กลิ่นหอมฉุยของอาหารเตะเข้าไปในจมูก ไม่รู้ว่าเป็นเพราะตัวเองเอาแต่เฝ้าอยู่หน้าประตูของห้องครัวรึเปล่า เจียงเยว่ถงถึงรู้สึกว่าอาหารที่ฉินเฟยทำวันนี้หอมหวนเป็นพิเศษ
เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ายืนเหม่ออยู่นานเท่าไร จนกระทั่งฉินเฟยที่อยู่ในห้องครัวเรียกเธอให้มาทานข้าวเธอถึงพึ่งรู้สึกตัว แล้วค่อยๆหันกลับมา เธอเห็นฉินเฟยลอดไปมาระหว่างห้องครัวกับห้องรับแขก ด้วยความรู้สึกแปลกๆ
สามปีมานี้ สิ่งที่ฉินเฟยทำในทุกวันคือการเข้าครัว ร้านอาหารรวมถึงห้องรับแขก ไม่อย่างงั้นก็ถูพื้น ไม่งั้นก็เสิร์ฟอาหาร เพียงแต่เธอในตอนนั้น มองข้ามจุดนี้ไป……
จู่ๆเจียงเยว่ถงก็มีความรู้สึกพิเศษในใจ อยากขอบคุณฉินเฟย ขอบคุณเขาที่อดทนกับเธอตลอดสามปีที่ผ่านมา
“รีบไปล้างมือแล้วมากินข้าวเถอะ” เสียงของฉินเฟยลอดเข้ามาในหู เจียงเยว่ถงพึ่งรู้สึกตัว เห็นเขากำลังถือชามปลาตุ๋นน้ำแดงเข้ามาอย่างระมัดระวัง
“อืม” เจียงเยว่ถงพยักหน้า แล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ เนื่องจากเป็นแบบอย่างของหญิงแกร่งสมัยใหม่ระดับเทพธิดา หลังจากตกใจเล็กน้อยและล้างมือเสร็จ เธอก็ฟื้นคืนความสงบและความสง่างามตามปกติและนั่งตรงข้ามกับฉินเฟยอย่างเรียบร้อยเหมือนผ้าพับไว้
เจียงเยว่ถงยื่นมือไปหยิบตะเกียบบนโต๊ะ ด้วยความประหม่า เจียงเยว่ถงสามารถสัมผัสได้ว่า ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนเปลี่ยนไปเล็กน้อย ฉินเฟยไม่ได้ทานข้าวเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เขาทานข้าวอย่างจี๋ยมเจี้ยมตรงมุมโต๊ะ และพูดจาน้อยมาก
ฉินเฟยที่ก้าวออกไป ตอนนี้เปลี่ยนเป็นคนมั่นใจขึ้น ไม่ยอมรับคงจะไม่ได้ เธอชอบฉินเฟยที่เป็นแบบนี้ อย่างน้อยแบบนี้ถึงจะเรียกว่าลูกผู้ชาย
แน่นอนว่า ความชอบแบบนี้ไม่ใช่ความชอบระหว่างชายหญิง ฉินเฟยที่มีความกระตือรือร้น อย่างน้อยก็ไม่ทำให้เธอรังเกรียจ
แต่ไม่ว่าอย่างไร เขาก็เป็นสามีของเธอในทางกฎหมาย กระทั่งผู้ชายของเธอจากปากของคนอื่น!
ตอนนี้มีเพียงพวกเขาสองคนอยู่ในห้องขนาดใหญ่ ถึงแม้ว่าเมื่อก่อนจะเป็นแบบนี้ แต่ตอนนี้กลับทำให้เจียงเยว่ถงรู้สึกว่าบรรยากาศแปลกๆ เธอที่สงบเยือกเย็นมาตลอดรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย แม้แต่การเคลื่อนไหวของเธอก็ยังดูแข็งทื่อ
ฉินเฟยซึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามกับเขาไม่อายเลย นับประสาอะไรกับการดูแลผู้หญิง ประเด็นคือเขาหิวมาก ช่วงนี้เขาออกกำลังกายทุกวัน และเขารู้สึกว่าเขากลายเป็นผีที่หิวโหย อีกทั้งความต้องการอาหารของเขาก็เพิ่มมากขึ้นจากเมื่อก่อนเป็นเท่าตัว!
