…แผ่นพลังงานนั่นเพียงข้าจับมันอยู่ๆมันก็สลายหายไปในมือข้าแล้วจริงๆ ส่วนทำไมเป็นเช่นนั้น ข้าเองก็ไม่อาจรู้ได้”

เฉินเฉียงเองก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงออกมาจริงๆแล้วเหมือนกัน จะให้บอกว่าไอ้ระบบย่อยสลายซากที่สุดแสนน่าพิศวงนี้ย่อยมันไปแล้วและทำการดูดซับมันโดยบังเอิญ…….ใครจะไปเชื่อได้กัน

สมมติว่าเขาบอกไปจริงๆล่ะก็ ยังไม่ทันที่จางหยวนกับพวกจะบ้าคลั่งกับสมบัติที่เขามี พวกเขาจะต้องบ้าคลั่งและหาว่าเขาบ้าไปก่อนอย่างไม่ต้องสงสัย

ทั้งๆที่ความจริงนั้นมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ

เขาแค่รับไอ้แผ่นพลังงานที่มีขนาดเท่าเล็บมือคนมาเท่านั้น ในตอนที่เขาจะลองส่องดู ระบบมันก็ดูดซับมันลงไปเรียบร้อยแล้ว

ในตอนนั้นเขาตกใจอย่างมากเมื่อพบว่าไอ้แผ่นพลังงานเล็กๆนี้กลับให้ค่าพลังงานของเขาถึงหนึ่งแสน

แต่ที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือในขณะที่เขายังอึ้งๆ ระบบก็แจ้งเตือนเขาว่าทักษะที่เขาดูดซับมาจากเจิ้งตี้ ปีกสีเงินระดับ 2 อยู่ก็กลายเป็น 4 ซะอย่างนั้น

และเมื่อเขาลองเปิดค่าสถานะดูก็แทบจะลมจับเมื่อพบว่าค่าพลังงานของเขาเหลือเพียงเก้าหมื่นเจ็ด

หรืออีกความหายหนึ่งก็คือ ไอ้การยกระดับปีกสีเงินจากระดับ 2 ไประดับ 4 ทำให้เขาเสียค่าพลังงานไปกว่าแปดแสนโดยที่เขาไม่ได้สั่ง

นั่นเทียบกับค่าพลังงานทั้งหมดที่เขาได้มาจากถูหมั่นเถียนบวกกับจากสัตว์ประหลาดทั้งหลายที่เขาดูดซับมาระหว่างทาง….เท่ากับว่าเขาได้เหนื่อยไปเปล่าๆโดยปริยาย

ยิ่งเมื่อพูดถึงว่านั่นทำให้จางหยวนที่อยู่ตรงหน้าเขาอารมณ์เสียด้วยแล้ว…มันไม่ได้มีความคุ้มค่ากันเลยสักนิด จางหยวนเองที่เห็นว่าเฉินเฉียงไม่ยอมส่งมอบแผ่นพลังงานออกมา นี่ยิ่งทำให้เข้านั้นแสดงความร้อนรนออกมา

“เฉินเฉียง เจ้าเองก็เป็นคนของกองกำลังแล้วนะ ถูกรึเปล่า ถึงแม้เจ้าจะเป็นเพียงสมาชิกทดลองงาน(ชั่วคราว) แต่เจ้าเองก็ต้องยึดตามกฎของกลุ่มเรา”

“เจ้าลองถามใครดูก็ได้ว่าพวกเรานั้นมีใครบ้างที่ขโมยสินสงครามยามที่ได้ออกไปสู้รบในทุกๆครั้ง”

หวังต้าหลู่ในฐานะที่เป็นรองหัวหน้าที่รู้จักกันดีในนามเทพเจ้าแห่งเงินตรา(ไอ้ตัวหน้าเงิน) แต่ข้าเองก็แค่เก็บเงินมาเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับกองกลางเท่านั้นนา ข้าไม่เคยนำของพวกนั้นไว้ใช้ส่วนตัวเลยแม้แต่น้อย สิ่งที่เจ้ากำลังทำอยู่นั้นก็อาจจะเกินไปหน่อยเหมือนกัน

หลิวไฮ่ได้ยินขึ้นมาและพูดในทันที “น้องชายเฉินเฉียง ข้าเองก็ยอมรับนับถือเจ้าว่าเป็นผู้ชายคนหนึ่ง แต่กับเรื่องนี้เองถ้าเจ้าทำจริงพวกเราก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะ เจ้ารีบๆส่งมาดีกว่า”

เม่ยหลัวหลันเองก็พอรู้ความรู้สึกของคนในทีมในตอนนี้ เธอกับม่อโชวก็ได้ร่วมกันกดดัน “น้องชายเฉินเฉียง แผ่นพลังงานนั่นมันสำคัญมากจริงๆนะ ทุกครั้งที่พวกเราเก็บมาได้ เราต้องยกมันให้กับผู้การก่อน นี่คือกฎอันเคร่งครัดของตึกจอมพล และเจ้าเองก็ต้องยอมทำตาม”

เฉินเฉียงที่ได้ฟังคำพูดแนะนำของทุกคนแล้วเขาเองก็ไม่รู้จะทำยังไงดีเหมือนกัน เขาในตอนนี้ทำเพียงกางมือออกก่อนที่จะพูดออกมาอีกครั้ง

“กัปตันจาง ข้านั้นไม่รู้หรอกว่าแผ่นพลังงานนั่นมีคุณค่ายังไง แต่ข้าไม่รู้ว่ามันไปอยู่ไหนแล้วจริงๆ ตอนที่ข้าจับมาและกำลังจะจับมันส่องดูอยู่ๆมันก็หายไปจากมือข้าแล้ว”

