ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน – ตอนที่ 663

บทที่ 663
70 คนที่มาจากซูหาง เริ่มแยกย้ายกันไปค้นหาในจินหลิงกันทุกซอกทุกมุม
แต่ว่า พวกเขากลับไม่พบเบาะแสใดๆเกี่ยวกับหลิวกว่างและหลิวหมิงเลย
จริงๆแล้วตอนนี้ครอบครัวหลิวกว่าง ขับรถออกจากจินหลิงไปตั้งนานแล้ว กำลังขับรถด้วยความเร็วมุ่งตรงไปทางเหนือในช่วงเวลากลางคืน
หากจะหาใครสักคนในพื้นที่เล็กๆมันก็เป็นเรื่องที่ง่าย แต่ถ้าจะหาคนสักคนในที่อันกว้างใหญ่ก็เหมือนงมเข็มในมหาสมุทร เป็นเรื่องที่ยากมากเลยจริงๆ!
ช่วงเวลากลางคืน หลิวหมิงกำลังขับ รถเบนซ์คันหรูที่วิ่งอย่างรวดเร็วตลอดเส้นทาง ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ของหลิวกว่างก็ดังขึ้นมาทันที
คนที่โทรศัพท์มา ก็คือเพื่อนบ้านของหลิวกว่าง ความสัมพันธ์ของทั้งสองไม่เลวเลย มักจะไปกินดื่มสังสรรค์ด้วยกัน
ก่อนที่หลิวกว่างจะไป ได้โทรศัพท์ไปหาเขา ให้เขาช่วยจับตาดูที่บ้านของตัวเองให้หน่อย ดังนั้นในตอนนี้จู่ๆเขาก็โทรศัพท์มา หลิวกว่างคาดเดาว่าที่บ้านน่าจะเกิดอะไรขึ้นแน่
เป็นอย่างที่คิดไว้ เขาเพิ่งจะรับโทรศัพท์ อีกฝ่ายก็พูดด้วยน้ำเสียงที่กดต่ำว่า : “เหล่าหลิว เมื่อกี้มีคนกว่าหลายสิบคนมาล้อมบ้านของนายไว้ แถมคนกลุ่มนั้นยังค่อยๆเข้าไปอย่างเงียบๆ!”
“หลายสิบคนเลยเหรอ?!” หลิวกว่างร้องอุทานอย่างตกใจ โพล่งพูดออกไปว่า : “แล้วตอนนี้ละ?”
“เพิ่งจะออกกัน ไปแล้ว” อีกฝ่ายพูดว่า: “ดูแล้วเหมือนว่าจะไม่ยอมวางมือง่ายๆนะ……”
หลิวกว่างพูดเสียงอืมออกมา พร้อมพูดว่า : “ฉันเข้าใจแล้วเหล่าจาง ขอบคุณนายนะ!”
“นายจะมาเกรงใจอะไรกับฉันละ!”
วางสายไปแล้ว หลิวกว่างพูดด้วยสีหน้าที่เย็นชาว่า : “ตระกูลอู๋ส่งคนไปฆ่าพวกเราจริงๆด้วย!ว่ากันว่าส่งมากว่าหลายสิบคนเลย แม่งเอ้ย โหดเหี้ยมจริงๆ!”
หลิวหมิงโพล่งพูดออกไปว่า : “พวกเขาไม่น่าจะหาตัวพวกเราเจอหรอกมั้ง?”
หลิวกว่างโบกๆมือ : “ไม่มีทาง ประเทศจีนใหญ่โตขนาดนี้ เขาจะหาเราเจอได้ที่ไหนละ?คืนนี้เราจะไม่หยุดจอดรถเลย ขับมุ่งหน้าไปถึงสนามบินเย่นจิง ซื้อตั๋วรอบเช้าสุดของวันพรุ่งนี้บินตรงไปมาเลเซีย เมื่อถึงที่นั่นเราก็ปกปิดตัวตนไว้ วันทั้งวันก็อาศัยอยู่ในคฤหาสน์ของตัวเอง คนรวยที่อยู่ในกะลาครอบ ทั้งชีวิตของตระกูลอู๋ก็อย่าคิดว่าจะหาพวกเราเจอเลย!”
เบ้าตาของหลิวหมิงหลั่งไหลน้ำตาออกมา พูดว่า : “พ่อ เมื่อถึงมาเลเซีย ก็ไม่ต้องเช็คชื่อกับหงห้าทุกห้าโมงของทุกวันแล้ว งั้นเราควรจะจัดการกับตัวอักษรที่สลักไว้บนหน้าผากของเราได้แล้วนะ?”
“ใช่!” หลิวกว่างลูบไปที่รอยแผลเป็นบนหน้าผากที่แห้งและแข็งตัวแล้ว พูดอย่างหดหู่ว่า : “ศัตรูที่สลักตัวอักษร เกรงว่าจะไม่มีโอกาสได้แก้แค้นแล้ว……”
……
คฤหาสน์ตระกูลซ่งในเวลานี้ ยังคงเป็นภาพฉากที่สว่างไสว
คุณท่านซ่งสวมชุดฝึกไทเก๊กสีขาว รำไทเก๊กที่ลานบ้านท่ามกลางกระแสลมหนาว
แม้ว่าอากาศจะหนาวแล้วก็ตาม คุณท่านก็ใส่แค่เสื้อผ้าบางๆ แต่คุณท่านไม่เพียงแค่ไม่รู้สึกหนาวเลยสักนิด กลับมีเหงื่อไหลท่วมตัว!
ลูกชายทั้งสามของคุณท่าน หลานชาย หลานสาวสามสี่คน ต่างก็ดูอยู่รอบๆลานบ้าน
ซ่งหรงวี่ยิ่งเห็นก็ยิ่งตกใจ เขาคิดไม่ถึงว่ายาอายุวัฒนะนี่จะน่าทึ่งขนาดนี้ ไม่เพียงแค่ทำให้คุณท่านอ่อนเยาว์ขึ้น ร่างกายก็แข็งแกร่งขึ้น สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือ แม้แต่ความกระปรี้กระเปร่าและรูปร่างหน้าตาล้วนแต่แตกต่างกันจนไม่อาจจะเทียบกันได้!
ใครจะกล้าจินตนาการ ชายชราที่ใกล้จะตายเมื่อหลายเดือนก่อน ตอนนี้จู่ๆจะแข็งแรงมีชีวิตชีวาขนาดนี้!
เขารำไทเก๊กมากว่าสองชั่วโมงแล้ว ถ้าเป็นวัยรุ่นก็น่าจะเหนื่อยแล้ว!
แต่ว่า เขากลับว่าไม่รู้สึกเหนื่อยแม้แต่นิด
ในทางกลับกันยิ่งรำก็ยิ่งมีเรี่ยวแรง
นี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดีอะไรนะ!
ถ้าหากตามที่ดูแล้ว ร่างกายของคุณท่านแข็งแรงขนาดนี้ อยู่ต่ออีกสักสิบยี่สิบปีก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร
————

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

อ่านนิยาย ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน เย่เฉินเป็นเขยแต่งเข้าบ้านหญิงที่ใครๆก็ดูถูกเหยียดหยาม แต่ไม่มีใครรู้ว่าฐานะแท้จริงของเขาเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลอันดับต้นๆ พวกที่เคยดูถูกเขาสุดท้ายก็ต้องคุกเข่าต่อหน้าเขาและเรียกเขาด้วยความเกรงกลัวว่าท่านชาย!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset