บทที่ 35 – โรสกับการลองเวท
ชั้นพูดไม่ออกจริงๆนะ คือมันไม่ใช่แค่ด้านบนขนาดพื้นที่รอบข้างหลายกิโลเมตรยังถูกเป่าหายหมดด้วย ท้องฟ้าสีแดงเปลี่ยนเป็นสีฟ้าครามปกติ
จะให้อธิบายอย่างละเอียดคือเริ่มแรกนี่เป็นใต้ดินกว่าหนึ่งร้อยเมตร.. แต่ในตอนนี้เป็นพื้นที่ราบเรียบหลายกิโลเมตรรอบด้านที่เคยเป็นใต้ดิน
ตอนนี้เป็นแผ่นดินไปแล้ว.. เรื่องนี้จะโทษชั้นไม่ได้นะ… นี่สิ เขาเรียกว่าสละสิบช่วยร้อยไง เพราะถ้าชั้นไม่ทำทวีปนี้คงหาย
ถึงจะไม่ต้องทำแบบนี้ได้ก็เถอะความผิดทั้งหมดมันเป็นของกิ้งก่าไฟยักษ์นั่นแหละ.. แต่ยังไงก็รู้สึกผิดอยู่ร่ำไรแฮะ
และในตอนนั้นเองชั้นรู้สึกเหมือนถูกเติมเต็มขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ นี่หรือว่าชั้นเพิ่มระดับขึ้นคิดแบบนั้นก็เปิดสเตตัสขึ้นมาดูต้องยืนงงไปพักหนึ่ง
“… ไม่คิดว่ามันจะขนาดนี้แฮะ…”
ชั้นตอนเลเวลพุ่งพรวดไปยี่สิบแล้ว.. สเตตัสเพิ่มสองเท่าก็จากสี่สิบเท่าจากที่ควรจะเพิ่ม แถมสเตตัสที่เพิ่มทุกครั้งยังเป็นการเพิ่มเท่าหนึ่งของจากที่มีอยู่
หมายความว่า… ชั้นในตอนนี้มีพลังมากขนาดที่ว่าชั้นก่อนหน้านี้ถึงสี่สิบคนรวมกันในตัวชั้นคนเดียว.. บ้าเอ๊ย.. นี่แค่นั้นยังลำบากแล้วนะ
ยังจะเพิ่มให้อีกเหรอ.. ระดับชั้นตอนนี้คือระดับ 20 มานาในตอนนี้ชั้นก็คือ 30,500 เผื่องงคือตั้งแต่ระดับหนึ่งถึงสิบ
มานาจะเพิ่มทุกๆ หนึ่งพัน คนปกติไม่รู้ว่าเท่าชั้นไหมเมื่อระดับสิบเอ็ดถึงยี่สิบ มานาจะเพิ่มทุกๆ ระดับ ระดับสองพันก็เลยได้สามหมื่นห้าร้อยอย่างที่เห็น
มันไม่ใช่จำนวนน้อยๆ นะคิดว่า ชั้นมีมานาเยอะแล้วในตอนนี้น่าจะลองเวทมนตร์สักเวทดูดีกว่า ก่อนอื่นลองแบบร่ายดูก่อนสินะ
【ข้าในนามแห่งเทพ ตัวแทนแห่งอัคคีสวรรค์ ข้าจะบัญชาอัคคีสวรรค์ ควบคุม ก่อกำเนิดด้วยพลังของข้า ถูกบงการโดยข้าจงปรากฏ บงกชอัคคี! 】
ก็ประมาณนี้เวทมนตร์ชั้นสูงสิ้นเสียงของชั้นก็มีบงกชเพลิงสีแดงร้อนแรงปรากฏขึ้นขนาดมันใหญ่ปกคลุมท้องฟ้าเพลิงร้อนแรงสุดขีด
โอ้ นี่มันค่อนข้างน่าจะตื่นตะลึงเพราะตามหนังสือแม้บงกชเพลิงมันมีขนาดหลายสิบเมตรเท่านั้น.. แต่ของชั้นคือเปลี่ยนแปลงท้องฟ้าจนสุดสายตาเป็นดินแดนร้อนระอุเลย
เดี๋ยวเฮ้ย.. ความแรงนี่มันระดับมหาเวทชั้นฟ้าดิน เลยนะ.. เวทมนตร์แบ่งออกเป็น เวทมนตร์ ชั้นต่ำ, ชั้นกลาง, ชั้นสูง… นี่คือเวทมนตร์ที่แพร่หลาย
มีคำร่าย ใช้คทาเป็นสื่อนำก็ได้ แต่จากที่ชั้นออกจากถิ่นของชั้นมาชั้นได้ยินว่ามีตำราเวทมนตร์โผล่มาด้วย แต่จะมาพูดถึงเวทมนตร์ทั่วไปก่อน
จากเบื้องต้นก็กล่าวไปมีแค่สามระดับชั้น.. แต่ยังมีเหนือกว่าคือ มหาเวท.. โดยจะแบ่งออกเป็นมหาเวทชั้นสูง, ชั้นปฐพี, ชั้นฟ้าดิน ก็ประมาณนี้
