บทที่ 42 – โรสกับการต่อสู้เพื่อหนังสือ
ชั้นพุ่งผ่านทะลุความว่างเปล่าไปเห็นอเวสต้าโนตมหลบเลเซอร์นับล้านพึ่งเสร็จก็เห็นหลุมดำราวกับแม่น้ำวนขนาดใหญ่สีเขียว
พุ่งไปหาเธอแน่นอนว่าคือตั๊กแตนเขียว (?) ชั้นรู้สึกปวดหัวกับความเร็วของตั๊กแตนเขียวมาก เพราะมันเร็วกว่าอเวสต้าโดยสิ้นเชิง
แต่ดูจากภาพลักษณ์แล้วมันคงถนัดเรื่องความเร็ว แต่ด้วยความห่างไม่ถึงห้าสิบเมตรของมันกับอเวสต้าโนตม
แต่ชั้นห่างกับอเวสต้ามากกว่าสิบกิโล แม้การเคลื่อนที่จะแทบไม่ใช้เวลา แต่เจ้าปีศาจตั๊กแตนเขียวมันก็เร็วมากเช่นกันในระยะนี้มันถึงอเวสต้าก่อนแน่ๆ
ชั้นรู้สึกเสียใจที่ไม่ออกแรงมากกว่านี้ตอนพุ่ง.. แต่ก็ไม่กล้าใช้แรงมากกว่านี้เพราะกลัวโครอสเซี่ยมลอยฟ้าพังไม่งั้นดับดิ้นหมดแน่ๆ
ชั้นจึงได้แต่กัดฟัน ใช้ทักษะกายามังกร – ปีกมังกร.. ในเวลานั้นก็มีปีกสีดำทมิฬของชั้นก็พุ่งออกมาจากหลังชั้น
และกระพือปีกหนึ่งครั้ง ใช้ความเร็วสูงเกือบสามในสิบส่วนของทั้งหมด.. เอ่อ.. อันที่จริงเพราะว่าควบคุมไม่อยู่เพราะรีบความจริงอยากจะเพิ่มความเร็วให้มากกว่าตั๊กแตนสองสี่เท่าแค่นั้น
แต่เผลอใช้มากเกินไป.. ชั้นวิ่งทะลุความว่างเปล่าทะลุพื้นที่.. และทะลุเวลา.. ก้าวข้ามเวลาไปโดยสิ้นเชิง!
ที่บอกว่าก้าวข้ามไม่ใช่ว่าชั้นย้อนเวลาหรืออะไรนะ แต่ทะลุคือไม่มีเวลาและพื้นที่ของชั้นเลย
ถ้าจะอธิบายก็คือในเมื่อชั้น วิ่งไปข้างหน้า ต่อให้เร็วเหนือแสงสักเท่าไหร่แต่ก็ยังมีพื้นที่และเวลาซึ่งแสงก็ยังอยู่ในการจำกัดที่ว่า แสงยังมีเวลาในการเดินทาง
เช่นเคลื่อนที่ในอวกาศ หนึ่งปีแสง ก็คือแสงที่เดินทางเป็นระยะเวลาหนึ่งปี แต่ที่เกิดขึ้นกับชั้นคือพื้นที่ไม่สน ระยะเวลาในการเคลื่อนที่ไม่มี
เหมือนกับหนึ่งก้าวชั้นสามารถไปอยู่ได้ทุกที่ในทันที นี่คือความเร็วไร้ขีดจำกัดโดยสิ้นเชิงชั้นมาปรากฏตัวตรงหน้าของอเวสต้า
ทุกคนตกใจขึ้นมาทันทีที่ชั้นปรากฏตัวขึ้นน้ำวนพุ่งมาถึงในเวลาต่อมาไม่นาน ชั้นหันหน้าไปหาพร้อมกับต่อยหมัดออกไป
“ปัง!!!”
น้ำวนดูดกลืนสลายหายไปในทันที ร่างของตั๊กแตนเขียวกระเด็นกลับหลังเพราะแรงปะทะมองมาที่ชั้นด้วยสายตาแปลกๆ
ตอนนี้ชั้นกลายเป็นจุดสนใจ ชั้นไม่สนใจหันกลับไปหาอเวสต้า
“หนังสือของชั้นล่ะ! สัญญาแล้วนะ!”
ไม่รู้ว่าบังเอิญหรือยังไง.. ทุกคนในสนามรบเงียบลงพอดิบพอดีกับเสียงของชั้น ฮ่าๆ ดูเหมือนจะมีมารยาทอยู่บ้าง
“เอ่อ…”
เหมือนอเวสต้าจะพูดไม่ออกเหมือนมีอะไรติดลำคอ
“เธอจะตายไม่ได้ ถ้าตายชั้นก็แย่สิ!”
ชั้นพูดออกไป ก็มันเรื่องจริงนี่น่าถ้าเธอตายไปคงแย่แน่ๆ แต่ตอนนั้นเองก็เหมือนคนพ่นลมหายใจออกมา
“คิดจะแสดงตลกอะไรนังหนู ไสหัวไป”
จู่ๆ มีชายคนหนึ่งปรากฏขึ้นพร้อมฟาดมือเร็วยิ่งกว่าเลเซอร์ของตั๊กแตนอีกละมั้ง ชั้นคิดว่าแต่เจ้านี่คิดจะตบชั้น
มือพุ่งมาด้วยความเร็วสูง ชั้นหันหน้าไปด้วยความเร็วเหนือกว่า ใช้มือซ้ายคว้าจับที่ต้นแขนของมือขวาที่ตบออกมา
และ…. ดึงมันออกมาจนฉีกขาดกระจุยกระจาย ชั้นสงสัยว่านี่ร่างสิ่งมีชีวิตหรือกระดาษแห้ง อันที่จริงชั้นค่อนข้างหงุดหงิด
“อย่ามารบกวนคนอื่นเขาคุยกันเส่!!”
ตอนแรกชั้นสงสารพวกนี้อยู่ เพราะไร้บ้าน.. แต่มารยาทไม่มีเลยจริงๆ ชั้นเลยอารมณ์เสียด้วยจึงตบมือไปที่กระบาล
วงเวทปรากฏขึ้นที่มือก่อนจะตบไปที่กระบาลมันอย่างแรง วิญญาณและจิตกระเด็นออกมาจากร่างก่อนจะสลายกลายเป็นเถ้าธุลี
“เบลเซบับ….”
เสียงใครไม่รู้ดังขึ้น ชั้นหันไปหาอเวสต้า
“รีบไปเอาหนังสือมาให้ชั้นสิ!!”
“…”
ตอบรับชั้นมีเพียงความเงียบเหมือนเธอจะตกใจวิญญาณหลุดจากร่างแล้วมั้ง มันเป็นความจริงที่ชั้นยังไม่ใช้เวทโบราณหรือเวทมนตร์อะไรเลย
ที่ชั้นใช้มีแต่ ‘Original Magic’ ถ้าชั้นใช้เวทมนตร์ยุคกลางใส่ก็พอต่อการฆ่าอเวสต้าแล้วนะ
แถมทุกอย่างก็แค่ไหลตามน้ำเท่านั้น ไม่แปลกที่เธอจะตกใจที่ชั้นตีคนระดับเธอตายในครั้งเดียวแต่จะเงียบไปอีกนานไหม!
“ชั้นบอกว่ารีบๆ เอาหนังสือมาเร็ว!”
ชั้นตะโกนพร้อมต่อยหน้าอกเธอจนเป็นรู อเวสต้าได้สติคืนมาร่างกายฟื้นฟูทันที.. อ้อ.. นี่คือวิธีการปลุกสินะ เดี๋ยวเอาวิธีนี้ไปปลุกยัยลิลิซด้วย (หยุดเลยนะหนู ถ้าไม่อยากให้ลิลิซตาย)
“จะ.. เจ้า”
“ชั้นต้องการแค่หนังสือ จะไม่รบกวนเธออีกเลย!”
ชั้นพูดกลัวเธอปฏิเสธ.. แต่เธอตอบชั้นกลับมาเหมือนเรียกความทรงจำก่อนหน้านี้มาหมดแล้ว
“ไม่ได้! ข้ามีหน้าที่ต้องปกป้องที่นี่.. หากกลับไปที่นี่คงแตกพ่ายอย่างรวดเร็ว!”
เธอพูดและผลักชั้นออก.. ชั้นหงุดหงิดยิ่งอยู่นานยิ่งไม่ดีถ้าหากชั้นไม่ไปตอนนี้มีหวังถูกจับกลายเป็นตัวสำคัญไปไหนมาไหนไม่ได้แหงๆ
ชั้นจึงต้องรีบ
“งั้นบอกที่อยู่ของเธอมาชั้นจะไปเอาเอง!”
ชั้นพูดแล้วเธอก็มองมายังปีกมังกรของชั้นก่อนจะพูดช้าๆ ว่า
“เจ้าเองก็น่าจะเข้าใจ เพราะเหมือนกับข้า.. ว่าอย่างพวกเราเกลียดคนที่รุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวของตัวเองมากโดยเฉพาะเผ่าเดียวกันแต่คนล่ะเชื้อสาย!”
เธอพูดแบบนั้นทำให้ชั้นหมดหวัง ในขณะที่เดือดขึ้นมา.. ชั้นพยายามไปตั้งเยอะแต่ยัยนี่ดันชักช้าแถมเกิดเรื่องก็จะเบี้ยวสัญญา!
หนังสือมันมีค่ายิ่งกว่าสงครามนี่ด้วยซ้ำ! สมองมีแต่กล้ามเนื้อ! ชั้นหงุดหงิดจริงๆ นี่น่า แต่ตอนนั้นเธอก็เหมือนนึกอะไรขึ้นได้
“เอ่อ… ถ้าเจ้าช่วยข้าจัดการต่อต้านสงครามครั้งนี้ภายในเวลาสั้นๆ .. ข้าจะรีบไปเอาหนังสือมาให้ทันที! ข้ายังสามารถเอาหนังสือเล่มอื่นๆ ที่หายากในยุคนี้มาให้ด้วย!”
ตาชั้นเป็นประกายเพราะคำพูดของเธอ ชั้นจึงยืนยันเพื่อความแน่ใจ
“จริงเหรอ?!”
“แน่นอน!”
เธอตอบหนักแน่น ความโกรธปลิวหายไปกับสายลมมีเพียงความยินดีเท่านั้นชั้นจึงรีบพูด
“ไปเถอะๆ ไปรีบเอามาตอนนี้เลยที่นี่ปล่อยชั้นจัดการเอง”
ชั้นพูดเธอเลยตอบ
“เอ๋..แต่ว่า…”
ชั้นเดาความคิดเธอออกได้หากร่วมมือกันบางทีอาจจะยืดนานขึ้นอีกได้ แต่ชั้นรีบบอกเธอ
“เชื่อมือชั้นได้เลย!!”
อเวสต้าเหมือนลังเล แต่พอเห็นความตั้งใจชั้นจึงพยักหน้าแล้วพูดว่า “ชั้นจะรีบมาให้เร็วที่สุด ทนให้ถึงตอนนั้น!!”
พูดแล้วเธอหันหลังแล้วพุ่งไปทันที ชั้นรู้สึกยินดีเหมือนมีทุ่งลาเวนเดอร์ปลูกในใจ… ความจริงที่ไม่มีใครรู้
ก่อนหน้าหากชั้นสู้กับอเวสต้าตอนเลเวลหนึ่ง อาจจะยากเพราะใช้เวทมนตร์ไม่ได้.. แต่ตอนนี้พลังชั้นเพิ่มขึ้นมากว่าสองล้านเท่าจากเดิม ด้วยสกิลเพิ่มสเตตัสคูณสองทุกๆ ระดับ
ดังนั้น.. พลังที่ชั้นใช้ไป…. เพียงแค่ หนึ่งในหมื่น ยังไม่ถึงเลยด้วยซ้ำ!
…..