ถึงแม้ก่อนหน้านี้เขาจะกินแฮมเบอร์เกอร์เนื้อกับเสิ่นเจียเหวินมาแล้ว แต่สำหรับความต้องการอาหารของเขาในตอนนี้มันไม่เพียง พูดไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเป็นการรองทอง อีกทั้งหลังจากที่กินแล้วเพราะว่ากินไม่อิ่ม จึงทำให้พยาธิในกระเพาะของเขา หิวมากยิ่งขึ้น
ฉินเฟยจึงคีบผักและข้าวในถ้วยของตัวเอง คนอยู่ครู่หนึ่งแล้วจ้วงเข้าปากไป ถึงได้รู้สึกว่ากระเพาะค่อยยังชั่วขึ้นมาหน่อย เวลานี้เอง จู่ๆเขาก็เห็นมือเล็กๆยื่นมาไว้ตรงหน้าของเธอ เจียงเยว่ถงตักน้ำซุปปลามาหนึ่งถ้วยเล็กแล้วว่างตรงข้างหน้าเขา ด้านในมีเนื้อปลาชิ้นหนึ่ง
ฉินเฟยถือถ้วยในมือนิ่งและชะงักลง แต่งงานกันมาสามปี นี่เป็นครั้งแรกที่เจียงเยว่ถงตักน้ำซุปให้เขากิน
ฉินเฟยรู้สึกตื้นตัน และพึ่งสังเกตเห็นว่าเจียงเยว่ถงยังไม่ได้แตะตะเกียบ จึงอดถามอย่างแปลกใจไม่ได้ว่า“ทำไมคุณถึงไม่กินล่ะ?คุณไม่ชอบอาหารเย็นนี้หรอ?”
ฉินเฟยรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เขารู้ว่าเจียงเยว่ถงกินอาหารทะเล ในเวลาปกติสิ่งที่เธอชอบกินที่สุดคือผัดมันฝรั่ง ดังนั้นวันนี้เขาจึงตั้งใจทำมันฝรั่งผัดเผ็ด เนื่องจากเธอไปซื้อผักที่ซูเปอร์มาร์เก็ตมาด้วยตัวเองเพื่อวางแผนจะทำอาหารให้เขากิน
แม้ว่าสุดท้ายคนที่ลงมือทำอาหารจะไม่ใช่ตัวเธอเอง……
เจียงเยว่ถงตักซุปปลาให้ตัวเองหนึ่งถ้วยเล็ก เธอขมวดคิ้วให้กับซุปที่ดำคลับ ถึงแม้ว่าหน้าตาจะดูไม่น่ากิน แต่กลับหอมเตะจมูกมาก โดยเฉพาะเธอตักชิมซุปปลาไปหนึ่งคำ เธอคิดว่าจะลองดู ใครจะไปรู้ หลังนาที่น้ำซุปไหลผ่านลำคอไป ตาของเธอก็เป็นประกายทันที ท้องของเธอร้อง ‘โคร้กคร้าก’ อย่างไม่ไว้หน้ากันเลย……
“คุณยังไม่ได้ทานอาหารกลางวันมาหรอ” เสียงท้องร้องของเจียงเยว่ถงไม่สามารถปิดบังฉินเฟยได้ เขามองเธออย่างเหลือเชื่อ
“ยุ่งไม่เข้าเรื่อง” เจียงเยว่ถงทำเสียงหึครั้งหนึ่ง แต่ในที่สุดกลับทนความหิวไม่ได้ โดนเฉพาะหลังจากที่ได้ลิ้มรสความหอมอร่อยของซุปปลาไป เธอยื่นมือเริ่มจ้วงข้าวสวยตรงหน้าเธอทันที ในตอนแรกเธอยังสามารถรักษาภาพพจน์ของเธอไว้ได้ แต่ไม่นาน ความหิวและความหอมอร่อยก็ดึงดูดให้เจียวเยว่ถงลืมสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างไปหมด เธอเขมือบกินอย่างเอร็ดอร่อย มือเล็กๆยื่นออกมา คีบมันฝรั่งคำใหญ่ และขึ้นฉ่ายหนึ่งคำ ปากของเธอขยับไม่หยุด
ฉินเฟยอึ้งตะลึงมองตาค้าง เขารู้ดีว่าฝีมือการทำอาหารของตัวเอง แม้ว่าจะอยู่ในระดับที่ไม่เลวนัก แต่ก็ไม่มีทางทำให้คนคนหนึ่งเขมือบกินมุมมามตะกละตะกลามขนาดนี้ได้ โดยเฉพาะเจียงเยว่ถงผู้ซึ่งเย็นชาและเย่อหยิ่งอยู่เสมอ ยิ่งไปกว่านั้นเจียงเยว่ถงเองถือได้ว่ากินอาหารฝีมือของตนมาถึงสามปีแล้ว
