ผู้กล้าอาคมดำ ตอนที่ 20
สองวันผ่านไป
ภายในสุสาน ศพของหมาป่าสีน้ำเงินอมดำนอนอยู่เรียงราย ศพเหล่านี้ทั้งเย็นชืดและแข็งทื่อ ร็อดมองดูพวกมันอยู่ด้านข้าง เขากำลังตรวจสอบความคืบหน้าในการกลายสภาพของพวกมัน
นอกจากศพของหมาป่าเหล่านี้แล้ว ศพมนุษย์ที่เคยอยู่ภายในห้องโถงได้ถูกร็อดเปลี่ยนเป็นซอมบี้ทั้งหมด ตอนนี้พวกมันกำลังกระจายตัวกันไปตามสถานที่ต่างๆตามคำสั่งของร็อด
มองจากภายนอกเพียงอย่างเดียวยังไม่อาจตัดสินว่ากระบวนการกลายสภาพนี้คืบหน้าไปถึงไหนแล้ว
ร็อดพยายามจะใช้ปลุกชีพกับศพของหมาป่า ระบบก็ส่งข้อความมาแจ้งเตือนว่าต้องการมานา 4 หน่วย
ศพของพวกหมาป่าเพิ่งถูกเปลี่ยนสภาพไปได้สองวันเท่านั้น และกระบวนการเปลี่ยนสภาพนี้ก็ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่เทียบมานา 30 หน่วยที่ต้องใช้ก่อนหน้านี้แล้วก็ดีกว่ากันมาก
ร็อดรู้สึกกังวล ต่อให้รู้ว่าการเปลี่ยนสภาพศพของพวกหมาป่ากำลังจะเสร็จสมบูรณ์ในไม่ช้า แต่เขาก็ไม่อาจรอได้จนถึงเวลานั้น
เป็นเพราะ [ปลุกชีพ] และค่าจิตวิญญาณของเขาที่เพิ่มขึ้น ร็อดจึงรู้สึกได้ไม่ยากว่าพลังความตายภายในสุสานกำลังแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
เทียบกับตอนที่เขาเพิ่งฟื้นขึ้นมาแล้ว พลังความตายภายในสุสานหนาแน่นกว่าเดิมมาก
อาจกล่าวได้ว่าการเพิ่มขึ้นของพลังแห่งความตายนี้มีส่วนช่วยในการเร่งกระบวนการเปลี่ยนสภาพของเหล่าหมาป่า แต่แทนที่จะรู้สึกยินดี สีหน้าของร็อดกลับเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม
ยิ่งพลังความตายเข้มข้นขึ้น ในใจร็อดก็ยิ่งรู้สึกได้ถึงลางสังหรณ์อันอัปมงคล
ประสบการณ์จากในชีวิตก่อนทำให้ร็อดรู้ว่าร่างกายของเขาสามารถปลดปล่อยพลังความตายและช่วยเร่งกระบวนการเปลี่ยนสภาพอันเดดได้
อันเดดภายในโลงศพนั้นสมควรมีระดับชั้นไม่ต่กว่าขั้นที่สาม…..
พลังความตายที่เข้มข้นขึ้นได้ย้ำเตือนร็อดว่าอันเดดที่หลับใหลอยู่ในโลงศพนั้นกำลังจะแข็งแกร่งขึ้นอีกระดับ
แรกเริ่มเดิมที เอลล็อตได้วางศพเอาไว้ที่นี่และเปลี่ยนสภาพศพโดยอาศัยพลังความตายภายในสุสาน
ศพที่ถูกเปลี่ยนสภาพได้ซึมซับพลังความตาย พลังความตายไม่เพียงแต่ไม่ลดลงหรือทำให้กระบวนการเปลี่ยนสภาพอันเดดเกิดความเชื่องช้า ตรงกันข้าม มันยังถูกกระตุ้นจนเร่งกระบวนการให้ก้าวหน้ากว่าเดิม
ก่อนหน้านี้ไม่นาน ร็อดได้สังหารฝูงหมาป่าที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นพลังความตายที่ปลดปล่อยออกมาจากเหล่าหมาป่าที่ตายหรือการดำเนินการที่เกิดขึ้นในภายหลัง มันก็ยังมีส่วยช่วยในการเร่งกระบวนการให้พวกอันเดด ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการก้าวหน้าขึ้นพวกมัน
