รู้สึกตัวอีกทีก็มีแสงสีขาวเข้ามาผ่านตา ด้วยความขี้เกียจผมเลยไม่ลืมตามองสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
จะว่าไปแล้ว เมื่อกี้นี้น่ะ
มันเป็นความฝันหรือเปล่านะ ก็ให้ลองคิดตามนะ มันจะมีเหรอ พวกจูนิเบียวที่ไหนจะใส่ชุดมิโกะมาหา แล้วบอกว่า
‘ใช่แล้วล่ะ ชั้นเนี่ยแหละพระเจ้า’
บ้าบอ มันมีที่ไหนกันล่ะ เอาเถอะ เด็กจินตนาการสูงก็ไม่ใช่ว่าไม่ชอบนะ
ช่างเรื่องนั้นเถอะ ผมเริ่มที่จะสงสัยแล้วว่า ไอแสงที่มันแยงตาผม มันคืออะไร แถมรอบๆตัวผมก็มีเสียงอื้อๆ อึงๆ น่ารำคาญอีก
ผมควรที่จะขยับตัวไล่พวกเขาออกไป
ผมจึงลืมตาขึ้นมา ก็พบกับ…
อะไรล่ะนั่น คนยักษ์หรือไง ทำไมคนตรงหน้าผมตัวใหญ่อย่างนี้ล่ะ ผมกำลังอยู่ในเรื่อง ฝ่าพิภ*ไ*ทันหรือยังไงกันล่ะนั่น
โอ๊ะ…คนพวกนี้เป็นใครกันน่ะ
จะเป็นหมอหรือเปล่านะ ก็ก่อนหน้านี้ผมเพิ่งจะโดนเสาไฟฟ้าทับใช่ไหมล่ะ เพราะฉะนั้น การที่ผมตื่นขึ้นมาหลังจากอุบัติเหตุ มันก็ควรจะเป็นที่โรงพยาบาลแหละ
เอ่อ หมอคนนี้เขามีผมสีเงินและมีหูเหมือนจิ้งจอกด้วยแฮะ แถมชุดก็…
โรงพยาบาลนี้เขาให้หมอคลอสเพลย์ด้วยเหรอเนี่ย
“XX XXXX XXXXXX”
นั่นภาษาอะไรล่ะนั่น ผมฟังไม่ออกเลยแฮะ หรือว่านี่จะเป็นหมอต่างชาติ อาการของผมมันหนักขนาดนั้นเลยเหรอ
หรือว่าผมต้องตัดปอด!
ไม่มีทางหรอกมั้ง
ข้างๆผู้หญิงคนนั้น คือผู้ชายหุ่นดีมากและหน้าตาแบบนายแบบเลยนะเนี่ย ถ้าผมเป็นผู้หญิงคงหลงสเน่ห์ไปแล้วแน่นอนเลย
“XXX XXXXX XXXX”
นั่นภาษาอะไรเนี่ย เอาเถอะ ผมจะพยายามทำความเข้าใจจากท่าทางก็แล้วกัน
“XXXXXX XXX”
ไม่ไหวแล้ว! พูดจังเลย ภาษาอะไรก็ไม่รู้เนี่ย ถ้าผมลุกไปได้นะ ผมจะลุกขึ้นไปไล่แล้ว แต่เพราะว่าผมขยับไม่ค่อยได้ เพราะฉะนั้นผมจะพูดไล่เขาไปก็แล้วกัน
“แอ้! แอ้”
หืม? นั่นเสียงผมเหรอนั่น! บ้าหน่า อย่าบอกนะว่านี่จะเป็นแบบนิยายตามเว็บที่ถูกส่งไปต่างโลกน่ะ โอ้พระเจ้า…
หรือว่าคนที่บอกว่าชื่อยูกินั่น จะเป็นพระเจ้าและส่งผมมาต่างโลกจริงๆน่ะ
หนึ่งเดือนผ่านไป
ดูเหมือนว่าผมจะได้มาต่างโลกจริงๆนะ เพราะว่าผมมักจะเห็นพ่อฝึกดาบอยู่คนเดียวแถวๆกำแพงบ้านทุกวัน ไม่ใครในโลกก่อนจะมาทำแบบนี้หรอก จริงไหมล่ะ
และอีกอย่างที่เป็นสิ่งสำคัญที่สุดเลยก็คือ…ผมกลายเป็นผู้หญิง ไม่ใช่ว่ายัยพระเจ้าบ้านั่นมันแค่ขู่ผมหรือไง แล้วทำไมมันกลายเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะเนี่ย! เอาน้องชายของผมคืนมา!
