ในตอนนี้เย่เฉินพูดอย่างจริงจังว่า “เหล่าเฉินคุณดู ในเวลาปกติ คนเหล่านี้มักจะรู้สึกว่าพวกเขาสุดยอดมากที่ได้ใส่ LV และสะพายกระเป๋า Hermes ไว้บนหลัง เสื้อผ้าที่มีโลโก้ LV พิมพ์อยู่อาจมีราคาเป็นหมื่น กระเป๋า Hermes ใบเดียวก็แพงไปถึงสุดท้องฟ้าเลยทีเดียว ในเมื่อทุกคนชอบเอาหน้ามากขนาดนี้ งั้นเสื้อผ้ายาอายุวัฒนะของเราก็คือแบรนด์เนมที่หรูหราที่สุดแล้ว ชุดกีฬาราคาหนึ่งล้านห้าแสน Hermes จะสามารถ เปรียบเทียบได้ไหม?”
เฉินจื๋อข่ายรู้สึกละอายใจในทันที
เขารู้ว่าคุณชายคนนี้มีจิตใจดำเป็นบางครั้ง แต่เขาไม่คิดว่ามันจะดำได้ขนาดนี้……
ถ้าข่าวกระจายออกไป คนอื่นก็จะหาว่าโรงแรมป๋ายจินฮ่านกงไม่เอาหน้าแล้ว
อย่างไรก็ตามเขาก็รู้ดีกับสไตล์การทำงานของเย่เฉิน แม้ว่าเขาจะรู้สึกตกใจมาก แต่ก็ยังพูดอย่างร่าเริงว่า “ไม่ต้องกังวลคุณชาย ฉันจะจัดการกับมันให้ดี”
เย่เฉินพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ และกล่าวว่า “ในอนาคตค่าธรรมเนียมเหล่านี้ จะถูกเก็บในการประมูลยาอายุวัฒนะทุกๆ ปีตามปกติ เงินจากการขายเสื้อผ้าทุกปี ช่วยนำไปบริจาคให้กับโรงเรียนในพื้นที่ยากจนให้ผม และทำชุดนักเรียนฤดูหนาวและฤดูร้อนสองชุดให้กับพวกเด็กๆ ฟรี ทำได้เท่าไหร่ก็ทำเท่านั้นตามกำลัง และสำหรับค่าขนส่งในทุกๆ ปีนั้น ก็บริจาคให้กับโรงเรียนประถมศึกษาในพื้นที่ภูเขา และจัดรถโรงเรียนและคนขับรถให้พวกเขาไปด้วย ทำมากที่สุดเท่าที่จะทำได้”
หลังจากพูด เย่เฉินพูดอีกครั้งว่า “คุณจะต้องจับตาดูการไหลเวียนเฉพาะของกองทุนทั้งสองนี้ให้ดี สำหรับชุดนักเรียน สิ่งที่เราต้องทำคือรับสินค้าจากโรงงานในราคาถูกสุด แล้วส่งไปให้กับนักเรียนโดยตรง ส่วนรถโรงเรียน ก็เช่นเดียวกัน ขั้นแรกให้สำรวจความต้องการโดยประมาณของโรงเรียนในพื้นที่ภูเขาก่อน แล้วซื้อยานพาหนะต่างๆ ตามความต้องการที่แตกต่างกัน ในเวลานั้นให้จัดตั้งบริษัทจัดการดูแลขึ้นมา ค่าแรงและประกันต่างๆ และกองทุนสำรองของผู้ขับขี่บริษัทแห่งนี้จะเป็นผู้ดเนินการจ่ายทั้งหมด ส่วนค่าใช้งานปกติก็จ่ายโดยบริษัทนี้เช่นกัน แต่ฝ่ายการเงินต้องทำหน้าที่ตรวจสอบบัญชีให้ดี และห้ามมิให้ผู้ใดมีโอกาสเข้าไปแทรกแซงได้โดยเด็ดขาด”
เฉินจื๋อข่ายไม่คาดคิดมาก่อนว่า คำพูดง่ายๆ เพียงคำเดียวของเย่เฉิน ก็จะบริจาคเงินห้าร้อยล้านเหรียญที่ได้มาในหนึ่งปีออกไปทั้งหมด และก็จะบริจาคในทุกๆ ปีในอนาคต นอกจากจะต้องแปลกใจแล้ว เขายังชื่นชมเย่เฉินมากยิ่งขึ้นไปอีก
ดังนั้น เขาจึงกล่าวด้วยความเคารพในทันทีว่า “ครับคุณชาย ผมจะทำให้ดีที่สุดเพื่อให้แน่ใจว่าความต้องการของคุณจะบรรลุผลทีละอย่าง”
เย่เฉินพยักหน้า ยืดเอวของเขา และพูดว่า “โอเค ผมจะไปก่อน และเมื่อผู้ซื้อเหล่านี้เริ่มมาถึงทีละคน คุณช่วยจับตาดูเฟ่ยเจี้ยนจงคนนั้นให้ผมหน่อย และถ้าเขามาถึงแล้ว รายงานผมโดยเร็วที่สุด”
“ได้ครับคุณชาย!”
เมื่อเย่เฉินออกจากห้องทำงานของเฉินจื๋อข่าย เฟ่ยเข่อซินและผู้ติดตามของเธอ ก็กำลังเตรียมที่จะเช็คเอาท์ และย้ายไปพักที่โรงแรมสากลจินหลิง
ในขณะที่ผู้ช่วยของเธอเฉินอิ่งซานกำลังช่วยตรวจสอบสิ่งของตกหล่นในห้องให้เธอนั้น และพูดกับเฟ่ยเข่อซินไปด้วยว่า “คุณหนู ทางด้านโรงแรมสากลจินหลิงได้จัดการให้เรียบร้อยแล้ว และมันเป็น presidential suite ด้วย เราสามารถย้ายเข้าไปที่นั่นได้เลย”
เฟ่ยเข่อซินพยักหน้าเล็กน้อย และถามเธอว่า “ใช่แล้วซานซาน ยืนยันเวลาที่แน่ชัดกับเลขาของคุณปู่ว่าเขาจะมาตอนไหน?”
เฉินอิ่งซานพยักหน้าและกล่าวว่า “ฉันได้ยืนยันกับเลขาเสิ่น แล้ว การประมูลจะเริ่มในห้าวัน และคุณท่านจะบินมาในวันที่สาม และถึงในวันที่สี่”
เฟ่ยเข่อซินพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “บอกเลขาของคุณปู่ว่า และให้เขาจัดการให้คุณปู่มาก่อนหนึ่งวัน”
เฉินอิ่งซานกล่าวอย่างเร่งรีบว่า “คุณหนู เลขาเสิ่นเป็นคนจัดการตารางการเดินทางทั้งหมดของคุณท่าน หากจะเปลี่ยนแผนกะทันหัน เลขาเสิ่นจะไม่เห็นด้วยเพราะคำนึงถึงความปลอดภัยของคุณท่านแน่นอน……”
เฟ่ยเข่อซินกล่าวโดยตรงว่า “บอกเขาว่านี่คือคำสั่งของฉัน และฉันมีเหตุผลของฉันเอง ที่ต้องจัดการแบบนี้” เฉินอิ่งซานพูดอย่างระมัดระวังว่า “คุณหนู ขอถามหน่อยนะคะ คุณมีแผนอะไรใช่ไหมคะ? ต้องการความช่วยเหลือจากฉันไหม?”
เฟ่ยเข่อซินถอนหายใจ และกล่าวว่า “ฉันอยากจะพาคุณปู่ไปทานอาหารกับเย่เฉิน……”