เฮเลน่าไม่ได้รู้สึกแปลกใจกับการกระทำของเย่เฟิง ดังนั้นจึงพูดกับกล้อง อย่างยากลำบากว่า“สวัสดีค่ะ ฉันคือเฮเลน่า……ฉันเป็นโรคTOFตั้งแต่กำเนิด……ตอนนี้อาการกำเริบ อาจจะมีชีวิตรอดยาก……หวังว่าคนที่เห็นคลิปนี้ จะไม่เอาการตายของฉัน โยนความผิดให้ใครคนใดคนหนึ่ง”
เมื่อได้ฟังถึงตรงนี้ ในขณะเดียวกันเย่เฟิงกับคุณท่านเย่ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
และในขณะนี้ เฮเลน่าดวงตาแดงก่ำ แล้วพูดอย่างจริงจัง“นอกจากนี้แล้ว ฉันอยากขอร้องให้ทุกคนช่วยแม่ของฉันด้วย ตอนนี้เธอถูกเจ้าหญิงโอลิเวียแห่งราชวงศ์เหนือกักบริเวณในวัง!”
ทันใดนั้น เฮเลน่าก็ก่นด่าอย่างเจ็บช้ำว่า“โอลิเวียเพื่อบีบบังคับให้ฉันมาแต่งงานกับตระกูลเย่ในหัวเซี่ย เธอให้ฉันช่วยราชวงศ์ยุโรปเหนือดูสินทรัพย์จากตระกูลเย่ จงใจกักขังแม่ของฉัน อีกทั้งยังใช้ชีวิตของเธอมาข่มขู่ฉัน บีบบังคับให้ฉันทำ!”
“ฉันหวังว่าหลังจากที่โอลิเวียเห็นคลิปนี้แล้ว จะคืนอิสระให้แม่ของฉัน ในขณะเดียวกัน ให้รัฐบาลของยุโรปเหนือคุ้มครองความปลอดภัยของเธอด้วย……”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ เฮเลน่าก็รู้สึกตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น เธอพูดด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดว่า“ฉันหวังว่าหลังจากที่ฉันตาย รัฐบาลยุโรปเหนือจะตรวจการกระทำความผิดของโอลิเวีย!ให้ผู้หญิงชั่วร้ายอย่างเธอ จะปล่อยไปไม่ได้เด็ดขาด ยิ่งห้ามให้เธอเป็นราชินีองค์ต่อไปของยุโรปเหนือ!เธอควรจะถูกจับเข้าคุก กลายเป็นอาชญากรที่คนทั่วโลกปฏิเสธ!”
เมื่อเย่เฟิงเห็นว่าเฮเลน่าตื่นเต้นเป็นอย่างมาก กระทั่งร่างกายของเธอสั่นสะท้าน จึงรีบก้าวไปข้างหน้าพูดปลอบว่า“เฮเลน่าคุณอย่าตื่นเต้นนะครับ ตอนนี้ร่างกายของคุณสำคัญที่สุด!”
เฮเลน่ามองไปที่เย่เฟิง แล้วหัวเราะอย่างเศร้าสร้อย พลางกล่าวว่า“พอแล้ว แค่นี้แหละ!หลังจากที่ฉันตายไป เชิญคุณเอาคลิปวิดีโอนี้เผยแพร่ออกไป จะถือว่าเป็นการช่วยเหลือฉันอย่างใหญ่หลวง”
เย่เฟิงกระแอมอย่างอับอาย แล้วพูดว่า“แค้กๆ ผมต้องทำอยู่แล้ว เรื่องเล็กน้อยไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ จริงสิ ตอนนี้คุณรู้สึกยังไงบ้าง?”
เฮเลน่าหัวเราะอย่างยากลำบาก“รู้สึกว่าตัวเองเหมือนเครื่องบินที่สูญเสียการควบคุม กำลังจะล่วงลงสู่พื้น พอล่วงลงพื้น ทุกอย่างก็จะถูกปลดปล่อย……”
เย่โจงฉวนที่อยู่ข้างๆจงรีบกล่าวว่า“เฮเลน่า เธอต้องพยายามอดทนอีกหน่อยนะ ต้องอดทนไปจนถึงยุโรปเหนือ ทางที่ดี พอถึงยุโรปเหนือ เธออาจจะมีโอกาสได้พบกับแม่ของเธอเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อบอกลา”
เฮเลน่าส่ายหัวไปมาเบาๆ แล้วพูดอย่างอ่อนแรงว่า“ฉันอาจจะทนไม่ไหวถึงตอนนั้น แต่พวกคุณไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ มีคลิปที่ฉันถ่ายไม่สักครู่ ถึงฉันจะตายในตอนนี้ พวกคุณก็ไม่ต้องรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น”
เมื่อเย่โจงฉวนได้ยินดังนั้น สีหน้าที่ตึงเครียดเมื่อสักครู่ก็ผ่อนคลายลงไม่น้อย
ตอนนี้ จอภาพที่อยู่ถัดจากเฮเลนาส่งเสียงเตือนอย่างรุนแรง ความดันโลหิต อัตราการเต้นของหัวใจ และตัวบ่งชี้ออกซิเจนในเลือดของเฮเลนาลดลงอย่างรวดเร็ว
เมื่อผู้อำนวยการจ้าวเห็นอย่างนั้น จึงรีบพากันเก็บข้าวของแล้วตะโกนบอกเหล่าแพทย์ว่า“ผู้ป่วยอาการอยู่ในขั้นวิกฤติ ต้องรีบเตรียมช่วยชีวิต!”
เฮเลน่าโบกมือไปมาอย่างยากลำบาก แล้วพูดเสียงเบาว่า“ไม่ต้องลำบากหรอกค่ะ โปรดเหลือศักดิ์ศรีสุดท้ายไว้ให้ฉันด้วยเถอะ……”
ผู้อำนวยการจ้าวมองไปที่เย่โจงฉวน แล้วเอ่ยถามว่า“คุณท่านครับ เอายังไงดีครับ?”
เย่โจงฉวนถอนหายใจ แล้วกล่าวว่า“ทำตามสิ่งที่เจ้าหญิงเฮเลน่าต้องการเถอะ!”
พูดจบ เขาก็ไม่อยากอยู่ในห้องไอซียูที่บรรยากาศเต็มไปด้วยความอึดอัด เขาหันหลังแล้วเดินจากไป
คนแก่อย่างเขาในวัยนี้ กลัวเหตุการณ์แบบนี้มากที่สุด ถึงคนที่กำลังถูกช่วยชีวิตจะไม่ใช่ตนเอง แต่ถึงยังไงพวกเขาก็มักจะนึกถึงร่างกายของตัวเองอย่างไม่รู้ตัว
เมื่อเห็นเย่โจงฉวนเดินออกไป เย่เฟิงก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดโพล่งกับผู้อำนวยการจ้าวว่า“ผู้อำนวยการจ้าว!ผมคิดว่าพวกเราควรช่วยชีวิตเธอนะครับ!ถ้าเกิดกลับไปตอนนี้แล้วคนในราชวงศ์ชันสูตรศพ พบว่าเราไม่ได้ช่วยชีวิตเธอจนถึงวินาทีสุดท้าย ไม่แน่อาจจะใช้จุดนี้มาโจมตีเราก็เป็นได้ บอกว่าเราไม่พยายามยื้อชีวิตเธอ……”
พูดถึงตรงนี้ เย่เฟิงก็พูดอย่างอ้อมๆว่า“ถ้าเป็นแบบนั้น เราก็ต้องเป็นแพะรับบาปไปน่ะสิ!”