ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก – ตอนที่ 166 ฉิงเชินพลาดท่า

บทที่ 166 ฉิงเชินพลาดท่า

เมื่อเห็นเว่ยฉินเชิงพลาดท่าและฝ่ามือของหลินฟานกำลังตะปบลงมาที่หัวของเวยฉินเชิงแล้ว เฉินเฉียงได้ยิงธนูที่ฝ่ามือนั่นในทันที

ในขณะเดียวกันเขาก็ได้เก็บธนูในมือเปลี่ยนไปดาบดั้นเมฆและโจนทะยานเข้าใส่เว่ยฉิงเชินและหลินฟานด้วยก้าวย่างสวรรค์

เป็นตอนนี้เมื่อเว่ยฉิงเชินได้ยินทั้งเสียงได้เห็นทั้งท่าเท้าและดาบดั้นเมฆ

เธอมั่นใจมากขึ้นว่าชายคนนี้คือเฉินเฉียง

แต่ก่อนที่เธอจะได้เอ่ยปากถาม เธอก็ได้รู้สึกถึงพลังสายเลือดที่พุ่งเข้ามาที่เธอ ทำให้เธอนั้นได้สติ

ถึงแม้ว่าธนูของเฉินเฉียงจะป้องกันการโจมตีของหลินฟานไว้ได้ แต่ในชั่วพริบตา เขาม้วนตัว 360 องศา และฟาดฝ่ามือใส่เว่ยฉิงเชินที่ไม่ได้ตั้งตัวอีกครั้ง

หากว่าฝ่ามือนี้ไปถึงหัวของเว่ยฉิงเชินเมื่อไหร่ เธอจะกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ุในทันที

ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ เฉินเฉียงไม่คิดลังเลอีกต่อไป เขาได้ตวัดดาบของตัวเองอย่างโหดร้ายพุ่งตรงไปที่เว่ยฉินเชิงตัดหน้าหลินฟานไปเพียงเสี้ยววินาที

“อั้ค”

เพียงสิ้นเสียงกรีดร้องสั้นๆ เว่ยฉิงเชินก็ได้หายไปต่อหน้าต่อตาเฉินเฉียงและหลินฟาน

หลินฟานได้มองที่พื้นที่ที่เว่ยฉิงเชินเคยปรากฏตัวก่อนที่จะหายไปต่อหน้าต่อตาด้วยสายตาที่ว่างเปล่า และเพียงชั่วพริบตา ดวงตาของเขาก็บังเกิดความโกรธขึ้นในทันที

“หลิวหลาง ข้าจะฆ่าเจ้า”

เฉินเฉียงนั้นไม่คิดว่าการกระทำของเขาจะมาถึงจุดนี้ได้เหมือนกัน

แต่อย่างนั้นผลมันก็ออกมาดีมากเลยทีเดียว

และในตอนนี้บัตรประจำตัวของเขานั้นมีแต้มคะแนนเข้ามากว่สามหมื่นสองพันแต้มในทันที

และนี่จะทำให้เขานั้นต้องพบปัญหาใหม่ นั่นก็คือ เขานั้นจะไปอธิบายต่อเว่ยฉิงเชินได้ยังไงเมื่อเขาออกไปแล้ว

เขานั้นไม่ต้องการแต้มคะแนนของเธอเลยจริงๆ

หลินฟานผู้ซึ่งในตอนนี้กำลังพุ่งทานมาหาเฉินเฉียงอย่างบ้าคลั่งนั้น เฉินเฉียงเมื่อเห็นเป็นแบบนี้ก็รีบดำดินและพุ่งไปอีกนับร้อยเมตรจากที่นี่

ในตอนนี้หลินฟานโกรธแค้นและต้องการฆ่าเฉินเฉียงในร่างของหลิวหลางให้ได้ เพราะอย่างน้อยให้ได้แต้มคะแนนจากเขามายังดี

แต่หลินฟานนั้นไม่คิดว่าทักษะปฐพีของเฉินเฉียงจะสูงล้ำมาก แล้วแบบนี้เขาจะไล่ตามหลิวหลาง(คราบนอกของเฉินเฉียง)ได้ยังไง

