บทที่ 340
โสมนั้นมีหลายชนิดด้วยกัน เช่นโสมทั่วไป โสมอเมริกัน โสมแดง โสมม่วง โสมป่า แต่ในบรรดาโสมทั้งหมดนี้ โสมม่วงเป็นโสมที่แพงและหายากมากที่สุด
แล้วโสมปกติก็จะมีอายุการใช้งานได้ไม่ถึงหนึ่งร้อยปี ดังนั้นไม่ใช่ว่าโสมที่ไม่มีใครหยิบขึ้นมา จะกลายเป็นโสมที่มายุเป็นศตวรรษได้ ส่วนใหญ่หากไม่โดนเก็บมาใช้ ก็จะมีอายุแค่ร้อยกว่าปีและตายไป
โสมที่มีอายุถึงสองสามร้อยปีนั้น ล้วนเป็นโสมที่เลอค่า และโสมที่มีอายุกว่าห้าร้อยปีนั้น คนที่ทำงานเก็บโสมมาตลอดชีวิต ก็แทบจะไม่เคยเจอเลย
หากเป็นโสมที่มีอายุเป็นพันปี งั้นก็เป็นของที่ประเมินราคาไม่ได้ ได้ยินแต่อยู่ในตำนานเท่านั้น แทบจะไม่ีมีใครเคยเห็นในชีวิตจริงเลย
ดังนั้น โสมม่วงชั้นเลิศที่อายุสามร้อยปีจึงมีค่ามากนัก
ตอนนี้ในห้องประมูลนั้นมีคนหนาแน่นนัก คนส่วนใหญ่เป็นแพทย์แผนจีนที่มาจากทั่วประเทศ หรือแม้แต่บุคคลสำคัญที่มาจากอุตสาหกรรมยา นอกจากนี้ยังมีแพทย์จีนรุ่นเก่าหลายคนที่สามารถเรียกได้ว่าเป็นปรมาจารย์ด้านการแพทย์แผนจีนอีกด้วย
ในหมู่คนเหล่านี้ มีหลายคนที่คุ้นเคยรู้จักกับซือเทียนฉี หลังจากที่เห็นซือเทียนฉีเดินเข้ามา พวกเขาก็เข้ามาแสดงความยินดีกับเขาทีละคน
การแสดงความยินดีนี้ ก็คือการแสดงความยินดีที่เขาสามารถรักษาโรคอัมพาตได้อย่างปาฏิหาริย์และเป็นประวัติศาสตร์ในวงการการแพทย์เลยทีเดียว แต่ในใจของซือเทียนฉีนั้นกลับรู้สึกละอายยิ่งนัก
ทุกคนคิดว่าการรักษาอัมพาตขั้นสูงนั้นเป็นของเขา แต่เขารู้ว่า ความสำเร็จทั้งหมดนั้นเป็นของเย่เฉินแต่เพียงผู้เดียว เนื่องจากท่านอาจารย์เย่นั้นชอบถ่อมตัว ดังนั้นจึงให้ตนรับหน้าไป
ทุกคนมายืนรายล้อมซือเทียนฉี และต่างถามซือเทียนฉีถึงการรักษาอัมพาต ซือเทียนฉีได้แต่กล่าวว่า “ในความเป็นจริงนั้นการรักษาโรคอัมพาตขั้นสูงนั้นไม่ได้มาจากความสามารถของเขา แต่เป็นความสามารถจากยาวิเศษ ที่ทำให้ผลการรักษานั้นดีมากๆ”
มีความว่า “ท่านผู้เฒ่าซือ ท่านสามารถบอกตัวยาที่ใช้ทำยาวิเศษนี้ได้หรือไม่ หากท่านบอก มันจะกลายเป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติเลยนะ!”
“ใช่แล้ว!”มีเสียงคนสะท้อนออกมาแล้วพูดว่า “ท่านหมอซือ ถ้าท่านเปิดเผยยานี้ ท่านอาจจะได้รับรางวัลโนเบลสาขาการแพทย์ก็ได้นะ! ”
ซือเทียนฉีกล่าวอย่างอึดอัดว่า “เรื่องนี้ลืมมันไปเถอะ มันเป็นความลับที่ผมไม่สะดวกจะพูด”
ในเวลานี้ก็มีชายหนุ่มสวมชุดสูทใส่รองเท้าหนังเดินเข้ามา โค้งคำนับให้ซือเทียนฉีเล็กน้อย จากนั้นก็พูดภาษาจีนที่ดูพูดไม่ค่อยคล่องออกมาว่า “สวัสดีครับท่านเทพซือ ผมชื่อโคบายา ชิอิจิโร่ครับ เป็นรองประธานของบริษัทผลิตยาโคบายาจากญี่ปุ่น”
ซือเทียนฉีพยักหน้าและพูดว่า “ผมรู้จักบริษัทผลิตยาโคบายาของคุณ ไม่ทราบว่ามาหาผมมีเรื่องอะไรรึเปล่า?”
