บทที่ 7 – โรสกับลิลิซ (1)
หลังจากปรับสภาพจิตใจอยู่นิดหน่อยก่อนที่จะมองสภาพศพอันอนาถตานี่ก็อ้วกออกมาอีกชั้นอ้วกเอาของที่พึ่งทานเข้าไปออกมาหมด.. แต่พอเริ่มหายแล้วชั้นก็จะนึกถึงมันใหม่ เพื่ออะไรเหรอก็คงชินชามั้ง
เพราะในโลกนี้ไม่ได้มีกฎหมายเหมือนโลกเดิมดังนั้นการฆ่าฟันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ชั้นไม่ได้คิดจะไปฆ่าใครหรอกนะ แต่ป้องกันไว้หากมีคนที่แบบอยากทำร้ายชั้น ชั้นจะได้ไม่กลัว
เวลาผ่านไปของที่กินนี่ออกมาหมดจนชั้นเริ่มชินชากับมัน ชั้นนึกถึงภาพอนาถซ้ำไปซ้ำมา จากความชินชากลายเป็นไม่สนใจ ราวกับไม่เกี่ยวข้องกับตัวเองชั้นตะลึงกับสภาพจิตใจตัวเองพอควร
คงเป็นเพราะเป็นแวมไพร์ด้วยละมั้งหรืออาจจะเป็นเพราะอายุเยอะ แต่ถ้าหากชั้นฆ่าคนชั้นก็ไม่รู้นะว่าจะยังนิ่งได้ไหม เพราะที่ชินชามันเพราะว่าดูฉากเดิมซ้ำ
บางทีอาจจะอ้วกออกมาเหมือนเดิม หรืออาจจะไม่อ้วกก็ได้ ชั้นมองไปที่ศพพวกนั้นก่อนที่จะร่ายเวทขึ้น
“สายลมที่มีอิสระจงมาเป็นพลังแก่ข้า!”
ชั้นพูดเสร็จสายลมก็พัดมาชั้นควบคุมให้มันพัดเอาทั้งเลือดทั้งเศษเนื้อออกมาทั้งหมดและใช้คำร่าย “วารีอันบริสุทธิ์ไร้มลทินเอ๋ยจงมาเป็นพลังแก่ข้า!” ก็มีน้ำพุ่งไปทำความสะอาด
ก่อนที่จะควบคุมสายลมทำให้พื้นแห้งลงชั้นมองที่ศพก่อนที่จะพูดขึ้นว่า “เพลิงอันร้อนแรงแผดเผาได้ทุกสรรพสิ่ง.. จงปรากฏ เพลิงฟ้า!” ก่อนที่จะปรากฏเพลิงสีฟ้าขึ้นพุ่งไปเผาศพพวกมันไม่เหลือกระทั่งธุลี
ชั้นหน้ามืดลงเล็กน้อยเห็นก่อนที่จะเปิดสเตตัสดูเห็นมานาเหลืออยู่ไม่ถึงสิบ.. เวทที่ชั้นใช้มันแค่เวทระดับกลางเท่านั้น ถึงจะบอกว่าเวทระดับกลางแต่ชั้นควบคุมมันด้วยตนเองทั้งหมดเลยผลาญมานาเยอะ
เพลิงฟ้า คือเพลิงสีฟ้าเวทชั้นสูงที่ร้อนแรงมากเลยล่ะ อย่างที่เห็นคือชั้นสามารถใช้ธาตุได้ทุกธาตุละนะ แต่มานาไม่พอใช้แค่สามบทเวทอ่อนๆ ด้วยมานาก็หมดและ
แต่ถ้าพูดถึงความรุนแรงก็มองที่เพลิงฟ้าเลย เพลิงฟ้าถึงจะร้อนแรงมากกว่าเพลิงธรรมดาแต่ก็แค่เวทชั้นสูงทั่วๆ ไปเท่านั้นมันไม่เพียงพอที่จะเผาให้คนกลายเป็นธุลีหรอก
แต่เพราะค่าพลังเวทพลังโจมตีชั้นสูงมันเลยเป็นอย่างที่เห็นนั้นล่ะ
