เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เย่เฉินก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอยู่ในใจ และแม้กระทั่งยังรู้สึกเสียใจเล็กน้อย เขารู้สึกเสียใดก่อนหน้านี้ที่มอบบ้านหลังเก่าที่พ่อแม่ของเขาอาศัยอยู่ที่เมืองจินหลิงให้กับตู้ไห่ชิง
ในเวลานี้ เซียวชูหรันก็กล่าวอย่างเศร้าสร้อยว่า “ฉันแค่ไม่คิดเลยว่า ผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้จะ ตายตั้งแต่อายุยังน้อยขนาดนั้น…… และฟังจากความหมายในคำพูดของทั้งสองคนนั้น ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างที่ลึกลับเกิดขึ้น ในการตายของอานเฉินซี……”
เมื่อเย่เฉินได้ยินเช่นนี้ หัวใจของเขาก็เหมือนถูกค้อนทุบตีอย่างหนัก และเขาก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า “เกิดอะไรขึ้นเหรอ? พวกเขาสองคน รู้ความลับเบื้องหลังอะไรเหรอ?”
เซียวชูหรันส่ายหัว และพูดว่า “คุณเวสท์ไม่รู้อะไรเลย เธอบอกว่าเธอรู้แค่ว่าอานเฉิงซีเสียชีวิตอยู่ในหัวเซี่ย และคนในครอบครัวของเธออ้างว่าเธอเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ แต่คุณจานกล่าวว่า คุณปู่ของเธอดูเหมือนจะยึดมั่นกับเรื่องนี้เก็บเป็นความลับอย่างแน่นหนา และแม้แต่คนในครอบครัวของอานเฉิงซี ก็ไม่กล้าตรวจสอบความลับที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลย”
เย่เฉินรู้สึกตกใจอย่างมาก และถามอีกครั้งอย่างรวดเร็วว่า “คุณจานคนนั้นไม่ได้พูดถึงเบาะแสที่เจาะจงมากกว่านี้หรือ?”
“ไม่มีเลย” เซียวชูหรันส่ายหัวและพูดว่า “ฉันฟังจากสิ่งที่คุณจานพูดนั้น ดูเหมือนว่าคุณปู่ของเธอไม่ให้เธอถามอะไรมากนัก ฉันรู้สึกว่าบางทีคุณปู่ของเธออาจรู้อะไรบางอย่าง และกลัวว่าเรื่องมันจะบานปลายมาถึงเธอ ดังนั้นจึงไม่ให้เธอถามอะไรมากมาย”
เย่เฉินรู้สึกตื่นเต้นอยู่ในใจเล็กน้อย
หลายปีที่ผ่านมา เขาสงสัยสาเหตุที่แท้จริงของการเสียชีวิตของพ่อแม่มาโดยตลอดมา แต่เขาไม่เคยพบเบาะแสที่แท้จริงอะไรเลย
แต่เติมเขาคิดว่า การตายของพ่อแม่เขานั้น ต้องเกิดจากตระกูลซูที่อยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอน
แต่เมื่อเขาได้ติดต่อกับคนในตระกูลซู เขาก็ค่อยๆ ล้มเลิกความคิดนี้ไป เพราะคนในตระกูลซูไม่มีทางเป็นศัตรูกับพ่อแม่ของเขาอย่างแน่นอน
จากนั้นเขาก็สงสัยว่าสิ่งเหล่านี้เชื่อมโยงกับตระกูลรอธส์ไชลด์อย่างแยกไม่ออก แต่ตอนนี้ก็ยังไม่พบเบาะแสอันมีค่าใดๆ เลย
ดังนั้น สิ่งที่เซียวชูหรันกล่าวในวันนี้ ทำให้ เย่เฉินก็มีความหวังขึ้นมาอย่างมาก
เขารู้สึกว่า ถ้าเขาสามารถหาวิธีให้คุณปู่ของเฟ่ยเข่อซินพูดออกมาได้ ถ้าอย่างนั้นเรื่องนี้ ก็คาดว่าน่าจะมีโอกาสเปิดเผยความจริงออกมาจนได้!
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็ตัดสินใจอยู่ในใจทันทีว่า หลังจากที่เฟ่ยเจี้ยนจงมาที่เมืองจินหลิง ไม่ว่าจะใช้วิธีใดก็ตาม เขาก็จะบังคับให้เขาพูดออกมาให้ได้! แม้ว่าเขาจะเอาสติสัมปชัญญะ ของเขาออก และส่งสัญญาณทางจิตวิทยาที่หนักแน่นแก่เขา ก็จะต้องทำให้เขาเอ่ยปากพูดเรื่องราวภายในทั้งหมดที่เขารู้ออกมาให้ได้!
ในเวลาเดียวกัน ในหัวใจของเย่เฉิน ความคาดหวังของเขาที่มีต่อการประมูลยาอายุวัฒนะนั้น เหนือกว่าทุกสิ่งแล้วในขณะนี้!
สำหรับเฟ่ยเข่อซิน อยากจะเล่นกอบกู้ชาติแบบทางอ้อมก็ปล่อยให้เธอเล่นไปเลย เย่เฉินไม่สนใจสิ่งที่เธออยากจะทำแล้วในตอนนี้ สิ่งเดียวที่เขาสนใจก็คือ ให้เฟ่ยเจี้ยนจงคุณปู่ของเธอมาโดยเร็วที่สุด!
………
ไม่กี่วันต่อมา
หลังเข้าหากันอย่างใกล้ชิดหลายวันที่ผ่านมานี้ เซียวชูหรัน เฟ่ยเข่อซินและเคลลี่ เวสท์ ก็คุ้นเคยกันมากขึ้น และเริ่มพัฒนากลายเป็นมิตรภาพที่แท้จริง
เฟ่ยเข่อซินรู้สึกรังเกียจการกระทำที่ปกปิดตัวตนที่แท้จริงของเธอ และใช้ประโยชน์จากเซียวชูหรัน แม้กระทั่งเธอยังคงคิดไว้ว่า หลังจากการประมูลสิ้นสุดลง และคุณปู่ของเธอได้รับยาอายุวัฒนะแล้ว เธอก็จะสำนึกผิดต่อเซียวชูหรันโดยเร็วที่สุด
แน่นอน เธอรู้ดีอยู่ในใจว่า แม้ว่าเธอจะสำนึกผิด เธอก็ไม่สามารถขายเย่เฉินได้ ไม่เช่นนั้นมันจะทำให้เย่เฉินขุ่นเคืองถึงตายเลยจริงๆ
ในเวลาเดียวกัน วันของการประมูลยาอายุวัฒนะก็ค่อยๆ ใกล้เข้ามาแล้ว
ในที่สุด โรงแรมป๋ายจินฮ่านกงก็มาถึงช่วงเวลาที่ผู้เช่าทุกคนต้องเช็คเอาท์