ถึงอย่างนั้น ก็ไม่ได้ขึ้นมาอยู่ดี
ดูท่าทางแล้ว พ่อของผมน่าจะเป็นอัศวินนะ อย่างที่บอกไป พ่อมักจะยืนฝึกดาบแถวๆกำแพงบ้านอยู่ทุกวัน และดูเหมือนว่า แม่ของผมจะเป็นสาวจิ้งจอกล่ะ มีหูจิ้งจอกและหางชัดเจนเลย ส่วนอาชีพ ก็น่าจะเป็นแม่บ้านเฉยๆนะ แต่ที่แน่ๆ บ้านผมน่าจะรวยมากๆแน่ๆเลยล่ะ เพราะบ้านของผมนั้นมีคุณเมดด้วย!
ผมสีดำขลับยาวถึงกลางหลังไว้หน้าม้าปิดตาข้างซ้าย ถ้าผมสั้นหน่อยๆและผมสีฟ้าก็จะคล้ายๆนกตัวหนึ่งที่เป็นยักษ์เลยล่ะ โอ๊ะ ถึงผมจะพูดอย่างนี้แต่ก็ใช่ว่าผมจะเกลียด นกยักษ์นะ แต่ยังไงเธอก็ไม่ใช่นางเอกอยู่ดี
ถึงผมจะเห็นนู่นนี่นั่น แต่ผมก็ยังได้นอนแต่ในเปลอยู่ดี ถ้าจะมีโอกาศได้เห็นรอบๆก็จะเป็นตอนที่ร้องไห้แล้วคุณเมดมาอุ้มผมขึ้นไปมากกว่า มันดีมากเลยล่ะทุกคน หน้าอกที่ผมใฝ่ฝันที่อยากจะสัมผัสมานาน ในที่สุด! อะโฮะๆ
แต่เท่าที่ผมรู้ เมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆ ที่ถ้าหากเรามองไปทางไหนก็จะแต่ป่า และมีแม่น้ำไหลผ่านอยู่ใกล้ๆ แต่บ้านของผมคิดว่าอยู่ห่างจากตัวเมืองล่ะ เพราะถ้าเป็นเมืองจริงๆ ก็น่าจะเห็นบ้านรอบๆบ้าง แต่บ้านของผมตั้งอยู่ตรงนี้เพียงหลังเดียวเท่านั้นเอง บ้านที่ใกล้ที่สุดก็ดูไกลจากจุดที่ตั้งบ้านหลังนี้พอสมควรเลยล่ะ แต่จากจุดที่มีบ้านหลังแรกที่พูดถึงเมื่อกี้ ก็จะมีบ้านหลายหลัง ส่วนเมืองที่ผมอยู่ คิดว่าชื่อ พาโยเนีย ล่ะมั้ง เห็นพ่อพูดถึงชื่อนี้และทำหน้าภูมิใจอยู่บ่อยๆ
ถ้าโลกนี้เป็นโลกแฟนตาซีจริงๆ แน่นอนว่าก็ต้องมีเวทย์มนต์ใช่ไหมล่ะ อยากใช้ได้จังเลย มันจะต้องเจ๋งแน่ๆเลยล่ะ
ถ้าพูดถึงสภาพโดยรอบเมื่อผมเหลือบมองเมื่อเวลาที่คุณเมดอุ้มผมขึ้นมา ก็จะเห็นว่าแถบนี้ทำไร่นาเป็นหลักล่ะนะ ข้าวเต็มไปหมดเลย พ้นจากบริเวณนาข้าวก็เริ่มเป็นป่าแล้วล่ะ
ครึ่งปีผ่านไป
ผมเริ่มจะฟังรู้เรื่องแล้วล่ะ ก็เล่นอยู่กับภาษานี้มาถึงครึ่งปีเลยนี่นา ถ้านานขนาดนี้แล้วฟังไม่ออกก็นะ เพราะเวลาผมสงสัยอะไรก็จะจ้องไปที่สิ่งนั้น แล้วแม่ที่เดินมาเห็นก็จะถามประมาณว่า
“ลูกมีอะไรกับโต๊ะหรือเปล่าจ๊ะ”
