กลั่นยา ไม่ใช้หม้อใหญ่ในการต้มสมุนไพร แต่ใช้ปราณทิพย์ในร่างกาย คัดกรองแก่นสำคัญของแต่ละสมุนไพรออกมา แล้วค่อยใช้วิธีการที่บันทึกใน《ตำราเก้าเสวียนเทียน》ผสมผสานแก่นสำคัญของสมุนไพรเข้าด้วยกัน สุดท้ายถึงจะสามารถกลั่นยาที่มีคุณภาพที่ดีที่สุดที่มีฤทธิ์ยาบริสุทธิ์
นี่ก็เป็นสาเหตุว่าทำไมยาทั้งหมดที่เย่เฉินกลั่นออกมา ล้วนแต่สามารถละลายในปากได้
เพราะว่าข้างในนี้ทั้งหมดล้วนแต่เป็นการผสมผสานของแก่นสำคัญของสมุนไพรทั้งหมด ไม่มีสารเจือปนแต่อย่างใดเลย
แต่ว่าวิธีการกลั่นยาแบบนี้ ยุ่งยากและสิ้นเปลืองพลังงานและปราณทิพย์ ไม่สามารถที่จะดำเนินการด้วยเครื่องกลได้เลยจริงๆ
เพราะงั้น ยาจำพวกแบบนี้ก็จะยิ่งเพิ่มความล้ำค่าไปโดยปริยาย
ยาที่เย่เฉินกลั่นออกมาก่อนหน้านี้ มีเพียงแค่ยาช่วยหัวใจและยาอายุวัฒนะสองชนิดนี้เท่านั้น
ยาสองชนิดนี้ ตัวยาไม่ได้มีปราณทิพย์เลย
ใน 《ตำราเก้าเสวียนเทียน》 ยาที่ไม่มีปราณทิพย์แบบนี้ล้วนแต่ถูกแบ่งเป็นยาธรรมดา ยาธรรมดาตามประสิทธิภาพที่ต่างกัน ก็มีการแบ่งตามประสิทธิภาพอีก อย่างเช่นบางชนิดก็เป็นยารักษาโรค บางชนิดก็เป็นยากระตุ้น บางชนิดก็เป็นยาอายุวัฒนะ
และยาที่มีปราณทิพย์ ก็ถูกรวบรวมจัดหมวดหมู่เป็นยาทิพย์
เมื่อเข้ามาสู่ระบบของยาทิพย์ ก็มีระดับที่สอดคล้องกันแล้ว
ตั้งแต่ชั้นหนึ่งถึงชั้นสิบ ยาทิพย์ถูกแบ่งเป็น 10 ลำดับชั้นอย่างชัดเจน
และยาของแต่ละลำดับชั้น ตามระดับความบริสุทธิ์ของมันและประสิทธิภาพที่สูงต่ำต่างกัน ก็แบ่งออกเป็นระดับสูง กลาง ล่าง
ชั้นหนึ่งถึงชั้นสิบ ก็เท่ากับระดับชั้นเรียนของนักเรียน อย่างเช่นตั้งแต่ประถมศึกษาปีที่หนึ่งถึงมัธยมศึกษาปีที่4
และระดับสูง กลาง ล่าง ก็เท่ากับผลคะแนนระดับความเก่งของนักเรียน
และยาเสริมชี่ปราณ ก็เป็นยาชนิดหนึ่งที่เข้ามาในยาทิพย์ตั้งแต่เริ่มต้นสุด ถือเป็นยาทิพย์ชั้นหนึ่ง
เย่เฉินกลั่นยาทิพย์เป็นครั้งแรก อีกอย่างยาหลักด้านในสองชนิดนี้ก็ยากที่จะได้มาอย่างมากจริงๆ เพราะงั้นในใจของเขาก็ค่อนข้างที่จะตื่นเต้น กลัวว่าเมื่อตัวเองไม่ระวัง จะทำลายของดีล้ำค่าเหล่านี้ไป
เพราะงั้น ทุกก้าวเขาล้วนแต่ทำอย่างระมัดระวังอย่างมาก
นำสมุนไพรที่ไม่ค่อยสำคัญเท่าไหร่มากลั่นก่อนรอบหนึ่ง หลังจากที่ตัวเองกลั่นสมุนไพรได้อย่างราบรื่นแล้ว ถึงได้เริ่มทำการกลั่นสมุนไพรสามชนิดอย่างอื่น
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วโดยที่เย่เฉินไม่รู้ตัวเลย
หลังจากที่เขานำแก่นแท้ของแอมเบอร์กริสกลั่นออกมาแล้ว ท้องฟ้าก็มืดโดยสิ้นเชิง
เซียวชูหรันโทรหาเย่เฉิน เย่เฉินเพิ่งเห็น ที่แท้ในเวลานี้ก็เป็นเวลาหนึ่งทุ่มกว่าแล้ว
เขาก็นำแก่นสำคัญของสมุนไพรวางไว้อย่างเหมาะสมด้วยความระมัดระวัง หลังจากนั้นถึงจะรับสายของเซียวชูหรันแล้ว
เซียวชูหรันถามเขาทางโทรศัพท์ว่า : “ฮัลโหล ที่รัก คุณอยู่ไหนคะ?”
เย่เฉินรีบพูดว่า : “ที่รัก ผมมีธุระนิดหน่อยกำลังยุ่งอยู่ข้างนอกนะ พรุ่งนี้ไปดูฮวงจุ้นให้คนเขาที่เย่นจิง ผมจำเป็นต้องปรับแก้จำพวกส่วนผสมที่นำมาใช้เขียนยันต์ล่วงหน้า”
เซียวชูหรันก่อนหน้านี้ก็เคยได้ยินเย่เฉินพูดมาก่อน ยันต์ที่ใช้ในฮวงจุ้ย จริงๆแล้วมีความพิถีพิถันมากมาย โดยเฉพาะหมึกจูซาที่นำมาใช้เขียนยันต์ จำเป็นต้องผสมส่วนประกอบมากมายเข้าด้วยกันถึงจะมีประสิทธิผล
เย่เฉินก็พูดว่า : “คืนนี้ผมคงกลับไปไม่ทันกินข้าวด้วยแน่นอน คุณกินกับพ่อแม่ไปก่อนนะ”
เซียวชูหรันกำชับเขา : “งั้นคุณเองก็อย่าลืมหาอะไรกินหน่อยนะ ห้ามยุ่งจนลืมกินข้าวเด็ดขาดนะ”
“โอเค” เย่เฉินยิ้มไปพูดไปว่า : “ที่รักวางใจได้ อีกเดี๋ยวผมก็หาอะไรกินสักหน่อยกินให้อิ่มท้องก่อน”
“อื้ม” เซียวชูหรันยิ้มพร้อมพูดว่า : “งั้นฉันไม่รบกวนคุณแล้วนะ คุณรีบๆกลับมานะ”
“โอเค!” เย่เฉินเอ่ยปากพูดว่า : “ผมกำลังจะดำเนินการขั้นตอนที่สำคัญของการทำหมึกจูซา ระหว่างนี้จะต้องทำรวดเดียวโดยไม่หยุดจนกว่าจะสำเร็จ จะได้รับผลกระทบจากสิ่งภายนอกไม่ได้ เพราะงั้นอีกเดี๋ยวผมจะเปิดมือถือในโหมดเครื่องบินก่อนนะ ถ้าหากคุณโทรหาผมไม่ติดก็ไม่ต้องร้อนใจไป หลังจากที่ผมทำธุระเสร็จแล้วจะกลับบ้านเลย”
เซียวชูหรันพูดอย่างเข้าใจมากว่า : “โอเคค่ะ คุณรีบไปทำงานเถอะ!ทำเสร็จแล้วก็รีบกลับบ้านนะ!”
“ครับที่รัก”
วางสายจากเซียวชูหรัน เย่เฉินก็เปิดโหมดเครื่องบินในมือถือ หลังจากนั้น ก็เริ่มทุ่มเทลงไปในการกลั่นยาเสริมชี่ปราณอีกครั้ง
แก่นสำคัญของสมุนไพรได้หลอมออกมาทั้งหมดแล้ว ตอนนี้ถึงจะถือว่าเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการกลั่นยายาเสริมชี่ปราณแล้ว