และเมื่อเป้าหมายไม่อยู่แล้ว หลินฟานจึงไม่มีทางเลือกและทำได้เพียงค้นหาศิษย์สำนักคนอื่นๆเพียงเท่านั้น เขาฆ่าทุกคนที่ขวางหน้า และเพียงเมื่อผ่านไปวันเดียว เขาก็ได้แต้มคะแนนเพิ่มมาอีกกว่าหมื่นแต้ม

ส่วนแม่หญิงอันดับหนึ่งแห่งสำนักวิหคอสนีบาตนั้น ในตอนนี้เธอกำลังนั่งยองๆร้องไห้อย่างไม่หยุดหย่อนต่อหน้าเว่ยหยวนตี้

“ฉิงเชิน ลูกอย่าร้องไห้ไปเลยนะ การแพ้ชนะเป็นเองธรรมดา ด้วยการบ่มเพาะของเจ้าแล้ว สูงล้ำกว่าคนอื่นในงานประลองมากนัก จะขาดก็เพียงประสบการณ์การต่อสู้เพียงเท่านั้น”

หลิวฉินที่เป็นผอ.สำนักอสนีบาตเองนั้นก็อดไม่ได้ที่จะเข้ามาพูดปลอบในด้วยเช่นกัน “ฉิงเชิน ช่างมันเถอะนะคนดี ต่อให้สำนักของเรานั้นได้ที่สี่ ข้าเองก็ไม่โทษเจ้าหรอก ยังไงซะเจ้านั้นก็ทำดีที่สุดแล้ว”

“ไม่ มันไม่ใช่อย่างนั้น”

เว่ยฉิงเชินได้ร้องไห้ออกมาพลางส่ายหัวไปมาอย่างรวดเร็ว นี่แสดงให้เห็นว่าจิตใจของเธอไม่เสถียรอย่างมาก

“ฉิงเชิน เกิดอะไรขึ้นกันแน่”

เป็นตอนนี้ที่เว่ยหยวนตี้รู้สึกผิดสังเกตในอาการของลูกสาวตนและรีบถามออกมา

“ท่านพ่อ ผอ.หลิว ท่านรู้หรือไม่ว่าใครกันที่ทำให้ข้าหมดสิทธิ์ในการประลองครั้งนี้และได้แต้มคะแนนกว่าสามหมื่นแต้มของข้าไป”

“ใครกัน”

“ใช่…น่าจะใช่…..ต้องใช่แน่แน่” เว่ยฉิงเชินคิดอย่างหนักจนกัดฟันแน่นก่อนที่จะพูดออกมาหลังจากมั่นใจถึงความเป็นไปได้นี้ “เป็นพี่ใหญ่เฉินเฉียง”

“ห้ะ เป็นไปได้ยังไงกัน” เว่ยหยวนตีที่ได้ยินก็มีท่าทีเปลี่ยนไปในทันที “ฉิงเชิน ลูกเข้าใจผิดรึเปล่า ด้วยนิสัยของเฉินเฉียงนั่นทำให้ยากที่จะเชื่อนะว่าเขาจะกล้าทำเรื่องแบบนี้”

“ไม่ค่ะท่านพ่อ ข้ามั่นใจว่าเป็นพี่ใหญ่เฉินเฉียง” เว่ยฉิงเชินได้ปาดน้ำตาก่อนที่จะพูดต่อ “ถึงแม้เขานั้นจะมีใบหน้าที่แตกต่าง แต่ทั้งน้ำเสียง ทักษะ ท่าท้าว การโจมตี ไหนจะดาบดั้นเมฆในมือนั่นอีก”

“ข้ามั่นใจว่าเป็นเขา”

ที่ข้างๆกันนั้น ผอ.สำนักมังกรอาชูร่าหรือก็คือซุนไคที่ได้ยินคำพูดของเว่ยฉิงเชินก็รีบถามออกมา “เว่ยฉิงเชิน เจ้าบอกว่าชายคนนั้นที่โจมตีเจ้านั้นมีรูปลักษณ์อื่นที่ไม่ใช่เฉินเฉียงงั้นรึ”

“ใช่ค่ะ”

“ข้าว่าเป็นเฉินเฉียงนั่นแหละ” ซุนไคพูดพร้อมชี้ไปยังหน้าจอที่แสดงอันดับและพูดออกมา “พวกเจ้าอาจไม่รู้แต่เฉินเฉียงนั้นมีความรู้ด้านการปรุงยาที่ลึกล้ำเกินกว่าที่พวกเจ้าคิด เขานั้นได้ปรุงยาที่มีชื่อว่ายาเปลี่ยนรูปลักษณ์ได้ และข้าเห็นมันมากับตาตัวเองแล้ว ข้าเชื่อว่ามีน้อยคนนักที่จะบรรลุเทคนิคนี้ได้”

“โฮ่….นี่ก็หมายความว่าเป็นเฉินเฉียงจริงๆสินะ” เว่ยหยวนตี้ได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ยากจะอธิบายก่อนที่จะหันไปมองเฉียนฝู่ที่เป็นผอ.แห่งสำนักเต่าดำ

เฉียนฝู่ที่นั่งอยู่ข้างเว่ยหยวนตี้เองเมื่อเห็นชื่อของเฉินเฉียงไปอยู่ที่อันดับหนึ่งนั้น เขานั้นไม่รู้ว่าควรจะมีความสุขหรือกังวลดีเหมือนกัน

เป็นตอนนี้เมื่อเขาได้เห็นท่าทางที่เปลี่ยนไปของเว่ยหยวนตี้ เขานั้นรู้สึกว่ากำลังนั่งบนเก้าอี้ที่เต้มไปด้วยตะปูและเข็ม

เฉินเฉียงหนอเฉินเฉียง

แย่งคะแนนใครไม่แย่งดันไปแย่งคะแนนของลูกสาวผู้การเว่ย

หมอนี่ไม่รู้จริงๆเหรอว่าเว่ยฉิงเชินนั้นมีความสำคัญกับเว่ยหยวนตี้ขนาดไหน

นี่เขาไม่รับรู้เลยรึไงว่าเว่ยฉิงเชินนั้นมีความรู้สึกอันดีให้เขาอย่างมาก

นี่เขาไม่รู้รึไงว่านี่จะทำให้สำนักเต่าดำนั้นเข้าหน้าเว่ยหยวนตี้และสำนักวิหคอสนีบาตไม่ติดน่ะ

อย่างไรก็ตาม ในเมื่อเรื่องมันเกิดไปแล้ว เขาจะทำอะไรได้กัน

“อ่ะแฮ่ม ท่านเว่ย ข้าคิดว่าต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันแน่ เท่าที่ข้ารู้จักเฉินเฉียงนั้นเด็กนั่นไม่ใช่คนที่จะคิดคดแบบนั้น”

เว่ยหยวนตี้ไม่แม้แต่จ้องมองไปที่เฉียนฝู่ที่อยู่ข้างๆ เขายังคงปลอบลูกสาวของตน

เว่ยฉิงเชินเองก็ไม่คิดที่จะเก็บความรู้สึกของตัวเองต่อไปแต่อย่างใด เธอได้รีบเอ่ยปากพูดออกมา “พ่อ หนูว่าเป็นเพราะหนูไม่ได้เจอพี่ใหญ่เฉินเฉียง…..ไม่ไม่ไม่ ไอ้บ้าเฉินเฉียงมานานเกินไปตั้งปีกว่า หนูไม่คิดเลยว่าไอ้บ้านั่นจะกล้าแทงข้างหลังหนูช่วงวิกฤตแบบนั้น”

“หนูตัดสินใจแล้ว ท่านพ่อ ผอ.หลิว เมื่อเฉินเฉียงออกมาหนูจะท้าประลองกับเขา”

“หนูจะทำให้หมอนั่นรู้ถึงความแข็งแกร่งของหนูและนำแต้มคะแนนกลับคืนมาให้ได้”

“ดีมาก นี่สิลูกสาวของพ่อ เว่ยหยวนตี้ผู้นี้ ลูกอย่าได้กังวลไปนะ พ่อจะสนับสนุนเจ้าเรื่องนี้อย่างเต็มที่”

“ฉิงเชิน ข้าคิดไว้แล้วว่าเจ้าต้องตัดสินใจเรื่องนี้ออกมาได้ในที่สุด ข้าเชื่อว่าด้วยความแข็งแกร่งของเจ้าแล้วเจ้าจะต้องนำสิ่งที่พวกเราเสียไปกลับมาให้สำนักวิหคอสนีบาตได้อย่างแน่นอน”

เมื่อได้ยินคำพูดของเว่ยหยวนตี้ผู้เป็นพ่อและเว่ยฉิงเชินผู้เป็นลูกและคำพูดของผอ.หลิวฉินแล้ว เฉียนฝู่ในตอนนี้อยากจะขุดรูหนีไปในทันที

“พี่หลัว ทำไมเราไม่ไปหาที่พูดคุยกันสักหน่อยล่ะ”

เฉียนฟู่เองในตอนนี้อึดอัดจนอยู่เฉยไม่ได้ เขาไม่มีทางเลือกจึงคิดจะพูดคุยกับผอ.คนอื่นด้วยเสียงเบาๆ

ด้วยการที่สำนักเสือขาวนั้นได้ทำผลงานอย่างดีในการประลองครังนี้ หลัวเฟิงที่เป็นผอ.จึงรู้สึกมีพลังเหลือขึ้นมา เขาได้พยักหน้าอย่างพึงพอใจก่อนที่จะชึ้นนิ้วไปที่ชื่อของหลิวฟานผู้ซึ่งอยู่เป็นอันดับสองในตอนนี้และพูดออกมาด้วยเสียงอันดัง “ฮ่าฮ่าฮ่า ถึงแม้จะเหลืออีกห้าวัน ยังไงซะหลินฟานของข้าจะต้องก้าวนำเฉินเฉียงและได้ที่หนึ่งอย่างแน่นอน”

เว่ยหยวนตี้ เว่ยฉิงเชิน และคนอื่นๆที่เห็นว่าคะแนนของหลินฟานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นี่ทำให้ทุกคนคิดว่าคำพูดของหลัวเฟิงนั้นย่อมจะกลายเป็นจริง

และเพียงไม่กี่วินาที คะแนนของเหลินฟานก็ได้เพิ่มขึ้นมาอย่างมาก และอีกไม่นานจะก้าวนำเฉินเฉียงได้

“ดีมาก หลินฟาน เจ้าเก่งที่สุดแล้ว”

“เอาเลย เอาชนะไอ้ตัวหน้าไม่อายอย่างเฉินเฉียงซะ”

เฉียนฝู่ในตอนนี้นั่งไม่ติดอีกต่อไปเมื่อได้ยินเสียงเชียร์ที่ราวกับสาปแช่งรอบๆตัวเขา

ดูเหมือนว่าเขานั้นจะเป็นแขกผู้มีเกียรติเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ยังคงลอบเชียร์เฉินเฉียงอยู่ในใจ

ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก

ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก

Status: Ongoing
ฉินเฉียงรู้สึกตัวอีกครั้งก็มาอยู่ในยุค ที่มีสัตว์อสูร และผู้บ่มเพาะพลังเสียแล้ว ด้วยความบังเอิญเขาได้ใช้มือสัมผัสกับซากสัตว์อสูร ทำให้คนธรรมดาแบบเขาได้รับสายเลือดพิเศษ หลังจากที่เขาศึกษาระบบนี้ทำให้รู้ว่า เขาสามารถดูดความสามารถดั้งเดิมแบบสุ่มของซากศพได้ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์อสูร หรือแม้แต่มนุษย์ ด้วยความสามารถนี้ทำให้เฉินเฉียงมั่นใจ ว่าเขาจะมีชีวิตรอดในยุคโลกาวินาศนี้ได้ ยิ่งเขาฆ่า!มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น

Comment

Options

not work with dark mode
Reset