มีเหตุผลเดียวนั่นก็คือเจียงเยว่ถงหิวแล้วจริงๆ
ฉินเฟยพึ่งจะก้มหน้ากินข้าว ก็เห็นเจียงเยว่ถงที่กำลังวางตะเกียบ แล้วลุกขึ้นยืน‘พรึบ’
ในตอนที่ฉินเฟยไม่รู้ว่าภรรยาของเขากำลังจำอะไรอยู่นั้น เจียงเยว่ถงก็เดินเข้าห้องทำงานไป หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ออกมาพร้อมกับขวดไวน์แดงในห้องใต้ดิน ฉินเฟยหมดคำพูด พูดในใจว่าผู้หญิงคนนี้ใช้ชีวิตสุขสบายจริงๆ ไม่ว่าอาหารบนโต๊ะตรงหน้าจะมากมายแค่ไหนมันก็แค่มื้ออาหาร แต่ถ้าเติมไวน์แดงสักขวด บรรยากาศก็จะเปลี่ยนไปทันที
ฉินเฟยไม่ชอบดื่มไวน์แดง ความจริงแล้วเขาไม่สนใจแอลกอฮอล์เท่าไรนัก ปกติก็ดื่มน้อยอยู่แล้ว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะไวน์แดง เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญยิ่งกว่าผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงส่วนใหญ่ที่คิดว่าพวกเขารู้เรื่องไวน์แดงเสียอีก เขาเพียงแค่เหลือบมองที่ยี่ห้อกับอายุก็รู้ได้ทันที ไวน์แดงขวดนี้เป็นไวน์ชั้นเลิศ ราคาสูงมาก
เจียงเยว่ถงหยิบแก้วไวน์ที่ล้างทำความสะอาดแล้วบนโต๊ะออกมาหนึ่งแก้ว แล้วรินให้ตัวเองครึ่งแก้ว ชิมและดื่มด่ำกับรสชาติ ต่อมาก็คว้าตะเกียบและเริ่มกินต่ออย่างเอร็ดอร่อย
ฉินเฟยตกใจมาก แค่เนี่ยหรอ?
“อยากดื่มก็รินเองนะ!”เจียงเยว่ถงกลอกตาใส่ฉินเฟย รู้ว่าเขาหมายความว่าไง จึงอดส่งเสียงหึไม่ได้
คืนนี้เจียงเยว่ถงเจ็บใจมาก แต่ฉินเฟยไอ้หมอนั่นยังอวดดีอยู่ เธอจึงทำเสียงหึๆอย่างไม่พอใจ แค่ทำอาหารเป็นไม่ใช่หรอ มีอะไรให้อิจฉา
ฉินเฟยไม่ถ่อมตัวเลยแม้แต่นิดเดียว รีบหยิบแก้วไวน์ขึ้นมารินให้ตัวเองหนึ่งแก้ว
อืม ไวน์กินคู่กับซุปปลา ไม่เลวจริงๆ
“ไม่ต้องรินให้ฉันแล้ว ถ้าจะดื่มคุณก็ดื่มเอง”เมื่อเห็นฉินเฟยกระดกหมดอย่างรวดเร็วแล้วเตรียมจะให้รินให้เธอเพิ่ม เจียงเยว่ถงโบกมือปฏิเสธ
“อ่อ”ฉินเฟยพยักหน้า แล้วยกแก้วกระดกขึ้น
“อึกๆๆ……”
เจียงเยว่ถงถือชามใบเล็กด้วยมือสั่นๆ แล้วเงยหนึ่งขึ้นดู
เจียงเยว่ถงอ้าปากตาค้าง ด้วยความเสียดาย โดยเฉพาะเมื่อเห็นฉินเฟยชูไวน์ที่เธออุตส่าห์เก็บอย่างดีดื่มเหมือนน้ำเปล่า ยิ่งทำให้เธอเกือบร้องไห้
“พู่……”ไวน์แดงสองอึกใหญ่ถูกกระดกภายในครั้งเดียว ทำให้รู้สึกสดชื่น เขาถอนหายใจยาว ไวน์แดงก็ต้องดื่มแบบนี้สิ
เจียงเยว่ถงก้มหน้าลงเงียบๆ แล้วสูดหายใจเข้า ในที่สุดเธอก็อดทนไม่คว้าไวน์แดงที่อยู่ในมือของฉินเฟยกลับมา โดยเฉพาะไวน์แดงขวดนั้นที่ถูกฉินเฟยแปดเปื้อน ถึงจะแย่งกลับมาได้ คนที่รักความสะอาดอย่างเธอก็ไม่มีวันดื่ม
แต่ไวน์ขวดนี้เธอเตรียมไว้นานแล้ว ปกติเพื่อนๆของเธอชอบดื่มไวน์แดง มีแค่ขวดนี้ที่ถูกเก็บมาจนถึงตอนนี้ เดิมทีเธอคิดจะหยิบออกมาดื่มคืนนี้ ตามหลักแล้วน่าจะพูดว่าเธอสามารถเอาบริษัทฉีแยกลับมาในคืนนี้ได้
