ผมแค่อยากอ่านหนังสือ แต่ดันกลายเป็นหญิงในต่างโลกซะงั้น – ตอนที่ 24

บทที่ 24 – โรสปะทะเบ๊ลิลิซ

 

ชั้นเข้ามาในห้องนี้ก็เห็นภาพอันน่าสะอิดสะเอียนถึงจะไม่ค่อยรู้สึกอะไร กับมันแต่มันก็ไม่ได้น่าอภิรมย์สักเท่าไหร่นะ ก็แหมดูศพสิเหมือนหลุดมาจากภาพยนตร์สยองขวัญ

แล้วทำไมยัยลิลิซถึงไปยืนถือหอกแปลกๆ ชื่อสุดจะเท่ในท่าทางเท่ๆ แบบพระเอกนั้นได้ หอกนี่ชั้นรู้จักมันนะ

มันคือหอกวารีพิชิตสวรรค์ โหมดเทพพิโรธ ชื่อมันจึงแปรเปลี่ยนเป็นหอกทลายสวรรค์ หอกที่จากมีพลังวารีอันอ่อนโยนแปรเปลี่ยนเป็นโลหิตพิโรธเลยล่ะ

ที่ชั้นสงสัยคือทำไมมันถึงอยู่ในมือลิลิซนี่สิ เห็นว่ามันหายสาบสูญไปตั้งนานแล้วยิ่งตอนนี้ผ่านมาแล้วอีกสองพันปีนี่ ไม่มีทางที่จะเป็นไปได้ว่ามันจะโผล่มาอยู่ในมือคนไม่ได้ความอย่างลิลิซ

แต่เดี๋ยวสิมันใช่เวลาที่จะพูดเรื่องนั้นไหม .. ถ้าอยู่ในโหมดพิโรธก็หมายความว่าผู้ใช้ตกอยู่ในสภาวะสูญเสียสำนักสติทั้งหมด ตามข้อมูลที่ชั้นอ่านเจอมา

ว่ากันว่าศาสตราวุธทั้งห้า สร้างขึ้นจากสัตว์เทวะในตำนานมันมีจิตใจเป็นของตัวเองและเลือกผู้ใช้ด้วยตัวเอง ใช่ ฟังไม่ผิดมันเลือกผู้ใช้ด้วยตัวเอง

ศาสตราวุธนี้ไม่ให้ผู้ใช้เลือกมันแต่มันตั้งหากเลือกผู้ใช้ และพลังความสามารถของมันอยู่เหนือกฎเกณฑ์พลังในโลกนี้ไปทั้งหมด หากเผ่าเทวะมังกร มีขีดจำกัดสเตตัสที่หนึ่งหมื่น เจ้าหอกนี้ก็เหนือกว่านั้นอีกสองเท่า!

พลังจะกักเก็บอยู่ในตัวหอกหากพบกับผู้ใช้พลังมันจะส่งไปในร่างของผู้ใช้และเป็นหนึ่งเดียวกัน หรือจะพูดก็คือได้บัพจากอาวุธจนโกงดีๆ นี่เอง

กลับมาที่ปัจจุบัน ลิลิซหันมามองชั้นกับเชลด้วยสายตาไร้ความรู้สึกแรงกดดันจากตัวลิลิซ.. ไม่สิ. ถ้าจะให้พูดคือจากหอกที่พิโรธในมือมันแผ่พุ่งมาเหมือนภูเขาสิบลูกกดทับ

ทำให้เชลเข่าทรุดเลยทีเดียว แต่น่าเสียดายต่อให้มันใช้กดดันระดับภูเขาพันลูกก็ไม่เป็นผลต่อชั้น เพราะชั้นมีสกิล [ต้านทานสถานะผิดปกติทุกชนิด] แรงกดดันก็เป็นสถานะพิเศษ

ตามระบบที่ชั้นมีนะ ชั้นเลยไม่เป็นอะไรเลย ดูโกงแฮะ.. ทางด้านลิลิซเองก็พุ่งใส่ชั้นอย่างว่องไว ด้วยความเร็วที่เหมือนกับเทเลพอร์ตทำให้ชั้นตกใจขึ้นมา

จึงใช้นัยน์ตาเทพระบบตรวจสอบมันซะเลย.. พอชั้นเห็นค่าสเตตัสทุกอย่างขึ้นเป็น ‘?’ ทั้งหมดก็ทำเอาแปลกใจไปเลย แม้แต่อาชีพยังไม่เหมือนเดิมขึ้นเป็น ‘???’

