ผู้กล้าอาคมดำ ตอนที่ 7
เมื่อมีความคิดผุดขึ้นมา ร็อดก็ปีนขึ้นไปบนต้นไม้ที่อยู่ปากทางเข้าสุสาน กิ่งของต้นไม้นี้แข็งแรงมาก เขาสามารถยืนอยู่บนนั้นได้สบายๆ
ขณะที่ยืนอยู่บนกิ่งไม้ ร็อดก็หาตำแหน่งที่มีใบไม้อยู่หนาแน่นและเอื้อต่อการซ่อนตัว
ร็อดมองลงไปด้านล่าง เขาสามารถมองเห็นภาพมุมกว้างจากทางด้านบน ด้วยสกิลตาเหยี่ยวที่เรียนมาแล้ว กระทั่งใบไม้ที่ห่างออกไปนับสิบเมตรซึ่งกำลังร่วงลง ร็อดก็สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน กลับกันหากมองมาจากไกลๆแล้วก็จะมองไม่เห็นเขา
“ตำแหน่งนี้……โอเคเลย”
ใช่แล้ว ร็อดไม่ได้คิดจะหลบหนีเมื่อรู้ว่าเนโครแมนเซอร์ฝึกหัดคนนั้นกำลังจะกลับมา แต่เขากลับวางแผนรั้งรออยู่ที่นี่เพื่อลอบสังหาร
เนื่องจากลักษณะเฉพาะของพวกอันเดด หากไม่มีเนโครแมนเซอร์คอยควบคุม พวกมันก็จะไม่ต่างอะไรกับหุ่นซ้อมที่เพียงพึ่งพาสัญชาตญาณในการต่อสู้
กล่าวก็คือ หากว่าร็อดลอบสังหารเนโครแมนเซอร์ได้สำเร็จ กลุ่มอันเดดที่เดิมอยู่ในการควบคุมของเนโครแมนเซอร์ก็จะกลายเป็นไร้พิษภัยต่อร็อด และร็อดก็จะสามารถเปลี่ยนพวกมันให้กลายเป็นค่าประสบการณ์ของเขา
นี่นับเป็นโอกาสอันดีที่จะได้เพิ่มพูนความแข็งแกร่ง แต่มันก็ยังมีความเสี่ยงอยู่บ้าง การลอบสังหารเนโครแมนเซอร์จะต้องสำเร็จเท่านั้น ไม่อย่างนั้นภายใต้การควบคุมฝูงอันเดดของเนโครแมนเซอร์ที่สามารถใช้กลยุทธ์ได้แล้ว ร็อดก็คงจะรับมือได้ลำบาก
ตามความคิดของร็อดนั้น เพื่อที่จะหาจังหวะลงมือ มีที่ให้เขาใช้ซ่อนตัวได้อยู่สองที่ หนึ่งคือในสุสาน เนโครแมนเซอร์ฝึกหัดคนนั้นจะต้องรีบตรงเข้าไปในสุสานทันทีที่พบว่ามีบางคนเข้าไปในสุสาน และเมื่อเนโครแมนเซอร์เข้าไปแล้ว ภายในนั้นก็จะมีโอกาสให้ลงมือ
แต่อย่างไรก็ตามหลังจากที่เข้าไปในสุสาน เนโครแมนเซอร์คนนั้นก็จะอยู่ในความตื่นตัวสูงสุด และโอกาสที่จะลอบสังหารล้มเหลวก็จะมีสูงมาก หากถูกพบตัวภายในสุสานล่ะก็ โอกาสที่จะหลบหนีออกมาได้ก็จะมีอยู่เพียงน้อยนิด
ที่ซ่อนอีกที่ก็คือต้นไม้ที่ร็อดกำลังอยู่ตอนนี้ เนื่องจากข้อจำกัดด้านการมองเห็นของมนุษย์ ตราบใดที่ไม่พบเห็นสิ่งผิดปกติตั้งแต่แรก ตำแหน่งบนกิ่งไม้และหลังใบไม้ก็จะถูกละเลยไป
นี่จึงเป็นอีกเหตุผลที่ทำไมร็อดจึงเลือกที่ซ่อนตัวนี้ อย่างไรก็ตามตำแหน่งที่เขาอยู่นั้นไม่ได้มิดชิดโดยสมบูรณ์ หากยืนอยู่ตรงทางเข้าสุสานแล้วมองขึ้นมาก็จะพบเห็นสิ่งผิดปกติได้ทันที
จากการบดบังกิ่งไม้และของใบไม้ที่ซ้อนๆกันอยู่แล้ว ยิ่งตำแหน่งอยู่สูงจากพื้นมากเท่าไรก็ยิ่งยากจะหาตัวพบเท่านั้น แต่หากว่าเลือกตำแหน่งที่สูงจนเกินไป หากการลงมือในครั้งแรกเกิดความล้มเหลวฏ้มีความเป็นไปได้สูงมากที่ขาของเขาจะหัก
เนื่องเพราะยังไม่มีผลจากสกิลพิเศษที่เกี่ยวข้องกับด้านนี้ การหาตำแหน่งซ่อนตัวของร็อดจึงใช้เวลาไม่น้อย
แต่เพื่อที่จะเพิ่มโอกาสความสำเร็จแม้เพียงเล็กน้อย ร็อดจึงตัดสินใจใช้แต้มสกิลเรียนรู้สกิลสอดแนมระดับต่ำ
—————————————–
[สอดแนม ระดับต่ำ]: หลังผ่านการฝึกฝนมาได้ระยะหนึ่ง ทักษะในการสอดแนมของคุณก็สูงขึ้น คุณได้เรียนรู้ที่จะตัดสินความเคลื่อนของศัตรูผ่านร่องรอยต่างๆที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ในขณะเดียวกันระดับความปลอดภัยที่คุณจะไม่ถูกศัตรูพบตัวได้เพิ่มขึ้น ระยะการตรวจจับ+2, การรับรู้+1
—————————————–
หลังจากเรียนรู้สกิลสอดแนมแล้ว ร็อดก็รู้สึกว่าทักษะของเขาถูกปรับปรุงจนดีขึ้นมาก แทนที่จะสอดแทรกข้อมูลเข้ามาในหัว มันเหมือนกับเป็นการยัดใส่ลงไปในสัญชาตญาณของเขามากกว่า
ตำแหน่งที่ร็อดเคยเลือกไว้ก่อนหน้านี้ดูเหมือนจะมีช่องโหว่อยู่มากมาย ยังไม่ต้องกล่าวถึงการเงยหน้าขึ้นมอง เพียงมองดูจากระยะห่างออกไปไม่กี่เมตรก็จะพบเห็นเขาแล้ว
ร็อดรีบย้ายตำแหน่งทันที เขาย้ายไปยังตำแหน่งที่สูงกว่าเดิม และมุมมองก็ครอบคลุมกว่าเดิม กิ่งไม้และใบไม้เองก็แน่นหนา ทั้งยังอยู่ไม่ไกลจากลำต้น หากว่าจำเป็น เขาก็สามารถใช้ลำต้นเป็นที่กำบัง กล่าวก็คือ ตำแหน่งนี้ดีกว่าเดิมอย่างเทียบกันไม่ติด
บางทีนี่อาจเป็นเพราะการรับรู้ที่สูงขึ้นจากการเรียนสกิลสอดแนม หลังจากนั่งลงบนกิ่งไม้ที่เลือกแล้ว ร็อดก็ไม่อยากจะปล่อยให้เวลาผ่านไปเปล่าๆ ร็อดนั่งทำสมาธิรอคอยการกลับมาของเนโครแมนเซอร์
การทำสมาธิเป็นพื้นฐานของการเรียนเวทมตร์ เป็นก้าวแรกในการเข้าสู่เส้นทางในศาสตร์แห่งเวทมตร์ของนักเวททุกคน
การทำสมาธิสามารถเพิ่มมานาของนักเวท ไม่ว่าจะเป็นนักเวทสายธาตุ นักเวทสายเสริมพลัง หรือว่าเนโครแมนเซอร์ เวทที่ใช้ออกไปล้วนแต่ใช้มานา และการทำสมาธิก็คือวิธีการเพิ่มมานา
สำหรับผู้เล่นแล้ว ค่าสูงสุดของมานาจะสามารถเพิ่มขึ้นได้จากการทำสมาธิที่จะได้รับเมื่อค่าสติปัญญามีค่าถึง 10 สมบัติและสกิลพิเศษบางอย่างเองก็สามารถเพิ่มค่าสูงสุดของมานาได้เช่นกัน
ก่อนทำสมาธินั้น ค่ามานาสูงสุดของนักเวททั่วไปคือ 0 แต่บางคนก็มีมานาติดตัวมาตั้งแต่เกิด อย่างพวกผู้กล้าสายเวทหรือสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์บางชนิด
สำหรับพวกมอนสเตอร์นั้น พวกมันจะปลดปล่อยเวทมนตร์ออกมาโดยสัญชาตญาณ ไม่เหมือนกับพวกนักเวทที่ต้องทำสมาธิเพื่อเพิ่มมานาสูงสุด
ร็อดนั่งลงบนกิ่งไม้ จากนั้นจึงเตรียมเข้าสู่สภาวะทำสมาธิ
การทำสมาธินั้นไม่ได้ต้องการสภาพแวดล้อมหรือท่าทางเฉพาะเจาะจง แต่สำหรับเหล่าผู้ที่เพิ่งเริ่มต้น พวกเขาจำต้องใช้ปัจจัยภายนอกเข้ามาช่วย ยกตัวอย่างเช่น ภายในห้องที่เงียบสงบจะช่วยให้ทำสมาธิได้ดีกว่าสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยเสียงรบกวน และท่านั่งขัดสมาธินั้นก็จะสามารถโฟกัสอยู่กับจิตใจของตัวเองได้ดีกว่าท่าอื่นๆ
ในชีวิตก่อนเขาเคยทำสมาธิมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ดังนั้นการทำสมาธิจึงไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับเขา การรับรู้ที่เพิ่มขึ้นมาจะช่วยให้เขารู้สึกตัวเมื่อสัมผัสได้ว่าเนโครแมนเซอร์กลับมาแล้ว
ร็อดนั่งหลับตาทำสมาธิอยู่บนกิ่งไม้ มองจากภายนอกจะเห็นเพียงหน้าอกที่ขยับขึ้นลงอย่างช้าๆตามจังหวะการหายใจ นอกจากนั้นก็ไม่มีความเคลื่อนไหวอื่นใดอีก ร่างของร็อดคล้ายกลายเป็นหินก้อนหนึ่ง แม้จะมีใบไม้ร่วงลงมากระทบร่าง กระนั้นร็อดก็ยังไม่มีการตอบสนองใดๆ
เวลาค่อยๆไหลผ่านไปอย่างช้าๆ จิตสำนึกทั้งหมดของร็อดพุ่งความสนใจการรับรู้ภายในร่าง สายลมหรือเสียงใดๆจากภายนอกไม่ส่งผลกระทบต่อเขา จิตสำนึกของเขาเพ่งไปที่ศูนย์กลางกาย
การทำสมาธินั้นแตกต่างจากการง่วงเหงาหาวนอน ความสนใจต่อภายนอกที่ลดลงนั้นเพื่อมุ่งความสนใจไปที่ภายใน ไม่ใช่เสื่อมถอยเพราะความง่วง
แม้ว่ารอบตัวจะมีเสียงรบกวนอยู่ ร็อดก็ยังสามารถเข้าสภาวะทำสมาธิได้อย่างรวดเร็ว
การทำสมาธิในครั้งแรกนั้น ประสบการณ์จากชีวิตที่แล้วไม่ค่อยมีประโยชน์นัก ประสบการณ์เพียงทำให้เราสามารถปรับปรุงให้ดีขึ้น อาทิเช่นเทคนิคในการดำดิ่งสู่สภาวะทำสมาธิ
เมื่อเข้าสู่สภาวะสมาธิแล้ว จิตสำนึกของร็อดก็เริ่มรับรู้ได้ถึงองค์ประกอบเวทมนตร์ในธรรมชาติ และขั้นตอนต่อไปที่ร็อดจะทำก็คือขั้นตอนที่สำคัญที่สุดของการทำสมาธิ เขาค่อยปล่อยจิตสำนึกให้สื่อสารกับองค์ประกอบเวทมนตร์เพื่อให้มันค่อยๆยอมรับเขา
ขณะที่เวลาค่อยๆผ่านไป จู่ๆร็อดที่กำลังทำสมาธิอยู่ก็ขมวดคิ้ว เนื่องด้วยร่างกายที่ไม่มีพรสวรรค์ทางเวทมตร์ ร็อดจึงสัมผัสถึงองค์ประกอบเวทมนตร์ได้เพียงแผ่วบาง และนั่นก็ทำให้การดูดซับไม่ได้ผลเท่าที่ควร เรื่องนี้ทำให้ร็อดรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย
โชคดีที่ประสบการณ์ในการทำสมาธินับครั้งไม่ถ้วนในชีวิตที่แล้วได้แสดงผลของมันออกมา ยิ่งมีประสบการณ์ก็ยิ่งเยือกเย็น เมื่อรู้ตัวว่าจิตใจของเขาไม่สงบ ร็อดก็ค่อยๆผ่อนอารมณ์ภายในจิตใจ แม้จะไม่สามารถดูดซับองค์ประกอบเวทมนตร์ได้ชั่วคราว เขาก็จะไม่ใจร้อนอีก
ในที่สุด หลังจากพยายามอย่างไม่ลดละ จิตวิญญาณของร็อดก็เริ่มเชื่อมต่อกับองค์ประกอบเวทมนตร์ที่อยู่โดยรอบ องค์ประกอบเวทมนตร์เริ่มค่อยๆขยับเข้ามาใกล้เขามากขึ้น
ในตอนนี้นั้น หากร็อดเปิดหน้าต่างคุณสมบัติขึ้นมาดู เขาก็จะพบว่าค่ามานาของเขาได้ขยับจาก 0/0 กลายเป็น 1/1 แล้ว…..