ทันทีที่คลิปวิดีโอของจงเทียนหยู่ถูกปล่อยออกไป ก็ขึ้นเทรนติดอันดับการค้นหาในเว็บยอดฮิตทันที
เหล่าชาวเน็ตคิดว่าจงเทียนหยู่ทำเรื่องโง่เง่าอีกแล้ว เหมือนกับครั้งก่อนที่เขาจ้างกลุ่มนักแสดงที่เล่นหนังทำสงครามกับญี่ปุ่น เพียงแต่ครั้งนี้มันดูแปลกกว่าเท่านั้น
แต่คนตระกูลจงกลับรู้สึกแตกต่างออกไป
ดังนั้น พวกเขาจึงรีบติดต่อจงเทียนหยู่ แต่กลับคิดไม่ถึงว่า จงเทียนหยู่กับคนอื่นๆจะหายตัวไปพร้อมกัน
มันจึงทำให้พวกเขาตระหนักได้ว่า จงเทียนหยู่จะต้องพบเจอกับอันตรายอย่างแน่นอน
หลังจากนั้น ตระกูลจงจึงรีบติดต่อเส้นสาย ติดต่อไปทุกที่ กระทั่งเส้นสายที่อยู่ในจินหลิง หวังว่าจะสามารถหาเบาะแสของจงเทียนหยู่เจอ
แต่จงเทียนหยู่ในตอนนี้ ได้ถูกรถบัสคันใหญ่ส่งไปที่โรงแรมป๋ายจินฮ่านกง
จงเทียนหยู่คิดไม่ถึงว่า ห้องเพรสสิเดนเชียลสวีทของโรงแรมป๋ายจินฮ่านกงที่เขาอยากเหมาไว้ตั้งแต่แรก ถึงเวลานั้นยังสามารถได้เพิ่มระกับความสัมพันธ์กับกู้ชิวอี๋เหมือนหอคอยที่ใกล้น้ำ ได้พระจันทร์ก่อน แต่ตอนนี้ ห้องเพรสซิเดนเชียลสวีทเหมาไม่สำเร็จ ตัวเองกลับเหมือนนักโทษ ที่ถูกคนพวกนี้จับตัวมา
ภายในใจของเขาทั้งโกรธทั้งกลัว แต่เขาไม่มีเวลาคิดอะไรมาก ลูกน้องของเฉินจื๋อข่ายได้รับเขาจากมือของชายฉกรรจ์หลายคน หลังจากนั้นก็พาเขาไปที่ห้องทำงานของเฉินจื๋อข่ายทันที
ภายในห้องทำงานในตอนนี้ เย่เฉิน หงห้ารวมถึงเฉินจื๋อข่ายกำลังนั่งจิบชากันอยู่
พอประตูถูกเปิดออก จงเทียนหยู่ที่มีใบหน้ากระวนกระวายใจก็ถูกหิ้วคอเสื้อพาเข้าไปด้านใน
ทันทีที่เขาเข้ามา ก็เริ่มมองประเมินชายสามคนที่อยู่ในห้องทำงาน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็น ทั้งสามคนรวมถึงเย่เฉิน ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าใครเป็นตัวแทนของตระกูลเย่
ดังนั้น เขาจึงลองถามออกไปว่า“ใครคือผู้จัดการทั่วไปเฉินของโรงแรมป๋ายจินฮ่านกงหรอครับ?”
เฉินจื๋อข่ายพูดอย่างใจเย็น“ผมเอง”
จงเทียนหยู่รีบกล่าวว่า“ผู้จัดการเฉินครับ เรื่องในวันนี้มีอะไรเข้าใจผิดกันรึเปล่าครับ?”
“เข้าใจผิด?”เฉินจื๋อข่ายหัวเราะอย่างเย้ยหยัน“ผมคิดว่าไม่มีอะไรเข้าใจผิดหรอก ในสายคุณยโสโอหังมากเลยไม่ใช่หรอ?ดังนั้นถึงยังไงผมก็ต้องเชิญคุณมาที่นี่ให้ได้ เพื่อพูดคุยกับคุณ”
จงเทียนหยู่รวบรวมความกล้าแล้วพูดออกไปว่า“ผู้จัดการเฉินครับ ผมรู้ว่าคุณเป็นคนของตระกูลเย่ ตระกูลจงของเรากับตระกูลเย่มีความสัมพันธ์อันดีกันมาตลอด โดยเฉพาะคุณน้าเย่ฉางหมิ่นแห่งตระกูลเย่ของพวกคุณ เป็นเพื่อนสนิทของพ่อผม ดังนั้นผมเชื่อว่าเรื่องในวันนี้ไม่ใช่ฝีมือของเธอแน่ๆ ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นฝีมือของตระกูลเย่ ถ้าคุณแค่อยากใช้ประโยชน์จากตระกูลเย่เพื่อเป็นสุนัขจิ้งจอกแอบอ้างบารมีเสือ เพื่อแก้แค้นผมที่มีเรื่องกับคุณในสาย ถ้าอย่างงั้นคุณก็ต้องประเมินตัวเองก่อนนะครับ ถ้าเรื่องนี้รั่วไหลออกไป คุณจะสามารถปิดได้อย่างงั้นหรอครับ!”
เมื่อเฉินจื๋อข่ายได้ยินอย่างนั้น จึงอดที่จะหัวเราะไม่ได้“คุณถึงกับเอาคุณหนูใหญ่ของตระกูลเย่ออกมาอ้างเลยหรอเนี่ย ผมในฐานะที่เป็นคนใช้แน่นอนว่าไม่มีทางปิดได้หรอกครับ”
เมื่อจงเทียนหยู่ได้ยินอย่างนั้น จึงรู้สึกมั่นใจขึ้นมา เขากล่าวอย่างเย้ยหยันว่า“ในเมื่อปิดไม่อยู่ ก็รีบปล่อยผมออกไปซะ ไม่อย่างนั้น ผมจะทำให้คุณรับผิดชอบกับผลที่ตามมา!”
เฉินจื๋อข่ายหัวเราะ“คุณอย่ารีบพูดแทนผมสิ ผมน่ะ ความสามารถมีขีดจำกัด ปิดไม่ได้หรอก แต่บุคคลท่านที่อยู่ข้างๆผมต้องทำได้แน่”
พูดจบ เขาก็ชี้ไปที่เย่เฉินที่อยู่ข้างๆ แล้วพูดกับจงเทียนหยู่ว่า“ถ้าคุณไม่พอใจล่ะก็ พูดกับคนที่อยู่ข้างๆผมได้เลย”
เมื่อจงเทียนหยู่มองไปที่เย่เฉิน แล้วรีบประมวลผลใบหน้ากับความทรงจำในสมองทันที
แต่ว่า คิดไปคิดมา เขาก็หาความทรงจำเกี่ยวกับใบหน้านี้ไม่พบ
ดังนั้น เขาจึงอดคิดในใจไม่ได้ว่า“ไอ้หมอนี่มันเก่งกาจจริงๆ ทำไมในความทรงจำของฉันถึงไม่มีเลยล่ะ?ไม่ว่าจะเป็นตระกูลเย่หรือตระกูลซู หรือตระกูลกู้ ฉันรู้จักชายหนุ่มในตระกูลพวกเขาเป็นอย่างดี ตระกูลที่ค่อนข้างสุดยอดอื่นๆ ก็แทบจะนับนิ้วได้ แต่ไอ้เด็กนี่กลับไม่คุ้นเลย หรือว่าเขาจะเป็นคนใหญ่คนโต?”
เอคิดได้ดังนั้น เขาจึงอดถามขึ้นมาไม่ได้ว่า“คุณคนนี้ ระหว่างเราเคยขัดแย้งอะไรกันรึเปล่าครับ?”
เย่เฉินยิ้มเบาๆ“ไม่ได้ขัดแย้งอะไรกันหรอกครับ ผมแค่ไม่ชอบขี้หน้าคุณเท่านั้น”
“บัดซบ!”เมื่อจงเทียนหยู่ได้ยินเสียงของเย่เฉิน เขาก็รีบหันหน้าไปทางชายในโทรศัพท์ที่เขาไม่รู้จักทันที พลางโพล่งสบถออกไปอย่างไม่รู้ตัว หลังจากนั้นก็พูดอย่างโกรธเคืองว่า“ที่แท้ก็เป็นแกนี่เอง?แกเป็นใครมาจากไหนไม่ทราบ ถึงกล้าต่อกรกับฉัน?เชื่อไหมว่าถ้าฉันออกจากที่นี่ไปได้ฉันจะเอาแกให้ตาย!”
เย่เฉินหัวเราะ“คุณถามผมว่าเป็นใครมาจากไหนงั้นหรอ?ผมชื่อเย่เฉิน ไม่ทราบว่าคุณเคยได้ยินชื่อนี้ไหม?”