และตอนที่ปรัชญาสามทัศน์ของลั่วเจียเฉินถูกโค่นล้ม ในใจรู้สึกช็อกมาก รถตู้ชั้นธุรกิจคันหนึ่งมาจอดที่ประตูบ้านไร่แล้ว
รถเพิ่งจะจอดนิ่ง ประตูอัตโนมัติที่เบาะหลังก็เปิดออกเลย ตามมาด้วย หงห้าเดินลงมาจากในรถ รออยู่ที่หน้าประตูอย่างเงียบสงบ
ลั่วเจียเฉิงหันหน้าไปมองแวบหนึ่ง ในใจตื่นเต้นอย่างมาก เขาคิดว่า เย่เฉินทำท่าทางแบบนี้ออกมา จะต้องจับตัวคุณหนูของตัวเองไปแน่นอน
ดังนั้น เขาก็คิดอยากจะพูดเสียงดังเพื่อแจ้งเฟ่ยเข่อซินที่อยู่ในห้องVIPเลยทันที
แต่เขาคิดไม่ถึงว่า น้ำเสียงของตัวเองกลับว่าติดอยู่ที่ลำคอพูดไม่ออกแล้ว
เขาจ้องมองเย่เฉินอย่างหวาดกลัว ไม่รู้ว่าเขาใช้วิธีการไหนกันแน่ ถึงทำให้ตัวเองไม่สามารถเปล่งออกเสียงได้
และในเวลานี้เย่เฉินยิ้มเยาะพร้อมตบไหล่ของเขาเบาๆแล้ว ปราณทิพย์เข้ามาเล็กน้อยทันที เหมือนกับการปิดผนึกจิตสำนึกของเฉินจงเหล่ยแห่งสำนักว่านหลงในตอนแรกเลย นำเอาจิตสำนึกของลั่วเจียเฉิงปิดผนึกไว้ในร่างกายอย่างหนาแน่น
หลังจากนั้น เย่เฉินมองไปยังแววตาของเขา เอ่ยปากพูดว่า : “คุณก็ไม่ต้องกลัว ตอนนี้ฉันยังไม่เอาชีวิตของคุณหรอกนะ เพียงแค่จะต้องรบกวนคุณเปลี่ยนที่พักผ่อนหน่อย อีกอย่างทางนั่นสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆไม่ค่อยดี ก็จำเป็นต้องให้คุณเอาชนะความลำบากให้ได้ ”
พูดแล้ว เขาชี้ไปยังรถตู้ชั้นธุรกิจคันนั้นของหงห้าแล้ว พูดกับลั่วเจียเฉิงว่า : “นู้น ขึ้นไปเองนะ”
ลั่วเจียเฉิงพบว่า ตัวเองไม่สามารถควบคุมร่างกายของตัวเองได้เลยโดยสิ้นเชิง คนทั้งคนหวาดกลัวอย่างมาก ไม่รู้เลยว่าเย่เฉินทำได้อย่างไร!
ตอนที่เขาพบว่า ร่างกายของตัวเองจู่ๆก็หมุนตัวเดินไปยังรถตู้ชั้นธุรกิจคันนั้นอย่างควบคุมไม่ได้ เขาคนทั้งคนก็เข้าสู่ห้วงแห่งความสิ้นหวังอย่างมากแล้ว
เพราะว่าเขาตระหนักถึงแล้วว่า ตัวเองสูญเสียการควบคุมตัวไปแล้วโดยสิ้นเชิง และร่างกายของตัวเอง ถูกควบคุมและออกคำสั่งโดยเย่เฉินทั้งหมด
เพราะงั้น เขาทำได้เพียงมองตัวเองนั่งเข้าไปในรถชั้นธุรกิจคันนั้นแล้ว
หงห้าเห็นลั่วเจียเฉิง ถลึงตามองอย่างตกใจทันที หลังจากนั้นวิ่งเหยาะๆมายังข้างกายของเย่เฉินแล้ว พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า : “อาจารย์เย่ คนๆนี้ผมเคยเห็นมาก่อน!”
เย่เฉินถามอย่างประหลาดใจว่า : “คุณเห็นที่ไหนมา?”
