ถังซื่อไห่รีบพูดว่า:”คุณท่าน เรื่องความรักไม่ใช่สิ่งที่เราควบคุมได้ ผมคิดว่าคุณท่านควรจะเคารพทางเลือกของคุณชายเฉินดีกว่า” เย่โจงฉวนโบกมือ และพูดอย่างจริงจัง:”ในฐานะเจ้าบ้านตระกูลเย่ ฉันไม่สามารถยอมรับหลานชายของตัวเอง แต่งงานกับผู้หญิงที่มีภูมิหลังที่ไม่ดีแบบนี้ได้!” พูดจบ เย่โจงฉวนก็พูดอย่างตื่นตัวว่า:”ฉันบอกว่าภูมิหลังของเซียวชูหรันไม่ดีนั้น ไม่เพียงเพราะอันดับของตระกูลเซียวมันต่ำเกินไป! นอกจากนี้ยังเป็นเพราะปู่ของเซียวชูหรัน เดิมทีเป็นคนใช้ของตระกูลเย่!” “นายว่า จะมีตระกูลใหญ่ไหนที่ยอมให้หลานชายแต่งงานกับหลานสาวคนใช้ของตระกูลในฐานะภรรยาได้? นี่มันเป็นการทำให้ชื่อเสียงบรรพบุรุษเสื่อมเสียไม่ใช่เหรอ?” “ไม่ว่ายังไง เฉินเอ๋อก็ต้องหย่ากับผู้หญิงคนนั้น!” ถังซื่อไห่เกลี้ยกล่อม:”คุณท่าน เรื่องนี้ไม่ต้องรีบร้อน ผมคิดว่าคุณควรให้เวลาคุณชายเฉินอีกสักหน่อย และให้เขาแก้ปัญหานี้ด้วยตัวเอง” เย่โจงฉวนพูดอย่างจริงจัง:”ตอนแรกฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน เมื่อพิจารณาว่าฉันกับเฉินเอ๋อไม่ได้เจอกันมาหลายปีแล้ว และขาดรากฐานทางความสัมพันธ์ระหว่างปู่กับหลาน ๆ แบบปกติ ดังนั้นฉันจึงไม่ได้บังคับให้เขาหย่าและ กลับสู้ตระกูลเย่แต่แรก ฉันให้ตี้เหากรุ๊ปกับเขา แค่อยากจะให้เขาเริ่มทิ้งเซียวชูหรันเอง แต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าฉันจะคิดเข้าข้างตัวเองเกินไป!” เดิมที ในความรู้และความเข้าใจของเย่โจงฉวน เมื่อมีช่องว่างทางชนชั้นขนาดใหญ่ระหว่างชายและหญิง จะแยกจากกันมันเป็นเรื่องที่ไม่ช้าก็เร็วๆ หลังจากที่เย่เฉินมีเงิน อำนาจ และสถานะ เขาก็จะหมดความสนใจในตัวเซียวชูหรันไปเอง และมีความเป็นไปได้สูงที่เขาจะจ่ายเงินชดเชยให้เซียวชูหรันโดยตรง เพื่อส่งเธอไป จากนั้นก็ยุติการแต่งงานระหว่างทั้งสองอย่างสมบูรณ์ แต่เขาจะคิดได้ไงว่า เย่เฉินยื้อไปตั้งนาน ก็ยังไม่หย่ากับเซียวชูหรัน นอกจากนี้ ตามข่าวที่เขาได้รับเป็นระยะๆ ดูเหมือนว่าเย่เฉินจะไม่ติดที่จะหย่ากับเซียวชูหรันเลย แม้ว่ากู้ชิวอี๋จะจำเขาได้ แต่เขาก็ยังไม่หย่ากับเซียวชูหรัน สิ่งนี้ทำให้เย่โจงฉวนรู้สึกแย่เล็กน้อย เมื่อคิดแบบนี้ เย่โจงฉวนก็พูดอย่างหดหู่เล็กน้อยว่า:”หลายวันก่อนฉันดูข่าวบันเทิง เห็นยัยหนูของตระกูลกู้สารภาพรักอย่างลึกซึ้งในคอนเสิร์ต เธอไปจัดคอนเสิร์ตที่จินหลิงตั้งไกล และยังอยู่ในวันเกิดของเฉินเอ๋ออีกด้วย ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าจะไปสารภาพกับเฉินเอ๋อ แต่เฉินเอ๋อล่ะ? จนตอนนี้ก็ยังไม่หย่ากับเซียวชูหรันนั้นเลยไม่ใช่เหรอ? ยัยหนูของตระกูลกู้มีสัญญาแต่งงานกับเฉินเอ๋ออยู่นะ ! เฉินเอ๋อไม่แม้แต่จะไม่สนใจเรื่องนี้เลย ก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ว่าเขาไม่คิดที่จะหย่า!” ถังซื่อไห่รู้ดีว่าเย่เฉินกำลังคิดอะไรอยู่ ดังนั้นเขาจึงพูดว่า :”คุณท่าน ผมเข้าใจความรู้สึกของท่าน แต่ท่านเคยคิดบ้างไหมว่า นิสัยของคุณชายเฉินนั้นคล้ายกับคุณชายฉางอิง ถ้าท่านบังคับให้เขาทำสิ่งที่เขาไม่อยากทำ เป็นไปได้ว่าเขาจะต่อต้านจนถึงที่สุด” เย่โจงฉวนพูดอย่างเย็นชา:”ฉันก็กลัวเขาต่อต้าน ดังนั้นจึงไม่ได้บังคับเขามาโดยตลอด แต่คราวนี้ฉันไม่มีทางตามใจเขาได้อีก พิธีไหว้บรรพบุรุษในครั้งนี้ ไม่ว่ายังไงฉันก็ต้องกดดันเขาให้ได้ มิฉะนั้น เรื่องนี้มันอาจจะไม่มีทางเป็นไปตามที่ฉันต้องการ!” พูดถึงตรงนี้ เขาก็ลุกขึ้นยืน มองออกไปนอกหน้าต่าง และพูดอย่างจริงจังว่า:”เฟิงเอ๋อแต่งงานกับเจ้าหญิงยุโรปเหนือและเฉินเอ๋อแต่งงานกับลูกสาวคนเดียวของตระกูลกู้ เมื่อการแต่งงานทั้งสองเกิดขึ้น ความแข็งแกร่งของตระกูลเย่จะก้าวข้ามตระกูลซูโดยสิ้นเชิง และกลายเป็นตระกูลอันดับหนึ่งของหัวเซี่ย ดังนั้นสองเรื่องนี้ ฉันจะไม่ให้เกิดความผิดพลาดใดๆเด็ดขาด!”
ถังซื่อไห่รีบพูดว่า:”คุณท่าน เรื่องความรักไม่ใช่สิ่งที่เราควบคุมได้ ผมคิดว่าคุณท่านควรจะเคารพทางเลือกของคุณชายเฉินดีกว่า”
เย่โจงฉวนโบกมือ และพูดอย่างจริงจัง:”ในฐานะเจ้าบ้านตระกูลเย่ ฉันไม่สามารถยอมรับหลานชายของตัวเอง แต่งงานกับผู้หญิงที่มีภูมิหลังที่ไม่ดีแบบนี้ได้!”
พูดจบ เย่โจงฉวนก็พูดอย่างตื่นตัวว่า:”ฉันบอกว่าภูมิหลังของเซียวชูหรันไม่ดีนั้น ไม่เพียงเพราะอันดับของตระกูลเซียวมันต่ำเกินไป! นอกจากนี้ยังเป็นเพราะปู่ของเซียวชูหรัน เดิมทีเป็นคนใช้ของตระกูลเย่!”
“นายว่า จะมีตระกูลใหญ่ไหนที่ยอมให้หลานชายแต่งงานกับหลานสาวคนใช้ของตระกูลในฐานะภรรยาได้? นี่มันเป็นการทำให้ชื่อเสียงบรรพบุรุษเสื่อมเสียไม่ใช่เหรอ?”
“ไม่ว่ายังไง เฉินเอ๋อก็ต้องหย่ากับผู้หญิงคนนั้น!”
ถังซื่อไห่เกลี้ยกล่อม:”คุณท่าน เรื่องนี้ไม่ต้องรีบร้อน ผมคิดว่าคุณควรให้เวลาคุณชายเฉินอีกสักหน่อย และให้เขาแก้ปัญหานี้ด้วยตัวเอง”
เย่โจงฉวนพูดอย่างจริงจัง:”ตอนแรกฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน เมื่อพิจารณาว่าฉันกับเฉินเอ๋อไม่ได้เจอกันมาหลายปีแล้ว และขาดรากฐานทางความสัมพันธ์ระหว่างปู่กับหลาน ๆ แบบปกติ ดังนั้นฉันจึงไม่ได้บังคับให้เขาหย่าและ กลับสู้ตระกูลเย่แต่แรก ฉันให้ตี้เหากรุ๊ปกับเขา แค่อยากจะให้เขาเริ่มทิ้งเซียวชูหรันเอง แต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าฉันจะคิดเข้าข้างตัวเองเกินไป!”
เดิมที ในความรู้และความเข้าใจของเย่โจงฉวน เมื่อมีช่องว่างทางชนชั้นขนาดใหญ่ระหว่างชายและหญิง จะแยกจากกันมันเป็นเรื่องที่ไม่ช้าก็เร็วๆ
หลังจากที่เย่เฉินมีเงิน อำนาจ และสถานะ เขาก็จะหมดความสนใจในตัวเซียวชูหรันไปเอง และมีความเป็นไปได้สูงที่เขาจะจ่ายเงินชดเชยให้เซียวชูหรันโดยตรง เพื่อส่งเธอไป จากนั้นก็ยุติการแต่งงานระหว่างทั้งสองอย่างสมบูรณ์
แต่เขาจะคิดได้ไงว่า เย่เฉินยื้อไปตั้งนาน ก็ยังไม่หย่ากับเซียวชูหรัน
นอกจากนี้ ตามข่าวที่เขาได้รับเป็นระยะๆ ดูเหมือนว่าเย่เฉินจะไม่ติดที่จะหย่ากับเซียวชูหรันเลย
แม้ว่ากู้ชิวอี๋จะจำเขาได้ แต่เขาก็ยังไม่หย่ากับเซียวชูหรัน
สิ่งนี้ทำให้เย่โจงฉวนรู้สึกแย่เล็กน้อย
เมื่อคิดแบบนี้ เย่โจงฉวนก็พูดอย่างหดหู่เล็กน้อยว่า:”หลายวันก่อนฉันดูข่าวบันเทิง เห็นยัยหนูของตระกูลกู้สารภาพรักอย่างลึกซึ้งในคอนเสิร์ต เธอไปจัดคอนเสิร์ตที่จินหลิงตั้งไกล และยังอยู่ในวันเกิดของเฉินเอ๋ออีกด้วย ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าจะไปสารภาพกับเฉินเอ๋อ แต่เฉินเอ๋อล่ะ? จนตอนนี้ก็ยังไม่หย่ากับเซียวชูหรันนั้นเลยไม่ใช่เหรอ? ยัยหนูของตระกูลกู้มีสัญญาแต่งงานกับเฉินเอ๋ออยู่นะ ! เฉินเอ๋อไม่แม้แต่จะไม่สนใจเรื่องนี้เลย ก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ว่าเขาไม่คิดที่จะหย่า!”
ถังซื่อไห่รู้ดีว่าเย่เฉินกำลังคิดอะไรอยู่ ดังนั้นเขาจึงพูดว่า :”คุณท่าน ผมเข้าใจความรู้สึกของท่าน แต่ท่านเคยคิดบ้างไหมว่า นิสัยของคุณชายเฉินนั้นคล้ายกับคุณชายฉางอิง ถ้าท่านบังคับให้เขาทำสิ่งที่เขาไม่อยากทำ เป็นไปได้ว่าเขาจะต่อต้านจนถึงที่สุด”
เย่โจงฉวนพูดอย่างเย็นชา:”ฉันก็กลัวเขาต่อต้าน ดังนั้นจึงไม่ได้บังคับเขามาโดยตลอด แต่คราวนี้ฉันไม่มีทางตามใจเขาได้อีก พิธีไหว้บรรพบุรุษในครั้งนี้ ไม่ว่ายังไงฉันก็ต้องกดดันเขาให้ได้ มิฉะนั้น เรื่องนี้มันอาจจะไม่มีทางเป็นไปตามที่ฉันต้องการ!”
พูดถึงตรงนี้ เขาก็ลุกขึ้นยืน มองออกไปนอกหน้าต่าง และพูดอย่างจริงจังว่า:”เฟิงเอ๋อแต่งงานกับเจ้าหญิงยุโรปเหนือและเฉินเอ๋อแต่งงานกับลูกสาวคนเดียวของตระกูลกู้ เมื่อการแต่งงานทั้งสองเกิดขึ้น ความแข็งแกร่งของตระกูลเย่จะก้าวข้ามตระกูลซูโดยสิ้นเชิง และกลายเป็นตระกูลอันดับหนึ่งของหัวเซี่ย ดังนั้นสองเรื่องนี้ ฉันจะไม่ให้เกิดความผิดพลาดใดๆเด็ดขาด!”