คำพูดของซูจือหยู ทำให้ซูโสว่เต้าโกรธจนเหลือทน
เขาชี้ไปที่ซูจือหยู เขาพูดอย่างโกรธเคือง “คำพูดนี้ของเธอให้หยุดแค่คุยกันที่บ้าน ถ้ากล้าพูดออกไปลองดูเถอะว่าปู่ของเธอจะด่าเธอหรือไม่!”
ซูจือหยูหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่งั้นให้หนูลองโทรหาคุณปู่ตอนนี้เลยเป็นไง เอ่ยให้เขาฟังอีกครั้งหนึ่งไปเลย”
“พอได้แล้วเถอะเธอน่ะ!” ซูโสว่เต้ารีบเอ่ยขึ้นมา “พอแล้วพอแล้ว พ่อไม่พูดเรื่องไร้สาระกับลูกแล้ว ยังไงเรื่องนี้ก็ยังไม่เกิดขึ้น พวกเธอสองคนรับไปศึกษาเรื่องการไปญี่ปุ่นได้แล้ว จากนั้นก็รีบออกเดินทางให้เร็วหน่อย!”
ซูจือเฟยรีบเอ่ยขึ้น “เอาตามนี้เถอะครับพ่อ เรื่องนี้ให้เป็นไปตามที่จือหยูเพิ่งพูดไป พวกเราไปพบตระกูลทากาฮาชิกันก่อน จากนั้นก็ค่อยไปเจอกับตระกูลอิโตะ ส่วนเวลาออกเดินทาง ผมคิดว่าควรเริ่มให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ตอนนี้ผมให้พวกลูกเรือเตรียมตัวแล้ว หลังอาหารกลางวันก็จะออกเดินทางทันที พ่อคิดว่ายังไง?”
ซูโสว่เต้าพยักหน้าและกล่าวว่า “ตกลง พวกลูกทั้งสองรีบไปเตรียมตัวเถอะ หลังทานอาหารกลางวันเสร็จก็อย่าเพิ่งรีบร้อนออกไป ไปรายงานคุณปู่ของพวกลูกก่อน รายงานคุณปู่เกี่ยวกับแผนการและความคิดของพวกลูก ถ้าเขาไม่มีความคิดเห็นอะไรพวกลูกก็ค่อยออกเดินทางเถอะ!”
“ได้ครับพ่อ” ซูจือเฟยตอบรับ จากนั้นก็รีบขยิบตาให้ซูจือหยู่และกล่าวว่า “จือหยู ไปกันเถอะ”
ซูจือหยูพยักหน้า จากนั้นจึงเดินตามซูจือเฟยออกจากห้องหนังสือของบิดา
ทันทีที่ออกมาจากห้องหนังสือ ซูจือเฟยก็ตำหนิขึ้นมา “ยัยหนูอย่างเธอนี่ปากเปราะจริงๆเลย ทำไมเธอต้องพูดถึงกู้ชิวอี๋ต่อหน้าพ่อด้วย?”
ซูจือหยูยิ้มหึหึและพูดด้วยน้ำเสียงขี้เล่น “ถ้าฉันไม่เอ่ยขึ้นมา นายก็จะต้องเอาแต่ซ่อนมันอยู่ในหัวใจ หรือว่านายอยากจะยอมรับชะตากรรมนี้แล้วจริงๆ และปฏิบัติตามการจัดการของที่บ้านแต่โดยดี?”
ซูจือเฟยถอนหายใจและกล่าวว่า “สถานะของพวกเรา ตั้งแต่เด็กเสื้อผ้าอาภรณ์และอาหารอุดมสมบูรณ์ ร่ำรวยมั่งคั่ง เกิดมาก็มีพร้อมทุกอย่างแล้ว มีแค่ด้านความรู้สึกเท่านั้นแต่ไม่มีอิสระ จุดนี้เธอก็รู้ดีอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง? ทำไมต้องไปเถียงคุณพ่อแบบนั้นด้วย?”
“ฉันอยากทำ” ซูจือหยูเอ่ยออกมาอย่างกำเริบเสิบสาน จากนั้นจึงจัดผมสั้นทัดหูของตน ก่อนจะพูดด้วยท่าทางหนักแน่น “ยังไงก็เถอะอนาคตของซูจือหยู จะต้องไม่โดนใครบงการเด็ดขาด!”