ไม่ว่าจะเพราะพลังความตายที่เพิ่มสูงขึ้นหรือเพราะสัญญาณเตือนที่รับรู้ได้ มันก็ชัดเจนแล้วว่า อันเดดที่อยู่ภายในโลงศพใบนั้นกำลังจะพัฒนาขึ้นอีกระดับ อีกทั้งยังใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว
หากยังรั้งรออยู่ต่อไป ร็อดก็ไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง บางทีศพของพวกหมาป่าอาจจะยังกลายสภาพไม่เสร็จ แต่อันเดดในโลงนั้นพัฒนาเสร็จสิ้นแล้ว
ไม่กี่วันมานี้ นอกจากการทำสมาธิแล้วร็อดก็ไม่ได้ทำอะไรอีก
หลังจากสิ้นสุดการทำสมาธิ ร็อดก็จะไปตรวจสอบรอบๆสุสานเพื่อคลายความง่วงเหงา ทั้งยังเป็นการเตรียมพร้อม
ร็อดได้รวบรวมอาวุธและอุปกรณ์ที่หลงเหลือจากการต่อสู้มา จากนั้นร็อดก็ใช้อาวุธที่รวบรวมมาตัดโค่นต้นไม้ไปหลายต้น
เป็นเพราะต้นไม้ภายในป่านั้นสูงใหญ่ หลังจากผ่านกระบวนการแล้ว ต้นไม้เพียงสองสามต้นก็เพียงพอสำหรับแผนการของเขา แต่ด้วยเพราะทักษะงานฝีมือที่หยาบของอาวุธเหล่านั้น อาวุธที่จะเก็บไว้ให้พวกอันเดดใช้จึงเหลืออยู่เพียงไม่มาก
โชคดีที่ร็อดรวบรวมไม้ได้ตามต้องการ เมื่อมีแหวนมิติอยู่ ร็อดก็สามารถเคลื่อนย้ายต้นไม้เหล่านั้นเข้าไปภายในสุสานได้อย่างสะดวกสบาย ไปกลับเพียงไม่กี่เที่ยวเท่านั้น
เดิมทีร็อดคิดจะปิดทางเดินทั้งหมดภายในสุสานด้วยไม้เหล่านี้ จากนั้นค่อยจุดไฟเผาอันเดดที่อยู่ภายในโลงศพตนนั้น
เท่าที่ร็อดรู้ มีอันเดดจำนวนไม่มากที่ต้านทานไฟ
หากอันเดดตนนั้นตื่นขึ้นมาและต้องการจะออกจากสุสานก็จะต้องเดินผ่านทางเดิน ทางเดินที่ลุกท่วมไปด้วยเพลิง ที่ร็อดต้องทำก็แค่รอคอยอยู่ที่ทางออกและสังหารอันเดดที่กำลังบาดเจ็บหนัก
เป็นเพราะไม่รู้วิธีการใช้เวทไฟ ร็อดจึงลงแต้มสกิล 1 แต้มเพื่อเรียนรู้เวทไฟระดับต่ำ
—————————————–
[เวทไฟ ระดับต่ำ]: โดยผ่านการนั่งสมาธิ คุณได้ประสบความสำเร็จในการเชื่อมต่อกับธาตุไฟในธรรมชาติ โดยการเชื่อมต่ออันแผ่วบางนี้ คุณจะร่ายเวทไฟได้สะดวกขึ้น การใช้เวทธาตุไฟจะได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ผลของธาตุไฟจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ความเสียหายของเวทธาตุไฟเพิ่มขึ้น 10%
—————————————–
หลังจากเรียนรู้เวทไฟแล้ว ร็อดก็สามารถรวบรวมมานาและสร้างกลุ่มอัคคีเล็กๆมาจุดไฟได้โดยตรง
แต่ตามการประมาณการของร็อดแล้ว สภาพแวดล้อมภายในสุสานนั้นเป็นปัญหาใหญ่ เปลวไฟจะต้องอยู่ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวกจึงจะเผาไหม้อย่างรุนแรง เพราะมันต้องการออกซิเจนในอากาศ
มันค่อนข้างยากสำหรับร็อดที่จะมีอากาศเพียงพอในการเผาทั้งสุสาน