“ฟู่วว”
ชั้นปาดเหงื่อออกมองไปที่ทางที่พวกนั้นเข้ามาชั้นคิดว่าไม่ต้องกังวลเรื่องทางออกแล้วล่ะ ชั้นหันหน้าตรวจสอบอีกรอบเช็คว่าไม่หลงเหลือรอยเลือดใดๆ เดี๋ยวทำให้คลังหนังสือชั้นดูแย่
ชั้นเลยไม่ต้องการให้เหลือแม้เพียงเศษเสี้ยวเดียว ชั้นหันไปมองตรงจุดที่เด็กหญิงนอนสลบไปแล้วพอชั้นเห็นสภาพของเธอมันทำให้ชั้นรู้สึกสงสาร
มีแผลเป็นไปทั่วร่างรอยช้ำจากการถูกเตะถูกต่อยผมเผ้ายุ่งเหยิงไปหมด มันทำให้ชั้นพูดไม่ออกถึงเธอจะตัวใหญ่กว่าชั้นแต่ชั้นอาบน้ำร้อนมาก่อนเธอดังนั้นความรู้สึกสงสารนี้จึงเป็นเรื่องปกติชั้นคิดว่านะ
ชั้นใช้นัยน์ตาเทพระบบตรวจสอบเธอ.. เธอเป็นมนุษย์น่าแปลกที่เธออายุ 16-17 ปีแล้ว แต่ร่างกายเธอยังไม่เติบโตขั้นนั้นเลย แต่ก็ไม่ถึงขั้นเฒ่าโลลิเหมือนชั้นนะ..
แล้วตรงเผ่าพันธุ์เนี่ยมันบอกว่า มนุษย์ (ทาส) เหมือนกับจะบอกว่าชีวิตนี้เธอคือมนุษย์ทาสยังไงยังงั้นชั้นเลยไม่สบอารมณ์เธออยู่ระดับ 23 ที่สเตตัสชั้นไม่มีคือฐานะอาชีพ
เธอคนนี้มีอาชีพเป็นนักตรวจสอบ หมายความว่าเธอมีสกิลตรวจสอบซึ่งชั้นก็เห็นอยู่ในรายชื่อสกิลติดตัวเธอด้วย ถึงจะเป็นนักตรวจสอบแต่พลังโจมตีกับความเร็วค่อนข้างสูง
พลังโจมตี 270 ความเร็ว 300 เอาตรงๆ นะตอนชั้นมาที่โลกนี้ครั้งแรกพลังโจมตีและค่าอื่นๆ ก็โกงแล้วนี่หว่า เธอคนนี้ระดับ 23 แล้วแต่ยังเทียบชั้นตอนระดับ 1 ปกติไม่ได้เลย
ชั้นคิดว่าถ้าหากเธอเล่นเป็นสายบุกเร็วนี่จะเหมาะกับเธอมากนะ เธอมีชื่อว่า ‘ลิลิซ’ ไม่มีสกุลมีแค่ชื่อเท่านั้นแต่ชั้นคิดว่าคงไม่แปบกหรอกเพราะเป็นทาสนี่นะ ลิลิซมีสกิลติดตัวอยู่แค่ 3 อย่าง
ตรวจสอบ, เพิ่มพลังโจมตี, เพิ่มความเร็ว
ชั้นก็ต้องตะลึงไปอีกเหมือนเธอจะเป็นผู้ใช้หอกที่ดีเลยนะเนี่ย.. เพราะมีบัพพลังโจมตีและความเร็วด้วยแม้ค่าสองอย่างนั้นจะสูงอยู่แล้ว.. แต่เดี๋ยวก่อนสิถ้าเธอตรวจสอบชั้นไม่แย่เหรอ..
ชั้นเริ่มกังวล ชั้นรู้จักสกิลตรวจสอบถึงมันจะไม่ละเอียดเหมือนนัยน์ตาเทพระบบ แต่มันสามารถบอกระดับ และความแข็งแกร่งได้เลือนรางถ้าเธอเห็นชั้นเลเวลหนึ่งแต่สเตตัสสูงริบนี่ไม่ช็อคเลยเหรอ
“อ๊า จริงสิ!”
