ผมเป็นโอเมก้าของอริศัตรู ตอนที่ 4

CH-2, เป็นหมาเฮียลี่ต้องอดทน

 

CH-2, เป็นหมาเฮียลี่ต้องอดทน

คำเตือนมีการใช้คำหยาบคาบ

 

 

เวอร์ชันถอดเสื้อ… แน่นมากแค่กๆ

อัลฟ่ากล้ามแน่นปึก กับ โอเมก้าหุ่นลีนเอวคอด

 

 

 

 

“เราอยากทำงานให้เฮียไหม เฮียช่วยเรา เราช่วยเฮีย”

 

แม้ว่าผ่านมาหลายปีแล้ว แต่เสียงของเฮียลี่ก็ยังคงดังก้องอยู่ในหัว ดังก้องกังวานเหมือนวันแรกที่ได้พบกัน

 

ข้างถนนตรงนั้น… ที่ตรงนั้นที่เขากำลังกระเสือกกระสนหาทางให้ชีวิตของตัวเองปลอดภัยและมีชีวิตรอดโดยไร้ซึ่งอันตราย

 

จริงอยู่ว่ามันอันตรายที่เอาตัวเองไปอยู่ท่ามกลางอัลฟ่า ทั้งยังมีแต่พวกเด็กเวรไม่รู้จักโต แต่เขาก็ไม่มีอะไรจะเสีย ถ้ามันช่วยคุ้มครองชีวิตตัวเขากับน้องให้ปลอดภัยจากทุกสิ่ง ทุกอย่างก็ล้วนคุ้มค่าที่ได้ทำ

 

“เฮียภูครับ”

 

“อะไร?”

 

“ตอนแรกผมไม่ได้ตั้งใจจะไปที่เขตของไอ้สิงห์ แต่…ผมไม่รู้เลยเข้าไปที่นั่น”

 

“…”

 

“ผมไม่รู้จริงๆ”

 

“ใครบอกให้มึงไป”

 

“…”

 

“กูรู้แล้ว มึงไม่ต้องพูดอะไร รักษาเนื้อรักษาตัวให้ดีก็พอ เรื่องค่ารักษาพยาบาลเฮียลี่จะจัดการให้”

 

“ขอบคุณครับเฮียภู”

 

“ไปขอบคุณเฮียลี่ที่จ่ายเงินเถอะ”

 

ภูมินรินทร์เอ่ยตอบก่อนจะเดินออกมาจากห้องพัก รุ่นน้องของเขาไม่ได้บาดเจ็บสาหัส แต่ก็ฟกช้ำไปทั้งตัว หมอเลยสั่งให้พักรักษารอดูอาการสักคืนก่อน ส่วนเรื่องค่ารักษาพยาบาลก็ไม่จำเป็นต้องกังวล เฮียลี่ให้ไว้เดือนละสองแสน ใช้จ่ายเฉพาะค่ารักษาพยาบาลอย่างเดียว มันมีเหลือทุกเดือน แต่เขาก็จะไม่เก็บเอาไว้ โอนเงินคืนเฮียมันตลอดพร้อมแนบหลักฐานว่าเขาไม่ได้เอาไปใช้จ่ายส่วนตัว ถึงเฮียมันจะบอกว่าที่เหลือก็เป็นโบนัสต่อเดือน แต่เขาก็ไม่เคยรับไว้เลยสักครั้ง

 

หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จ ภูมินรินทร์ก็ต้องเข้าไปคุยกับอาจารย์เรื่องรุ่นน้องที่ต้องพักสักระยะ มันจะได้ไม่มีปัญหาด้านการเรียน จากนั้นก็มาถูกพี่ปีสี่กับปีสามบ่น เพราะพวกเขาไม่อยากให้ปัญหาเรื่องการทะเลาะวิวาทมันมากไปกว่านี้ มันควรจบต้องแต่ที่เฮียลี่เรียนจบไปแล้ว แต่มันก็ยังคงมีอยู่เป็นระยะ จึงทำให้ตัวเขาที่ทำงานให้เฮียลี่โดยตรงโดนรุ่นพี่ก่นด่าอยู่เป็นระยะ ไหนจะเรื่องที่พวกปีสามบางส่วน พวกปีสองกับรุ่นน้องที่เคารพแค่เขา ไม่ให้เกียรติรุ่นพี่มากปี