แต่มีระดับที่เหนือกว่านะเออ ชั้นไม่อยากพูดถึง.. คงเป็นเพราะสเตตัสสูงสินะ.. ขนาดคิดว่าใช้พลังน้อยที่สุดของน้อยที่สุดแล้วนะเนี่ย
ดูเหมือนว่าจะลาจากความเป็นมนุษย์ไปจริงๆ แล้วสินะ ไม่สิชั้นก็ไม่ได้เป็นมนุษย์ตั้งแต่ต้นนี่น่า.. ช่างเถอะ กลับดีกว่า
ชั้นคิดแบบนั้นก็มีปีกงอกออกมาจากหลังก่อนจะรีบเผ่นหนีด้วยความเร็วสูงและชั้นบินเหนือเมฆด้วยนะกลัวมีคนเห็นเดี๋ยวถูกหาว่าเป็นต้นเหตุ
จะว่าไปตอนชั้นมาชั้นน่าจะบินมาซะก็สิ้นเรื่องนะ ไม่น่าไปทำแบบนั้นซะเลย แต่ด้วยความรีบน่ะนะคิดว่าบางทีถ้าชั้นกระพือปีกหนึ่งครั้ง
เมืองหลวงฟิโอน่าคงหาย.. ก็นั่นแหละแต่ตอนนี้ดินแดนแห่งนี้ว่างเปล่าไปหมดแล้วชั้นเลยกระพือปีกบินได้แต่ไม่ได้ใช้ความเร็วทั้งหมดนะ..
แบบใช้น้อยมาก.. น้อยเท่าที่จะทำได้เลยแต่พลังมันเยอะเกิน และชั้นก็รีบกลับยังไม่ตรวจสอบสิ่งอื่นๆ เลย
“เอ๊ะ.. หนังสือชั้น…”
ชั้นนึกขึ้นได้ว่าชั้นวางหนังสือไว้ในปราสาทที่เป่าหายไป.. งั้นหมายความว่า.. ชั้นเป็นคำทำลายหนังสือ.. ชั้น.. ชั้นเนี่ยนะทำลายหนังสือ
…..
หลังจากนั้นความเร็วของโรสก็ช้าลงใบหน้าเหมือนทำความผิดฆ่าคนทั้งโลกไปจิตใจแตกสลาย.. โรสรู้สึกผิดสุดขีด
จิตตกติดต่อกันถึงสามวันสามคืน ไม่เป็นอันจะสร้างอะไร หลังจากนั้นโรสจึงหาวิธีเอาหนังสือกลับคืนมาแต่ก็ไม่มี…
…..
ในตอนที่แดนปีศาจถูกลบให้หายไป.. ถูกแดนปีศาจกินพื้นที่ประมาณหนึ่งในห้าของทวีปแห่งนี้ และทั้งแดนปีศาจกลายเป็นที่ราบเรียบ
ไม่รู้โชคดีหรือโชคร้ายที่กองกำลังปีศาจถูกพาออกจากแดนปีศาจไปหมดดังนั้นจำนวนที่ได้รับผลกระทบจากหมัดนั้นของโรสจึงมีเพียง 1 ใน 10
และคนเหล่านั้นล้วนเป็นคนที่ไม่มีประโยชน์ในการทำสงครามแต่หนึ่งในสิบก็ไม่ใช่น้อยๆ เพราะแดนปีศาจอย่างน้อยก็ประมาณทวีปเอเชียทั้งทวีป
ดังนั้นคนหนึ่งในสิบนี้ถือเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่.. ในช่วงเหตุการณ์มีคนหนึ่งอยู่ภายในแดนปีศาจมันกำลังนั่งเล่นในถ้ำหินแห่งหนึ่ง
“ฮ่าๆ ไม่คิดว่าโลกแห่งนี้จะมีที่สบายเช่นนี้ ยัยชารอนนั่นสร้างสถานที่ดีๆ ไว้นี่น่า”
เสียงหัวเราของสตรีที่ดูร่าเริงดังขึ้นอย่างพอใจพลังรอบตัวแปลกประหลาดจริงๆ นั่นแหละ ไม่เหมือนพลังเวท หรือพลังอะไรเลย
เธอคนนี้มีร่างกายที่ค่อนข้างเล็กวัดกับจอมมารได้เลย มีผมสีขาวยาวมีม่านตาสีดำมีนัยน์ตาสีขาว มีผิวสีแทน รูปร่างดูพิลึกพิลั่นยิ่ง
ราวกับไม่ใช่สิ่งมีชีวิตบนโลกนอกจากนี้ยังหน้าอกแบนราบหากมีคนมาพูดกับเธอส่ายัยหน้าอกราบคงไม่ต้องเดาเลยว่าเกิดอะไรขึ้น
“รู้แบบนี้ข้าสร้างสถานที่แบบนี้ไว้บ้างดีกว่า… แต่ว่าปีศาจในโลกนี้ดูโง่ไปหน่อยไหม ยัยชารอนนี่สนับสนุนมนุษย์จริงๆ ..”