ชั้นนึกถึงสกิลรังสรรค์ที่เทพธิดานั่นให้มาถ้าชั้นสร้างสกิลปกปิดขึ้นมาล่ะจะเป็นยังไง.. ฮิๆ ชั้นเริ่มที่จะพึ่งพลังโกงๆ แต่เพื่อความสงบสุขของชั้นละก็นะ.. ชั้นหลับตาลงอิมเมจในใจ
ปกปิดตัวตนซ่อนสถานะซ่อนจากสายตา ก่อนที่จะเปิดเปลือกตาเพราะมีความรู้สึกแปลกๆ ชั้นเปิดที่หน้าจอสเตตัสมีสกิลใหม่เพิ่มสองสกิล ถ้ามีคนมาเห็นชั้นสร้างสกิลตามันต้องหลุดออกจากเบ้าแน่ๆ
อย่าว่าแต่สร้างสกิลเลยขนาดสร้างเวทมนตร์ขึ้นเองยังยากเลย.. จะมาสร้างสกิลนี่เหมือนเรื่องเหนือจินตนาการละนะ ชั้นต้องปกปิดเรื่องนี้ไว้ตามสามัญสำนึก ว่าแต่ไหงเพิ่มมาสองสกิลฟ่ะ
ชั้นมองดู สกิลหนึ่งชื่อ ปกปิด อีกอันหนึ่งชื่อ ซ่อนตัวตน.. ชั้นใช้นัยน์ตาเทพระบบตรวจสอบดู ปกปิดคือทักษะปกปิดข้อมูลที่ชั้นต้องการ ซ่อนตัวตนคือทักษะลบตัวตนหรือหายตัวสมบูรณ์แบบ
เหมือนจะเป็นตอนที่ชั้นเผลอคิดว่าซ่อนทุกอย่างแน่ๆ มันเลยสร้างสกิลนี้มาด้วย โกงแฮะ สาบานว่าจะไม่สร้างสกิลโกงๆ ขึ้นอีกเพราะพลังอันยิ่งใหญ่มาพร้อมกับภาระอันใหญ่ยิ่ง เครดิตโดยลุงเบน
สกิลปกปิดเป็นสกิลเปิดปิดโดยไม่ใช้มานาอะไร ประมาณว่าเหมือนฟังชั่นอ่ะ เปิดทำวานก็ทำงานตลอดเวลา ชั้นเปิดทำงานทันที แต่ถึงจะบอกว่าเหมือนฟังชั่นแต่คิดว่าเป็นแค่ชั้นนี่ล่ะ
เพราะมีนัยน์ตาเทพระบบเหมือนเกมน่ะสิ ชั้นปกปิดตัวตนเรียบร้อยเซ็ททุกอย่างให้ต่ำลงสุดๆ หวีงว่าลิลิซจะลืมเรื่องเมื่อกี้นะ.. มันจะไปลืมได้ไงเล่า
พอชั้นทำทุกอย่างเสร็จชั้นหันไปมองลิลิซชั้นก็เห็นว่าเธอค่อยๆ เปิดเปลือกตามาพอดีพอเห็นหน้าชั้นเธอก็หน้าซีดถอยหลังติดผนัง ไม่กล้าปริปากสักคำแม้แต่ใช้สกิลตรวจสอบยังไม่
“เอ่อ… ชั้นไม่ใช่คนน่ากลัวนะ..”
ถึงชั้นจะไม่คุยกับใครถึงสองพันปีแต่ด้วยการจำที่ล้ำเลิศชั้นไม่ลืมอะไรสักอย่างแม้กระทั่งวิธีคุยชั้นจึงเข้าใจความกังวลของเธอ..
“…”
เธอยังคงมองชั้นด้วยสายตาแปลกๆ ตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวทำให้ชั้นถอนหายใจออกมาส่ายหน้าและพูด
“พ.. พี่สาวกลัวหนูงั้นเหรอ”
ชั้นทำหน้าตาน่าสงสารน้ำตาปริออกจากหางตาหน่อยนัยน์ตาสั่นเครือเหมือนกำลังจะร้องไห้จ้องมองลิลิซ… เดี๋ยวนะ นี่ชั้นแสดงเก่งขนาดนี้เลยเหรอ ไม่สิแรกเริ่มเดิมทีชั้นพูด หนู แทนตัวเองได้ไงอายุสองพันปีแล้วนะ!
“….”
