เมื่อหงห้าได้ยินอย่างนั้น ภายในใจของเขาก็รู้สึกซาบซึ้งมาก
เมื่อก่อนหงห้าหาเงินยังค่อนข้างง่าย โดยอาศัยคุณสมบัติพิเศษและความสัมพันธ์ที่หลากหลายของเขา และทำตามกฎกติกา เขาจึงมีรายได้มากมายในทุกปี
แต่หลายปีมานี้หงห้าค่อยๆเปลี่ยนตัวเอง เรื่องที่สามารถหาเงินได้มากมายในหลายปีก่อน ตอนนี้เขาจะเข้าไปแตะต้องไม่ได้อีกแล้ว ดังนั้นรายได้จึงลดฮวบ
แต่ว่า เขามีลูกน้องเยอะ ค่าใช้จ่ายโดยรวมทั้งหมดของคนเหล่านี้ไม่ได้ลดลงเพราะรายได้ที่ลดลง ในทางกลับกัน เนื่องจากค่าครองชีพที่สูงขึ้นเรื่อยๆ รายได้ต่อหัวก็เพิ่มขึ้นไม่หยุด ต้นทุนของพวกเขาจึงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ดังนั้น หลายปีมานี้ถึงแม้หงห้าผิวเผินจะดูดี แต่เขากลับอยู่ในสภาพที่ดูแลได้ไม่ทั่วถึง
จู่ๆเย่เฉินก็เริ่มมอบธุรกิจจัดหาเสบียงเพิ่มเติมของบริษัทขนส่งทางทะเลให้กับเขา และในนี้มีผลกำไรมหาศาล สำหรับเขาแล้วนี่เป็นการให้ความช่วยเหลือในยามที่คนคับขันได้อย่างทันท่วงที
หงห้าก้มคำนับแล้วพูด อย่างซาบซึ้งใจว่า“ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของอาจารย์เย่ครับ!”
เย่เฉินพยักหน้า แล้วพูดอย่างยิ้มๆว่า“ระหว่างคุณกับผมไม่ต้องเกรงใจกันหรอก”
พูดจบ เย่เฉินก็พูดอีกว่า“เดี๋ยวผมเอาข้อมูลติดต่อของเฮ่อจือชิวส่งให้คุณนะ จากนี้ไปเรื่องธุรกิจคุณสามารถคุยกับเธอได้เลยนะ ”
จากนั้น เย่เฉินก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้“อ่อ จริงสิ จากนี้ไปเรื่องของท่าเรือ ผมเชื่อว่าจะต้องมีการติดต่อร่วมงานกับพวกที่แสวงหาประโยชน์ด้วยช่องทางที่ไม่เหมาะสมไม่น้อย สถานที่แห่งนี้จะต้องมีงูเจ้าถิ่นเยอะแน่ๆ ถึงเวลานั้นยังต้องให้ลูกน้องฝั่งคุณ ช่วยเฮ่อจือชิวจัดการปัญหาพวกนี้ที่เธอไม่ถนัด กิจการส่วนนี้ ถึงเวลานั้นผมจะคิดว่าเป็นธุรกิจรักษาความปลอดภัยให้คุณรับผิดชอบแล้วหัน ช่องว่างของผลประกอบการน่าจะใช้ได้เลย ถึงเวลานั้นค่อยหายอดฝีมือของตระกูลเหอ สักสองคนมาช่วยคุณออกนั่งบัญชาการรักษาการณ์ด้วยตันเอง”
หงห้ารับกล่าวว่า“อาจารย์เย่วางใจได้เลยครับ ผมจะทุ่มเทอย่างเต็มที่ ทำให้ท่าเรือดำเนินกิจการได้อย่างปกติ!”
“ดี!”เย่เฉินพยักอย่างพอใจ แล้วกล่าวว่า“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นคุณกลับไปรีบวางแผนเลยนะ ขอคำปรึกษากับเฮ่อจือชิว ดูสิว่าคุณต้องเตรียมการอะไรบ้าง ทำการล่วงหน้า”
พูดจบ เย่เฉินก็มองดูเวลา จากนั้นก็เหยียดหลัง แล้วพูดกับหงห้าและเฉินจื๋อข่ายว่า“เอาล่ะ วันนี้พอแค่นี้ก่อน พวกคุณก็เหนื่อยมากแล้ว สองวันนี้เป็นคอนเสิร์ตของหนานหนาน พวกคุณคอยสังเกตการณ์สถานการณ์ทั้งที่สว่างและที่ลับในจินหลิงด้วยแล้วกัน ถ้ามีเหตุการณ์ไม่ชอบมาพากล บอกกับผมด้วยล่ะ”
เฉินจื๋อข่ายรีบตอบว่า“คุณชายครับ ซูจือเฟยคนของตระกูลซูคนนั้น ช่วงนี้กำลังยุ่งกับงานคอนเสิร์ตของคุณกู้ ขยันขันแข็งกระตือรือร้นมากเลยล่ะครับ อีกทั้งเขายังมาหาผมโดยเฉพาะ อยากซื้อป้ายโฆษณาที่ใหญ่ที่สุดของเรา ผมไม่สนใจเขา ผมว่าไอ้หมอนี่ไม่แน่อาจจะทำอะไรกับงานคอนเสิร์ตวันนั้นก็ได้ จัดการเขาก่อนเลยไหมครับ?”
เย่เฉินยิ้มเบาๆแล้วพูดว่า“ซูจือเฟยต้องชอบหนานหนานแน่ เหมือนบทกวีที่เขียนไว้ว่าสาวงามแสนดีเอย เจ้าเป็นที่หมายปองของชายหนุ่ม ชื่นชอบหนานหนานไม่ใช่เรื่องผิด แต่อย่าเป็นแบบจงเทียนหยู่ ที่มาตอแหลบนหัวผมแบบนี้ไม่ต้องไปสนใจเขาหรอก”
เฉินจื๋อข่ายพูดอย่างจริงจัง“คุณชายครับ ผมคิดว่าซูจือเฟยจะต้องเป็นตัวสร้างปัญหาแน่ๆครับ โดยเฉพาะให้เขาเป็นแบบนี้ต่อไป สู้ชิงลงมือจัดการเขาก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในอนาคต”
พูดจบ จู่ๆเฉินจื๋อข่ายก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขาอดที่จะพูดอย่างดีใจไม่ได้ว่า“คุณชายครับ เราส่งเขาไปซีเรียดีไหมครับ ไปอยู่เป็นเพื่อนกับตาแก่นั่น”
เย่เฉินหัวเราะ“คุณส่งคนไปที่ซีเรียจนเสพติดแล้วใช่ไหมเนี่ย?”
เฉินจื๋อข่ายหัวเราะฮ่าๆ“ไม่ใช่หรอกครับ หลักๆแล้วผมเห็นว่าไอ้หมอนี่คิดไม่ซื่อกับคุณกู้ เลยอยากส่งเขาไปซีเรียเพื่อทนลำบากทำเพียงครั้งเดียว หลังจากนั้นก็จะสบายไปตลอด”
เย่เฉินโบกมือไป“ตอนนี้ผมจะร่วมงานกับซูจือหยู ยังไม่ทันได้ร่วมงานอย่างเป็นทางการเลย จะให้ผมส่งพี่ชายเธอไปที่ซีเรีย งั้นจากนี้จะให้ผมร่วมกับเธออย่างไร?”
เฉินจื๋อข่ายจึงพูดว่า“คุณชายครับ คุณส่งพ่อเธอไปที่ซีเรียแล้ว เธอก็ไม่ได้ว่าอะไรไม่ใช่หรอครับ?”
เย่เฉินส่ายหัวไปมา“นั่นไม่เหมือนกัน ซูจือหยูเธอรู้ผิดชอบชั่วดี ผมส่งซูโสว่เต้าพ่อของเธอไปที่ซีเรีย มีเหตุผลที่หลายข้อที่ไม่สามารถโต้แย้งได้ หนึ่งคือ ซูโสว่เต้าเป็นคนก่อตั้งพันธมิตรต่อต้านตระกูลเย่จริงๆ มีความแค้นกับพ่อของผมมาก่อน สองคือ ซูโสว่เต้ายิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน ช่วยคนชั่วก่อกรรมทำเข็ญ ทำให้ลูกสาวทั้งสองคนของตัวเองอยู่ในอันตราย สามคือ ซูโสว่เต้าในฐานะของคนเป็นพ่อ เห็นลูกสาวของตัวเองตกอยู่ในอันตรายโดยไม่ช่วย กระทั่งยังเหมือนหมาตัวหนึ่งล้อมหน้าล้อมหลังซูเฉิงเฟิง คนแบบนี้ ผมส่งเขาไปที่ซีเรีย ซูจือหยูก็รู้ดีว่าเขาสมควรได้รับกรรม”