หงห้าหัวเราะเหอะๆ พูดว่า : “แม่ง!กูต้องสนใจด้วยเหรอว่ามึงจะอาบอบนวดแบบพิเศษมีสาวๆมาอาบให้หรือว่าอาบน้ำธรรมดา มึงแม่งอยากอาบแบบไหนก็อาบแบบนั้น ถ้าหากว่ามึงชอบเสพติดอะไรเป็นพิเศษ หาชายชาตรีสามสี่คนไปอาบด้วยกันกูก็ไม่สนใจมึง”
พูดแล้ว เขาก็ควักกระเป๋าเงินออกมาจากกระเป๋า ในกระเป๋าเงินที่ตุง ไม่ได้มีเงินสดเท่าไหร่ แต่เป็นบัตรเอทีเอ็มหลากหลายรูปแบบ
สิ่งที่น่าสนใจคือ ในบัตรธนาคารแต่ละใบ ล้วนแต่ใช้กระดาษโน้ตแปะตัวเลข มีทั้ง10 แล้วก็ 20 30 ถึงขั้น 50 100
หงห้าดึงบัตรเอทีเอ็มหนึ่งในนั้นที่มีตัวเลข 30ออกมาเลย โยนไปในโซนคนขับของรถตู้ชั้นธุรกิจจากทางหน้าต่างแล้ว เอ่ยปากพูดว่า : “ในบัตรใบนี้มีห้าแสนหยวน รหัส5-0-0-0-0-0 พวกมึงเอาไปใช้จ่ายกัน ที่เหลือก็แบ่งเท่าๆกัน”
บนตัวหงห้าพกบัตรเอทีเอ็มอย่างน้อยหลายร้อยใบตลอดทั้งปี คนที่ทำบัตรเหล่านี้ไม่ใช่ตัวเขาเอง แต่ว่ารหัสของแต่ละบัตร ล้วนแต่สอดคล้องกับจำนวนเงินของบัตร บัตรที่มีเงินสามแสน รหัสคือ3และ0ห้าตัว บัตรที่มีเงินห้าแสน รหัส 5และ0ห้าตัว
เพราะงั้นเหตุผลที่นำบัตรมาเยอะแยะขนาดนี้ ก็เป็นเพราะว่าเวลาให้เงินก็จะสะดวกมากยิ่งขึ้น แค่โยนบัตรออกไปก็แก้ปัญหาได้แล้ว สะดวกกว่าเงินสด ปลอดภัยกว่าการโอนเงิน
ลูกน้องรับบัตรมา พูดอย่างซาบซึ้งว่า :“ขอบคุณท่านห้า!”
หงห้าพูดกำชับว่า : “จริงสิ พรุ่งนี้ก็ไม่ต้องรีบกลับมานะ นอนหลับจนตื่นขึ้นมาเองได้อย่างสงบจิตสงบใจ แล้วก็ไปเดินเล่นในห้างสรรพสินค้า ซื้อของ กลางคืนค่อยขับรถกลับมา”
ลูกน้องรีบพูดกล่าวว่า : “ท่านห้าวางใจได้ จะปฏิบัติตามคำสั่งของท่านแน่นอน! ”
หงห้าพยักหน้า พูดกับคนขับรถแอคคอร์ดว่า : “ขึ้นทางด่วนไปฟาร์มเลี้ยงสุนัขเลย”
คนขับรถคนนั้นรีบพูดกล่าวว่า : “ครับท่านห้า”
ตามมาด้วยเตะคันเร่ง รถก็พุ่งออกไปอย่างรวดเร็วแล้ว
……
เนื่องจากการจราจรในตอนกลางคืนมีความคล่องตัวมากกว่า เย่เฉินใช้เวลาเพียงยี่สิบกว่านาที ก็พาเฟ่ยเข่อซินมาส่งถึงโรงแรมป๋ายจินฮ่านกงแล้ว
รถจอดที่ล็อบบี้ของโรงแรม เบลบอยที่คอยบริการกำลังจะเข้ามาเปิดประตูรถ เห็นเย่เฉินนั่งอยู่ข้างใน รีบพูดด้วยความเคารพว่า : “สวัสดีครับอาจารย์เย่!”
เย่เฉินพยักหน้าแล้ว พูดกับเบลบอยนั่นว่า : “บอกผู้จัดการทั่วไปเฉินของพวกคุณหน่อย ส่งกำลังคนมาสักหน่อย คุ้มกันความปลอดภัยของคุณจาน”
เบลบอยรีบรับปากทันที พูดว่า : “ท่านวางใจได้ ผมจะไปรายงานข้อเสนอต่อผู้จัดการทั่วไปเฉินเดี๋ยวนี้”
เย่เฉินถึงจะพึงพอใจ พูดกับเฟ่ยเข่อซินที่นั่งอยู่ข้างคนขับว่า : “คุณจาน ต้องการให้ผมเข้าไปส่งคุณไหม?”
เฟ่ยเข่อซินรีบพูดว่า : “ไม่ต้องรบกวนคุณเย่แล้ว ฉันขึ้นไปเองก็พอแล้ว……”
เย่เฉินพยักหน้า พูดปลอบใจว่า : “เรื่องเมื่อกี้นี้คุณก็ไม่ต้องเป็นกังวลมากเกินไป ผมเชื่อว่ากลางวันแสกๆ โลกสงบสุขร่มเย็น คนขับรถคนนั้นของคุณเป็นไม่ได้ที่พูดว่าหายก็หายไปแล้ว ไม่แน่พรุ่งนี้เขาอาจจะกลับมาก็ได้”
เฟ่ยเข่อซินคิดว่า เย่เฉินไม่รู้ถึงความร้ายแรงของเรื่องราวเลยด้วยซ้ำ เพราะงั้นถึงได้มีจินตนาการที่สวยงามเช่นนี้
และในมุมมองของตัวเฟ่ยเข่อซินนั้น ความเป็นไปได้ที่ลั่วเฉิงเจียจะกลับมาเอง แทบจะเป็นศูนย์เลย!
แต่ว่า เธอยังคงพูดกับเย่เฉินอย่างซาบซึ้งใจอย่างมากว่า : “ขอบคุณคุณเย่ งั้นฉันรับคำอวยพรของท่านแล้วนะ!”
เย่เฉินพยักหน้าพร้อมพูดว่า : “คุณจานห้ามเกรงใจกับผมเด็ดขาด คุณไม่คุ้นเคยกับสถานที่และผู้คน ถ้าหากมีเรื่องอะไรที่จัดการได้ยาก จะต้องบอกผมนะ แม้ว่าผมอยู่ที่เมืองจินหลิงไม่ถือว่าเป็นผู้ที่มีอิทธิพลในท้องถิ่นเท่าไหร่ แต่ถึงอย่างไรก็พอมีสถานะอยู่บ้าง น่าจะสามารถช่วยเหลือคุณได้!”
ท่าทีของเย่เฉิน ปลอบใจเฟ่ยเข่อซินได้อย่างมาก ทำให้ในใจที่กระสับกระส่ายและอารมณ์ที่ตึงเครียดของเธอบรรเทาไปได้มากเลย
เธอมองไปยังเย่เฉิน พูดอย่างจริงใจว่า : “คุณเย่ โชคดีที่มีท่านอยู่!ขอบคุณมากจริงๆนะคะ!”
เย่เฉินโบกไม้โบกมือ พูดด้วยใบหน้านิ่งๆว่า : “คุณจาน ทุกคนเป็นเพื่อนกันทั้งนั้น พูดขอบคุณกันบ่อยๆเห็นเป็นคนอื่นกันเกินไปแล้ว!”