หรือง่าเธอเหนือกว่าชั้นไปแล้ว? ก็แบบนั้นไงประมาณว่าไม่สามารถตรวจสอบคนที่แข็งแกร่งกว่าได้อ่ะ.. พอคิดแบบนั้นก็รู้สึกโล่งใจว่าตัวเองไม่ได้เป็นสัตว์ประหลาดคนเดียวเลย

อ่าว.. เดี๋ยวพอมองมุมหนึ่งของหน้าสถานะที่โผล่มามันมีคำอธิบายด้วยนี่น่า … พอมองแล้วมันเขียนบอกไว้ว่า

[เนื่องจากสถานะพลังปั่นป่วนจึงทำให้ไม่สามารถตรวจสอบได้ในเวลานี้]

แบบนี้นี่เอง ประมาณว่าอยู่ในโหมดคลั่งชั้นเข้าใจ แต่ก็สลดใจลงทันทีเพราะว่าเหมือนจะไม่ใช่ว่าอีกฝ่ายเหนือกว่าชั้นเลย.. และสิ่งที่พิสูจน์คือนี่ไง

ตอนนี้ที่ชั้นกำลังตรวจสอบและพล่ามเรื่องไร้สาระอยู่นี่ล่ะ ลิลิซถึงจะเร็วแต่ในสายตาของชั้นมันไม่ต่างจากการเคลื่อนไหวคนอื่นเลยนะ..

แบบ.. คือขนาดลิลิซในโหมดคลั่งชั้นยังเหนือกว่าคนละระดับอ่ะ.. สลดมากเลยนะก็แบบในนวนิยายมีบ่อยๆ ไม่ใช่เหรอเมื่อตัวละครเข้าโหมดคลั่ง

จะใครก็ชนะได้หมด.. แต่ว่าตอนนี้ลิลิซที่โหมดคลั่งแต่มาอยู่ต่อหน้าชั้นเธอก็ยังช้าเหมือนเดิม ทำให้ชั้นถอนหายใจออกมาช่วยไม่ได้

“เฮ้อ.. กายามังกร”

ชั้นถอนหายใจออกมาแล้วมือขวาก็กลายเป็นแขนมังกรที่หุ้มด้วยเกราะสีดำสนิทดูน่าหวาดหวั่นอย่างมาก ชั้นใช้มือรับหอกอย่างง่ายดาย

“ฟู้ม!! ตูมมม!!!”

ก็เป็นไปตามที่คิด หอกถูกหยดด้วยมือขวาข้างเดียวแต่แรงเสียดทานอากาศจากความเร็วของลิลิซทำให้เกิดเสียงสนั่นถ้ำ พื้นดินแตกระแหงเป็นรอยยาวอย่างน่ากลัว

ชั้นเชื่อว่าถ้าชั้นหลบยัยนี่คงจะนู้น.. ออกจากถ้ำไปเลยล่ะ แล้วคนที่ตายคงเป็นพวกผู้กล้าที่อยู่หน้าถ้ำแน่ๆเพราะโดนพลังหอก

ชั้นปล่อยมือออก แล้วลิลิซก็ถอยหลังควงหอกพร้อมกับแทงมาอีกครั้งชั้นใช้นิ้วปัดการโจมตี “เคร้ง!” เสียงนี้ดังขึ้นพร้อมกับเสียงลมที่ซัดกระหน่ำราวกับพายุ

เธอขยับเคลื่อนไหวโจมตีอีกครั้ง ก็เป็นเหมือนครั้งแรก การโจมตีของเธอเข้ากดดันชั้นต่อเนื่อง.. แต่คนถูกกดดัน ดันเป็นฝ่ายนั้นมากกว่า

หืม.. เป็นการต่อสู้แบบสัญชาตญาณเหรอ.. แต่น่าทึ่งเหมือนกันแฮะ.. การโจมตีของเธอไร้ทักษะในการใช้หอกใดๆ เป็นการโจมตีที่ใช้สัญชาตญาณ

แต่กลับมีเชิงทักษะเหมือนผู้เชี่ยวชาญ! ต้องบอกว่าเป็นการผสมผสานของทั้งหอกและลิลิซละนะ ชั้นก็ยังตั้งรับเธอขณะดูเชิงทักษะเธอ

ถามว่าทำไมถึงดูเหรอ เพื่อศึกษาน่ะสิ ความรู้นะความรู้ทั้งนั้น! ก็ดูสิการต่อสู้ไร้ทักษะวิชาแต่กลับสุดยอดเหมือนมีฝีมือการใช้หอกนี่มันน่าสนใจมากไม่ใช่เหรอ

