ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน – ตอนที่ 3115

กองทัพของรัฐบาลท้อใจเป็นอย่างมากในการโจมตีฮามิด ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการรวบรวมฮามิดเข้ากับกองทัพของตนเอง เพราะพวกเขายอมรับความสามารถในการทำสงครามของฮามิดเป็นอย่างมาก ถ้าฮามิดสามารถเข้าร่วมเป็นสมาชิกกองทัพของรัฐบาลได้ ก็จะเป็นผลดีด้วยกันทั้งสองฝ่าย เมื่อเฉินจงเหล่ยได้ยินประโยคนี้ กล่าวด้วยความโมโหทันที “คุณหมายความว่าอย่างไร? อย่าลืมว่าฮามิดได้ฆ่าทหารของสำนักว่านหลงไป 2,500 กว่าคน!” เย่เฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “คุณสามารถคิดบัญชีแค้นนี้ได้ทุกตลอดเวลา อย่างที่ผมพูดไปเมื่อสักครู่ อาวุธและกระสุนของพวกเราเพียงพอที่จะฆ่าพวกคุณแปดครั้งหรือกระทั่งสิบแปดครั้ง และช่วงหลายวันมานี้ทหารของพวกเรารู้สึกคันไม้คันมือมาก ถ้าคุณยังเป็นลูกผู้ชายอยู่ ทางที่ดีควรโจมตีวันนี้ทันที แต่ถ้าคุณเป็นเต่าหดหัว งั้นพวกเราต่างฝ่ายต่างไม่ยอมอ่อนข้อให้แก่กันและกันต่อไปเรื่อย ๆ สำหรับพวกเราแล้วอย่างไรก็ได้” เฉินจงเหล่ยรู้สึกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ และเมื่อนึกถึงสิ่งที่ประมุขว่านพั่วจวินมอบหมาย จึงกล่าวด้วยความโมโหว่า “คนแซ่เย่ กลับไปบอกฮามิดว่าอย่างช้าสิบวัน และอย่างเร็วห้าวัน ผมเฉินจงเหล่ยจะนำทัพไปโจมตีแน่นอน แล้วจะฆ่าพวกคุณให้หมด!” ทันใดนั้นผู้บัญชาการกองทัพของรัฐบาลเกิดความกระวนกระวายและกล่าวโพล่งออกมาว่า “เฉินจงเหล่ย! คุณหมายความว่ายังไง?” เย่เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “คุณยังมองไม่ออกอีกหรือ? พวกเขากำลังเจตนาทำลายการเจรจาสงบศึกระหว่างพวกเรากับพวกคุณ พวกเขาไม่ต้องการให้พวกเราเข้าร่วมเป็นสมาชิกกองทัพของรัฐบาล!” เฉินจงเหล่ยไม่คิดว่าเย่เฉินจะเปิดเผยแรงจูงใจของตนเอง และรีบกล่าวปกปิด “ผมไม่ได้หมายถึงเช่นนั้น! แต่คุณนั้นพูดยั่วยุตลอดเวลา!” เย่เฉินไม่สนใจเขา หันไปมองผู้บัญชาการกองทัพของรัฐบาลและกล่าวว่า “พวกเราหัวเซี่ยมีนิทานเรื่องหนึ่งชื่อว่านกปากซ่อมทะเลาะกับหอยกาบ แต่ชาวประมงได้ผลประโยชน์ ความหมายคร่าว ๆ คือนกปากยาวอยากกินหอยกาบตัวอ้วน แต่นกถูกหอยกาบหนีบปากไว้ และเมื่อต่างฝ่ายต่างไม่ยอมอ่อนข้อให้กันและกัน ชาวประมงที่ตกปลาได้เดินผ่านมา แล้วจับทั้งสองใส่เข้าไปในถุงผ้าโดยตรง” เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ เย่เฉินกล่าวอีกครั้ง “ตอนนี้ พวกคุณคือนกปากซ่อม ส่วนพวกเราคือหอยกาบ และสำนักว่านหลงเป็นชาวประมง สิ่งที่พวกเขาหวังมากที่สุดคือซีเรียโกลาหลวุ่นวายตลอดไป แล้วกองทัพของรัฐบาลจะไม่มีวันสงบสุข และไม่มีความสามารถในการปกป้องตนเอง ดังนั้นจึงทำได้เพียงยกที่ดินให้สำนักว่านหลง และขอความช่วยเหลือและการคุ้มครองจากสำนักว่านหลง เพื่อที่พวกเขาจะได้ประโยชน์สูงสุดในซีเรีย” เฉินจงเหล่ยกล่าวโพล่งออกมา “คุณอย่ามาพูดจาเหลวไหลอยู่ที่นี่! เงื่อนไขการร่วมมือของพวกเรากับกองทัพของรัฐบาล นั่นคือหลังจากกำจัดฝ่ายต่อต้านหมดแล้ว กองทัพของรัฐบาลจะจัดสรรที่ดินให้พวกเราสร้างฐานทหารรับจ้าง! เมื่อถึงเวลานั้นประเทศซีเรียจะเกิดความสงบสุข ซึ่งไม่มีสถานการณ์นกปากซ่อมทะเลาะกับหอยกาบ และชาวประมงได้ผลประโยชน์!” ผู้บัญชาการกองทัพของรัฐบาลขมวดคิ้วและกล่าวอย่างจริงจังว่า “ข้อตกลงความร่วมมือของพวกเรากับสำนักว่านหลงเป็นเช่นนั้นจริง ๆ หลังจากที่พวกเรากำจัดฝ่ายต่อต้านทั้งหมดแล้ว พวกเราถึงจะจัดสรรที่ให้แก่พวกเขา และให้พวกเขาสร้างฐานทัพในซีเรีย ดังนั้นสถานการณ์ที่คุณกล่าวนั้นไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน” เย่เฉินยิ้มเยาะเย้ย “เฮ้ คุณมันโง่เขลาจริง ๆ คุณคิดว่าพวกเขาจะช่วยคุณกำจัดฝ่ายต่อต้านหมดสิ้นหรือไง?” “ขอเพียงแค่ซีเรียอยู่ในสถานการณ์ที่โกลาหลวุ่นวาย และต้องการความช่วยเหลือจากพวกเขาอยู่ตลอดเวลา พวกเขาจึงจะสามารถเรียกร้องผลประโยชน์จากคุณได้ทุกรูปแบบ!” “คุณลองคิดไตร่ตรองอย่างละเอียดอีกครั้ง เมื่อถึงเวลานั้นถ้าซีเรียมีความสงบจริง ๆ กองทัพของรัฐบาลสามารถยอมรับและไม่แยแส ว่ามีองค์กรติดอาวุธที่แข็งแกร่งอย่างสำนักว่านหลงอยู่ในดินแดนของพวกคุณได้หรือ?” “เมื่อถึงตอนนั้น แม้ว่าสำนักว่านหลงจะไม่ผิดสัญญา พวกคุณก็ต้องผิดสัญญาแน่นอน เพราะบรรพบุรุษชาวหัวเซี่ยของพวกเราบอกไว้ว่า ไม่มีใครจะยอมแบ่งดินแดนหรือผลประโยชน์ของตนเองให้คนอื่นได้หรอก!” “ดังนั้น ผมกล้ารับประกันกับคุณ แม้ว่าสำนักว่านหลงจะช่วยพวกคุณกำจัดความขัดแย้งผิวเผินได้ และหลังจากได้พื้นที่ 100 ตารางกิโลเมตรจากพวกคุณแล้ว พวกเขาจะบ่มเพาะฝ่านต่อต้านใหม่อย่างลับ ๆ แล้วออกมาต่อสู้กับพวกคุณอย่างต่อเนื่อง และลากพวกคุณเข้าสู่สงครามต่อไป!” “เมื่อเป็นเช่นนั้น พวกคุณจะตกอยู่ในสงครามภายในที่แผดเผาอีกครั้ง แต่นั่นไม่เกี่ยวอะไรกับสำนักว่านหลง” “เมื่อถึงตอนนั้น สำนักว่านหลงอาจจะมาหาพวกคุณอีกครั้ง และเสนอให้พวกคุณมอบที่ดินอีก 100 ตารางกิโลเมตรให้พวกเขา แล้วพวกเขาจะช่วยคุณกำจัดความขัดแย้งทั้งหมด!” “ถ้าเป็นเช่นนั้นต่อไปเรื่อย ๆ พวกคุณจะเหมือนทหารที่บาดเจ็บและมีบาดแผลเต็มไปหมด บาดแผลเปื่อยเน่าแล้วรักษาซ้ำแล้วซ้ำเล่า และทุกข์ทรมานไปเรื่อย ๆ พวกคุณไม่สามารถกลายเป็นผู้ชายที่แข็งแรงได้ตลอดไป ทำได้เพียงมีชีวิตอยู่ภายใต้เงามืดของพวกเขาเท่านั้น!”

กองทัพของรัฐบาลท้อใจเป็นอย่างมากในการโจมตีฮามิด

ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการรวบรวมฮามิดเข้ากับกองทัพของตนเอง

เพราะพวกเขายอมรับความสามารถในการทำสงครามของฮามิดเป็นอย่างมาก ถ้าฮามิดสามารถเข้าร่วมเป็นสมาชิกกองทัพของรัฐบาลได้ ก็จะเป็นผลดีด้วยกันทั้งสองฝ่าย

เมื่อเฉินจงเหล่ยได้ยินประโยคนี้ กล่าวด้วยความโมโหทันที “คุณหมายความว่าอย่างไร? อย่าลืมว่าฮามิดได้ฆ่าทหารของสำนักว่านหลงไป 2,500 กว่าคน!”

เย่เฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “คุณสามารถคิดบัญชีแค้นนี้ได้ทุกตลอดเวลา อย่างที่ผมพูดไปเมื่อสักครู่ อาวุธและกระสุนของพวกเราเพียงพอที่จะฆ่าพวกคุณแปดครั้งหรือกระทั่งสิบแปดครั้ง และช่วงหลายวันมานี้ทหารของพวกเรารู้สึกคันไม้คันมือมาก ถ้าคุณยังเป็นลูกผู้ชายอยู่ ทางที่ดีควรโจมตีวันนี้ทันที แต่ถ้าคุณเป็นเต่าหดหัว งั้นพวกเราต่างฝ่ายต่างไม่ยอมอ่อนข้อให้แก่กันและกันต่อไปเรื่อย ๆ สำหรับพวกเราแล้วอย่างไรก็ได้”

เฉินจงเหล่ยรู้สึกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ และเมื่อนึกถึงสิ่งที่ประมุขว่านพั่วจวินมอบหมาย จึงกล่าวด้วยความโมโหว่า “คนแซ่เย่ กลับไปบอกฮามิดว่าอย่างช้าสิบวัน และอย่างเร็วห้าวัน ผมเฉินจงเหล่ยจะนำทัพไปโจมตีแน่นอน แล้วจะฆ่าพวกคุณให้หมด!”

ทันใดนั้นผู้บัญชาการกองทัพของรัฐบาลเกิดความกระวนกระวายและกล่าวโพล่งออกมาว่า “เฉินจงเหล่ย! คุณหมายความว่ายังไง?”

เย่เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “คุณยังมองไม่ออกอีกหรือ? พวกเขากำลังเจตนาทำลายการเจรจาสงบศึกระหว่างพวกเรากับพวกคุณ พวกเขาไม่ต้องการให้พวกเราเข้าร่วมเป็นสมาชิกกองทัพของรัฐบาล!”

เฉินจงเหล่ยไม่คิดว่าเย่เฉินจะเปิดเผยแรงจูงใจของตนเอง และรีบกล่าวปกปิด “ผมไม่ได้หมายถึงเช่นนั้น! แต่คุณนั้นพูดยั่วยุตลอดเวลา!”

เย่เฉินไม่สนใจเขา หันไปมองผู้บัญชาการกองทัพของรัฐบาลและกล่าวว่า “พวกเราหัวเซี่ยมีนิทานเรื่องหนึ่งชื่อว่านกปากซ่อมทะเลาะกับหอยกาบ แต่ชาวประมงได้ผลประโยชน์ ความหมายคร่าว ๆ คือนกปากยาวอยากกินหอยกาบตัวอ้วน แต่นกถูกหอยกาบหนีบปากไว้ และเมื่อต่างฝ่ายต่างไม่ยอมอ่อนข้อให้กันและกัน ชาวประมงที่ตกปลาได้เดินผ่านมา แล้วจับทั้งสองใส่เข้าไปในถุงผ้าโดยตรง”

เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ เย่เฉินกล่าวอีกครั้ง “ตอนนี้ พวกคุณคือนกปากซ่อม ส่วนพวกเราคือหอยกาบ และสำนักว่านหลงเป็นชาวประมง สิ่งที่พวกเขาหวังมากที่สุดคือซีเรียโกลาหลวุ่นวายตลอดไป แล้วกองทัพของรัฐบาลจะไม่มีวันสงบสุข และไม่มีความสามารถในการปกป้องตนเอง ดังนั้นจึงทำได้เพียงยกที่ดินให้สำนักว่านหลง และขอความช่วยเหลือและการคุ้มครองจากสำนักว่านหลง เพื่อที่พวกเขาจะได้ประโยชน์สูงสุดในซีเรีย”

เฉินจงเหล่ยกล่าวโพล่งออกมา “คุณอย่ามาพูดจาเหลวไหลอยู่ที่นี่! เงื่อนไขการร่วมมือของพวกเรากับกองทัพของรัฐบาล นั่นคือหลังจากกำจัดฝ่ายต่อต้านหมดแล้ว กองทัพของรัฐบาลจะจัดสรรที่ดินให้พวกเราสร้างฐานทหารรับจ้าง! เมื่อถึงเวลานั้นประเทศซีเรียจะเกิดความสงบสุข ซึ่งไม่มีสถานการณ์นกปากซ่อมทะเลาะกับหอยกาบ และชาวประมงได้ผลประโยชน์!”

ผู้บัญชาการกองทัพของรัฐบาลขมวดคิ้วและกล่าวอย่างจริงจังว่า “ข้อตกลงความร่วมมือของพวกเรากับสำนักว่านหลงเป็นเช่นนั้นจริง ๆ หลังจากที่พวกเรากำจัดฝ่ายต่อต้านทั้งหมดแล้ว พวกเราถึงจะจัดสรรที่ให้แก่พวกเขา และให้พวกเขาสร้างฐานทัพในซีเรีย ดังนั้นสถานการณ์ที่คุณกล่าวนั้นไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน”

เย่เฉินยิ้มเยาะเย้ย “เฮ้ คุณมันโง่เขลาจริง ๆ คุณคิดว่าพวกเขาจะช่วยคุณกำจัดฝ่ายต่อต้านหมดสิ้นหรือไง?”

“ขอเพียงแค่ซีเรียอยู่ในสถานการณ์ที่โกลาหลวุ่นวาย และต้องการความช่วยเหลือจากพวกเขาอยู่ตลอดเวลา พวกเขาจึงจะสามารถเรียกร้องผลประโยชน์จากคุณได้ทุกรูปแบบ!”

“คุณลองคิดไตร่ตรองอย่างละเอียดอีกครั้ง เมื่อถึงเวลานั้นถ้าซีเรียมีความสงบจริง ๆ กองทัพของรัฐบาลสามารถยอมรับและไม่แยแส ว่ามีองค์กรติดอาวุธที่แข็งแกร่งอย่างสำนักว่านหลงอยู่ในดินแดนของพวกคุณได้หรือ?”

“เมื่อถึงตอนนั้น แม้ว่าสำนักว่านหลงจะไม่ผิดสัญญา พวกคุณก็ต้องผิดสัญญาแน่นอน เพราะบรรพบุรุษชาวหัวเซี่ยของพวกเราบอกไว้ว่า ไม่มีใครจะยอมแบ่งดินแดนหรือผลประโยชน์ของตนเองให้คนอื่นได้หรอก!”

“ดังนั้น ผมกล้ารับประกันกับคุณ แม้ว่าสำนักว่านหลงจะช่วยพวกคุณกำจัดความขัดแย้งผิวเผินได้ และหลังจากได้พื้นที่ 100 ตารางกิโลเมตรจากพวกคุณแล้ว พวกเขาจะบ่มเพาะฝ่านต่อต้านใหม่อย่างลับ ๆ แล้วออกมาต่อสู้กับพวกคุณอย่างต่อเนื่อง และลากพวกคุณเข้าสู่สงครามต่อไป!”

“เมื่อเป็นเช่นนั้น พวกคุณจะตกอยู่ในสงครามภายในที่แผดเผาอีกครั้ง แต่นั่นไม่เกี่ยวอะไรกับสำนักว่านหลง”

“เมื่อถึงตอนนั้น สำนักว่านหลงอาจจะมาหาพวกคุณอีกครั้ง และเสนอให้พวกคุณมอบที่ดินอีก 100 ตารางกิโลเมตรให้พวกเขา แล้วพวกเขาจะช่วยคุณกำจัดความขัดแย้งทั้งหมด!”

“ถ้าเป็นเช่นนั้นต่อไปเรื่อย ๆ พวกคุณจะเหมือนทหารที่บาดเจ็บและมีบาดแผลเต็มไปหมด บาดแผลเปื่อยเน่าแล้วรักษาซ้ำแล้วซ้ำเล่า และทุกข์ทรมานไปเรื่อย ๆ พวกคุณไม่สามารถกลายเป็นผู้ชายที่แข็งแรงได้ตลอดไป ทำได้เพียงมีชีวิตอยู่ภายใต้เงามืดของพวกเขาเท่านั้น!”

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

อ่านนิยาย ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน เย่เฉินเป็นเขยแต่งเข้าบ้านหญิงที่ใครๆก็ดูถูกเหยียดหยาม แต่ไม่มีใครรู้ว่าฐานะแท้จริงของเขาเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลอันดับต้นๆ พวกที่เคยดูถูกเขาสุดท้ายก็ต้องคุกเข่าต่อหน้าเขาและเรียกเขาด้วยความเกรงกลัวว่าท่านชาย!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset