และในเวลานี้เฟ่ยเข่อซินในห้องVIP ไม่ได้ตระหนักถึงว่าข้างนอกเกิดเรื่องอะไรขึ้นเลย
ถึงยังไงที่นี่ก็อยู่ติดกับถนนทางหลวง เสียงดังหวือของรถที่ขับผ่านไปมาด้วยความเร็ว การเคลื่อนไหวที่ยิ่งใหญ่ รถบรรทุกสินค้าที่เกินพิกัดขับผ่านไปอยู่บ่อยๆ ถึงขั้นทั้งพื้นที่ล้วนแต่สั่นสะเทือนตามไปด้วย
เพราะงั้น เฟ่ยเข่อซินไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวอื่นๆข้างนอกเลย
หลังจากเย่เฉินกลับมา ก็หัวเราะเหอะๆพร้อมพูดกับเฟ่ยเข่อซินว่า : “ขอโทษนะคุณจาน เมื่อกี้มีธุระนิดหน่อย ทำให้คุณรอนานแล้ว”
เฟ่ยเข่อซินรีบพูดทันทีว่า : “คุณเย่ไม่ต้องเกรงใจกันขนาดนี้ ท่านจัดการธุระเรียบร้อยแล้วหรือยัง?”
เย่เฉินพยักหน้าแล้ว โพล่งพูดออกไปว่า : “จัดการเรียบร้อยแล้ว ลูกค้าแค่ปรึกษาเรื่องฮวงจุ้ยนิดหน่อย อธิบายให้เขาฟังคร่าวๆครู่หนึ่งก็พอประมาณแล้ว”
เย่เฉินแสดงได้จริงใจจริงๆ เพราะงั้นเฟ่ยเข่อซินไม่ได้สงสัยเลยแม้แต่น้อย
เพราะงั้น เฟ่ยเข่อซินก็ยิ้มพร้อมพูดว่า : “จริงสิคุณเย่ ไม่รู้ว่าภรรยาของท่านเคยพูดกับท่านบ้างไหม คฤหาสน์หลังนั้นที่ฉันซื้อที่โฮมสเตย์สุ่ยหยุน ได้มอบอำนาจให้เธอมาออกแบบตกแต่งอย่างเต็มที่แล้วนะ”
เย่เฉินพยักหน้าพร้อมพูดว่า : “ชูหรันเคยพูดเรื่องนี้กับผมแล้ว เธอมีความสุขมาก เพราะว่าไม่เคยเจอโปรเจคที่ดีมากขนาดนี้มาก่อน”
พูดแล้ว เย่เฉินก็พูดอย่างเกรงใจว่า : “ยังคงต้องขอบคุณคุณจาน ที่มอบโปรเจคที่ใหญ่ขนาดนี้มาให้เธอทำได้”
“ที่ไหนกันล่ะ” เฟ่ยเข่อซินรีบพูดกล่าว: “คุณเย่ช่วยฉันดูฮวงจุ้ยแล้ว ไม่รับค่าตอบแทนเลยสักหยวน นี่ฉันก็ตอบแทนน้ำใจกลับเช่นกัน ท่านห้ามเกรงใจกับฉันเด็ดขาด”
เย่เฉินยิ้มเล็กน้อย พูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความจริงใจ : “ในเมื่อคุณจานยอดเยี่ยมมากเช่นนี้ งั้นต่อไปอยู่ที่จินหลิงมีตรงไหนที่เย่เฉินคนนี้พอจะช่วยเหลือได้ ก็ขอให้คุณจานอย่าได้เกรงใจกันเด็ดขาด!”