ซึ่งผมก็จะจำคำแต่ละคำในนั้น แล้วผมก็จะทำเป็นชี้ๆไปที่สิ่งของแล้วท่านก็จะพูดชื่อสิ่งของนั้นๆออกมา ผมก็เลยรู้เรื่องขึ้นมาล่ะ
เป็นไงล่ะ เจ๋งใช่ไหมล่ะ
นั่นก็เป็นเพราะว่าการจมอยู่กับภาษาใดภาษาหนึ่งมันก็จะเรียนรู้ได้ไวขึ้น เพราะต้องฟังตลอด ใช้ตลอด มันก็เลยเรียนรู้ได้ไวยังไงล่ะ
แน่นอน ครึ่งปีผ่านไปแล้ว ผมก็พัฒนาขึ้นล่ะ เพราะว่าผมคลานได้แล้วยังไงล่ะ! เพราะฉะนั้น เราไปตรวจสอบบ้านกันดีกว่า
อา ฮึ๊บ! อา ฮึ๊บ! อ้อ นี่เป็นเสียงประกอบเวลาผมใช้สองแขนยันตัวขึ้นบันไดน่ะ เพราะว่าบ้านของผมมีสองชั้นยังไงล่ะ! แต่พูดอย่างนั้นก็เถอะนะ ผมก็ยังคงเป็นแค่เด็กอยู่ ไม่สามารถเปิดประตูห้องเองได้หรอกนะ
แต่อันที่จริงผมก็พอรู้นะว่าห้องพ่อแม่เป็นห้องไหน
ก็เล่นทำกิจกรรมบนเตียงแต่เช้าเลยนี่นา
ก็นั่นสินะ ผมเป็นเด็กที่มีความทรงจำจากชาติก่อนเนี่ยสิ ถ้าเทียบก็นิยายตามเว็บแล้ว แนวแบบผมนี้เกลื่อนจนเรียกได้ว่าหาเรื่องดีๆยากเลยล่ะ แต่ผมพิเศษอย่างหนึ่งคือ…ผมกลายเป็นผู้หญิง แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็ยังคงชอบสาวแว่นไม่เปลี่ยน
แล้วโลกนี้มันมีแว่นให้ใส่ไหมนะ เพราะถ้าไม่มีแว่นก็จะขาดสาวแว่น! แต่ถ้าไม่มี ผมก็จะทำแว่นขึ้นมาใส่เองก็แล้วกัน
และในขณะที่ผมกำลังค่อยๆปีนบันไดก็ไปถึงบริเวณหน้าต่างที่เปิดทิ้งไว้และมีนกเกาะอยู่ และด้วยความปีนเพลินๆของผมโดยไม่สนใจรอบข้าง พอไปอยู่แถวๆบริเวณหน้าต่างพวกนกก็ตกใจบินหนีไป
แน่นอนว่าผมก็ตกใจเช่นกัน
“อุแว้! อุแว้! อุแว้!”
ผมตกใจจนตกลงมาจากบันไดหลายขึ้นนั่น ถึงจะไม่สูงมากถ้าเป็นคนปกติ แต่ผมที่เป็นเพียงเด็กทารกเท่านั้น มันก็อันตรายพอที่จะทำให้ผมแขนหักหรือคอหักได้อยู่ดี ด้วยความที่ผมยังพอมีสติผมยังพยายามเอี้ยวตัวและเอาแขนดันเอาไว้อย่างน้อยก็ไม่ขอตายเป็นรอบที่สองหรอก
และทันใดนั้นแม่ก็วิ่งเข้ามา
“มาฮิโระ!”
คุณแม่วิ่งเข้ามาพร้อมกับตะโกนอะไรบางอย่างออกมา
“ด้วยพลังแห่งธรรมชาติแด่เทพเจ้าแห่งสายลม จงก่อเป็นกำแพงอันแข็งแกร่งแต่นุ่มนวลให้แก่ข้า! Wind Wall!”
แม่ร่ายอะไรบางอย่างออกมาแล้วเกิดเป็นสายลมที่ก่อเป็นเบาะให้แก่ผมอย่างรวดเร็ว
เมื่อผมตกลงมาก็รู้สึกเหมือนเป็นเบาะนุ่มๆมาลองรับตัวผมเอาไว้
อย่าบอกนะว่านั่นคือเวทย์มนต์น่ะ! เท่สุดยอดไปเลย!
จากนั้นแม่ก็ช้อนตัวผมขึ้นมาอุ้ม แล้วสำรวจตัวผม
“ลูกแขนหักด้วยเหรอเนี่ย!”
จากนั้นแม่ก็ยื่นแขนมือมาเหนือตัวผมแล้วก็เริ่มร่ายเวทย์ขึ้นมาอีกครั้ง
“ด้วยพลังแห่งเทพีแห่งการรักษาโปรดให้ข้าได้พลังซึ่งสามารถนำมารักษาผู้อื่น Healing!”
จากนั้นที่มือของแม่ก็มีวงเวทย์สีเขียวอ่อนที่เมื่อมองดูก็ทำให้ได้รับความรู้สึกผ่อนคลายปรากฏออกมา
“เสร็จแล้วล่ะจ้ะ”
หายเจ็บแล้วแฮะ เวทย์มนต์นี่มันสุดยอดเลยจริงๆ!
“ระวังหน่อยสิมาฮิโระ แม่ตกใจแทบแย่เลยนะรู้ไหม”
แม่พูดกับผม อย่าบอกนะว่าผมชื่อมาฮิโระน่ะ ชื่อดูน่ารักแปลกๆแฮะ ก็ชื่อของผู้หญิงนี่นะ เพราะผมเป็นผู้หญิงไปแล้วนี่นา…
คิดแล้วเศร้าชะมัด
แต่ก็ช่างเถอะ ตอนนี้ผมปลอดภัยไม่ตายอีกรอบก็พอแล้วล่ะ
“อ้อ แอ้”
ผมร้องออกมาเพื่อตอบว่าเข้าใจแล้ว แต่แม่จะเข้าใจที่เราสื่อไหมนะ
หลังจากผมร้องออกไปก็มีเสียงรีบวิ่งมาทางผม และคนๆนั้นก็คือพ่อนั่นเอง
“เกิดอะไรขึ้นเหรอที่รัก”
“เมื่อกี้ลูกตกบันไดน่ะ ดีนะที่ชั้นมาทัน ไม่งั้นแย่แน่เลยล่ะ”
“ก็เด็กผู้หญิงนี่นะ ก็คงมีความอยากรู้อยากเห็นมากนั่นแหละ ไม่งั้นจะคลานไปคลานมาจนชิโระร้องไห้เพราะหาไม่เจอเรอะ ฮ่าๆๆ”
“แหม คุณคะ รู้ไหมว่าชั้นเป็นห่วงลูกแทบตายเลยนะ ตั้งแต่ตอนเกิดมาแล้วไม่ได้สตินั่นน่ะ นั่นก็ทำให้ชั้นเป็นห่วงลูกสุดๆเลยรู้ไหม”
อันที่จริงแล้วตอนนั้นผมหลับเฉยๆ ไม่ได้หมดสติแต่อย่างใดนะครับคุณแม่ แต่นั่นก็น่าเป็นห่วงจริงๆนั่นแหละ
“แต่ตอนนี้ก็แข็งแรงดีแล้วนี่ เพราะฉะนั้นอย่าห่วงไปเลยนะ”
จากนั้นคุณพ่อก็จูบแม่แล้วก็เอามือคลำนู่นคลำนี่จนคุณแม่เริ่มที่จะ…แล้วก็พากันขึ้นไปบนห้อง โดยปล่อยผมไว้ที่พื้น…
ทำกันเสียงดังชะมัดเลยแฮะ นี่ถ้าพูดได้จะตะโกนบอกให้ลดเสียงแล้วล่ะ
ช่างเถอะ ง่วงแล้วล่ะ เมื่อกี้ก็เพิ่งทำอะไรเร้าใจมาซะด้วย ตกใจแทบแย่เลยล่ะ นอนมันตรงนี้เลยแล้วกัน
“คุณหนูเจ้าคะ อยู่ไหนเจ้าคะ มาหาชิโระหน่อยค่า…คุณหนูคะ!! นอนตรงนี้ไม่ได้นะคะ!!”