หงห้ารีบพูดว่า : “หลายวันที่ผ่านมาคนกลุ่มนี้ เหมาห้องทองคำของเทียนเซียงฝู่ของผมทั้งเดือนเลย ให้เงินค่าอาหารมาสิบกว่าล้าน ทุกวันจะมากินอาหารสองมื้อ หนึ่งในนั้นก็คือเขา!”
เย่เฉินตกตะลึงเล็กน้อย อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแน่น พูดด้วยสีหน้าท่าทางที่ค่อนข้างขี้เล่นว่า : “ดูเหมือนว่านี่ก็ติดตามฉันมานานมากแล้วสินะ……ผู้หญิงคนนี้พยายามคิดหาวิธีจริงๆ……”
พูดแล้ว เขาก็รีบพูดกับหงห้าว่า : “คุณรีบพาคนกลับไป จำไว้นะว่าอย่าให้กล้องวงจรปิดถ่ายใบหน้าของเขาไว้ได้เด็ดขาด”
หงห้าพยักหน้าพร้อมพูดว่า : “อาจารย์เย่วางใจได้ กล้องวงจรปิดละแวกนี้ ผมได้จัดคนไปทำลายจนพังหมดแล้ว อีกเดี๋ยวผมจะให้รถขับไปยังทิศทางที่จะออกนอกเมืองก่อน ขับไปยังเส้นทางถัดไปที่ห่างประมาณ20กิโลเมตร ทางนั้นยังมีรถอีกคันจอดรออยู่ อีกอย่างเป็นถิ่นทุรกันดารไม่มีผู้คนอาศัย และก็ไม่มีกล้องวงจรปิด ถึงตอนนั้นผมพาคนไปขึ้นรถคันนั้นและขับกลับเส้นทางด่วนเลย ไม่ผ่านเส้นทางหลวง104แล้ว ส่วนรถคันนี้ จะขับไปทางใต้เลย ไปตามถนนทางหลวง104ก็ไปถึงซูหางแล้ว ”
พูดมาถึงตรงนี้ หงห้าพูดอย่างมั่นใจมากว่า : “ดังนั้น แม้ว่าคนอื่นจะตรวจสอบรถที่ขับผ่านเส้นทางหลวง104ทุกคันของวันนี้ ก็ไม่สามารถสืบหาหน้ารถอีกคันหนึ่งได้ ”
เย่เฉินพยักหน้าอย่างพึงพอใจ ยิ้มพร้อมพูดว่า : “ไม่เลวเลยนะหงห้า คุณจัดการเรื่องได้ละเอียดมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว”
หงห้าหัวเราะอิอิพร้อมพูดว่า : “อิอิ อาจารย์เย่ จริงๆแล้วเรื่องแบบนี้ผมไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ แต่ว่าก่อนหน้านี้ผู้จัดการทั่วไปเฉินสอนผมไว้ไม่น้อยเลย เขาเชี่ยวชาญเรื่องแบบนี้มากนะ !”
เย่เฉินพยักหน้าแล้ว เรื่องมันสมองเฉินจื๋อข่าย สุดยอดมากกว่าหงห้าไม่น้อยเลย แต่ว่าหงห้าได้สัมผัสกับเขาเยอะ ได้รับอิทธิพลจากสิ่งที่ได้เห็นได้สัมผัสแน่นอนว่ามีความก้าวหน้ามากแล้ว
ทันใดนั้น เขาเอ่ยปากพูดว่า : “พอแล้ว ในเมื่อคุณจัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว ก็รีบไปเถอะ”
หงห้าโบกไม้โบกมือให้เย่เฉิน พูดอย่างเคารพว่า : “อาจารย์เย่ งั้นผมไปก่อนนะ”
เย่เฉินพยักหน้า : “ไปเถอะ”
หงงห้ารีบขึ้นรถตามเข้าไป สั่งการลูกน้องให้รีบขับรถออกไป
เห็นลั่วเจียเฉิงถูกเอาตัวไป เย่เฉินไม่ได้ล่าช้า หันหลังกลับไปยังห้องVIPแล้ว