บทที่ 4 – โรสกับสองพันปีต่อมา (1)
ชั้นเริ่มคิดหนักกับการที่จะใช้ชีวิตอ่านหนังสือเดิมซ้ำๆ .. แย่แน่ๆ แบบนี้แย่แน่ๆ ชั้นไม่มีหนังสืออ่านแล้วจะอยู่ยังไง พึ่งผ่านมาไม่กี่ปีเองไม่ใช่เหรอทำไมหนังสือถึงหมดไวจัง ทำไมโลกนี้ไม่มีหนังสือให้มากกว่านี้สักหน่อยก็ยังดีนะ..
“บัดซบ!”
ชั้นใช้เสียงเด็กผู้หญิงสบถด่าออกมาแบบนั้นทำเอาเหมือนเด็กก้าวร้าวเลยแต่ชั้นไม่ได้สนใจเรื่องนั้น ชั้นแทะเล็บเดินลงไปชั้นล่างเนื่องเพราะความสูงที่ชั้นอยู่ตอนนี้โคตรสูง
ชั้นใช้เวลาคิดพลางเดินลงบันได แผนมันก็มีอยู่หรอก คือออกจากใต้ดินแล้งไปเสาะหาหนังสือใหม่ๆ ในโลก แต่ประเด็นของประเด็นเลยนะ ที่นี่มันมีทางออกที่ไหน! มันมีเรอะ! ไม่มีไง
คือเอาจริงๆ นะ ตอนมีหนังสือมันคือสวรรค์แต่หลังจากอ่านหมดแล้วมันเหมือนคุกนี่หว่า เหมือนจะอยู่ใต้ดินซะด้วย
ไม่ใช่ว่าชั้นอ่านหนังสือหมดแล้วทิ้งพวกที่เคยอ่านนะถ้าชั้นออกไปได้ชั้นคิดว่าจะเทของพวกนี้ลงที่เก็บของ ที่ชั้นเก็บไม่ใช่เก็บเป็นเล่มนะ.. แต่เก็บทั้งคลังหนังสือนี้ลงในช่องเดียวของช่องเก็บของเลยอ่ะ
ไม่ต้องไปพูดถึงเรื่องนั้นเลย การจะออกจากที่นี่ต้องทำยังไงนี่สิเป็นปัญหา ใครๆ อาจจะคิดว่ามันง่ายเพราะนี่คือโลกเวทมนตร์ ใช่ก็ตามนั้น แต่ชั้นมีมานาพอที่จะใช้เวทมนตร์เจาะออกไปที่ไหน
ถึงจะไม่รู้เวทมนตร์แต่ละอย่างใช้มานาขนาดไหน แต่ชั้นตอนนี้เลเวลหนึ่งคงใช้เวทมนตร์แรงๆ พอที่จะเจาะออกจากที่แห่งนี้ไม่ได้แน่ๆ ส่วนเวทมนตร์ชั้นอ่านตำรามาแล้วพอรู้จักวิธีอยู่
คือการ ‘ร่ายเวท’ ก็ตามที่บอกนั่นแหละ เวทมนตร์ไม่เหมือนทักษะติดตัว คนคนหนึ่งเกิดมามีทักษะติดตัวไม่มากนัก เหมือนที่ชั้นมี
แต่เวทมนตร์นั้นขอแค่มีคำร่ายและมานาก็ใช้ได้.. แต่ถึงจะบอกแบบนั้นก็มีความเข้ากันได้ทางธาตุนั้นๆ ด้วยนะ คนคนหนึ่งจะมีความเข้ากันได้ทางธาตุเพียงหนึ่งอย่าง
สองธาตุ คือผู้เป็นอัจฉริยะ สามธาตุ คือผู้มีพรสวรรค์ เวทมนตร์ตั้งแต่การใช้เวทมนตร์อัญเชิญ วงเวท คำร่าย เวทควบคุมวิญญาณ ชั้นอ่านมาหมดแล้ว ชั้นเลยรู้จักหมด
แต่ติดตรงที่มานาชั้นมีน้อยเกินไป เพราะเลเวลหนึ่งมีมานาถึง 500 ชั้นคิดว่ามันต้องเป็นสเตตัสที่เฟ้อมาก หมายความว่าจะใช้เวทรุนแรงต้องมีมานามากกว่านี้ ชั้นได้แต่ถอนหายใจไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้
“เฮ้อ~~”
ชั้นถอนหายใจออกมาพลางเปิดช่องเก็บของและกดไปที่ไอคอน ‘สุ่ม’ แต่ก็ต้องหยุดมือ
“ชั้นคิดว่าวันนี้ทำอาหารกินเองดีกว่า”
ชั้นตัดสินใจแบบนั้นถึงจะอยู่ใต้ดินสารอาหารก็ได้เต็มร้อย ก็ไม่รู้ว่าอะไรชั้นอยู่ใต้ดินสีผิวก็เหมือนเดิม ถึงแม้จะไม่ได้รับแสงอาทิตย์ชั้นคิดว่ามันเป็นเพราะทักษะควบคุมร่างกายแน่ๆ
ชั้นทำอาหารกินเองในตอนเช้าและตอนเย็น ตอนกลางวันชั้นกดสุ่มมากิน แต่ตอนนี้เป็นตอนกลางวันละนะ ถามว่าทำไมถึงรู้ก็เพราะว่าชั้นสร้างนาฬิกาเอง
งงอ่ะดิ จะอธิบายนะ คือชั้นมาโลกนี้ชั้นก็เริ่มนับเวลาในใจ แล้วก็ค่อยๆ ขีดมันลงในผนัง จนครบสิบสองชั่วโมงก่อนที่ชั้นจะง่วงนอน ซึ่งชั้นนอนวันละ 6-8 ชั่วโมง
ชั้นก็ตั้งให้ช่วงนั้นคือตอนกลางคืนส่วนที่เหลือคือตอนกลางวัน เนื่องเพราะว่าไม่ได้มีอุปกรณ์อะไรชั้นเลยใช้สมองในการคำนวณเวลา.. ก็อยากจะบอกแบบนั้นอยู่หรอกแต่พอชั้นอ่านชั้นจะไม่ชอบสนใจเรื่องเวลา
ดังนั้นชั้นเลยใช้การนับเวลาผ่าน ตะเกียงพลังเวทเอา ตะเกียงไฟพลังเวทจะดับลงแล้วจุดขึ้นใหม่ทุกๆ สองชั่วโมง สรุปคือถ้าตรงจุดที่ชั้นตั้งไว้ว่ามันคือจุดที่ชั้นใช้นับเวลา ถ้ามันดับลง ก็แปลว่าผ่านไปแล้วสองชั่วโมง
ก็ประมาณนี้ .. แต่เวลาหลังชั้นอ่านหนังสือก็ต้องมานั่งคำนวณว่าเวลาสมควรเดินไปมากแค่ไหนเท่าไหร่ กี่ชั่วโมงอยู่ดี เพราะชั้นเผลอลืมตัวอ่านหนังสือจนไม่หลับบ่อย
สรุปคือชั้นอาศัยตะเกียงเวทมนตร์กับสมองในการคำนวณเวลาด้วยตนเอง .. แต่ขั้นไม่สนใจวันเดือยปีนะ มันน่ารำคาญต้องมากังวลเรื่องวันเวลา แค่ต้องมานั่งนับเวลาหลังจากอ่านหนังสือก็ปวดหัวล่ะ
ชั้นเดินลงมาถึงห้องครัว แน่ล่ะถ้าไม่มีห้องครัวชั้นคงสาปแช่งเทพธิดาชารอนนั่น ชั้นตัดสินใจทำอาหารที่ไม่ได้ลองกินมานานนั่นคือ ‘สเต๊ก’ ชั้นกดไปที่ไอคอนก่อนจะมีเนื้อ 5A ปรากฏออกมา
2 ชิ้น.. 3 ชิ้น… 5 ชิ้น….
มันโผล่ออกมาห้าชิ้น.. สงสัยทำไมสินะทำไมต้องเอาเนื้อ 5A ที่ในโลกเดิมราคาแพงสุดๆ ออกมาห้าชิ้นในคราวเดียวแถมชิ้นใหญ่อีก.. แน่นอนความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว ชั้นกินไงล่ะ..
ชั้นเป็นพวกเจริญอาหารนะเห็นแบบนี้ แต่ไม่อ้วนนะต้องขอบคุณทักษะการควบคุมร่างกายจริงๆ
ชั้นลงมือทำ เวลาต่อมาชั้นก็นั่งกินบนโต๊ะคนเดียว ลงมีดตัดเนื้อสเต๊กออกมีน้ำมันเนื้อไหลเยิ้มออกมาพร้อมกับเผยเนื้อที่ความสุกระดับ “Menium Rare” ซึ่งยังมีบางส่วนเป็นสีแดงอยู่
แต่นั่นแหละที่เด็ดของสเต๊ก ชั้นใช้ซ่อมตักมันใส่ปากพอกัดเข้าไปรสชาติความอร่อยแผ่ซ่านไปทั่วลิ้นรู้สึกเหมือนขึ้นสวรรค์
“ฟุหวา~~”
ชั้นหลับตาปี๋แล้วส่งเสียงเปิดปากออกมา ด้วยท่าทางของเด็กผู้หญิง ส่งเสียงน่าเอ็นดูแต่ชั้นชินมันไปแล้วล่ะ.. ชั้นคิดว่าเวลาทานอาหารนี่แหละคือสวรรค์สำหรับชั้น!
ชั้นเริ่มรับประทานอย่างบ้คลั่งก่อนที่สเต๊กจะหายเกลี้ยง .. ใครมาเห็นต้องบอกว่าชั้นเป็นตัวเปลืองแน่ๆ ก็มันความจริงนี่หว่า ชั้นเอาน้ำออกมาจากช่องเก็บของวันนี้เป็นโคล่าละกัน
ก่อนที่โคล่าจะปรากฏขึ้นชั้นหลับตาปี๋อรกรอบส่งเสียง ‘ฟุหวา~~’ ออกมาความซ่านี่แหละที่เรียกว่าโคล่า!
ชั้นตักกินเนื้อที่เหลืออยู่บนจาน
“จริงสิ.. เนื้อพวกนี้มันอะไรกันนะ ไม่เหมือนเนื้อวัว เนื้อหมูชั้นยอดเลยนะ..”
ชั้นเปิดช่องเก็บของดูแล้วใช้ทักษะตรวจสอบไปที่เนื้อที่มีมากไร้ขีดจำกัดพอชั้นเห็นข้อมูลเท่านั้นแหละแทบหงายหลัง..
สงสัยหรือเปล่าว่ามันคืออะไร.. ไม่ต้องถามว่ามันคืออะไรมันคือเนื้อมังกรสวรรค์! ..
มังกรสวรรค์มีโภชนาที่ดีมาก มันทั้งแข็งแกร่ง และเนื้อมีสรรพคุณทางอาหารที่สูง มังกรสวรรค์ไม่เหมือนมังกรอื่นๆ เพราะมันไร้สติปัญญาจึงจัดว่าเป็นสัตว์ที่ใช้ล่าทำอาหารได้
ชั้นอ่านเจอในหนังสือตำนานเทพที่เกี่ยวข้องกับเทพธิดาชารอนนั่นล่ะ มีข้อมูลเจ้ามังกรสวรรค์นี้ด้วย … สรรพคุณทางอาหารมันเรียกได้ว่าขนาดพระราชาของโลกใบนี้นังไม่ได้ทานมันทุกวันเหมือนชั้น!
เนื้อมันประเมินค่าไม่ได้ มันอธิบายไว้แบบนี้ทั้งความอร่อยใครได้ชิมสักครั้งจะไม่เสียชาติเกิด.. ถึงจะไร้สติปัญญาแต่มังกรนี้แข็งแกร่งกว่าพวกมังกรระดับสูงๆ หลายๆ เผ่าอีก
“น.. นี่ชั้นทานเนื้อมังกรสวรรค์นี่ทุกวันเช้าเย็นเหรอ!?”
ชั้นนี่งงเป็นไก่ตาแตกไปเรียบร้อย แค่ขอเนื้อดีๆ สบายๆ หน่อยแต่ไม่คิดว่าจะให้ของแรร์.. เดี๋ยวชั้นก็กลายเป็นพวกตัวเอกได้พลังเพราะบัพจากพระเจ้าอีกหรอก
โชคดีนี่ให้ของกิน.. ไม่ได้ให้พลัง.. พอชั้นคิดแบบนั้นก็มีลางสังหรณ์แปลกๆ ปรากฏขึ้น..