“เอาอย่างนี้ได้รึเปล่าครับ ท่านเองก็เห็นของในแหวนของข้าทั้งหมดแล้ว ถึงข้าจะไม่รู้ว่าแผ่นพลังงานนั่นจะมีค่าเท่าไหร่ แต่หากว่าของที่ข้ามีพอจะนำมาใช้แทนได้ข้าก็ยินดีที่จะให้แก่นคริสตัลเหล่านั้นทดแทน อย่างนี้พอจะได้รึเปล่าครับ”

ก่อนที่จางหยวนจะตอบออกมานั้น หวังต้าหลู่ได้พยักหน้าของตัวเองซ้ำๆอย่างกระหน่ำและพูดออกมา “กัปตัน การแลกเปลี่ยนนี้ยอมรับได้”

“ข้าได้คำนวณแล้วว่าไอ้แผ่นพลังงานระดับนายพลทักษะพิเศษขั้นสูงนั่นเมื่อเทียบกับรางวัลที่เราได้มาแต่ละครั้งแล้วสมควรจะมีค่ามากกว่าสิบเท่า โดยปกติแล้วระดับต่ำที่เราเคยได้รับเป็นค่าตอบแทนมานั้นจะอยู่ที่ราวๆห้าสิบแก่นคริสตัลระดับนายพลวิญญาณขั้นต้น”

หากคิดจากมุมกลับจากฐานการตอบแทนนี้แล้ว แผ่นพลังงานระดับนายพลทักษะพิเศษขั้นสูงนั่นสมควรจะมีมูลค่าประมาณห้าร้อยแก่นคริสตัลขั้นต้น

เอาอย่างงี้ก็แล้วกัน คิดไว้แบบเผื่อเหลือเผื่อขาด สมมติว่าทางนั้นตั้งการให้เราชดใช้ค่าเสียหายหากเรายืนยันไปว่าทำมันหายไป ค่าเสียหายอย่างมากที่ว่าก็ควรไม่เกินนี้ น้องเฉินเฉียงก็มอบแก่นคริสตัลระดับนายพลวิญญาณขั้นต้นให้พวกเรามาพันก้อนแล้วกัน นี่น่าจะเพียงพอแล้ว

“อืมมมม ในกรณีที่ว่าต่อให้โดนปรับจริงเราก็น่าจะเหลือแก่นคริสตัลระดับนายพลวิญญาณขั้นต้นไม่ห้าร้อยเต็มก็สี่ร้อยโดยประมาณสินะ ซึ่งนั่นเองก็สมควรจะเป็นรางวัลที่เราได้กันในครั้งนี้ อืมมมมม ข้าเห็นด้วยนะ” ม่อโชวได้แสดงความเห็นออกมา

จางหยวนเองได้มองไปที่เฉินเฉียงอีกครั้ง เขาก็พบว่าเฉินเฉียงเองก็ไม่ได้มีท่าทีที่จะนำแผ่นพลังงานออกมาแต่อย่างใด นี่ทำให้เขาทำได้เพียงส่ายหัวไปมาก่อนจะถอดถอนหายใจและพูดออกมา “พี่น้องทั้งหลาย พวกเจ้านั้นรู้แต่ราคาของมันแต่พวกเจ้านั้นยังไม่รู้ว่าคุณค่าแฝงของมันนะ”

“แผ่นพลังงานที่ได้มาจากหัวของเจิ้งตี้นั้นคือหลักฐานสำคัญในการบ่งบอกว่าเจิ้งตี้คือมนุษย์กลายพันธุ์ หากเราไม่มีสิ่งนั้นเป็นหลักฐาน ข้าว่าหวู่เจียงมันได้แว้งกัดเราแน่ๆ”

“อีกอย่าง เหตุผลที่ผู้การต้องการแผ่นพลังงานนั่นไปนั้น เป็นเพราะว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์จะสามารถนำมันไปศึกษาลักษณะของไอ้พวกกลายพันธุ์ได้ และนี่ยังจะทำให้พวกเรานั้นต่อสู้กับพวกมันได้ง่ายขึ้น หรือจะพูดอีกอย่างคือ มูลค่าของมันในเชิงวิจัยสูงล้ำกว่าเชิงธุรกิจแบบนี้”

คำอธิบายของจางหยวนเองนั้นทำให้ทั้งเจ็ดต้องเงียบเสียงลง และนี่ยิ่งทำให้เฉินเฉียงแทบจะเรียกระบบออกมาทะเลาะซะให้ได้

หากเขารู้ว่าไอ้แผ่นพลังงานนั่นจะโดนดูดซับไปง่ายๆแบบนี้ เขาจะไม่เอ่ยปากพูดถึงมันเลยแม้แต่น้อย

ไหนจะพลังงานแปดแสนหน่วยของเขานั่นอีก

-อ้ากกกกกก ความเหนื่อยยากของช้านนนนนน-

Related

ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก

ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก

Status: Ongoing
ฉินเฉียงรู้สึกตัวอีกครั้งก็มาอยู่ในยุค ที่มีสัตว์อสูร และผู้บ่มเพาะพลังเสียแล้ว ด้วยความบังเอิญเขาได้ใช้มือสัมผัสกับซากสัตว์อสูร ทำให้คนธรรมดาแบบเขาได้รับสายเลือดพิเศษ หลังจากที่เขาศึกษาระบบนี้ทำให้รู้ว่า เขาสามารถดูดความสามารถดั้งเดิมแบบสุ่มของซากศพได้ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์อสูร หรือแม้แต่มนุษย์ ด้วยความสามารถนี้ทำให้เฉินเฉียงมั่นใจ ว่าเขาจะมีชีวิตรอดในยุคโลกาวินาศนี้ได้ ยิ่งเขาฆ่า!มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น

Comment

Options

not work with dark mode
Reset