เฮ่อหย่วนเจียงยิ้มเบาๆ“ไม่เป็นไรครับ คุณเซียวมีธุระก็ไปทำก่อนได้เลยครับ”
พูดจบ เขาก็พูดอย่างล้อเล่นว่า“จริงสิ ดูแล้วคุณเซียวน่าจะอายุประมาณห้าสิบใช่ไหมครับ?”
“ใช่ครับ ห้าสิบ”เซียวฉางควนพยักหน้า
เฮ่อหย่วนเจียงพูดอย่างยิ้มๆว่า“งั้นคุณเรียกผมว่าน้องชายไม่ได้แล้วล่ะ ผมแก่กว่าหลายปี ปีนี้ห้าสิบห้าแล้วล่ะ”
“ว่าไงนะ?!”เซียวฉางควนถามอย่างตกใจอ้าปากตาค้าง“ปีนี้คุณห้าสิบห้าแล้ว?!”
“ใช่ครับ”เฮ่อหย่วนเจียงหัวเราะ“ปีนี้เดือนมกราคมผมพึ่งอายุครบห้าสิบปีครับ อายุเทียมน่าจะห้าสิบหกแลวล่ะครับ……”
ทันใดนั้นเซียวฉางควนหน้าเสียในทันที
ไม่ใช่อาการโกรธ แต่เป็นการเสียความมั่นใจเป็นอย่างมาก
เขาคิดว่าเฮ่อหย่วนเจียงน่าจะอายุน่าจะประมาณสี่สิบห้า คิดไม่ถึงว่าหมอนี่จะอายุมากกว่าตัวเองถึงห้าปี!
เวลานี้เองเฮ่อหย่วนเจียงมองไปที่หานเหม่ยฉิง แล้วถามเธอว่า“จริงด้วยเหม่ยฉิง คุณเซียวมีธุระต้องไปทำก่อน คุณล่ะ?รีบกลับไหมครับ?ถ้าไม่รีบกลับล่ะก็ เราวิ่งไปด้วยกันอีกสักแป๊บไหมครับ?”
หานเหม่ยฉิงบังเอิญวิ่งยังไม่เต็มที่ จึงรู้สึกว่าพลังและกำลังยังไม่ได้รับการเติมเต็ม พอได้ยินข้อเสนอของเฮ่อหย่วนเจียง เธอแทบจะตอบรับอย่างไม่ลังเล ด้วยรอยยิ้ม“ได้สิคะ ฉันยังวิ่งไม่เต็มที่พอดีเลยค่ะ เราไปวิ่งกันอีกหน่อยนะคะ”
พูดจบ เธอก็มองไปที่เซียวฉางควนกับเย่เฉิน แล้วพูดอย่างยิ้มๆว่า“ฉางควน เย่เฉิน งั้นฉันไม่กลับกับพวกคุณแล้วล่ะค่ะ เย่เฉินเดี๋ยวตอนขับรถกลับขับช้าๆนะ”
เซียวฉางควนรู้สึกหดหู่มาก อยากจะขัดขวาง แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเข้าไปยังไง
เย่เฉินตอบตกลง แล้วพูดกับหานเหม่ยฉิงว่า“คุณน้าหานครับ งั้นเราไปก่อนนะครับ”
พูดจบ เย่เฉินก็พยุงเซียวฉางควน“พ่อครับ เราไปกันเถอะ”
เซียวฉางควนรู้สึกหงุดหงิดมาก ในตอนที่กลับไปที่รถกับเย่เฉิน หานเหม่ยฉิงก็ไปวิ่งไปข้างหน้า กับเฮ่อหย่วนฉิงแล้ว
เขามองไปที่แผ่นหลังของทั้งสองคน แล้วพูดอย่างโกรธเคือง“เย่เฉิน ไอ้หมอนั่นบอกว่าเขาอายุห้าสิบห้า คนอายุห้าสิบห้าทำไมถึงได้ดูหนุ่มขนาดนี้?!”
เย่เฉินหัวเราะ“เขาชอบออกกำลังกายหนิครับ ก็เหมือนกับคุณน้าหาน ที่สามารถรักษาตัวได้ดีขนาดนี้ ต้องเป็นเพราะมาจากการออกกำลังอย่างต่อเนื่อง”
เซียวฉางควนทำเสียงจิ๊จ๊ะ แล้วพูดด้วยสีหน้าถมึงทึง“ฉันคิดว่าไอ้หมอนั่นต้องคิดอะไรกับคุณน้าหานแน่!”
เย่เฉินจึงพูดขึ้นมาว่า“คุณน้าหานเก่งขนาดนี้ ต้องมีผู้ชายไม่น้อยที่ชอบเธออยู่แล้วมั้งครับ?”
เซียวฉางควนพูดอย่างรีบร้อน“ประเด็นคือ ไอ้หมอนี่เหมือนจะเก่งจริงๆนั่นแหละ!ศาสตราจารย์ของสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ ลำพังแค่ชื่อเสียงก็น่าทึ่งพอแล้ว ดีไม่ดี เขาอาจจะเป็นคู่แข่งคนสำคัญของฉันก็เป็นได้!”
พูดจบ เขาก็อดที่กัดฟันสบถขึ้นมาไม่ได้ว่า“ให้ตายสิ นายว่าไอ้หมอนี่ไปเมืองนอก ในเมื่อออกไปแล้ว ก็อยู่ที่เมืองนอกเฉยๆไม่ดีรึไง?หนีกลับมาทำไมกัน?”
เย่เฉินไม่ได้คิดแบบนั้น จึงพูดอย่างยิ้มๆว่า“หลังจากที่เด็กและผู้ใหญ่จากบ้านไปแล้ว ชาวหัวเซี่ยยังคงหวังที่จะหวนคืนสู่รากเหง้าในอนาคตอีกอย่างเขากลับประเทศมาเป็นศาสตราจารย์ นั่นก็เป็นเพราะสร้างประโยชน์ต่อประเทศชาติ อย่างน้อยก็สามารถอบรมบ่มเพาะคนมีความสามารถขึ้นมาได้”
เซียวฉางควนพูดอย่างหงุดหงิดว่า“ไม่มีเขาสักคนคงไม่ทำให้ประเทศชาติเสียหายอะไรหรอก!โดยเฉพาะไอ้หมอนี่ยังมาจากสหรัฐอเมริกา!คุณน้าหานของนายก็ใช้ชีวินอยู่ที่อเมริกามานานขนาดนี้ ต้องมีภาษาที่ใช้ร่วมกัน แล้วฉันล่ะ?สหรัฐอเมริกาหน้าตาเป็นยังไงฉันยังไม่เคยเห็นด้วยซ้ำ!”