เอ่อ.. ถึงจะเห็นชั้นดูรับป้องกันสบายๆ แต่ความจริงเพราะมีความรู้เกี่ยวกล้ามเนื้อหรือลมหายใจ จังหวะชีพจรและอัตราการเต้นของหัวใจ การเคลื่อนไหวทุกอย่างของร่างกาย

ชั้นศึกษาผ่านหนังสือจนละเอียดยิบ เพราะงั้นชั้นเห็นการเคลื่อนไหวของเธอผ่านการสังเกตทุกอย่างจากร่างกายเธอได้นั่นแหละ

จะอธิบายง่ายๆ ก็คือ เหมือนเธอกำลังสู้กับคนที่เข้าใจทุกอย่างเกี่ยวร่างกายมนุษย์อย่างชั้นนั้นล่ะ.. ดูโกงสิ.. ต้องชอบคุณหนังสือจริงทำให้ชั้นต่อสู้ได้เหมือนผู้เชี่ยวแบบนี้

“เคร้ง!!”

ในตอนนั้นเองชั้นปัดการโจมตีไปอีกรอบจนเธอลอยตัวกลับหลังไปตั้งหลักในตอนนั้นเองลิลิซย่อเข่าลงยื่นเท้าซ้ายไปข้างหน้าและดึงเท้าขวากลับหลัง

ชี้ปลายหอกมาทางชั้น พร้อมกับพลังเวทที่ปะทะออกจากตัวหอกพร้อมกับหมุนเกลียวที่ปลายหอกเป็นเส้นสีแดงเป็นวารีที่มีสีโลหิตหมุนวนอย่างบ้าคลั่ง

ชั้นลืมบอกไปอย่าง.. หอกนี้ตอนปกติก็พอที่จะถล่มเมืองให้ยับเพียงการขว้างได้แล้ว.. แต่ตอนนี้มันระเบิดพลังออกจากรอบทิศทำให้โพรงถ้ำสั่นสะเทือน

“ยัยลิลิซ นี่ตัวปัญหาจริงๆ!”

ชั้นบ่นออกไปแบบนั้นก่อนที่เธอจะพุ่งมาหาชั้นอย่างรวดเร็วด้วยความเร็วเหนือกว่าเสียง.. ถ้าให้พูดและมองอย่างละเอียดความเร็วระดับนี้มันเหนือกว่า

‘ความเร็ว’ โดยทั่วไปแล้ว นี่มันคือความเร็วที่เรียกได้ว่าเร็วกว่าที่สิ่งมีชีวิตจะทนแรงต้านอากาศด้วยความเร็วระดับนี้ได้

การที่จะเกิดแรงกระแทกอากาศที่รุนแรงย่อมเป็นเรื่องปกติ และไม่ใช่เบาๆ ด้วยมันทำให้ห้องหินนี่สั่นสะเทือนเหมือนกับกำลังจะถล่มลงมา

“…”

ชั้นพูดไม่ออก เคลื่อนไหวไปอุ้มเอาร่างของเชลที่ตะลึงกับเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วเคลื่อนไหวกายถอยออกอย่างรวดเร็ว พร้อมกับทำให้เธอหมดสติ

และตามมาติดๆ คือลิลิซ พร้อมกับถ้ำที่สั่นสะเทือนตามหลังมาติดๆ ..

“ยัยตัวปัญหาเอ้ย!!”

ชั้นไม่คิดว่าเธอคือศัตรูตัวฉกาจเลย เธอที่ตามมาเหมือนเป็นตัวปัญหา ในช่วงเวลาที่เร็วกว่าเสี้ยววินาทีชั้นหลุดออกมาจากปากถ้ำแล้วชั้นเลยรู้สึกขี้เกียจจะเล่นแล้ว

ชั้นหยุดลงหันหน้าไปหาทางที่ลิลิซพุ่งมาด้วยความเร็วสูงยากจะจินตนาการเมื่อซ้ายที่อุ้มเชลไว้ไม่สามารถโยนเธอออกไปได้

ถึงจะเป็นเชลก็เถอะตอนที่ชั้นยังอยู่ในโลกที่เหมือนหน่วงเวลานี่ถ้าโยนออกไปมีหวังกระดูกหักนอนตายแน่ๆ

หอกของลิลิซพุ่งมาด้วยความเร็วสูงชั้นยกมือรับหอกอย่างรวดเร็ว

“ตู้มมมมมมม!!!”