 

แต่ก็… ใช่ว่ารุ่นน้องทุกคนจะเคารพเขาทั้งหมด

 

 

 

เสียงหัวเราะดังก้องไปทั่วอาคาร ที่นี่ไม่มีใครอยู่นอกจากปีหนึ่งกลุ่มหนึ่ง เป็นกลุ่มเดียวที่ทุกคนในคณะไม่กล้าขัดใจเท่าไหร่นัก เนื่องจากผู้นำของกลุ่มนั้นเป็นน้องชายคนเล็กของเฮียลี่

 

เฮียลี่เป็นมาเฟียคุมกาสิโนที่มาเก๊า นี่ยังไม่รวมครอบครัวของเขาที่ใหญ่โตไม่แพ้กัน เพราะงั้นทุกคนเลยจำยอมต่ออำนาจที่ยิ่งใหญ่เกินทัดเทียม

 

“หลิน”

 

แต่ภูมินรินทร์ไม่เคยคิดเกรงกลัวเลยสักครั้ง

 

“อะไร”

 

“หลินบอกให้เพื่อนร่วมสาขาเข้าไปเขตเด็ก JA เหรอ”

 

“ไม่นี่ มันไปของมันเอง”

 

“คนเรามันไม่ทำแบบนั้นหรอก ยิ่งตัวคนเดียวก็ยิ่งไม่มีทาง” ถ้าไม่โง่มากพอ ใครจะเข้าไปในถิ่นอริที่จ้องจะรุมกระทืบ “พี่ไม่อยากให้หลินทำแบบนี้อีก หวังว่ามันจะไม่เกิดขึ้นเป็นครั้งที่สอง”

 

“มึงไม่ใช่พี่กู อย่ามาสั่ง!”

 

“…”

 

“คนอย่างมึงเป็นได้แค่หมาที่คอยเลียแข้งเลียขา คนชั้นต่ำอย่างมึงที่พี่กูเก็บมาจากข้างถนน… ไม่มีสิทธิ์มาสั่งกู!”

 

“…”

 

“จำใส่หัวมึงเอาไว้ หมามันก็คือหมา อย่าริอ่านมาทำตัวเทียบเคียงเจ้าของ”

 

ทำไมเฮียลี่ถึงมีน้องชายเป็นเด็กเปตรแบบนี้กันนะ…

 

ภูมินรินทร์คิดในใจ เขาไม่ได้ตอบโต้หรือว่าอะไร ไม่สนใจคำพูดนั้นด้วย เพราะเขาคือหมาของเฮียลี่จริงๆ สิ่งเดียวที่ทำคือรายงานพฤติกรรมของหลินที่เริ่มมากเกินไป อีกหน่อยคงเกินควบคุมเยียวยาถ้าเฮียลี่ยังไม่ส่งมันไปดัดสันดานให้มีสามัญสำนึกมากขึ้น

 

“เฮียลี่ ครั้งนี้หลินมันทำเกินไปแล้วนะครับ”

 

[กูรู้]

 

“ไม่ครับ เฮียไม่รู้… ถ้าเฮียลี่รู้ เฮียคงจัดการหลินแล้ว ไม่ใช่ทำเฉย”

 

[…]

 

“ผมมีหน้าที่ต้องดูแลความปลอดภัยของหลินในรั้วมหาลัยก็จริง แต่ถ้าหลินยังคิดจะหลอกให้เพื่อนไปถูกคนอื่นรุมกระทืบเพื่อความสนุกสนาน ผมก็ไม่อยากจะทำงานนี้อีกแล้ว”

 

[กูจะจัดการน้องกูให้ ไม่ต้องห่วง ฝากขอโทษรุ่นน้องคนนั้นด้วย]

 

“ครับ แล้วก็ฝากบอกเฮียคิรินด้วย คิงมันก็นิสัยเด็กเวรพอๆ กับหลินนั่นแหละ”

 

[หึ เดี๋ยวก็บอกมันให้ … อื้ออ รำคาญ … แค่นี้ก่อนนะ มันกำลังนอน]

 

“ครับ ขอโทษที่รบกวน”

 

เฮียลี่กับเฮียคิรินเป็นผัวเป็นเมียกันมานานแล้ว หมายถึงมันน่าจะมีหมาที่ชื่อเฮียลี่อยากได้เขาเป็นเมียมาสักพักแล้ว เรื่องแย่งเด็กกันคงจะแค่เรียกร้องความสนใจ อยากให้เขาเข้าหาตัวเองถึงจะเป็นการเข้าหาแบบแลกหมัดกันก็เถอะ นี่ไม่รู้ว่าไปปลูกต้นรักกันตอนนั้น รู้ตัวอีกทีก็หอบลูกเมียกลับมาเก๊า ไม่รู้บอกพ่อแม่เขาหรือยังว่าทำลูกเขาท้องน่ะ

 

นี่ถ้าไม่ใช่เพราะว่าสองเฮียมันห้ามไม่ให้เขาพูดนะ เขาจะพูดแม่งให้รู้ทั่วกัน เด็กนรกพวกนี้มันจะได้เริ่มกร่างแล้วหาเรื่องกระทืบกันเสียที แต่สองเฮียมันมีเหตุผล หลายๆ อย่างมันยังไม่ลงตัวเท่าไหร่นัก เพื่อความปลอดภัยเลยขอให้ปกปิดเรื่องนี้เอาไว้ก่อน ขนาดพี่น้องยังไม่รู้เลยนอกจากเขาคนนี้

 

 

 

เมื่อจัดการอะไรหลายๆ อย่างเสร็จ ภูมินรินทร์ที่เรียนเสร็จแล้วก็เตรียมตัวไปทำงานพาร์ทไทม์ต่อ แต่ก็ไม่ลืมโทรหาน้องชายทั้งสองคน

 

[พะพี่! พี่พิณๆ พะพี่โทรมา]

 

“สายเพลงอยู่กับสายพิณใช่ไหม?”

 

[ช่าย พี่นินก็อยู่ ทำข้าวเย็นอยู่กับพี่พิณกับพี่นุนา พะพี่ไม่ต้องห่วงนะ]

 

“งั้นเหรอ ไหนพี่ขอคุยกับทุกคนหน่อย”

 

ภูมินรินทร์ระบายยิ้ม ดวงตาเฉี่ยวคมที่ใครมองว่าดุนักดุหนาดูอ่อนโยนขึ้นมาหลายส่วน แค่ได้ยินเสียงเจื้อยแจ้วของสายพิณกับสายเพลงเขาก็ดีใจแล้ว ยิ่งสบายใจขึ้นเมื่อรู้ว่าทั้งคู่อยู่กับพี่เลี้ยง

 

เนื่องจากฐานะทางบ้านที่ไม่ค่อยมั่นคงเท่าไหร่นัก แม้จะได้รับเงินเดือนจากเฮียลี่เยอะ แต่ภูมินรินทร์ก็ติดนิสัยหางานพาร์ทไทม์ทำอยู่ตลอด เนื่องจากไม่รู้ว่าเฮียลี่จะเลิกจ้างเมื่อไหร่ เขาก็เลยอยากจะเซฟตัวเองเอาไว้ก่อน จะได้ไม่มีปัญหาตามมาในอนาคต เงินจากงานพาร์ทไทม์ก็ถือว่าเป็นเงินเก็บฉุกเฉินอีกก้อนหนึ่ง เงินสำรองเผื่อสถานการณ์ทุกอย่างมันเปลี่ยนไป

 

ส่วนนินหรือนินจาก็เป็นรุ่นน้องข้างบ้านที่หางานทำ ด้วยความที่มันเป็นอัลฟ่าที่ไว้ใจได้ เขาเลยจ้างมาเป็นพี่เลี้ยงน้องชายทั้งสองคน ส่วนนุนาก็เป็นน้องสาวนินจา เอามาเลี้ยงร่วมกันกับน้องๆ ส่วนพ่อแม่ของเขาก็เสียไปนานแล้ว ตอนนั้นทุกอย่างย่ำแย่กว่านี้มาก เขาต้องยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เงินมาเลี้ยงดูแลน้องๆ ให้กินอิ่มท้องในทุกวัน

 

เรียกได้ว่าชีวิตที่มีอยู่ในตอนนี้ได้ดีขึ้นเพราะเป็นหมาเฮียลี่ทั้งสิ้น เพราะเฮียลี่ส่งเขาเรียนหนังสือถึงจะเลือกสาขาเรียนไม่ได้เพราะต้องมาดูแลหลิน เรียกได้ว่าหลินอยากเรียนสาขาหรือคณะอะไร เขาก็ต้องตามไปอย่างไม่อิดออด ส่วนน้องๆ เฮียลี่ก็ส่งเสียให้เรียนที่ดีๆ โรงเรียนเอกชนชั้นนำพร้อมกับจ่ายค่าเทอมให้จนจบมัธยมปลาย จ่ายให้ทุกอย่างจนไม่มีอะไรขาดเหลือ เรียกได้ว่าเรียนโดยไม่ต้องกังวลใจอะไรทั้งสิ้น

 

ด้วยเหตุนี้เองภูมินรินทร์เลยไม่อิดออดเวลาเฮียลี่สั่ง เขาทนได้ เพื่อตอบแทนบุญคุณเฮียลี่เขาให้ทุกอย่างนั่นแหละ

 

ยกเว้นก็แต่ความรัก…

 

เมื่อก่อนที่เฮียลี่ทำทุกอย่าง ก็เพราะอยากได้ความรักจากเขา แต่เขาให้เฮียลี่ได้แค่พี่ชายกับผู้มีพระคุณ เรื่องของเราเลยหยุดอยู่กันแค่ตรงนี้ ซึ่งเขายินดีมากเลยที่เฮียลี่กับเฮียคิรินไปด้วยกันได้ดี

 

 

 

 

 

ยิ้มอะไรของมัน…

 

สิงหาที่อยู่ในรถจ้องมองร่างสูงโปร่งไม่วางตา เขาไม่ได้ตามมาแอบดูมันเพราะห่วงว่ามันจะถูกใครทำร้ายนะ ไม่ได้มาแอบจับตามองใครทั้งสิ้นด้วย เขาแค่มารับน้องกลับบ้าน ส่วนที่มองก็เพราะมันอดไม่ได้ที่จะมองรอยยิ้มสวยๆ มองแล้วก็รู้สึกหงุดหงิดในใจระคนกัน

 

“โทรคุยกับใคร… แฟนเหรอวะ… ยืนยิ้มอยู่คนเดียวแบบนี้”

 

ยิ้มสวยชะมัด…

 

 

 

 

 

___________________

Loading … 100 per.

ยืนยิ้มธรรมดาไม่ได้ ต้องยิ้มสวย

ยัยภูผาคือน้องรักเฮียลี่สุดๆ ทำเสียใจเฮียลี่กลับมาตีตายแน่ ด้วยความที่เฮียลี่ดูสนใจภูผามากกว่า หลินเลยไม่ค่อยชอบยัยภูผา ด้วยความพี่ลี่มันเคยชอบน้องไง แต่ตอนนี้มีเมียแล้ว ไม่คิดไปมากกว่านี้แน่นอน

 

ผมเป็นโอเมก้าของอริศัตรู

ผมเป็นโอเมก้าของอริศัตรู

ผมเป็นโอเมก้าของอริศัตรู
Score 6.8
Status: Ongoing
อ่านเรื่องผมเป็นโอเมก้าของอริศัตรู เรื่องย่อ "อยู่ข้างกูเอาไว้ หรือมึงชมชอบที่จะฮีทกับอัลฟ่าแปลกหน้าแล้วถูกเขาขืนใจทั้งที่ไม่มีสติ? ไม่... กูไม่ได้เป็นห่วงคนอย่างมึง แค่เวทนาโอเมก้าอย่างมึงที่ต้องกระเสือกกระสนปลอมตัวเป็นอัลฟ่า"

Comment

Options

not work with dark mode
Reset