แต่สองวันนี้เธอเหนื่อยมากจริงๆ เมื่อวานหลังจากที่ว่านเสียง มูวีได้เซ็นสัญญากับบริษัทฉีแย ก็ตัดสินใจทำอาหารให้ฉินเฟยในคืนนี้เพื่อเป็นรางวัลให้เขา
ถึงแม้ว่าจะเตรียมไวน์แดงไว้ให้ฉินเฟย แต่เมื่อเห็นไอ้หมอนี่ทำให้ไวน์แดงของเธอแปดเปื้อน เจียงเยว่ถงที่ประหยัดมาโดยตลอดกลับรู้สึกไม่พอใจ เธอก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อไป
ฉินเฟยยื่นมือไปตักซุปปลาวางไว้ตรงหน้าของเจียงเยว่ถง“อย่าเอาแต่กินข้าวเปล่าสิครับ ระวังติดคอล่ะ”
“แค้กๆ……”เขาไม่พูดยังดีหน่อย เมื่อสิ้นเสียงเจียงเยว่ถงก็สำลัก จากนั้นเธอก็ไออย่างนัก
ไม่มีเวลาถลึงตาใส่ฉินเฟย เธอถือซุปปลาบนโต๊ะขึ้นมาซดหนึ่งคำ……
“อ่าห์……”เจียงเยว่ถงซดเพียงหนึ่งคำก็วางถ้วยลงจากรถ ปากเล็กๆของเธอส่งเสียงร้องเบาๆ……
“ทำไมหรอ?”ฉินเฟยรู้สึกมึนงง แม้ว่าจะมีชั้นของน้ำมันที่กักเก็บความร้อนลอยอยู่ในชามซุป แต่หลังจากตักขึ้นมาไม่นาน มันก็หายร้อน
“พู่……ทำไมถึงเผ็ดขนาดนี้……อ่าห์ๆ……”เจียงเยว่ถงใบหน้าแดงก่ำ โดยแลบลิ้นอมชมพูออกมาด้วยปากที่สั่นระริก ท่าทางน่ารักมากๆ……
“ฮ่าๆๆ——”เมื่อเห็นท่าทางท่ารักน่าชังของเจียงเยว่ถง ฉินเฟยก็ถึงกับกลั้นหัวเราะไม่อยู่ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นเจียงเยว่ถงผู้ซึ่งเย็นชาและสูงส่งอยู่เสมอทำตัวน่ารักขนาดนี้ เมื่อเทียบกับความเย็นชาในเวลาปกติที่เธอทำ ภาพลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบ เขาชอบเจียงเยว่ถงที่ทำให้เธอประทับใจได้ ท่าทางอ่อนหวานและอ่อนโยน แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเจียงเยว่ถงจะน่ารักจนทำให้คนที่ได้พบเห็นหัวใจละลายได้ขนาดนี้
ในเวลานี้เจียงเยว่ถงเหมือนผู้หญิงที่แท้จริง ไม่มีความสง่างามสูงส่ง เขาไม่ได้ซาบซึ้งกับสิ่งที่แลกมาด้วยความอ่อนโยนของเธอ บนตัวของเธอนั้นมีความเป็นผู้หญิงมากขึ้น
“ฉินเฟย ไอ้สารเลว นายจงใจหรอห้ะ!”หลังจากที่รีบดื่มน้ำเปล่าไปหลายอึก ลำคอของเจียงเยว่ถงถึงหายปวดแสบ เธอถลึงตาใส่ฉินเฟยที่หัวเราะขำก๊ากอยู่ เธอแทบจะอยากตรงเข้าไปกระทืบเขาให้จมดิน
“ผมจงใจยังไง?เมื่อกี้คุณก็ซดไปถ้วยหนึ่งแล้วไม่ใช่หรอ ผมคิดว่าวันนี้คุณจะชอบกินเผ็ดเป็นพิเศษ เห็นคุณเตรียมสับพริกแห้งไว้เยอะขนาดนี้ ซุปปลามันเผ็ดอยู่แล้วนะ”ฉินเฟยอธิบาย ด้วยใบหน้าที่พยายามกลั้นขำ
ความจริงแล้วพวกเขากินเผ็ดน้อยมาก เจียงเยว่ถงกลับกินมาได้ แต่พริกไม่ดีต่อสุขภาพผิว เจียงเยว่ถงที่ใส่ใจกับใบหน้าของเธอ ปกติจึงควบคุมปริมาณการกินเป็นอย่างดี ซุปปลามีความเผ็ดเล็กน้อย แต่เขาคิดว่าเจียงเยว่ถงสำลักซุปจึงทำให้เธอรู้สึกเผ็ด