ตอนนี้ซูเฉิงเฟิงกำลังเครียดอยู่
ลูกชายคนโตของเขาซูโสว่เต้า หายไปตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ เกิน12ชั่วโมงแล้ว
ใน12ชั่วโมงนี้ เขาไม่เจอเบาะแสที่มีค่าสักนิดเลย
คนอย่างซูโสว่เต้า เหมือนกับน้องชายของเขาซูโสว่เต๋อเลย ดูเหมือนว่าหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
แม้ว่าตระกูลเย่นั้นน่าสงสัยมาก แต่ซูโสว่เต้าเองทำเรื่องที่ฉลาดให้กลายเป็นโง่ก็ได้ ให้เหตุผลใส่ร้ายที่ยอดเยี่ยมแก่ตระกูลเย่ เพื่อที่เขาจะได้ไม่กล้ากดดันตระกูลเย่ต่อไป
ในขณะนี้ ซูจือเฟยโทรมา
เขารับสายอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย และถามว่า:”จือเฟย เจอเบาะแสพ่อของนายแล้วเหรอ?”
ซูจือเฟยประหลาดใจและถามโดยไม่รู้ตัว:”คุณปู่ คุณกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่? หาเบาะแสพ่อของผม? เกิดอะไรขึ้นกับพ่อของผมเหรอ? !”
ซูเฉิงเฟิงเพิ่งตระหนักได้ว่า ตั้งแต่ซูโสว่เต้าเกิดอุบัติเหตุ เขาไม่ได้ให้ใครแจ้งจากซูจือเฟยเลยตลอดทั้งวัน
ดังนั้น แม้ว่าซูจือเฟยจะอยู่ที่จินหลิง แต่เขาไม่รู้ว่าพ่อของเขาหายตัวไปเลย
ดังนั้น เขาจึงถอนหายใจแล้วพูดว่า:”จือเฟย มีข่าวร้ายเรื่องหนึ่ง ก็คือพ่อนายหายไป……”
“อะไรนะ? !”ซูจือเฟยตกตะลึง และโพล่งถามออกมา:”คุณปู่……คุณหมายความว่าอย่างไร? พ่อของฉันสบายดี ทำไมจู่ๆ เขาถึงหายตัวไปล่ะ?”
“ปู่ก็ไม่รู้”ซูเฉิงเฟิงพูดตามความจริง:”เดิมทีพ่อของนายได้ซ่อนตัวตนของเขา และอาศัยอยู่อย่างเงียบ ๆ ในป๋ายจินฮ่านกงในจินหลิง เตรียมจะหาโอกาสที่จะไปพบกับนางาฮิโกะ อิโตะจากตระกูลอิโตะ แต่จู่ๆเช้านี้ไม่มีข่าวคราวอะไรเลย ลูกน้องของเขาก็หายไปกันหมด”
“หา? !”ซูจือเฟยรู้สึกหน้ามืด ตามมาด้วยอาการวิงเวียนศีรษะ และเกือบจะอาเจียนออกมา
“เป็นไปได้ไง……” ซูจือเฟยพึมพำกับตัวเองอย่างอึ้ง
ซูเฉิงเฟิงพูดอย่างช่วยไม่ได้:”เรื่องทั้งหมดนั้นแปลกมาก จนถึงตอนนี้ปู่ก็ยังไม่พบเบาะแสอันมีค่าใด ๆ เลย แต่ปู่สงสัยว่ามันมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องการหายตัวไปของอารองของนายมาก บางทีมันอาจจะทำโดยคนคนเดียวกัน และควรมีความสัมพันธ์บางอย่างกับตระกูลเย่แห่งจินหลิง เพราะไม่ว่ายังไง พ่อของนายก็ประสบอุบัติเหตุในโรงแรมของตระกูลเย่ และจินหลิงก็เป็นเขตอิทธิพลของตระกูลเย่ด้วยเช่นกัน”
ซูจือเฟยรีบถาม:”คุณปู่ ตระกูลเย่ทำเหรอ? ผมจำได้ว่าตอนที่อารองของผมประสบอุบัติเหตุ ท่านเฮ่ออยู่ด้วยกันตลอดเวลา และอีกฝ่ายสามารถพาอารองของผมไปต่อหน้าตาท่านเฮ่อ ตระกูลเย่คงจะไม่มีคนยอดฝีมือแบบนั้นหรอก?”
ซูเฉิงเฟิงถอนหายใจ:”เฮ้อ……นี่ก็คือสิ่งที่ปู่ยังคิดไม่ออกจนถึงตอนนี้ ดูเหมือนว่าตระกูลเย่จะมีความเกี่ยวพันกับเรื่องนี้ แต่พอคิดดีๆ ดูเหมือนว่าตระกูลเย่ไม่ควรจะมีพลังที่แข็งแกร่งเช่นนี้……”
พูดจบ เขาก็พูดต่อ:”แต่ปู่ส่งคนไปหาแล้ว ไม่ว่ายังไงปู่ก็จะหาเบาะแสให้ได้ นายรอข่าวของปู่อย่างอดทนที่จินหลิงนะ หากนายมีช่องทางไหน อาจจะสามารถถามในจินหลิงได้เช่นกัน ดูว่ามีเบาะแสอะไรที่น่าสนใจไหม”
“ได้ครับ……”ซูจือเฟยจิตใจสับสนวุ่นวาย ตอบโดยไม่รู้ตัว
ในเวลานี้ ซูเฉิงเฟิงพูดอีกครั้ง:”จือเฟย ปู่ปวดหัวนิดหน่อย ค่อยคุยกันนะ หากมีความคืบหน้าอะไรปู่จะแจ้งให้นายทราบ”
ซูจือเฟยพูดเสียงเบาอย่างใจลอย:”ครับคุณปู่ งั้นคุณปู่พักผ่อนให้เพียงพอ และดูแลสุขภาพให้ดี……”
พูดไป จู่ๆเขาก็นึกสิ่งที่จะพูดกับปู่ได้ และรีบพูดว่า:”คุณปู่ อย่าเพิ่งวางสาย!”
ซูเฉิงเฟิงถามเขาว่า:”ทำไม? นายยังมีธุระไรเหรอ?”
ซูจือเฟยรีบพูดว่า:”เมื่อกี้คุณตาเพิ่งโทรหาผม เขาบอกว่าแม่และน้องสาวของผมกลับมาแล้ว!”
“อะไรนะ!”ซูเฉิงเฟิงตัวระเบิดทันที และโพล่งออกมา:”แม่และน้องสาวของนายกลับมาแล้ว? กลับมาแล้วคืออะไร? กลับไหน? !”
ซูจือเฟยรีบพูดว่า:”คุณตาก็ไม่ได้พูดอะไรเป็นพิเศษ แต่ว่าเขาอยู่ที่จินหลิง และเพิ่งโทรให้ผมรีบกลับไป ผมเดาว่าแม่ของผมกับจือหยูน่าจะกลับไปที่บ้านเก่าตระกูลตู้ที่จินหลิง”
ในใจซูเฉิงเฟิงเกิดเคลื่นที่โหมซัดสาด และโพล่งออกมาว่า:”มันเป็นไปได้ไง? แม่งเป็นไปได้ยังไงกัน……”
พูดไป เขาก็รีบถามว่า:”จือเฟย ตอนนี้นายอยู่ที่ไหน? !”
ซูจือเฟยรีบพูด:”ผมอยู่ที่ใจกลางสนามโอลิมปิกแห่งจินหลิง และกำลังจะกลับไปดูที่บ้านเก่า!”
ซูเฉิงเฟิงโพล่งออกมา:”รีบไป! ไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น!”