เธอพูดพลางหน้านิ่วคิ้วขมวดเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างก่อนจะทุบมือเบาๆ เหมือนคิดอะไรดีๆ ออก
“ฮ่าๆ คิดอะไรดีๆ ได้แล้ว.. ถ้าแอบให้พรพวกมันสักหน่อยคงจะน่าสนุกขึ้นไม่น้อยเลยนะ”
“แบบนั้นก็แย่สิ หัวหน้า”
ขณะเธอพูดแบบนั้นก็มีแสงสีดำสว่างขึ้นก่อนจะมีร่างหนึ่งเล็กๆ ปรากฏขึ้นจะว่าเหมือนภูติก็เหมือน มีปีกสีดำผมสีดำยาว
ถือเคียว รูปร่างพอๆ กับฝ่ามือมีออร่าความตายแผ่ออกมาถ้าร่างไม่น่ารักฉบับ 2D คงจะน่ากลัวมากและหากตัวใหญ่กว่านี้นะ
“เจ้าหยุดพูดไปเลยแททานอส”
“แต่ครั้งก่อน ก็พึ่งถูกท่านชารอนตีก้นมาไม่ใช่เหรอ”
“ไม่ใช่แล้วว้อย พูดแบบนี้หาเรื่องกันหรือไงแททานอส แก!!!”
“ข้าแค่พูดความจริงเท่านั้นเองนะ”
แททานอส นั่นคือชื่อของสิ่งมีชีวิตคล้ายภูติจะว่าเป็นผู้หญิงก็ได้แททานอสพูดออกมาแบบนั้นทำให้โลลิผมขาวรู้สึกเสียหน้า
“แททานอสถ้าเจ้าเล่าเรื่องนี้ให้คนอื่นฟังข้าจะ… ข้าจะฆ่าเจ้าซะ”
“แต่ข้าไม่กลัวความตายนะ หัวหน้า”
“อ๊ะ.. จริงด้วย.. อืม… ข้าจะ.. ข้าจะ..”
“ส่งขึ้นไปสวรรค์ใช่หรือเปล่า?”
“อ๊า ใช่ๆ ๆ นั่นแหละข้าจะส่งเจ้าขึ้นสวรรค์ไปเลย!”
“หัวหน้าทำได้ที่ไหน ไม่สิ เอาจริงๆ เป็นหัวหน้าเองมากกว่าจะถูกฆ่าก่อนข้า”
“เอ๊ะ… งั้นเหรอ?”
“…”
แททานอสยิ่งคุยก็ยิ่งรู้สึกปวดหัวกับโลลิผมขาว อันที่จริงเวลาคุยกันเมื่อไหร่ก็เป็นแบบนี้ตลอด ทำให้แททานอสหมดคำจะพูด
ขณะที่แททานอสกำลังจะหายไปแต่ฉับพลันรู้สึกถึงแรงบางอย่างดันขึ้นมา แม้แต่โลลิผมขาวยังสัมผัสถึง หากแต่ในเวลาถัดมาก็
“ตู้ม!”
จากห้องหินที่เคยมีอยู่กลายเป็นท้องฟ้าสีคราวแททานอสและโลลิผมขาวมองโง่งมไปสักพัก คำสาปเทพธิดาหายไปหมด
ทุกอย่างในมุมมองสายตาหายไปจนเกลี้ยงและมีแค่จุดที่โลลิผมขาวนั่งอยู่ที่ไม่เป็นไร นอกนั้นราบเรียบคำสาปหายไปทุกอย่างในแดนปีศาจไม่เหลืออะไรเลย
“ห๊ะ…?”
โลลิผมขาวไม่เป็นอะไรเลยแต่ส่งเสียงแปลกประหลาดออกมามองไปรอบอย่างงงๆ แททานอสเองก็งงเหมือนกัน
“แททานอสเมื่อกี้ฝีมือใคร?”
“….”
แททานอสตอบไม่ได้เพราะเธอไม่ทราบว่านี่เป็นขุมพลังของใครในความทรงจำ! โลลิผมขาวถามแบบนั้น.. แต่ผ่านไปสักพักก็นึกถึงบางอย่างได้..
“เอ๋.. ข้าอยู่..คำสาปถูกลบ.. แบบนี้มัน.. ถูกยัยชารอนหาว่าเป็นคนทำแน่ๆ .. แย่แล้วๆ ทำไงดีๆ”
โลลิผมขาวหน้าเปลี่ยนสีรู้สึกว่าตัวเองดวงซวยสุดๆ ตั้งแต่เกิดมาแททานอสได้สติมองไปยังโลลิผมขาวแบบขอไปที
“สุดท้ายก็กลัวอยู่ดีไม่ใช่เหรอ”
แททานอสคิดในใจ… “เป็นถึงเฮเดสแท้ๆ ..”