ตามความคิดเดิมของร็อดแล้ว เขาจะใช้แต้มสกิล 1 แต้มในการเรียนรู้เวทลมเพื่อใช้ในการควบคุมอากาศภายในสุสาน อย่างไรก็ตาม เนื่องเพราะขาดแคลนแต้มสกิลและมานาจำนวนมากที่ต้องใช้ควบคุมอากาศ ร็อดจำต้องเปลี่ยนแผนการ
ร็อดไม่ได้กระจายไม้ไว้ทั่วทางเดินทั้งหมดของสุสาน แต่วางไว้ในจุดที่สำคัญ ในจุดเหล่านั้น โถงหลักที่มีโลงศพใบนั้นตั้งอยู่ถูกสุมซ้อนไว้ด้วยไม้จำนวนมาก
ตรงทางเดินที่เขาเคยใช้ต้านทานพวกหมาป่า ร็อดจงใจใช้แหวนมิติขนย้ายกองไม้จำนวนมากไปปิดกั้นไว้จนเหลือเพียงช่องให้รอดตัวผ่านเพียงเล็กน้อย
เพื่อที่จะขนย้ายไม้เหล่านี้และเพื่อเตรียมการสำหรับแผนการขั้นต่อไป ร็อดจึงวางสิ่งของทั้งหมดเอาไว้ที่พื้นที่โล่งด้านนอกสุสาน
เดิมทีร็อดต้องการจะรอให้ศพของพวกหมาป่าถูกเปลี่ยนสภาพเองเพื่อประหยัดมานาไว้ แต่เพราะพลังความตายในสุสานที่ยิ่งมายิ่งหนาแน่น ร็อดก็รู้ได้ว่าตัวเขาไม่อาจรอได้อีกต่อไป
ร็อดใช้ [ปลุกชีพ] ปลุกศพของหมาป่าที่อยู่บนพื้นขึ้นมา
ด้วยการจ่ายมานา หมาป่าที่เดิมที่ตายไปแล้วก็ได้ลุกขึ้นมาอีกครั้ง มันหันมามองร็อดด้วยดวงตาสะท้อนแสง มันกำลังรอคอยคำสั่งจากเขา
ด้วยการใช้มานาไป 34 หน่วย ร็อดก็ปลุกฝูงหมาป่าอันเดดขึ้นมา ในหมู่หมาป่าเหล่านี้ จ่าฝูงหมาป่าต้องใช้มานามากที่สุด อีกทั้งค่าจิตวิญญาณที่ต้องใช้ยังสูงที่สุด
ในช่วงการทำสมาธิสองสามวันที่ผ่านมา ร็อดได้ใช้เทคนิคที่เคยเรียนมาจากชีวิตก่อน แม้จะยังไม่อาจทำสมาธิระยะปลายได้ แต่ประสิทธิภาพของการทำสมาธิก็ยังเพิ่มขึ้นอย่างมาก
หลังจากเสร็จสิ้นการทำสมาธิ ร็อดก็สามารถเพิ่มค่ามานาสูงสุดได้ถึงขีดจำกัดที่สามารถทำได้ในตอนนี้ ด้วยเพราะข้อจำกัดของค่าสติปัญญาร็อดจึงสามารถมีค่ามานาสูงสุดได้แค่ 50 หน่วยเท่านั้น และตอนนี้เขาก็เหลือมานาเพียง 16 หน่วยแล้ว
หลังจากปลุกชีพพวกหมาป่า ร็อดลองควบคุมจ่าฝูงหมาป่า เขาอยากเห็นความสามารถของมัน
ผลลัพธ์เป็นไปดังคาด มันไม่หลงเหลือทักษะสกิลใด ทั้งสกิลผู้นำหรือศรเวทที่เคยใช้ ตอนนี้มันมีดีเพียงแค่ร่างกายแข็งแกร่งกว่าหมาป่าทั่วไปก็เท่านั้น
ร็อดไม่ได้ผิดหวังแต่อย่างใด แม้แต่ศพของอาร์คเมจก็ไม่สามารถเปลี่ยนให้กลายเป็นแม่มด ทำได้เพียงปลุกมันกลับมาในฐานะซอมบี้เท่านั้น ทั้งยังใช้เวทมนตร์คาถาไม่ได้
ร็อดออกคำสั่งหมาป่าอันเดดผ่านตราประทับจิตวิญญาณ ทันใดนั้นพวกหมาป่าก็วิ่งออกจากสุสานผ่านตามทางเดิน และการเตรียมการทั้งหมดก็เป็นอันเรียบร้อย
มองดูทางเดินแคบๆที่เบื้องหน้า และซอมบี้ที่สวมใส่เกราะเหล็กซึ่งกำลังยืนนิ่งรอคำสั่ง อัคคีกลุ่มหนึ่งก็ลุกพรึ่บขึ้นในมือของร็อด…..