ได้ยินคำพูดนี้ของเย่เฉินแล้ว ดวงตาโตของเฟ่ยเข่อซินส่องแสงสว่างไสวด้วยความตื่นเต้น
เธอพยายามหาทุกวิถีทางเพื่อเข้าใกล้เย่เฉิน ไม่มีอะไรมากนอกจากอยากจะสั่งสมมิตรภาพส่วนตัวและน้ำใจของมนุษย์กับเย่เฉิน
มีเพียงทำแบบนี้ สักวันหนึ่งในอนาคตข้างหน้าตัวเองถึงอาจจะมีโอกาส หน้าด้านไปขอให้เขาขายยาอายุวัฒนะให้ตัวเองสักเม็ด
และคำพูดเมื่อกี้นั้นของเย่เฉิน ทำให้เธอเชื่ออย่างมาก
เธอเชื่อว่า ขอเพียงแค่ตัวเองใช้ความพยายามอย่างไม่หยุดยั้ง ก่อนที่จะเริ่มงานประมูลเข้าใกล้ชิดกับเย่เฉินต่อไป งั้นเรื่องของยาอายุวัฒนะนี้ เกรงว่ามีความมั่นใจมากจริงๆ!
ตื่นเต้นถึงขั้นกับ เธออดไม่ได้ที่จะยกแก้วน้ำขึ้นมา พูดกับเย่เฉินว่า : “คุณเย่ ฉันขอใช้ชาแทนเหล้าชนกับท่านหนึ่งแก้วนะคะ!”
เย่เฉินพยักหน้าพร้อมยิ้ม ขณะเดียวกันก็ยกแก้วน้ำขึ้นมาชนแก้วกับเธอเบาๆ พูดอย่างมีมารยาทว่า : “มาๆๆคุณจาน กินเนื้อเยอะๆหน่อยนะ!”
พูดแล้ว ก็ใช้ตะเกียบของตัวเอง ถือโอกาสหยิบให้เธอสามสี่ชิ้นแล้ว
สายตาเห็นว่าตะเกียบนี้เย่เฉินใช้แล้ว เฟ่ยเข่อซินค่อนข้างตกตะลึง ใจเต้นเต้นแรงอย่างอดไม่ได้ พูดด้วยใบหน้าแดงก่ำว่า : “ขอบคุณคุณเย่!”
เย่เฉินพูดพร้อมยิ้มกริ่ม : “ไม่ต้องเกรงใจ จะต้องกินให้อิ่มกินให้อร่อย!”
หลังจาก 20 นาทีผ่านไป ในที่สุดเฟ่ยเข่อซินถึงจะวางตะเกียบลงแล้ว ใช้กระดาษทิชชูเช็ดริมฝีปากเบาๆ พร้อมทั้งพูดด้วยเสียงอ่อนโยนว่า : “คุณเย่ ฉันทานอิ่มแล้ว……นี่อาจจะเป็นหนึ่งมื้อที่ฉันกินอิ่มมากที่สุด ตั้งแต่ที่ฉันโตมาขนาดนี้……”
เย่เฉินยิ้มพร้อมพูดว่า : “คุณชอบทานก็ดีที่สุดแล้ว ต่อไปหากมีโอกาสผมค่อยพาคุณไปทานอาหารที่เป็นของขึ้นชื่อของที่อื่น”
เฟ่ยเข่อซินพูดต่อคำพูดของเขาว่า : “งั้นก็ดีมากเลยจริงๆค่ะ!ฉันไม่เคยมาที่จินหลิงมาก่อน ไม่รู้เรื่องของขึ้นชื่อของที่นี่เลย ถ้าหากมีคุณเย่พาไป คงจะย่นระยะทางไปไม่น้อยแน่นอน!”
เย่เฉินพยักหน้า ยิ้มพร้อมพูดว่า : “งั้นอีกสองวัน ผมค่อยพาคุณไปกินอาหารเจียงซูที่มีชื่อเสียงที่สุดในลุ่มแม่น้ำแยงซี”
พูดแล้ว เย่เฉินจงใจโพล่งพูดออกมาว่า : “พอดีเลย ฉันมีเพียงคนหนึ่งเปิดร้านอาหาร อาหารจานหลักก็คืออาหารเจียงซู ค่อนข้างมีชื่อเสียงมากในจินหลิง ชื่อว่าเทียนเซียงฝู่ ไว้กลับไปผมจะพูดกับเขาสักหน่อย ให้เขาเตรียมอาหารไว้โต๊ะหนึ่ง!”