หน้าเธอแดงขึ้นทันทีหันหน้าหนี… อ้อ ไอ้นั่นไง ใช่ไอ้นั่นแหละ ถึงจะเป็นผู้หญิงแต่ก็เป็นหมีได้นะ เธอคือพวกโลลิค่อนแน่ๆ เอาล่ะชั้นขี้เกียจที่จะพูดเยอะและเจ็บคอ
ชั้นเดินไปหาลิลิซ อย่างน้อยเธอก็ไม่หนีแล้วชั้นทนเห็นเด็กผู้หญิงในสภาพนี้ไม่ไหว เลยใช้มือสัมผัสที่หน้าผากเธอ ขอให้ได้ทีเถอะ
ชั้นใช้ทักษะควบคุมร่างกายควบคุมให้ร่างกายของเธอคืนสภาพบาดแผลหรือทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะแผลเป็นหรือแม้กระทั่งไอ้ตรงนั้นของเธอ ไม่ต้องบอกก็คงรู้นะ คืนสภาพกลับมาเป็นเหมือนผู้หญิงบริสุทธิ์
ร่างกายไร้บาดแผลใดๆ เส้นผมงดงามจากการควบคุมร่างกายของชั้น เธอสวยจริงๆ แฮะ ส่วนลิลิซนั้นตกตะลึงไปโดยสิ้นเชิง เธอมองแขนสองข้างของตนเอง
“น… นี่มัน…”
เธอมองที่มือและร่างกายตนเองสลับไปมาอย่างมึนงง ชั้นไม่คิดว่าสิ่งที่ตัวเองมันผิดนะ เพราะชั้นเห็นเธอบาดเจ็บแล้วทนไม่ไหว ตอนแรกชั้นคิดว่าจะทำตอนเธอสลบอยู่แต่เธอดันตื่นช่างมันละกัน
“ช่วยเก็บเรื่องนี้ทีนะ ชั้นไม่อยากยุ่งยาก”
“….”
เธอยังอยู่ในสภาพมึนงง ทั้งสภาพจิตใจของเธอต้องแย่มากแน่ๆ ด้วยล่ะ พอเกิดแบบนี้เลยถึงขั้นพูดไม่ออกไปนาน ชั้นมองที่ปลอกคอของเธอก็ไม่อยากยุ่งเรื่องส่วนตัวหรอกนะแต่ปลอกคอนี่ไม่ชอบใจเอาซะเลย
แต่ช่างเถอะ แค่นี้ชั้นก็ยุ่งมาพอแล้วชีวิตสงบสุขชั้นมีหวังไปจริงๆ แน่ถ้าช่วยเธอมากกว่านี้ในขณะที่ชั้นกำลังจะบอกให้เธอออกไปจากบ้านชั้นนั้น ท้องของชั้นและลิลิซร้องออกมา
อ่า.. แย่ล่ะชั้นอ้วกของที่กินไปออกมาหมดเลยนี่น่าต้องโทษพวกบัดซบนั่นแท้ๆ แน่ล่ะท้องชั้นร้องดังกว่าถึงลิลิซจะดูซูบผอมกว่าชั้นแต่ท้องชั้นดันร้องแรงกว่า.. ชั้นนี่เหมือนพวกกินจุเลยนะ
บ้าจริง! ท้องร้องแบบนี้มันทำให้ชั้นเขินอายหน่อยๆ มันแน่ล่ะถึงจะมีอายุเยอะแล้วแต่ท้องร้องต่อหน้าคนอื่นนี่มันน่าอายเกินไป! โดยที่ชั้นไม่รู้ตัวว่าตอนนี้ลิลิซกำลังมองชั้นด้วยสายตาแปลกๆ ทั้งหลงใหลและชื่นชอบ..
ชั้นหันหน้ามาพูดกลบเกลื่อน
“ดูเหมือนเธอจะหิวข้าวนี่ ชั้นทำอาหารให้กินสักหน่อยไหม”
ถึงความสัมพันธ์จะยังแปลกๆ อยู่ก็ตาม ชั้นคิดว่าเลี้ยงอาหารเธอสักมือด้วยเนื้อมังกรสวรรค์สักชิ้นให้เธอก่อนจะจากกันสักหน่อย .. เอ่อ.. ว่าแต่สรุปชั้นช่วยเธอเพราะสงสารสินะ..
…….