โคบายา ชิอิจิโร่ก่าวอย่างจริงจังว่า “ท่านเทพซือ บริษัทผลิตยาโคบายาของเรานั้นเป็นบริษัทยาที่แข็งแกร่งที่สุดในเอเชีย มียามากมายที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยทั้งหมดได้รับการพัฒนาและผลิตโดยบริษัทยาโคบายาของเรา ด้วยแรงสนับสนุนที่ดีเช่นนี้ พวกเรามีความสามารถที่จะพัฒนายารักษาอัมพาตขั้นสูงของคุณให้ดียิ่งขึ้นครับ สามารถส่งออกไปได้มากกว่าสองร้อยประเทศครับ ดังนั้นเราหวังเ็ป็นอย่างยิ่งว่าคุณจะขายยานี้ให้กับเราครับ!”
ซือเทียนฉีได้ยินอีกฝ่ายกล่าวเช่นนี้ ก็ขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้และพูดว่า “ผมจำได้ว่า มียาหลายชนิดที่พวกคุณไม่ได้พัฒนาขึ้นมาเอง ยาทั้งหลายเหล่านั้นล้วนแต่เป็นยาที่มาจากจีนฝั่งเรา!”
ฝั่งจีนที่หมายถึงก็คือเป็นยาจีนโบราณนั่นเอง
ญี่ปุ่นและเกาหลีได้รับวัฒนธรรมมาจากจีนในสมัยโบราณ การแพทย์ของพวกเขาก็ล้วนแต่มาจากอาจารย์สอนวิชาแพทย์แผนจีน ตอนนี้บริษัทยาในสองประเทศนี้ ล้วนแต่เป็นยาจากชาวฮั่นทั้งนั้น พูดอย่างตรงไปตรงมาเลยก็คือเลียนแบบมาจากบรรพบุรุษชาวจีน
เนื่องจากในอดีตได้มีการบันทึกยาไว้ในเภสัชตำรับ นอกจากนี้ยังไม่มีการคุ้มครองลิขสิทธิ์สิทธิบัตรที่ชัดเจน ดังนั้นบริษัทยาญี่ปุ่นและเกาหลีใต้จึงได้ลอกเลียนแบบยาต่างๆจากการบันทึกแพทย์แผนจีน จากนั้นก็ผลิตยาไปขายให้ทั่วโลก
หากพวกเขาระบุว่ายาจีนโบราณพวกนี้มาจากทางจีนก็จะไม่เป็นไร แต่พวกเขาเผยแพร่ยาเหล่านี้โดยบอกว่ามาจากการค้นคว้าวิจัยของพวกเขาเอง
บางคนก็หน้าไม่อายบอกว่า ยาเหล่านี้ล้วนมาจากบรรพบุรุษของตน ซึ่งมันทำให้คนที่บริโภคคิดว่ายาเหล่านี้ล้วนมาจากประเทศญี่ปุ่นแหละเกาหลีใต้จริงๆ
การลอกเลียนแบบที่โจ่งแจ้งเช่นนี้ทำให้ซือเทียนฉีและผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนจีนจำนวนมากขุ่นเคือง!
ในตอนนี้โคบายา ชิอิจิโร่ก็พูดจาอย่างหยิ่งผยองว่า “ท่านเทพซือ ผมขอแก้ไขคำผิดพลาดของคุณสักนิดนะครับ ยาทั้งหมดนี้เป็นของบริษัทยาโคบายาของเรา ไม่ได้ใช้วิธีการจีนเลยสักนิด ทั้งหมดเป็นการพัฒนาปรับปรุงยาของเราเอง ตามแก่นแท้ของการแพทย์แผนญี่ปุ่น! ”
———-
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน – ตอนที่ 340
Posted by ? Views, Released on September 25, 2021
, ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
อ่านนิยาย ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
เย่เฉินเป็นเขยแต่งเข้าบ้านหญิงที่ใครๆก็ดูถูกเหยียดหยาม แต่ไม่มีใครรู้ว่าฐานะแท้จริงของเขาเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลอันดับต้นๆ พวกที่เคยดูถูกเขาสุดท้ายก็ต้องคุกเข่าต่อหน้าเขาและเรียกเขาด้วยความเกรงกลัวว่าท่านชาย!
Recommended Series
Comment
Facebook Comment