นี่ทำให้เซียวฉางควนคิดว่า เหมือนคนขับรถบนโลกใบนี้ มีอาการหัวร้อนหลังพวงมาลัยทั้งหมด
แต่เมื่อเขาขับรถยนต์โรลส์-รอยซ์ คัลลิแนนคันนี้ จากสมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาด กลับไปยังTomson Riviera เขาพบว่าคนขับรถบนโลกนี้ เหมือนหายจากอาการหัวร้อนหลังพวงมาลัย ในพริบตา!
แค่เขาเปิดไฟเลี้ยว รถด้านหลังจอดห่างเขาเป็นหลายสิบเมตร และรีบเหยียบเบรกให้เขาเปลี่ยนเลนทันที
เพราะใครก็ไม่อยากเฉียดโดนรถหรูราคาเป็นสิบล้านแบบนี้
ถ้าหากเป็นคนที่ไม่ทันระวัง เป็นความรับผิดชอบของตัวเอง หรือรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว วงเงินประกันรถ 1-2 ล้าน ไม่พอเลยสักนิด
ดังนั้น นี่จึงทำให้เซียวฉางควนหลงใหลเรื่องได้หน้าได้ตา และพอใจเป็นอย่างมาก
ตอนเดินบนถนน เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นราชาบนท้องถนน ความรู้สึกที่เดินไปไหน แล้วเหนือกว่าคนอื่น เป็นประสบการณ์ที่เขาไม่เคยได้รับจากไหนมาตลอดชีวิต
เพราะเหตุนี้ ถึงปากเขาจะถามเย่เฉินว่าควรจัดการรถคันนี้ยังไง แต่ในใจกลับอธิษฐานให้เย่เฉินเก็บรถคันนี้ให้เขา
ผลปรากฏว่าเย่เฉินยังไม่ทันพูดอะไร หม่าหลันพูดอย่างตื้นตันว่า “ลูกเขย! ในเมื่อรถคันนี้เข้าประตูบ้านเราแล้ว ไม่ว่ายังไงห้ามส่งคืนไปเด็ดขาด!”
พูดจบ เธอลูบเส้นขอบรถสีทอง แล้วพูดอย่างน่าสงสารว่า “ทั้งชีวิต ฉันยังไม่เคยนั่งรถโรลส์-รอยซ์เลย! นายดูสิเราอยู่Tomson Riviera มาระยะหนึ่งแล้ว ถึงคฤหาสน์นี้จะดีที่สุดในจินหลิง แต่รถของบ้านเรา ไม่โดดเด่นในเขตพื้นที่นี้เลย รถที่เข้าออกที่นี่ทุกวัน ล้วนเป็นรถหรูหลายล้าน รถBMWซีรีส์5 ของบ้านเรา ทั้งสองคัน รวมกันยังเทียบไม่ได้กับราคารถแค่ครึ่งคันของพวกเขา ตอนนี้กว่าจะมีรถหรู ที่ระดับเดียวกับคฤหาสน์ของเราได้ไม่ง่ายเลย ไม่ว่ายังก็ห้ามคืนกลับไปเด็ดขาด!”
นานที เซียวฉางควนจะเห็นด้วยกับคำพูดของหม่าหลัน รีบพูดเสริมว่า “ใช่ลูกเขย! แม่นายพูดถูก! บ้านเราไม่ขาดอะไรเลย ขาดเพียงแค่รถหรูเท่านั้น!”
อันที่จริง เย่เฉินมีรถสปอร์ตชั้นยอดสองคัน
รถสองคันนั้น เป็นรถที่ฉินกางกับหวังเจิ้งกางมอบให้ คันหนึ่งเป็น Bugatti Chiron Hermes Edition ซึ่งเป็นการร่วมมือระหว่างรถยนต์บูกัตติกับแอร์แมส ส่วนอีกคันเป็น Aston Martin One-77
แต่ในความเป็นจริง รถยนต์สองคันนี้สะดุดตามาก และไม่มีเหตผุลที่จะให้ใช้จริง เย่เฉินจึงไม่ได้ขับกลับมาบ้าน ให้ฉินกางดูแลรักษามาตลอด
รถสองคันนั้นอยู่ในมือมานาน เคยใช้ตอนงานแต่งของจางเสี่ยวม่าน เพื่อนมัธยมปลายของเซียวชูหรัน
หลังงานแต่งครั้งนั้น รถสองคันนี้ก็ถูกเก็บเอาไว้จนฝุ่นเกาะ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ขับอีก
อีกทั้งถึงหม่าหลันกับเซียวฉางควน เคยเห็นรถสองคันนั้น แต่ตอนนั้นเย่เฉินบอกพวกเขาว่ายืมมา พวกเขาก็ไม่สงสัยสักนิด
แต่เพราะรถสองคันนั้น ทำให้ในใจหม่าหลัน เกิดความฝันเกี่ยวกับรถหรู
ตอนนี้รถยนต์โรลส์-รอยซ์ คัลลิแนน มาอยู่ในลานบ้านตัวเอง อีกทั้งยังเป็นชื่อของเซียวฉางควน สามีของตัวเอง ไม่ว่ายังไง ก็ไม่สามารถให้เย่เฉินเอารถคันนี้ คืนกลับไป
เธอถึงขนาดคิดว่า ถ้าเย่เฉินจะคืนรถคันนี้จริง ตัวเองจะนอนอยู่ใต้ล้อรถคันนี้!
ไม่ว่าใครคิดจะคืนรถคันนี้ ก็ขับรถเหยียบบนตัวเธอไปก่อน แล้วค่อยว่ากัน!
เย่เฉินมองไฟที่ลุกโชนในตาพ่อตาแม่ยายของตัวเองออก แต่เขาไม่อยากพัวพันกับจานเฟยเอ๋อร์เกินไป
แต่เมื่อลองคิดดู ในเมื่อจานเฟยเอ๋อร์ มีแผนไม่ดีในใจ ตัวเองก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจ
ดังนั้น เขาจึงพูดกับเซียวฉางควนว่า “ในเมื่อพ่อกับแม่ชอบรถคันนี้ งั้นก็เก็บไว้เถอะ”