แรงกระแทกนี้รุนแรงอย่างมากจนทำให้ชั้นตกใจ ต้นไม้ในรัศมีใกล้ๆ หักโค่นลงเพราะแรงปะทะที่เกิดขึ้นเมื่อครู่อย่างน่าตะลึง

ชั้นออกแรกจับหอกสีแดงนี้แน่นด้วยแขนมังกรพร้อมกับเปิดปากออก

“…..” (คำรามว่าไงดีครับ?)

เสียงคำรามที่เป็นทักษะคำรามของชั้นดังออกมาภายใต้เสียงคำรามอันรุนแรงนี้เรียกได้ว่าทุกอย่างในรัศมีหลายเมตรต้องสลบแน่นอน (สิ่งที่เจ้าตัวคิด)

ก็อย่างที่คาดการทำให้หูของลิลิซมีเลือดไหลออกมาชั้นใช้พลังป้องกันให้เชลที่อยู่ใกล้ไม่งั้นเธอคงหนังหัวระเบิดแน่ๆ ส่วนลิลิซเพราะมีบัพจากหอกเลยทำให้แค่สลบไปเท่านั้น

ชั้นใช้คำรามครั้งแรกดูเหมือนพลานุภาพมีทั้งขู่ขวัญ และทำลายสติสัมปชัญญะแฮะ.. ลิลิซสลบลงชั้นเลยดึงหอกออกจากมือเธอแล้วก็วางเชลลงด้านข้าง

ใช้พลังฟื้นฟูร่างกายให้ลิลิซ..

เอ๊ะจะว่าไปพวกผู้กล้าล่ะ.. ชั้นมองไปรอบๆ ก็เห็นพื้นที่ราบเรียบที่แม้แต่ต้นไม้ก็หายเกลี้ยง.. ได้แต่เกาหัวหงึกๆ อย่างช่วยไม่ได้

สิ่งที่โรสไม่ทราบถึงมัน..

“….” เสียงคำรามดังก้องกังวานไปทั่วทั้งอาณาเขตเมืองเป็นเสียงคำรามที่ดังขึ้นฉับพลัน โชคดีที่เมืองฟิโอน่ามีบาเรียกั้นพลังเวทอยู่จึงไม่รับดาเมจไปตรงๆ

แต่ทว่าทุกคนในเมืองต่างสลบแก้วหูแตกกันเป็นว่าเล่นบางคนถึงกับขาดสติเป็นบ้าไปเลยทีเดียว.. ไม่ต้องพูดถึงสิ่งมีชีวิตใกล้ๆ เมืองที่เสียงส่งถึงหัวถูกระเบิดเพราะเสียงคำรามอันน่าหวาดหวั่นของโลลิโรส

โชคดีที่เหล่าผู้กล้ากระเด็นลอยข้ามเมืองด้วยเพราะลมกรรโชกของการเคลื่อนไหวลิลิซและโรส จึงทำให้ไม่ได้รับดาเมจจากเสียง.. กลายเป็นว่าอยู่ใกล้ที่สุดดันโชคดีที่สุด

 

………

ผมแค่อยากอ่านหนังสือ แต่ดันกลายเป็นหญิงในต่างโลกซะงั้น

ผมแค่อยากอ่านหนังสือ แต่ดันกลายเป็นหญิงในต่างโลกซะงั้น

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง ผมแค่อยากอ่านหนังสือ แต่ดันกลายเป็นหญิงในต่างโลกซะงั้นชั้นชื่อ เลกซ์ เป็นแค่คนธรรมดาสามัญประจำบทตัวประกอบละนะ ถึงจะบอกแบบนั้นแต่ตอนนี้ก็เป็นตัวเอกอยู่ ชั้นอายุ 38 ปี ถึงจะมีอายุขนาดนี้แต่ก็ไม่ได้มีสิ่งที่น่าจดจำในการใช้ชีวิตหรอกนะ ไม่ใช่ว่าชั้นไม่มีอะไรเลยนะ เพราะที่น่าจดจำที่สุดของชั้นคือเนื้อหาในหนังสือที่บอกเล่าเรื่องราว สมัยมัธยมต้นมัธยมปลายชั้นเป็นถึงบรรณารักษ์ห้องสมุดถึงตลอดเลยล่ะ ถึงจะดูโม้ไปหน่อยแต่เรื่องไหนที่ชั้นอ่านผ่านตาและคิดที่จะจดจำมันก็บันทึกลงแบบไม่มีทางลืมเลย สุดยอดใช่ไหมล่ะ.. นี่แค่เบาะๆนะ ชั้นจบป.เอก แต่มีงานหาเช้ากินค่ำเท่านั้นคงจะสงสัยว่าทำไมละสิ .. แน่

Comment

Options

not work with dark mode
Reset