ซูจือเฟยส่ายหัวอย่างอ่อนใจ “พอเถอะ ไม่พูดถึงเรื่องไร้สาระพวกนี้กับเธอแล้ว พวกเราไปญี่ปุ่นครั้งนี้ อาจจะต้องอยู่ที่นั่นหลายวัน เธอรีบไปเตรียมกระเป๋าเดินทางของเธอเถอะ หลังทานอาหารเสร็จพวกเราไปเจอกับคุณปู่ก่อน รายงานเสร็จแล้วค่อยออกเดินทางเถอะ”
ซูจือหยูตอบรับ ก่อนจะบิดเอวและพูดอย่างเกียจคร้าน “เฮ้อ เมื่อเช้าตื่นเช้าเดินไป ฉันกลับห้องไปนอนก่อน ไม่ถึงเวลาอาหารไม่ต้องมาเรียกฉันนะ”
ซูจือเฟยมองดูแผ่นหลังของเธอและถอนหายใจอย่างหนัก “ยัยป้า ฉันนับถือเธอแล้วจริงๆ”
…
ณ เวลานี้ กรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่น
เย่เฉินนอนอยู่บนระเบียงชั้นบนสุดของบ้านเสี่ยวหลินมาตลอดช่วงเช้าแล้ว
วันนี้ พอลกำลังยุ่งอยู่กับการแก้ไขเอกสารทางกฎหมายที่ยุ่งยากกับแผนกธุรกิจการค้าในโตเกียว
เว่ยฉางเลี่ยงและโคบายา ชิอิจิโร่ ไปที่ฐานการผลิตยาของบริษัทผลิตยาโคบายาในโตเกียวด้วยกันก่อนแล้ว
แม้ว่าวัตถุดิบผลิตยาจากฝั่งของฉินกางจะมาถึงในตอนกลางคืน แต่เว่ยฉางเลี่ยงก็ยังต้องการเข้าใจสถานการณ์ของฐานการผลิตก่อน จากนั้นจึงจัดเตรียมการผลิตผงยากระเพาะเก้าเสวียนไว้ล่วงหน้า
แบบนี้ พอวัตถุดิบยามาถึงในตอนกลางคืน พวกเขาก็จะสามารถเริ่มทำงานล่วงเวลาเพื่อเริ่มการทดลองผลิตได้ทันที
ดังนั้น เย่เฉินจึงกลายมาเป็นคนที่ว่างมากที่สุด
ส่งผลให้ตอนนี้เขากำลังนั่งพิงอยู่บนเก้าอี้ตรงระเบียง เพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์อันเป็นเอกลักษณ์และลมหนาวจากความ 100 เมตรในโตเกียว
ในเวลานี้เองเฉินจื๋อข่ายก็เดินเข้ามาและกล่าวด้วยความเคารพ “คุณชาย ถ้าหากคุณอยู่ว่างๆไม่มีเรื่องอะไร ตอนบ่ายพวกเราออกไปเดินเล่นกันสักหน่อยไหมครับ? กินซ่าและชินจูกุในโตเกียวยังคงรุ่งเรืองอย่างมาก”
เย่เฉินโบกมือ “ฉันไม่ชอบเดินเล่น นายไปกับหงห้าเถอะ”
เฉินจื๋อข่ายพูดด้วยรอยยิ้ม “ผมไปเดินกับเขามีอะไรดีกัน คนไร้การศึกษานั่น เกรงว่าตอนนี้คงแทบอยากจะไปย่านโคมแดงในญี่ปุ่นเสียจนไม่ไหวแล้ว”
“อย่างนั้นก็ปล่อยเขาไปสิ” เย่เฉินยิ้มเบาๆ “สิ่งนั้นถือว่าถูกกฎหมายในญี่ปุ่น อยากไปก็ไปเถอะ”
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน – ตอนที่ 1591
Posted by ? Views, Released on September 25, 2021
, ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
อ่านนิยาย ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
เย่เฉินเป็นเขยแต่งเข้าบ้านหญิงที่ใครๆก็ดูถูกเหยียดหยาม แต่ไม่มีใครรู้ว่าฐานะแท้จริงของเขาเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลอันดับต้นๆ พวกที่เคยดูถูกเขาสุดท้ายก็ต้องคุกเข่าต่อหน้าเขาและเรียกเขาด้วยความเกรงกลัวว่าท่านชาย!
Recommended Series
Comment
Facebook Comment